เรามาพูดคุยย้อนหลังเกี่ยวกับงานแข่ง The Mixup 2019 กันหน่อยครับ เพราะถือว่ามีเรื่องที่น่าสนใจให้พูดคุยกันพอสมควร

ประการแรกเลยรายการนี้นั้นน่าจะเป็น CPT ที่มีโปรจากต่างทวีปที่ไม่ใช่พวกยุโรปมาเข้าร่วมมากที่สุดเท่าที่ผมจำได้แล้วครับ ซึ่งถ้าหากเพื่อนๆตามการแข่งขันกันมานานๆก็น่าจะเข้าใจตรงกันว่าการแข่งขัน CPT ที่ยุโรปนั้นมักจะมีแต่พวกโปรยุโรปและผู้เล่นท้องถิ่นซะเป็นส่วนใหญ่ โปรจากนอกทวีปก็พอมีบ้างประปรายไม่ได้มากันมากมายอะไรนักหากจะนับเป็นรายหัวก็ไม่น่าจะเกินสิบ(เฉพาะพวกที่ดังๆนะ) จนตัวผมเองนั้นต้องแซวพวกโปรญี่ปุ่นที่เดินทางไปแข่งในยุโรปว่าไปตบเด็ก เพราะว่าถ้าให้พูดกันตามตรงจากที่ผ่านๆมาก็มาตรฐานต่างจากงานในเอเชียหรืออเมริกาค่อนข้างมากครับ เพราะคู่แข่งที่พอจะไปวัดไปวาได้มันช่างน้อยเหลือเกิน

แต่สำหรับ The Mixup 2019 นั้นช่างแตกต่างกันชัดเจนครับ เพราะพวกโปรดังๆจากทั้งเอเชียและอเมริกานั้นไปรวมตัวกันเยอะมาก จะขาดก็แต่บางคนที่ลงแข่ง cpt online ที่อเมริกาหรือพวกที่ซุ่มฝึก MK11 อยู่ที่บ้าน ส่วนสาเหตุนั้นหากให้ผมคาดเดาก็น่าจะเป็นเพราะว่าในปีนี้นั้นงานแข่ง Premier ที่อเมริกา(รวมแคนนาดา)นั้นมีปริมาณลดลงครับ จากเดิมแปดงานเหลือเพียงแค่ห้างานจึงทำให้ผู้เข้าแข่งขันจากอเมริกาและเอเชียที่ชอบลงแข่งแต่งานที่อเมริกานั้นจำเป็นที่จะต้องออกไปแข่งในทวีปอื่นบ้างหากจะตุนแต้มเอาไว้ให้มากๆ

ซึ่งผมไม่ได้เห็นพวกโปรจากต่างทวีปมาแข่งที่ยุโรปเยอะขนาดนี้มานานมากแล้ว ครั้งสุดท้ายที่มากันเยอะๆก็น่าจะช่วงปี 2012-2013 ที่งาน world cyber game ซึ่งนั่นมันก็ตั้งแต่ยังไม่มีแข่ง CPT เลยด้วยซ้ำ

ส่วนความเข้มข้นของการแข่งขันนั้นไม่ต้องพูดถึงครับเนื่องจากโปรมาเยอะการแข่งขันก็ดุเดือดตาม ผมลองไปไล่ดูรายชื่อพวกที่ตกไปตั้งแต่รอบ Top 32 ก็มีแต่พวกที่เราคุ้นหน้าคุ้นตาทั้งนั้น อย่างพวก Luffy ,StormKubo, Ricki Ortiz, Jiewa, John Takeuchi ยิ่งรอบลึกๆกว่านี้ยิ่งไม่ต้องพูดเลยครับตัวดังๆทั้งนั้น จึงทำให้จากทัวร์ยุโรปที่เป็นทัวร์ตบเด็กนั้นกลายเป็นทัวร์สุดหินขึ้นมาทันที

และเพชรยอดมงกุฎของงานนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่น พ่อยอดขมองอิ่ม Punk ของเรานั่นเอง ความยอดเยี่ยมของ Punk นั้นผมคงไม่ต้องบรรยายหรอกจริงมั้ยครับ เพราะเชื่อว่าทุกคนได้รับชมผ่านทางสายตาของตัวเองกันอยู่แล้ว อาจจะมีหวาดแสียวไปบ้างในกรณีที่ถูก AngryBird สอยร่วงไปก่อนในรอบ winners 3-0, แต่ในรอบ losers finals ก็แก้ตัวมาได้ 3-1 ด้วยการเปลี่ยนเอา VT2 มาขู่อีกฝ่าย ซึ่งก็ได้ผลดีทีเดียวเพราะทำเอา AngryBird ไม่กล้าผลีผล่ามโจมตีอีกต่อไป ส่วนรอบชิงกับ Daigo นี่คงต้องขอบอกว่าสุดจริงๆสำหรับกองเชียร์ของทั้งสองฝ่าย

จากความรู้สึกส่วนตัวเมื่อวานนี้ผมเชียร์ Daigo นะ ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าไม่บ่อยครั้งนักที่ Daigo จะติดเข้าสู่รอบ Top8 ใน SFV ซึ่งถ้าเขาได้แชมป์รายการใดซักรายการนึงมันก็ช่วยได้มากกับในการที่เขาจะได้ไปต่อในรอบ capcom cup อีกประการนึงผมเองก็เชื่อว่าลึกๆแล้ว Daigo มีลุ้น เพราะตัวเขานั้นค่อนข้างจะถูกฉโลกกับงานแข่งในยุโรป เพราะมักจะมาได้แชมป์บ่อยๆที่นี้ แต่ในครั้งนี้พรจากฟ้าแลดูท่าไม่สู้มานะคน แม้จะเป็นถิ่นที่เคยอำนวยอวยชัยให้กับเขาแต่ก็ไม่อาจผ่าน The Alpha ไปได้ จบเกมไปอย่างน่าเสียดายด้วยสกอร์ 3-1,3-2

The Mixup 2019 จัดงานได้อย่างยอดเยี่ยมครับในส่วนของ CPT, ตลอดสองวันของการถ่ายทอดสดทางทีมผู้จัดก็คัดแต่คู่ของมือโปรขึ้นจอมาให้เราชมกันอย่างจุใจ เรียกได้ว่าดูกันเพลินไม่มีเบื่อเลย แถมเข็มขัดแชมป์ที่เป็นรางวัลยังสวยงามอีกต่างหาก ในครั้งต่อๆไปก็ขอให้รักษาความยอดเยี่ยมแบบนี้เอาไว้ครับ ขอคารวะและเป็นกำลังใจให้ทีมงาน