This thread is locked
สนทนาประสาการเมือง ��าค VII
<<
<
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
>
>>
Reply
Vote
# Fri 18 Jan 2019 : 11:10PM
ถึงเวลา! อนาคตใหม่ ปลุกชาวกรุงธนบุรี เข้าคูหา ปรับทัศนคติคสช.
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่ตลาดหนองแขม พรรค อนาคตใหม่ (อนค.) จัดเวทีปราศรัยย่อยเป็นครั้งที่ 2 โดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค กล่าวปราศรัย ตอนหนึ่งว่า อนาคตใหม่พร้อมเลือกตั้ง แต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้ง พวกเขาคืนนาฬิกาเพื่อนหรือยังยังไม่รู้ แต่เขายืมเวลาเราไปแล้ว 5 ปี แถมยังมาทวงบุญคุณ บอกว่าประชาชนคือปัญหา รัฐประหารโดยคสช.คือทางออก
ซึ่งความจริงพวกเราไม่ได้โง่ แต่เราฉลาดเกินไปที่ตระหนักถึงสิทธิและเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย จนเขากลัวประชาชนจะสั่นคลอนอำนาจของชนชั้นนำจึงต้องรัฐประหาร
แต่ตอนนี้ถึงเวลาต้องปรับทัศนคติคสช.ให้เข้าใจประชาธิปไตย ด้วยการออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพื่อบอกว่า เราจะไม่ยอมให้ใครตายฟรีเพราะเรียกร้องเสรีภาพ จะไม่ให้กลุ่มทุนทางเศรษฐกิจผูกขาด จะไม่ปะผุแก้ปัญหารายประเด็น แต่ต้องเปลี่ยนแปลงสังคมในเชิงโครงสร้าง
ที่มา: ข่าวสด [Link]
วันนี้ตอนค่ำๆธนาธรไปปราศรัยแถวตลาดหนองแขมพร้อมจี้ คสช.เรื่องกำหนดวันเลือกตั้ง แล้วธนาธรได้แถลงขอคืนประชาธิปไตยที่โดนอำนาจ คสช.ยึดไปห้าปี พร้อมปรับทัศนะ คสช.ว่าประชาธิปไตยไทยไม่ใช่คนโง่มีเพียงแค่อำนาจ คสช.ที่ต้องสั่นคลอน ต้องเปลี่ยนสังคมเชิงโครงสร้าง กลุ่มธุรกิจอย่าผูกขาด และกระตุ้นให้ ปชช.ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
เมื่อคืน(17ม.ก.62)ธนาธรลงพื้นที่ซอยทองหล่อกับผู้สมัครในเขต กทม.อีกหกคนและโชว์เล่นกีตาร์โฟล์ค ธนาธรได้ยืนยันเรื่องส่งผู้สมัครครบ 30 เขตในเมืองหลวงโดยการปราศรัยมุ่งเน้นด้านการขนส่งคมนาคม เเละเรื่องลดความอันตรายเกี่ยวกับมลพิษจากที่ปรึกษาด้านนโยบายของพรรคที่เป็นผู้เสนอ ธนาธรได้ย้ำเรื่องกลุ่มทุนผูกขาดที่ทำให้ประชาชนเสียเปรียบเรื่องอำนาจต่อรอง [Link]
[Edited 1 times "MnemoniC" - Last Edit 2019-01-19 00:37:02]
# Sat 19 Jan 2019 : 1:26AM
หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ลงมติ 5 ต่อ 3 เสียง ให้ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่มีความผิดกรณีจงใจยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินอันเป็นเท็จ โดยเฉพาะนาฬิกาหรู ซึ่งทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเป็นจำนวนมาก
ล่าสุดวานนี้ (17 ม.ค.) ป.ป.ช. ชี้แจงเพิ่มเติมกับสื่อมวลชนในกิจกรรมคณะกรรมการ ป.ป.ช. พบสื่อมวลชนระดับบรรณาธิการ ที่สำนักงาน ป.ป.ช. โดยเผยถึงเบื้องหลังการตรวจสอบที่มาของนาฬิกาหรูทั้ง 22 เรือนของ พล.อ. ประวิตร จนสุดท้ายได้ออกมาเป็นมติดังกล่าว
ที่มา: เดอะ สแตนดาร์ด [Link]
ผลสรุปเรื่องนาฬิกาของ พล.อ.ประวิตรที่ ป.ป.ช.กล่าวว่าไม่มีความผิด
- 1.ทำหนังสือสอบถามไปยังประเทศผู้ผลิต
คหสต.พ่อค้าแม่ค้าคนขายของยิ่งต่างประเทศเขาไม่อยากยุ่งกับเรื่องการเมือง การที่ไม่ได้รับความร่วมมือถือว่าเขาต้องการปกป้องสิทธิของบริษัท แล้วอีกประเด็นหากแบรนด์สินค้ามีปัญหาเกี่ยวผันเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น ยิ่งทำให้บริษัทผลิตสินค้านั้นๆไม่ต้องการมีส่วนร่วมกับคดีทั้งหมดโดยเฉพาะเรื่องต่างประเทศ เพราะมันมีหน่วยงานตรวจสอบสากลที่จะวุ่นวายระดับความขัดแย้งระหว่างประเทศต้นทางและปลายทาง
- 2.สอบถามตัวแทนจำหน่ายในประเทศ
คหสต.บริษัทตัวแทนจำหน่ายมีสิทธิ์ไม่เปิดเผยข้อมูลลูกค้าต่อสาธารณะอยู่แล้ว หากเป็นคำร้องขอของการให้ข้อมูลรูปคดี อาจโดนถกไปแล้วในการตรวจสอบถ้าผลไปตามนั้นว่าไม่ได้ซื้อผ่านตัวแทนจำหน่าย ข้อนี้ก็ตามการแถลงของ ป.ป.ช.
