อันนินย้อนความเล่าเรื่องราวถึงเหตุการณ์ถูกทำร้ายในงานจับมือเป็นครั้งแรกกับสื่อเม็กซิโก

อิริยามะ อันนะ หรือ อันนิน AKB48 รุ่น 10 ที่ตอนนี้กำลังไปเอาดีทางงานแสดงอยู่ที่ประเทศเม็กซิโกได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อของทางเม็กซิโกเป็นเจ้าแรกถึงเหตุการณ์ที่เธอถูกมือเลื่อยทำร้ายในงานจับมือเมื่อ 4 ปีก่อน จากการให้สัมภาษณ์ ได้ความว่าศีรษะ แขนขวา และมือขวาของเธอได้รับบาดเจ็บจากการถูกทำร้ายในครั้งนั้น จนเธอต้องถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉินที่โรงพยาบาลในเวลาถัดมา

อันนินบอกว่าการถูกทำร้ายในครั้งนั้นไม่ได้สร้างความบอบช้ำทางจิตใจกับเธอ แต่ก็ยอมรับในช่วงที่พักฟื้นใหม่ๆก็จะมีอาการกลัวเสียงคนกรีดร้องหรือเสียงดังๆเหมือนกัน ตอนนี้ก็ยอมรับมันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตได้แล้ว พอถูกถามต่อถึงความสัมพันธ์กับคาวาเอย์ รินะ หรือ ริจจัง ผู้เคราะห์ร้ายอีกคน ก็ได้ความว่าพวกเธอได้สนิทสนมกันมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น

อันนินยังเล่าให้ฟังถึงรีแอ็คชั่นจากแฟนๆ AKB48 ว่าเธอได้รับคอมเมนท์ ในแง่ลบจากผู้คนมากมาย แถมยังมีคนบอกให้เธอแกรดออกจากวงเพราะไม่สามารถเข้าร่วมอีเวนท์ (เช่น งานจับมือ) หลังจากนั้นได้ เคยคิดถึงขั้นว่าจะไม่ขึ้นแสดงสเตจและไลฟ์ของวงอีกด้วยซ้ำ แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากสต๊าฟ, เพื่อนๆ, ครอบครัว, พยาบาลผู้ดูแล และแฟนๆของเธอ ก็ทำให้เธอก้าวข้ามความรู้สึกนั้นและกลับมายืนอยู่บนสเตจได้อีกครั้ง

ท้ายที่สุดแล้ว อันนินก็อธิบายว่าเหตุผลที่เธอออกมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพราะเธออยากจะช่วยเหลือผู้คนที่ทนทุกข์ทรมานจากเหตุการณ์ร้ายๆเหมือนกับเธอ เธอบอกว่าเธอต้องเข้ารับการผ่าตัดหลายครั้งในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว และต้องเข้ารับการประเมินอาการอีกหลายครั้ง แต่ตอนนี้เธอก็ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้ว เพียงแค่ต้องการบอกกับคนเหล่านั้น (ที่เผชิญความทุกข์ทรมานแบบเดียวกัน) ว่าอย่าฝืนตัวเองจนเกินไป และมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างเข้มแข็งให้ได้

ย้อนความกันสักนิด ในวันที่ 25 พฤษภาคม 2014 ที่งานจับมือในจังหวัดอิวาเตะได้มีเหตุการณ์ชายคนหนึ่งชื่อว่า อุเมดะ ซาโตรุ ที่อ้างตัวว่าเป็นแฟนของ AKB เข้าร่วมงานจับมือทั่วประเทศในวันนั้น พอเข้าไปถึงเลนอันนินกับริจจังแล้วก็ได้คว้าเลื่อยออกมาจากเสื้อแจ็คเก็ตและพุ่งเข้าไปทำร้ายทั้งสองคน (ที่เจ้าตัวอ้างว่าไม่ได้เจาะจงเลือกทำร้ายใครเป็นพิเศษ) ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บในบริเวณดังกล่าวจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา เรื่องนี้เป็นข่าวในหลายประเทศมากครับ ในบ้านเราก็มีสื่อหลายเจ้ารายงานข่าวนี้เหมือนกัน



จาก : Anubis 48FS