Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : One Cut of the Dead (ขอเชียร์ตามคุณ Soma อีกเสียง)

Reply
Vote
# Tue 16 Oct 2018 : 1:05PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : One Cut of the Dead

กำกับ : Shinichiro Ueda



- หนังที่อยู่ๆก็มีกระแสปากต่อปากขึ้นมาว่าดีมากกกกกกก ตลกมากกกกก ไอ้ผมก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีไหม บางเรื่องที่มีกระแสแบบนี้บางทีก็รู้สึกว่า Overhype ไป รอบน้อยด้วย แต่พอมีรอบลงตัวก็เลยลองดู เออ ของเขาดีจริง!!! 555

- เล่าเกี่ยวกับกองถ่ายหนังซอมบี้เรื่องหนึ่งที่ผกก.โรคจิตดันพาไปถ่ายในที่ๆเคยมีการทดลองซอมบี้แล้วก็มีซอมบี้จริงๆมาอาละวาดในกองถ่ายซึ่งตัวผกก.ก็อยากจะถ่ายบรรยากาศสดๆตอนนั้นซะงั้น แต่ตัวหนังจริงๆมีอะไรมากกว่านี้ครับ ต้องไปดูจริงๆสปอยล์ไม่ได้เลย

- ซึ่งหนังจะแบ่งออกเป็นสองครึ่ง และความพิเศษของมันคือครึ่งแรกนั้นเป็นลองเทคยาว 40 นาทีครับ และเป็นลองเทคจริงๆด้วยไม่ใช่ลองเทคหลอกๆแบบ Birdman ถึงแม้จะเป็นลองเทคที่ไม่ได้มีมุมกล้องหวือหวาอะไรมากมาย แต่แค่การสร้างหนังลองเทคจริงๆยาว 40 นาทีก็น่าตื่นตาตื่นใจแล้วครับ โดยครึ่งนี้หนังจะออกมีสไตล์เกรดบีหน่อย ซึ่งหนังก็ทำมาได้สนุกดีทีเดียว มีทั้งความตื่นเต้น ความตลก และก็ได้แอบทิ้งปมบางอย่างไว้เตรียมไปเฉลยในอนาคต

- หลังจากนั้นหนังก็เปลี่ยนผ่านไปสู่ครึ่งหลัง ซึ่งตรงนี้หนังก็จะผ่อนอารมณ์ลงหน่อย แต่ก็นิดเดียวเท่านั้น จริงๆตอนเปลี่ยนผ่านก็แอบกังวลว่ามันจะสู้ครึ่งแรกได้เหรอ แต่แปปเดียวความกังวลนี้ก็หายเป็นปลิดทิ้งครับ

- ซึ่งความสนุกที่แท้จริงของหนังอยู่ที่ครึ่งหลังนี่ละครับ ความตลกสถานการณ์ของมุกที่ปูมา 40 นาทีสุดท้ายก็มาบรรจบกันตรงนี้กลายเป็นความฮาที่ไม่เคยเจอในหนังเรื่องอื่นจริงๆ ขอชมทีมเขียนบทเลยว่าอัจฉริยะมาก ทั้งไอเดียที่ริเริ่มจะทำและการ Execute ที่ทำได้ลงตัวเป๊ะเว่อร์ขนาดนี้ แถมยังมี element ของความเป็น Family Drama เบาๆด้วย ซูฮกจริงๆครับ

- อีกอย่างที่ชอบของหนังครึ่งหลัง คือมุกตลกจิกกัดและล้อเลียนการทำหนังนี่แหละครับ ซึ่งจะพบสถานการณ์และบุคคลไม่พึงประสงค์ที่จะพบได้บ่อยในการทำหนังสักเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นนายทุนที่เอาแต่สั่งจะเอางานชั้นเลิศทั้งๆที่เงินทุนมันไม่พอ, นักแสดงจอมเรื่องมาก, นักแสดงที่ไม่มีไฟในการแสดงสักแต่จะใช้วิธีสบายเข้าว่า แถมยังขี้โกหก หรือแม้กระทั่งนักแสดงติสต์แตกที่ทำงานด้วยยาก ชอบถกเถียงกับผกก. เป็นต้น (อีคนสุดท้ายนี่นึกถึง Edward Norton เลย 555) ซึ่งหากผู้ชมเป็นคนที่ติดตามวงการหนังอยู่บ้าง ก็จะสามารถชมได้อรรถรสเพิ่มขึ้นครับ

- สรุป : เป็นหนังที่มีไอเดียที่โคตรอัจฉริยะ และยัง Execute ได้ลงตัวมากๆ มีของแถมเป็นการจิกกัดล้อเลียนวงการภาพยนตร์ด้วย ชอบจริงๆครับ

- เกรด : A+


Reply
Vote




1 online users
Logged In :