- 3.ตรวจสอบกับกรมศุลกากร
คหสต.แน่นอนระดับนายทหารก็ต้องมีเส้นสายลดค่าใช้จ่ายเหมือนคนอื่นๆแน่นอน กรมศุลกากรสามารถตรวจสอบสินค้าทรัพย์สินของพลเรือนได้ แต่ไม่สามารถตรวจเครื่องบินกองทัพ เรือกองทัพได้มีทรัพย์สินอะไรเข้าหรือออกประเทศ ผมว่าข้อนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับกรมศุลฯเป็นมูลที่ ป.ป.ช.ต้องทวงถามตามปกติรูปคดี
- 4.สอบถามสถานทูตประเทศต้นทางนาฬิกา
คหสต.มีบางประเทศที่ให้ความร่วมมือแล้วน่าจะมีหลักฐานเพียงพอว่านาฬิกาได้มาอย่างถูกต้อง บวกกับระยะเวลาที่ตรวจสอบนานข้อนี้ยกผลประโยชน์ให้ผู้ถูกกล่าวหาไป
- 5.ตรวจสอบเจ้าของนาฬิกา
คหสต.ตามที่ ป.ป.ช.แจงว่านิสัยเพื่อน พล.อ.ประวิตรเป็นคนมีนิสัยให้ยืมของ อาจเป็นจริงเพราะเราไม่สามารถเอาคนเสียชีวิตมาให้การได้ แต่ก็ควรมีพยานบุคคลอื่นๆที่สามารถยืนยันได้ว่าคุณปัฐวาท มีความนับถือบิ๊กป้อมจึงให้ใส่มาเพิ่มน้ำหนักให้ ป.ป.ช.ว่าตรวจสอบถูกต้อง
- 6.สอบสวนพยาน
คหสต.ทุกคนที่ไม่ได้กล่าวโทษผมยังสงสัยว่าเป็นพยานฝั่งของ พล.อ.ประวิตรหรือคุณปัฐวาท แต่เอาเป็นว่าทุกคนพูดเหมือนกันว่านาฬิกาได้มาอย่างถูกต้อง ข้อนี้ก็ตามที่ ป.ป.ช.กล่าว
ถ้าวันนี้ใครยังสงสัยถึงความไม่โปร่งใสเรื่องนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร ให้ยื่นไม่ไว้วางใจกับนายกฯไปเลยถ้านายกฯไม่ให้ความร่วมมืออีก ก็ยื่นให้ศาลโลกเขามีองค์กรอิสระทำงานอยู่แล้วหากเดือดร้อนเป็นความทุกข์ ปชช.จริงๆ ส่วนถ้าเรื่องเปลี่ยนบุคลากร ป.ป.ช.รัฐบาลยังไม่ทำอะไรอีก เราก็ตัดสินให้คะแนนกับองค์กรอิสระหน่วยงานนี้กันเองแล้วล่ะ
# Sat 19 Jan 2019 : 8:14AM
ไม่ชอบอีตุ๊ดปวิน แต่คราวนี้มันพูดถูก
ไม่แปลกใจ ที่คนในกองทัพหลายคนไม่มีวุฒิภาวะ นอกเหนือไปจากความเขลาและปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ กรณีประวิตรปากเสีย พูดว่าอาหารอร่อยเลยถูกระเบิดลงคือตัวอย่างชัดของคนที่โตมาในกองทัพ แต่ขาดการขัดเกลาทางสังคม ขาดการศึกษาแบบที่สนับสนุน critical thinking โตมาโดยระบบสายบังคับบัญชาที่ลูกน้องไม่กล้าตำหนิเจ้านายแม้เจ้านายจะผิด ตรงกันข้าม กลับอวยแม้ทำผิดด้วยซ้ำ
...โง่อย่างนี้ ปากเสียแบบนี้ แต่กลับมีอำนาจ อันตรายฉิบหาย
...โง่อย่างนี้ ปากเสียแบบนี้ แต่กลับมีอำนาจ อันตรายฉิบหาย
Like : "MnemoniC", chickenku, npanda
View all 3 comments >
# Sat 19 Jan 2019 : 3:19PM
Bergkamp wrote:
ไม่ชอบอีตุ๊ดปวิน แต่คราวนี้มันพูดถูก
ไม่แปลกใจ ที่คนในกองทัพหลายคนไม่มีวุฒิภาวะ นอกเหนือไปจากความเขลาและปัญหาด้านการควบคุมอารมณ์ กรณีประวิตรปากเสีย พูดว่าอาหารอร่อยเลยถูกระเบิดลงคือตัวอย่างชัดของคนที่โตมาในกองทัพ แต่ขาดการขัดเกลาทางสังคม ขาดการศึกษาแบบที่สนับสนุน critical thinking โตมาโดยระบบสายบังคับบัญชาที่ลูกน้องไม่กล้าตำหนิเจ้านายแม้เจ้านายจะผิด ตรงกันข้าม กลับอวยแม้ทำผิดด้วยซ้ำ
...โง่อย่างนี้ ปากเสียแบบนี้ แต่กลับมีอำนาจ อันตรายฉิบหาย
...โง่อย่างนี้ ปากเสียแบบนี้ แต่กลับมีอำนาจ อันตรายฉิบหาย
ใครๆก็ไม่รักผมขนาดพัดลมยังส่ายหน้าเลย ใช้กับเคสลุงป้อมได้มั้ยเอ่ย อิอิอิอิ
# Sat 19 Jan 2019 : 7:20PM
- - การบินไทยขายเครื่องเก่า 16 ลำสี่พันล้าน จะสอยเครื่องใหม่ 38 ลำ สองแสนล้าน.... กำไรมากสินะ
View all 1 comments >
Sat 19 Jan 2019 : 8:09PM
ให้เขาซื้อเหอะครับ ทุกวันนี้เครื่องปัจจุบันก็โคตรเก่า
เห็นใจคนเอาแต้มบัตรเครดิตไปแลกไมล์ ทั้งๆที่ไม่อยากนั่งการบินไทยเหอะครับ
ปล. อาหารเหี้ยมากครับ บอกเลย
เทียบกันแล้ว อาหาร airasia กลายเป็นอาหารมิชลินสตาร์ไปเลย
เห็นใจคนเอาแต้มบัตรเครดิตไปแลกไมล์ ทั้งๆที่ไม่อยากนั่งการบินไทยเหอะครับ
ปล. อาหารเหี้ยมากครับ บอกเลย
เทียบกันแล้ว อาหาร airasia กลายเป็นอาหารมิชลินสตาร์ไปเลย
Like : PNA888, Gg™
[Edited 1 times Burm - Last Edit 2019-01-19 20:11:10]
# Sun 20 Jan 2019 : 3:26PM
[Link]
ขอปชช.ร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง เรียกร้องให้ประชาชนร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง เรียกร้องให้ประชาชนร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ม.ค.2562 ที่หน้าร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง ได้อ่านแถลงการณ์การคัดค้านกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ได้ย้ายการชุมนุมจากเดิมหน้าร้านแมคโดนัลด์ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปที่หน้าหอประชุมเล็กภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ในช่วงเย็นของวันนี้แทน ซึ่งทางกลุ่มได้นำรถขยายเสียงมาเพื่อเตรียมปราศรัย โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยควบคุมเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกัน โดยมีกำลังตำรวจเข้าประจำการในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และนำแผงเหล็กมาตั้งกันไว้ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยเด็ดขาด
นายพานสุวรรณ ณ แก้ว แกนนำกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่ม3ข้อ คือ 1.ขอให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุม เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ปัจจัยแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะกระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2.ขอให้ทุกฝ่ายอดทน รอคอยร่วมแรงร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่อย่างสมพระเกียรติ อันเป็นเกียรติประวัติของคนไทยทั้งชาติ 3.ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือร่วมใจสามัคคีก่อนเลือกตั้ง คอยตรวจสอบและจับตาการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
นายพานสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มไม่ต้องการเผชิญหน้าและจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปหากลุ่มคนอยากเลือกตั้งอันจะเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งโดยเด็ดขาด จะปักหลักอยู่บริเวณนี้เท่านั้น แต่พร้อมพูดคุยด้วยเหตุด้วยผล หากทางกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมาหา ก็จะพูดคุยและสลายตัวไปทันที ขอยืนยันว่าทางกลุ่มก็อยากให้มีการเลือกตั้งเช่นกัน หากกติกฎหมายไม่เป็นไปตามที่วางกรอบไว้ การชุมนุมก็เป็นสิทธิตามเสรีภาพ
ผมล่ะชอบวิธีการรณรงค์และชุมนุมเกี่ยวกับเลือกตั้งของกลุ่มนี้จัง ดูเรียบร้อย เปิดเผย ไม่รุนแรง เคารพและให้เกียรติคนไทยด้วยกัน ที่สำคัญเคารพกฎหมายบ้านเมือง เยี่ยมๆ
ขอปชช.ร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง เรียกร้องให้ประชาชนร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง เรียกร้องให้ประชาชนร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่สมพระเกียรติ
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 19 ม.ค.2562 ที่หน้าร้านอาหารเมธาวลัยศรแดง ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มสามัคคีก่อนเลือกตั้ง ได้อ่านแถลงการณ์การคัดค้านกลุ่มคนอยากเลือกตั้งที่ได้ย้ายการชุมนุมจากเดิมหน้าร้านแมคโดนัลด์ ใกล้กับอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปที่หน้าหอประชุมเล็กภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ในช่วงเย็นของวันนี้แทน ซึ่งทางกลุ่มได้นำรถขยายเสียงมาเพื่อเตรียมปราศรัย โดยมีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบคอยควบคุมเหตุการณ์ เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่างกัน โดยมีกำลังตำรวจเข้าประจำการในอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และนำแผงเหล็กมาตั้งกันไว้ไม่ให้เข้าไปในพื้นที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยโดยเด็ดขาด
นายพานสุวรรณ ณ แก้ว แกนนำกลุ่มได้อ่านแถลงการณ์ข้อเรียกร้องของกลุ่ม3ข้อ คือ 1.ขอให้ทุกฝ่ายยุติการชุมนุม เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่ปัจจัยแทรกซ้อนที่ส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้ง และโดยเฉพาะกระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก 2.ขอให้ทุกฝ่ายอดทน รอคอยร่วมแรงร่วมใจจัดงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ยิ่งใหญ่อย่างสมพระเกียรติ อันเป็นเกียรติประวัติของคนไทยทั้งชาติ 3.ขอให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ร่วมมือร่วมใจสามัคคีก่อนเลือกตั้ง คอยตรวจสอบและจับตาการเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตให้เป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม
นายพานสุวรรณ กล่าวด้วยว่า ทางกลุ่มไม่ต้องการเผชิญหน้าและจะไม่มีการเคลื่อนขบวนไปหากลุ่มคนอยากเลือกตั้งอันจะเป็นการสร้างเงื่อนไขความขัดแย้งโดยเด็ดขาด จะปักหลักอยู่บริเวณนี้เท่านั้น แต่พร้อมพูดคุยด้วยเหตุด้วยผล หากทางกลุ่มคนอยากเลือกตั้งมาหา ก็จะพูดคุยและสลายตัวไปทันที ขอยืนยันว่าทางกลุ่มก็อยากให้มีการเลือกตั้งเช่นกัน หากกติกฎหมายไม่เป็นไปตามที่วางกรอบไว้ การชุมนุมก็เป็นสิทธิตามเสรีภาพ
ผมล่ะชอบวิธีการรณรงค์และชุมนุมเกี่ยวกับเลือกตั้งของกลุ่มนี้จัง ดูเรียบร้อย เปิดเผย ไม่รุนแรง เคารพและให้เกียรติคนไทยด้วยกัน ที่สำคัญเคารพกฎหมายบ้านเมือง เยี่ยมๆ
[Edited 1 times Bosjozuzy007 - Last Edit 2019-01-20 15:31:29]
View all 5 comments >
Sun 20 Jan 2019 : 3:40PM
เป็นกลุ่มที่โคตรย้อนแย้งอ่ะ 5555
Sun 20 Jan 2019 : 4:25PM
[LMD wrote:
Mozart;2461716]เป็นกลุ่มที่โคตรย้อนแย้งอ่ะ 5555
ยังไงอ่ะ
Sun 20 Jan 2019 : 5:52PM
ปากบอกไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่เลือกชุมนุมแบบใกล้ๆอีกฝั่งนึง
เรื่องสงบไม่สงบเนี่ย เอาจริงๆ ถ้า รบ. มันมีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งกันจริงๆ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่รู้ไอ้กลุ่มนี้จะออกมาทำไม ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ขัดแย้งก็อยู่บ้านเฉยๆได้ ถ้าอยากเลือกตั้งเหมือนกัน
Sun 20 Jan 2019 : 6:56PM
[LMD wrote:
Mozart;2461735]
ปากบอกไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่เลือกชุมนุมแบบใกล้ๆอีกฝั่งนึง
เรื่องสงบไม่สงบเนี่ย เอาจริงๆ ถ้า รบ. มันมีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งกันจริงๆ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่รู้ไอ้กลุ่มนี้จะออกมาทำไม ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ขัดแย้งก็อยู่บ้านเฉยๆได้ ถ้าอยากเลือกตั้งเหมือนกัน
ปากบอกไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่เลือกชุมนุมแบบใกล้ๆอีกฝั่งนึง
เรื่องสงบไม่สงบเนี่ย เอาจริงๆ ถ้า รบ. มันมีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งกันจริงๆ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่รู้ไอ้กลุ่มนี้จะออกมาทำไม ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ขัดแย้งก็อยู่บ้านเฉยๆได้ ถ้าอยากเลือกตั้งเหมือนกัน
เขาอาจเห็นต่าง อยากประกาศจุดยืน แต่คงคิดจะไม่อยากกระทบกระทั่ง ยังคุยๆดีมีเหตุผลตามที่บอก็ได้ 5566
Sun 20 Jan 2019 : 7:01PM
[LMD wrote:
Mozart;2461735]
ปากบอกไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่เลือกชุมนุมแบบใกล้ๆอีกฝั่งนึง
เรื่องสงบไม่สงบเนี่ย เอาจริงๆ ถ้า รบ. มันมีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งกันจริงๆ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่รู้ไอ้กลุ่มนี้จะออกมาทำไม ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ขัดแย้งก็อยู่บ้านเฉยๆได้ ถ้าอยากเลือกตั้งเหมือนกัน
ปากบอกไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่เลือกชุมนุมแบบใกล้ๆอีกฝั่งนึง
เรื่องสงบไม่สงบเนี่ย เอาจริงๆ ถ้า รบ. มันมีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้งกันจริงๆ มันก็ไม่มีปัญหาหรอก ไม่รู้ไอ้กลุ่มนี้จะออกมาทำไม ถ้าบอกว่าไม่อยากให้ขัดแย้งก็อยู่บ้านเฉยๆได้ ถ้าอยากเลือกตั้งเหมือนกัน
ผมว่ารัฐบาลโยกโย้ คลุมเครือเรื่องนี้ก็ถูก แต่พวกผู้ชุมนุมบางคนบางกลุ่มที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลบางกลุ่มนี่ก็วุฒิภาวะต่ำ ทำตัวค่อนข้างัวรุนแรง เป็นภัยคุกคามจริงๆ ไหนจะใส่ร้ายคน ใช้คำก่อให้เกิกความเกลียดชังแบบไม่มีหลักฐาน บางกลุ่มถึงไม่แสดงตัวตรงๆแต่ก็ดูแปปเดียวก็รู้ว่ามีเอี่ยว
# Sun 20 Jan 2019 : 5:39PM
View all 1 comments >
Sun 20 Jan 2019 : 5:47PM
ปวินมีคนเกลียดอยู่แล้ว คนเกลียดเพิ่มคงไม่มีเท่าไหร่
แต่ อีกฝ่ายน่าจะได้คนเกลียดเพิ่มรึช่องทางโจมตีเพิ่มมากกว่า
ไม่ได้คุ้มกันเลยไปทะเลาะกับคนแบบปวิน
คนที่จะด่าไม่ใช่เพราะเชาชอบปวินนะ แต่จะพวกหัวซ้าย พวกเกลียดความเป็นคอนเซอ เกลียดวัฒนธรรมเก่าๆ ขนบเก่าๆ แม้แต่เรื่องศาสนา คงใช้เรื่องมาแซะได้สบายๆ
แต่ อีกฝ่ายน่าจะได้คนเกลียดเพิ่มรึช่องทางโจมตีเพิ่มมากกว่า
ไม่ได้คุ้มกันเลยไปทะเลาะกับคนแบบปวิน
คนที่จะด่าไม่ใช่เพราะเชาชอบปวินนะ แต่จะพวกหัวซ้าย พวกเกลียดความเป็นคอนเซอ เกลียดวัฒนธรรมเก่าๆ ขนบเก่าๆ แม้แต่เรื่องศาสนา คงใช้เรื่องมาแซะได้สบายๆ
# Sun 20 Jan 2019 : 8:34PM
"มาร์ค" บี้กกต.ปราบโกงเลือกตั้งไม่ต้องรอพ.ร.ฏ. เตรียมขึ้นเหนือหาเสียง
วันนี้ (20ม.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงภาพรวมของการลงพื้นที่พบประชาชนในหลายพื้นที่ ว่า จากการที่ตนได้ลงพื้นที่พบปะประชาชน ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พบว่ามีเสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก ขณะเดียวกัน ประชาชนต้องการเข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมืองอีกครั้ง มีความตื่นตัวในการเลือกตั้ง และมีความหวังว่าพวกเขาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว ขณะที่ผู้สมัครส.ส.ทุกคนยังเดินหน้าลงพื้นที่อย่างเต็มที่ แม้ตอนนี้ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะ มีการเลือกตั้งในวันใด ซึ่งพรรคจะทยอยเปิดตัวนโยบายในอีกหลายด้าน ซึ่งส่วนใหญ่ยังเน้นการแก้ปัญหาปากท้อง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากประชาชนในหลายพื้นที่ต้องการทราบรายละเอียดของนโยบายของเราเป็นพิเศษ เราจึงจะอาศัยโอกาสการเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ในแต่ละภาค เปิดตัวนโยบายในเชิงพื้นที่แต่ละภาคไปพร้อมกันด้วย อาทิ ในภาคใต้ที่ประชาชนต้องการทราบรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายของพรรค เช่น เรื่องยางพารา การทำประมง ปาล์มน้ำมัน เป็นต้น เพราะในบางครั้ง มีผู้นำนโยบายของเราไปพูดกับ ประชาชนให้เกิดความเข้าใจผิดกัน โดยภาคต่อไปที่ตนและคณะจะไปลงพื้นที่ คือภาคเหนือซึ่งเราจะไปเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ในภาคเหนือทั้งหมด พร้อมเปิดตัวนโยบายสำหรับภาคดังกล่าวในวันที่ 27 ม.ค.นี้ ที่จ.เชียงใหม่
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่เริ่มมีผู้ร้องเรียนเรื่องการทุจริตในการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ อาทิ การเก็บบัตรประชาชน ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ฟังรายงานและข่าวสารจากคนของเราเกี่ยวกับการทุจริตในการเลือกตั้งมามากพอสมควร ซึ่งเราได้แจ้งให้เขารวบรวมพยานหลักฐานส่งเข้ามา ขณะเดียวกัน ตนอยากให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำงานในเชิงรุก เพราะหากสามารถปราบปรามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมได้ตั้งแต่ตอนนี้ ก็จะทำให้การปราบปรามการทุจริต ซื้อสิทธิ์ขายเสียงในช่วงการเลือกตั้งจะทำได้ง่ายขึ้น แต่ถ้ากกต.ปล่อยปะละเลย แล้วเกิดการทุจริตการเลือกตั้งในวงกว้าง จะทำให้ในช่วงเลือกตั้งยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้น
“ดังนั้น กกต.ต้องพยายามหาทางสกัดกั้นการทุจริตดังกล่าว รวมถึงต้องตรวจสอบจัดการอย่างจริงจัง และขอให้ทำเลย โดยไม่ต้องรอให้มีการประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งออกมาก่อน เพราะการกระทำใดก็ตามที่เป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง ถือว่าผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ซึ่งกฎหมายดังกล่าวได้เริ่มบังคับใช้แล้ว ส่วนพระราชกฤษฎีกานี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎระเบียบกติกาในการหาเสียงเลือกตั้ง เช่น การทำป้ายหาเสียง ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง แต่ถ้ามีการกระทำข่มขู่ประชาชนเก็บบัตรประชาชนของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง มีการซื้อเสียงกัน หรือมีการใช้อำนาจรัฐไปบังคับให้คนเลือกผู้สมัครคนใดคนหนึ่ง แล้วไปมองว่าการกระทำเหล่านั้นยังไม่ผิด เพราะเกิดขึ้นก่อนพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวออกมา ผมคิดว่าการมองอย่างนั้นเป็นเรื่องแปลก เพราะการกระทำเหล่านั้นผิดกฎหมายการเลือกตั้งส.ส.อย่างชัดเจน”
นอกจากนี้ตนขอให้รัฐบาลมีส่วนร่วมในการป้องกันการทุจริตการเลือกตั้ง เพราะปัญหาที่มีอยู่มากในขณะนี้คือการใช้อำนาจรัฐ ดังนั้นรัฐบาลต้องแสดงออกถึงความจริงใจที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ด้วย มิฉะนั้น การที่รัฐบาลอ้างถึงเรื่องการปฏิรูปประเทศ และปฏิรูปการเมืองก็จะสูญเปล่า หากปล่อยให้เริ่มต้นด้วยการเมืองหรือประชาธิปไตยที่ทุจริต สุดท้ายก็จะนำประเทศกลับไปสู่การเมืองวังวนเดิม ตนจึงอยากเห็นท่าทีของรัฐบาลมากกว่านี้ที่เอาจริงเอาจังกับการทุจริตการเลือกตั้งและการใช้อำนาจรัฐ ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ยินดีให้ความร่วมมือกับ กกต. เพราะเราถือว่าการเลือกตั้งที่สุจริตเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านเมืองเดินหน้าไปได้ โดยพรรคพยายามหารูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการรับแจ้งข้อมูลเบาะแสจากประชาชน เพื่อ ให้ผู้ที่แจ้งข้อมูลได้รับความปลอดภัยด้วย
ที่มา: ผู้จัดการ ออนไลน์ [Link]
หัวหน้ามาร์คพรรค ปชป.ได้ลงพื้นที่พบ ปชช.หลายพื้นที่ทั้งในและนอกกรุงเทพฯ มีการปราศรัยถึงนโนบายพรรคและกล่าวว่าแนวทางพรรคจะปรับเปลี่ยนตามเขตพื้นที่ อภิสิทธิ์ยังได้บอกกล่าวถึง กกต.ว่าสมควรลงโทษผู้กระทำความผิดเลือกตั้งได้แล้ว ไม่ต้องรอ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งเพราะ พ.ร.บ.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.บังคับใช้แล้ว
ผมก็ว่าเรื่อง กกต.ที่จะรอ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกก่อนแล้วค่อยติดตามผลผู้สมัครก็ไม่เหมาะสมซักเท่าไหร่ หลายพื้นที่นะช่วงเวลานี้โดยเฉพาะเขตที่มีการแข่งขันกันสูงๆเริ่มส่อทุจริตกันเพียบแล้ว อีกอย่าง กกต.ชุดนี้ได้รับการรับรองจากรัฐบาล คสช.ไม่แปลกที่ ปชช.จะคลางแคลงใจเรื่องการทำงาน จะเลือก 17 24 31 หรือ มี.ค. ม.ย. พ.ค. เมื่อไหร่ก็ตาม กกต.ต้องเป็นธรรมไม่ใช่เอื้อประโยชน์พรรคสนับสนุนรัฐบาลบางพรรค
อีกอย่างเหลือไม่กี่เดือนแล้วการหาคะแนนเสียงตอนนี้ของพรรคที่สนับสนุนรัฐบาล คชส. ดูจะได้เปรียบซ่ะทุกอย่างทั้งเป็น รมต.เอง มี คสช.กำหนดการเลือกตั้ง มีแคนดิเดตอย่าง พล.อ.ประยุทธ์รอนั่งตำแหน่งนายกฯไทยสมัยที่สอง ผมว่า กกต.เองนี่ล่ะกลัวอำนาจ คสช.จนให้ผู้สมัครพรรคอื่นๆเสียเปรียบกันหมด
# Mon 21 Jan 2019 : 3:39PM
อัจฉริยะฟ้องหนุ่มกรรชัย ซะงั้นทั้งๆที่เขาเชิญตัวเองมาบ่อยๆ พอเชิญคนอื่นมาพูด ฟ้องซะงั้น
อีดิทใหม่ครับ
[Link]
อีดิทใหม่ครับ
[Link]
[Edited 2 times Kevin4real - Last Edit 2019-01-21 19:58:11]
View all 1 comments >
# Mon 21 Jan 2019 : 5:52PM
อ.เจษ โพสแนวทางการแกปัญหาโดยไอเดียทักกีี้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1413396528790977&id=100003619303769
หลักๆก็ผลักดันให้มาใช้รถพลังงานไฟฟ้าแบบที่จีนกำลังทำอยู่และก็ใช้มาตร5ยกเลิกรถดีเซล
มีคนไปแย้งว่า แล้วไอเดียร์เรื่องรถคันแรกล่ะเมื่อไม่กี่ปีก่อนล่ัะ
จริงๆไอเดียร์มันก็ดีแหละเพรสะปัญหาหลักมันอยู่ตรงนั้นถ้าไม่แก้ตรงนั้นจะไปแก้ตรงไหนก็ไม่เห็นผล
จำได้ว่าก่อนหน้านี้มีคนไปโบ้ยว่าเพราะรัฐบาลไปปลดล็อคให้โรงงานต่างๆนาๆ โยงเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์บลาๆ ไปไหนไม่รุ้
https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1413396528790977&id=100003619303769
หลักๆก็ผลักดันให้มาใช้รถพลังงานไฟฟ้าแบบที่จีนกำลังทำอยู่และก็ใช้มาตร5ยกเลิกรถดีเซล
มีคนไปแย้งว่า แล้วไอเดียร์เรื่องรถคันแรกล่ะเมื่อไม่กี่ปีก่อนล่ัะ
จริงๆไอเดียร์มันก็ดีแหละเพรสะปัญหาหลักมันอยู่ตรงนั้นถ้าไม่แก้ตรงนั้นจะไปแก้ตรงไหนก็ไม่เห็นผล
จำได้ว่าก่อนหน้านี้มีคนไปโบ้ยว่าเพราะรัฐบาลไปปลดล็อคให้โรงงานต่างๆนาๆ โยงเรื่องขยะอิเล็กทรอนิกส์บลาๆ ไปไหนไม่รุ้
# Mon 21 Jan 2019 : 7:49PM
เลี้ยงข้าวเหนียวมะม่วง อืมมม
เยอะกว่าจำนวน นักท่องเทียวจีน มาก
จนต้องกลายมาเป็นปุ๋ยหมัก ตามรูปที csi LA แฉ
ทำลายความน่าเชื่อถือตั้งแต่ต้นปี ไม่หยุดเลย
ปีนี่ จะจบอย่างไงน่าาาา
เยอะกว่าจำนวน นักท่องเทียวจีน มาก
จนต้องกลายมาเป็นปุ๋ยหมัก ตามรูปที csi LA แฉ
ทำลายความน่าเชื่อถือตั้งแต่ต้นปี ไม่หยุดเลย
ปีนี่ จะจบอย่างไงน่าาาา
[Edited 1 times RedRaven - Last Edit 2019-01-21 19:50:18]
View all 3 comments >
Mon 21 Jan 2019 : 7:55PM
ธรรมเนียมจีนครับ เหลือดีกว่าขาด อีกอย่างเอกชนเขาทำนี่ครับแต่ชวนป้อมไปเป็นประธาน
Like : RedRaven
Mon 21 Jan 2019 : 8:45PM
ร่วมกับ ททท. นะ
Like : RedRaven
Mon 21 Jan 2019 : 9:16PM
[LMD wrote:
Mozart;2462126]ร่วมกับ ททท. นะ
อ้อครับ
งานนี้ มีหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมสนับสนุนเพื่อให้กิจกรรมนี้สมบูรณ์แบบที่สุด ได้แก่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานส่งเสริมการจัดกิจกรรมและนิทรรศการ บริษัทท่าอากาศยานไทย หอการค้าไทย-จีน สมาคมแต้จิ๋ว สมาคมวิเทศพาณิชย์ไทย-จีน บริษัทสหพัฒนพิบูล สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวสัมพันธ์ไทย-จีน
# Mon 21 Jan 2019 : 7:56PM
"อังคณา" ติงทหาร กรณีใช้อาวุธปืนเด็ดหัวโจรใต้ แนะควรใช้มาตรการจับกุมจากเบาไปหาหนัก โดยเริ่มเจรจากับผู้ต้องหา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัว ชี้ ! การกระทำของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากในหมู่สิทธิมนุษยชน
มีรายงานว่า นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมนายลุกมาน มะดิง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา หลายคดีที่มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 163 ม.4 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา ว่า เรื่องการจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือยุทธวิธีต่างๆของเจ้าหน้าที่ ทางกรรมการสิทธิฯเคยมีข้อเสนอแนะไปหลายครั้งว่า ต้องคำนึงถึงสัดส่วนการใช้อาวุธ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการตกลงกันว่าให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้มาตรการจับกุมจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากให้ผู้นำชุมชนหรือผู้นำศาสนาเข้าไปเจรจากับผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่และจะได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หากไม่ได้ผลจริงๆจึงจะดำเนินการขั้นต่อไป
นางอังคณา กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการวิสามัญฆาตกรรมนายลุกมานนั้น เบื้องต้นทราบว่ามีการปะทะ แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไร ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่อ้างว่ามีการปะทะนั้นหมายถึงอะไร และเท่าที่ทราบในฝั่งของเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เราพยายามสอบถามแต่ก็ยังไม่มีเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากในหมู่สิทธิมนุษยชน และสิ่งหนึ่งของการปะทะที่เป็นหลักสากลคือการได้สัดส่วนการใช้อาวุธ
นางอังคณา กล่าวถึงข้อซักถามว่าเจ้าหน้าที่มีการใช้กำลังกว่า 50 นาย ในการเข้าปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ถือว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ว่า เจ้าหน้าที่จะนำกำลังไปมากขนาดไหน ไม่เป็นไร เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าในพื้นที่จะมีผู้ถูกกล่าวหรือผู้ต้องหาอยู่มากกว่า 1 คนหรือไม่ คือเจ้าหน้าที่ไปเยอะไม่เป็นไร แต่การใช้อาวุธต้องได้สัดส่วน และเท่าที่ตนทราบที่แม่ทัพภาค 4 แถลงคือมีการต่อสู้ แต่ก็ยังไม่พบว่าฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐมีความเสียหาย ทีนี้สิ่งที่ชาวบ้านพูดก็จะพูดออกไปอีกแบบหนึ่ง จึงมีความกังวลและอยากให้รัฐระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่หน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ นางอังคณา กล่าวว่า ภาพที่ออกมาเป็นภาพความเสียหายของตัวบ้านซึ่งผนังบ้านเป็นรูเต็มไปหมด ส่วนตนพยายามจะหาดูภาพศพของนายลุกมานก็ยังไม่เห็นว่าเป็นอย่างไร และถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปในพื้นที่ แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เจ้าหน้าที่ควรจะอนุญาตให้ผู้นำชุมชุนหรือผู้นำศาสนาที่ชาวบ้านไว้ใจเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องนี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องสัดส่วนของการใช้อาวุธ ซึ่งเราไม่ทราบข้อมูลว่ามีการนำผู้นำชุมชนเข้าไปร่วมด้วยหรือไม่ เรารับทราบข้อมูลจากการแถลงของแม่ทัพ และจากชาวบ้าน ซึ่งแม่ทัพบอกว่าคนที่เสียชีวิตมีหมายจับหลายหมายและมีการต่อสู้ ส่วนชาวบ้านก็มองว่าแค่คนคนเดียวทำไมถึงยิงถล่มแบบนี้ ส่วนการเสียชีวิตเราคิดว่าตำรวจก็คงต้องทำเรื่องไต่สวนการตาย โดยทั้งสองฝ่ายคงต้องนำพยานหลักฐานมาชี้แจงในศาลว่ามันได้สัดส่วนกันหรือไม่” นางอังคณา กล่าว
กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบของกรรมการสิทธิฯนั้น ทางญาติของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้เข้ามาร้องเรียน และบางครั้งเขาอาจไม่ติดใจการเสียชีวิต ทางกรรรมการสิทธิฯก็คงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเราเคยมีข้อเสนอแนะกันไปแล้ว ในเรื่องการใช้กำลังให้ได้สัดส่วนและการใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่จะเข้าไป 50-100 คน เราไม่ว่า แต่การใช้อาวุธมันต้องได้สัดส่วนกับความรุนแรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความไว้วางใจที่ประเทศไทยอยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อสันติสุข
ที่มา - https://www.khaosod.co.th/
ดีจริงเป็นเป็นโจรใต้นี่ มีคนแก้ต่างให้
มีรายงานว่า นางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ทหารวิสามัญฆาตกรรมนายลุกมาน มะดิง อายุ 29 ปี ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา หลายคดีที่มาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 163 ม.4 ต.บือมัง อ.รามัน จ.ยะลา ว่า เรื่องการจับกุมตัวผู้ต้องหาหรือยุทธวิธีต่างๆของเจ้าหน้าที่ ทางกรรมการสิทธิฯเคยมีข้อเสนอแนะไปหลายครั้งว่า ต้องคำนึงถึงสัดส่วนการใช้อาวุธ อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการตกลงกันว่าให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้มาตรการจับกุมจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากให้ผู้นำชุมชนหรือผู้นำศาสนาเข้าไปเจรจากับผู้ถูกกล่าวหาหรือผู้ต้องหา เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่และจะได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลเพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หากไม่ได้ผลจริงๆจึงจะดำเนินการขั้นต่อไป
นางอังคณา กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีการวิสามัญฆาตกรรมนายลุกมานนั้น เบื้องต้นทราบว่ามีการปะทะ แต่ยังไม่มีข้อมูลอะไร ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่อ้างว่ามีการปะทะนั้นหมายถึงอะไร และเท่าที่ทราบในฝั่งของเจ้าหน้าที่รัฐก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เราพยายามสอบถามแต่ก็ยังไม่มีเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันมากในหมู่สิทธิมนุษยชน และสิ่งหนึ่งของการปะทะที่เป็นหลักสากลคือการได้สัดส่วนการใช้อาวุธ
นางอังคณา กล่าวถึงข้อซักถามว่าเจ้าหน้าที่มีการใช้กำลังกว่า 50 นาย ในการเข้าปฏิบัติการจับกุมในครั้งนี้ถือว่าทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ว่า เจ้าหน้าที่จะนำกำลังไปมากขนาดไหน ไม่เป็นไร เพราะบางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าในพื้นที่จะมีผู้ถูกกล่าวหรือผู้ต้องหาอยู่มากกว่า 1 คนหรือไม่ คือเจ้าหน้าที่ไปเยอะไม่เป็นไร แต่การใช้อาวุธต้องได้สัดส่วน และเท่าที่ตนทราบที่แม่ทัพภาค 4 แถลงคือมีการต่อสู้ แต่ก็ยังไม่พบว่าฝั่งเจ้าหน้าที่รัฐมีความเสียหาย ทีนี้สิ่งที่ชาวบ้านพูดก็จะพูดออกไปอีกแบบหนึ่ง จึงมีความกังวลและอยากให้รัฐระมัดระวังเพิ่มขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีเจ้าหน้าที่หน้าที่ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ นางอังคณา กล่าวว่า ภาพที่ออกมาเป็นภาพความเสียหายของตัวบ้านซึ่งผนังบ้านเป็นรูเต็มไปหมด ส่วนตนพยายามจะหาดูภาพศพของนายลุกมานก็ยังไม่เห็นว่าเป็นอย่างไร และถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปในพื้นที่ แต่เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เจ้าหน้าที่ควรจะอนุญาตให้ผู้นำชุมชุนหรือผู้นำศาสนาที่ชาวบ้านไว้ใจเข้าไปร่วมตรวจสอบด้วย เพื่อเป็นพยานให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องนี้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเรื่องสัดส่วนของการใช้อาวุธ ซึ่งเราไม่ทราบข้อมูลว่ามีการนำผู้นำชุมชนเข้าไปร่วมด้วยหรือไม่ เรารับทราบข้อมูลจากการแถลงของแม่ทัพ และจากชาวบ้าน ซึ่งแม่ทัพบอกว่าคนที่เสียชีวิตมีหมายจับหลายหมายและมีการต่อสู้ ส่วนชาวบ้านก็มองว่าแค่คนคนเดียวทำไมถึงยิงถล่มแบบนี้ ส่วนการเสียชีวิตเราคิดว่าตำรวจก็คงต้องทำเรื่องไต่สวนการตาย โดยทั้งสองฝ่ายคงต้องนำพยานหลักฐานมาชี้แจงในศาลว่ามันได้สัดส่วนกันหรือไม่” นางอังคณา กล่าว
กรรมการสิทธิมนุษยชน กล่าวด้วยว่า สำหรับการตรวจสอบของกรรมการสิทธิฯนั้น ทางญาติของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้เข้ามาร้องเรียน และบางครั้งเขาอาจไม่ติดใจการเสียชีวิต ทางกรรรมการสิทธิฯก็คงไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้ ซึ่งเราเคยมีข้อเสนอแนะกันไปแล้ว ในเรื่องการใช้กำลังให้ได้สัดส่วนและการใช้อาวุธ เจ้าหน้าที่จะเข้าไป 50-100 คน เราไม่ว่า แต่การใช้อาวุธมันต้องได้สัดส่วนกับความรุนแรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างความไว้วางใจที่ประเทศไทยอยู่ระหว่างการพูดคุยเพื่อสันติสุข
ที่มา - https://www.khaosod.co.th/
ดีจริงเป็นเป็นโจรใต้นี่ มีคนแก้ต่างให้
Like : "MnemoniC"
# Mon 21 Jan 2019 : 9:57PM
น่าจะลองจัดกิจกรรมให้ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พาครอบครัวไปอยู่ตรงที่มีปัญหายิงบึ้มสัก 1 เดือน
แล้วให้ขับรถกระจายเสียงรณรงค์ให้โจรใต้ลดการใช้ความรุนแรงลงดู?
หรือลงพื้นที่กับทหาร จะได้รู้ว่าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า มันเป็นยังไง?
พาครอบครัวไปอยู่ตรงที่มีปัญหายิงบึ้มสัก 1 เดือน
แล้วให้ขับรถกระจายเสียงรณรงค์ให้โจรใต้ลดการใช้ความรุนแรงลงดู?
หรือลงพื้นที่กับทหาร จะได้รู้ว่าไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า มันเป็นยังไง?
# Mon 21 Jan 2019 : 10:33PM
อาทิตย์ก่อนมั้ง ที่เอาแต่ละพรรคมาดีเบตถามตอบสั้นๆเกี่ยวกับนฌยบายและทิศทางของพรรค ในช่องamarin
มีหัวข้อนึงเรื่องอก้ปัญหาภาคใต้ยังไง
คำตอบของ ธนาธร ว่าปัญหาภาคใต้คือทหารเอาด่านออกให้หมดและก็พูดเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ถ้าคนที่แอนตี้ทหารจะกรี๊ดมากๆกับวิธีการที่พี่แกพูด
แต่สำหรับผม คิดว่าแกน่าจะไม่ค่อยได้ดูข่าวสารบ้านเมืองเท่าไหร่ 555555
มีหัวข้อนึงเรื่องอก้ปัญหาภาคใต้ยังไง
คำตอบของ ธนาธร ว่าปัญหาภาคใต้คือทหารเอาด่านออกให้หมดและก็พูดเรื่องพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ ถ้าคนที่แอนตี้ทหารจะกรี๊ดมากๆกับวิธีการที่พี่แกพูด
แต่สำหรับผม คิดว่าแกน่าจะไม่ค่อยได้ดูข่าวสารบ้านเมืองเท่าไหร่ 555555
View all 4 comments >
Mon 21 Jan 2019 : 10:43PM
ยังมีอีกข้อแกบอกปัญหาภาคใต้เกิดเพราะคนมุสลิมโดนคนพุทธกดขี่ ทั้งๆที่รวามจริงในพื้นที่ใครๆก็รู้ว่าคนพุทธเป็นพลเมืองชั้นสองมานานแล้ว
Tue 22 Jan 2019 : 9:34AM
ปัญหาความรุนแรงชายแดนใต้
บอกได้เลย ไม่เกี่ยวกับปากท้องซักนิด
คนมุสลิมที่เค้าค้าขาย ใช้ชีวิตสุจริต
เลี้ยงลูกเต้าก็คนปรกตินี่แหละ
ที่มีปัญหาคือพวกอิทธิพลท้องถิ่น
กับพวกคึกคะนอง
บวกกับลักษณะการศึกษาแบบ ร.ร.ปอเนอะ
ที่สอนแต่ศาสนาและความคิดแบบท่องจำ
ไร้การวิเคราะห์แบบเป็นเหตุผล
เวลาเกิดความขัดแย้งเลยมักใช้วิธีตะแบง
และความรุนแรงเข้าว่า ตั้งแต่เด็กๆ
เพราะนี่ถิ่นข้า ข้าพวกเยอะ
แล้วพอถึงเวลาที่เด็กพวกนี้
เข้าสู่ตลาดแรงงานก็ไม่สามารถต่อสู้แข่งขัน
กับคนที่จบแบบสามัญได้
เพราะข้อจำกัดที่ฝังหัว
ทั้งด้านทัศนะคติ ทักษะ
และการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น
(ไม่เกี่ยวกับความต่างด้านศาสนาเลย)
เลยสร้างความรู้สึกว่าตัวเองด้อย
ไม่มีโอกาส รู้สึกว่าโดนกดขี่ โดนดูถูก
พ่อแม่ก็ลูกเยอะ ครอบครัวละอย่างน้อย 3-4คน
เพราะไม่มีการคุมกำเนิด
คนรุ่นใหม่ๆเลยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
ก็ไม่แปลกที่จะมีพวกขวางโลก
และจ้องจะใช้ความรุนแรง
เพือความมันส์สะใจล้วนๆ
ที่พูดนี่ใน กรณีรากหญ้านะครับ
คนมุสลิมสามจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ
มีเยอะแยะ แถมเป็นเพื่อนที่ดี จริงใจ
น่าคบหาก็มีมากมาย
ปล.เห็นธนาธรพูดเรื่องการลงทุน
อยากถามว่า ธนาธรโอเคมั้ย
ถ้าสมมุติธนาธรเปิดโรงงานยาง
จ่ายค่าแรงเต็ม
แต่ต้องพักให้พนักงานส่วนหนึ่ง
ได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาวันละ 3 ครั้ง
(ซึ่งความจริงไม่ได้ทำเสร็จแล้ว
แล้วกลับมาทำงานทันทีแน่นอน
และก็ต้องมีพนักงานส่วนหนึ่ง
ที่ต้องทำงานเป็นปรกติ มองดูเพื่อนอู้ตาปริบๆ
เกิดความเหลื่อมล้ำ แตกต่าง)
ทุกวันศุกร์ โรงงานก็ต้องหยุด
ให้ไปละหมาดใหญ่ที่มัสยิต
ดังนั้นต้องหยุด ศ-ส-อ 3วันต่ออาทิตย์
ธนาธรจะแบกต้นทุนได้ซักกี่ปีน้อ
และไม่ใช่ไม่เคยมีโรงงานใหญ่ๆไปเปิดนะครับ
เจ๊งไปหลายโรงงานละ ด้วยยอดการผลิตที่ไม่ถึงเป้าค่าขนส่งที่ไกลกว่าทางสงขลา
ที่เห็นยังเปิดอยู่คือ บ.ศรีตรัง
แต่ก็ไม่ใช่โรงงานหลักที่ทำกำไรแต่เปิดเนื่องจากทหารขอให้เปิดมากกว่า
คุยเรื่องนี้ยาวเลย ขอโทษทีนะครับ
บอกได้เลย ไม่เกี่ยวกับปากท้องซักนิด
คนมุสลิมที่เค้าค้าขาย ใช้ชีวิตสุจริต
เลี้ยงลูกเต้าก็คนปรกตินี่แหละ
ที่มีปัญหาคือพวกอิทธิพลท้องถิ่น
กับพวกคึกคะนอง
บวกกับลักษณะการศึกษาแบบ ร.ร.ปอเนอะ
ที่สอนแต่ศาสนาและความคิดแบบท่องจำ
ไร้การวิเคราะห์แบบเป็นเหตุผล
เวลาเกิดความขัดแย้งเลยมักใช้วิธีตะแบง
และความรุนแรงเข้าว่า ตั้งแต่เด็กๆ
เพราะนี่ถิ่นข้า ข้าพวกเยอะ
แล้วพอถึงเวลาที่เด็กพวกนี้
เข้าสู่ตลาดแรงงานก็ไม่สามารถต่อสู้แข่งขัน
กับคนที่จบแบบสามัญได้
เพราะข้อจำกัดที่ฝังหัว
ทั้งด้านทัศนะคติ ทักษะ
และการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น
(ไม่เกี่ยวกับความต่างด้านศาสนาเลย)
เลยสร้างความรู้สึกว่าตัวเองด้อย
ไม่มีโอกาส รู้สึกว่าโดนกดขี่ โดนดูถูก
พ่อแม่ก็ลูกเยอะ ครอบครัวละอย่างน้อย 3-4คน
เพราะไม่มีการคุมกำเนิด
คนรุ่นใหม่ๆเลยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
ก็ไม่แปลกที่จะมีพวกขวางโลก
และจ้องจะใช้ความรุนแรง
เพือความมันส์สะใจล้วนๆ
ที่พูดนี่ใน กรณีรากหญ้านะครับ
คนมุสลิมสามจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ
มีเยอะแยะ แถมเป็นเพื่อนที่ดี จริงใจ
น่าคบหาก็มีมากมาย
ปล.เห็นธนาธรพูดเรื่องการลงทุน
อยากถามว่า ธนาธรโอเคมั้ย
ถ้าสมมุติธนาธรเปิดโรงงานยาง
จ่ายค่าแรงเต็ม
แต่ต้องพักให้พนักงานส่วนหนึ่ง
ได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาวันละ 3 ครั้ง
(ซึ่งความจริงไม่ได้ทำเสร็จแล้ว
แล้วกลับมาทำงานทันทีแน่นอน
และก็ต้องมีพนักงานส่วนหนึ่ง
ที่ต้องทำงานเป็นปรกติ มองดูเพื่อนอู้ตาปริบๆ
เกิดความเหลื่อมล้ำ แตกต่าง)
ทุกวันศุกร์ โรงงานก็ต้องหยุด
ให้ไปละหมาดใหญ่ที่มัสยิต
ดังนั้นต้องหยุด ศ-ส-อ 3วันต่ออาทิตย์
ธนาธรจะแบกต้นทุนได้ซักกี่ปีน้อ
และไม่ใช่ไม่เคยมีโรงงานใหญ่ๆไปเปิดนะครับ
เจ๊งไปหลายโรงงานละ ด้วยยอดการผลิตที่ไม่ถึงเป้าค่าขนส่งที่ไกลกว่าทางสงขลา
ที่เห็นยังเปิดอยู่คือ บ.ศรีตรัง
แต่ก็ไม่ใช่โรงงานหลักที่ทำกำไรแต่เปิดเนื่องจากทหารขอให้เปิดมากกว่า
คุยเรื่องนี้ยาวเลย ขอโทษทีนะครับ
Like : chickenku
[Edited 1 times louisdog - Last Edit 2019-01-22 09:46:00]
Tue 22 Jan 2019 : 10:19AM
อย่าบอกนะว่าปัญหาที่ว่าคือปัญหาโจรใต้
Tue 22 Jan 2019 : 10:23AM
louisdog wrote:
ปัญหาความรุนแรงชายแดนใต้
บอกได้เลย ไม่เกี่ยวกับปากท้องซักนิด
คนมุสลิมที่เค้าค้าขาย ใช้ชีวิตสุจริต
เลี้ยงลูกเต้าก็คนปรกตินี่แหละ
ที่มีปัญหาคือพวกอิทธิพลท้องถิ่น
กับพวกคึกคะนอง
บวกกับลักษณะการศึกษาแบบ ร.ร.ปอเนอะ
ที่สอนแต่ศาสนาและความคิดแบบท่องจำ
ไร้การวิเคราะห์แบบเป็นเหตุผล
เวลาเกิดความขัดแย้งเลยมักใช้วิธีตะแบง
และความรุนแรงเข้าว่า ตั้งแต่เด็กๆ
เพราะนี่ถิ่นข้า ข้าพวกเยอะ
แล้วพอถึงเวลาที่เด็กพวกนี้
เข้าสู่ตลาดแรงงานก็ไม่สามารถต่อสู้แข่งขัน
กับคนที่จบแบบสามัญได้
เพราะข้อจำกัดที่ฝังหัว
ทั้งด้านทัศนะคติ ทักษะ
และการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น
(ไม่เกี่ยวกับความต่างด้านศาสนาเลย)
เลยสร้างความรู้สึกว่าตัวเองด้อย
ไม่มีโอกาส รู้สึกว่าโดนกดขี่ โดนดูถูก
พ่อแม่ก็ลูกเยอะ ครอบครัวละอย่างน้อย 3-4คน
เพราะไม่มีการคุมกำเนิด
คนรุ่นใหม่ๆเลยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
ก็ไม่แปลกที่จะมีพวกขวางโลก
และจ้องจะใช้ความรุนแรง
เพือความมันส์สะใจล้วนๆ
ที่พูดนี่ใน กรณีรากหญ้านะครับ
คนมุสลิมสามจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ
มีเยอะแยะ แถมเป็นเพื่อนที่ดี จริงใจ
น่าคบหาก็มีมากมาย
ปล.เห็นธนาธรพูดเรื่องการลงทุน
อยากถามว่า ธนาธรโอเคมั้ย
ถ้าสมมุติธนาธรเปิดโรงงานยาง
จ่ายค่าแรงเต็ม
แต่ต้องพักให้พนักงานส่วนหนึ่ง
ได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาวันละ 3 ครั้ง
(ซึ่งความจริงไม่ได้ทำเสร็จแล้ว
แล้วกลับมาทำงานทันทีแน่นอน
และก็ต้องมีพนักงานส่วนหนึ่ง
ที่ต้องทำงานเป็นปรกติ มองดูเพื่อนอู้ตาปริบๆ
เกิดความเหลื่อมล้ำ แตกต่าง)
ทุกวันศุกร์ โรงงานก็ต้องหยุด
ให้ไปละหมาดใหญ่ที่มัสยิต
ดังนั้นต้องหยุด ศ-ส-อ 3วันต่ออาทิตย์
ธนาธรจะแบกต้นทุนได้ซักกี่ปีน้อ
และไม่ใช่ไม่เคยมีโรงงานใหญ่ๆไปเปิดนะครับ
เจ๊งไปหลายโรงงานละ ด้วยยอดการผลิตที่ไม่ถึงเป้าค่าขนส่งที่ไกลกว่าทางสงขลา
ที่เห็นยังเปิดอยู่คือ บ.ศรีตรัง
แต่ก็ไม่ใช่โรงงานหลักที่ทำกำไรแต่เปิดเนื่องจากทหารขอให้เปิดมากกว่า
คุยเรื่องนี้ยาวเลย ขอโทษทีนะครับ
บอกได้เลย ไม่เกี่ยวกับปากท้องซักนิด
คนมุสลิมที่เค้าค้าขาย ใช้ชีวิตสุจริต
เลี้ยงลูกเต้าก็คนปรกตินี่แหละ
ที่มีปัญหาคือพวกอิทธิพลท้องถิ่น
กับพวกคึกคะนอง
บวกกับลักษณะการศึกษาแบบ ร.ร.ปอเนอะ
ที่สอนแต่ศาสนาและความคิดแบบท่องจำ
ไร้การวิเคราะห์แบบเป็นเหตุผล
เวลาเกิดความขัดแย้งเลยมักใช้วิธีตะแบง
และความรุนแรงเข้าว่า ตั้งแต่เด็กๆ
เพราะนี่ถิ่นข้า ข้าพวกเยอะ
แล้วพอถึงเวลาที่เด็กพวกนี้
เข้าสู่ตลาดแรงงานก็ไม่สามารถต่อสู้แข่งขัน
กับคนที่จบแบบสามัญได้
เพราะข้อจำกัดที่ฝังหัว
ทั้งด้านทัศนะคติ ทักษะ
และการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น
(ไม่เกี่ยวกับความต่างด้านศาสนาเลย)
เลยสร้างความรู้สึกว่าตัวเองด้อย
ไม่มีโอกาส รู้สึกว่าโดนกดขี่ โดนดูถูก
พ่อแม่ก็ลูกเยอะ ครอบครัวละอย่างน้อย 3-4คน
เพราะไม่มีการคุมกำเนิด
คนรุ่นใหม่ๆเลยไม่มีคุณภาพเท่าที่ควร
ก็ไม่แปลกที่จะมีพวกขวางโลก
และจ้องจะใช้ความรุนแรง
เพือความมันส์สะใจล้วนๆ
ที่พูดนี่ใน กรณีรากหญ้านะครับ
คนมุสลิมสามจังหวัดที่ประสบความสำเร็จ
มีเยอะแยะ แถมเป็นเพื่อนที่ดี จริงใจ
น่าคบหาก็มีมากมาย
ปล.เห็นธนาธรพูดเรื่องการลงทุน
อยากถามว่า ธนาธรโอเคมั้ย
ถ้าสมมุติธนาธรเปิดโรงงานยาง
จ่ายค่าแรงเต็ม
แต่ต้องพักให้พนักงานส่วนหนึ่ง
ได้ประกอบกิจกรรมทางศาสนาวันละ 3 ครั้ง
(ซึ่งความจริงไม่ได้ทำเสร็จแล้ว
แล้วกลับมาทำงานทันทีแน่นอน
และก็ต้องมีพนักงานส่วนหนึ่ง
ที่ต้องทำงานเป็นปรกติ มองดูเพื่อนอู้ตาปริบๆ
เกิดความเหลื่อมล้ำ แตกต่าง)
ทุกวันศุกร์ โรงงานก็ต้องหยุด
ให้ไปละหมาดใหญ่ที่มัสยิต
ดังนั้นต้องหยุด ศ-ส-อ 3วันต่ออาทิตย์
ธนาธรจะแบกต้นทุนได้ซักกี่ปีน้อ
และไม่ใช่ไม่เคยมีโรงงานใหญ่ๆไปเปิดนะครับ
เจ๊งไปหลายโรงงานละ ด้วยยอดการผลิตที่ไม่ถึงเป้าค่าขนส่งที่ไกลกว่าทางสงขลา
ที่เห็นยังเปิดอยู่คือ บ.ศรีตรัง
แต่ก็ไม่ใช่โรงงานหลักที่ทำกำไรแต่เปิดเนื่องจากทหารขอให้เปิดมากกว่า
คุยเรื่องนี้ยาวเลย ขอโทษทีนะครับ
เอาตามตรงนะผมว่ามีประเทศอื่นหนุนหลังไม่งั้นไม่มีอาวุธ กับดัก ฝีมือแบบนี้หรอก ผมว่าเป็นประเด็นเรื่องดินแดนและการเมืองชัวร์ ศาสนาแค่เรื่องรอง
<<
<
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
>
>>
Reply
Vote
Popular Thread
4 online users
Logged In :
Logged In :
member
Since 2013-09-14 16:42:21
(6389 post)