พอล ไรอันกล่าวว่าเศรษฐกิจกำลังเฟื่องฟู แต่เตือนว่ามาตรการภาษีใหม่ไม่ใช่ทางออกของปัญหา


สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน พอล ไรอัน

พอล ไรอันกล่าวถึงเรื่องเศรษฐกิจที่ดีขึ้นภายในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ แต่ยังกังวลเรื่องอัตราภาษีใหม่ที่กำหนดมาตรการโดยทรัมป์
"หลังจากหลายปีที่ผ่านมามีแต่ความซบเซา ตอนนี้เศรษฐกิจของเราก็ดีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ" ไรอันกล่าวกับกลุ่มเศรษฐกิจของวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา

ไรอันชี้ให้เห็นถึงการปฏิรูปด้านภาษีที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
ไรอันยังได้เตือนถึงเรื่องอัตราภาษีที่จะเพิ่มขึ้น จากมาตรการของประธานาธิบดีทรัมป์ ที่กำลังผลักดันเหมือนภาษี 550,000 ล้านเหรียญกับสินค้าของจีน
"ถ้าเพียงแค่เกี่ยวกับการพัฒนาทางเศรษฐกิจของคนอเมริกันในขณะนี้กำลังเติบโตดี ผมได้มองมุมของผมอย่างชัดเจนแล้วว่ามาตรการภาษีใหม่ไม่ใช่ทางออก
พวกเราต้องดำเนินการตามข้อเรียกร้องข้อตกลงใหม่ๆ ในขณะที่เราก็ต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ตัวเราเอง" ไรอันกล่าว

"การกำหนดนโยบายที่เหมาะสมโดยการมีส่วนร่วมในการบริหาร คือแนวทางปฏิบัติที่มีประสิทธิผลมากที่สุด" ไรอันกล่าวเมื่อวันศุกร์ในเฮ้าส์ สปีคเกอร์



นายดอน เบเยอร์กล่าวว่ามาตรการพรรครีพับลิกันได้ทำลายเศรษฐกิจ ที่ทำให้คนชนชั้นแรงงานชาวอเมริกันเสียเปรียบ
"การบริหารของทรัมป์และสภาคองเกรสจีโอพี มีผลกระทบด้านกฎหมายที่สำคัญอย่างมาก ประเด็นเมดิแคร์และประกันสังคมที่จะเอื้อเรื่องภาษีสำหรับนักบริหารและผู้ร่ำรวยมั่งคั่ง
เนื่องจากนโยบายของพวกเขาค่าจ้างแรงงานจะไม่ขยับไปไหน แต่ต้นทุนการดูแลสุขภาพได้เพิ่มสูงขึ้น" เบเยอร์สมาชิกร่วมของคณะกรรมการเศรษฐกิจ ชี้แจงกับเอบีซี นิวส์

"ตอนนี้ภายใต้สงครามการค้าของประธานาธิบดีทรัมป์ หลายครอบครัวทั่วอเมริกาที่ทำงานหนักกำลังทุกข์ทรมานจากผลกระทบที่เกิดขึ้น
นโยบายของทรัมป์กับคนส่วนใหญ่ของพรรครีพับลิกันทำลายสิ่งดีเก่าๆที่ดีกว่าอยู่แล้ว" เบเยอร์กล่าวเสริม


สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเดโมแครต ดอน เบเยอร์

ในคำพูดของไรอันที่ว่า เบทเตอร์ออฟนาว ไรอันยอมรับว่าเศรษฐกิจไม่ใช่การทำงานสำหรับชาวอเมริกันทุกคน ในแง่ของการพัฒนาบุคลากรเขาชี้ให้เห็นว่าระบบการศึกษาของสหรัฐฯ ยังไม่พร้อมที่จะช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวเข้ากับเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลงนี้ได้ เราต้องการเวลาซักสองปีในช่วงเย็นของการศึกษาเพื่อเรียนรู้ ซึ่งต้องการบุคลากรที่มีฝีมือเท่านั้น

ไรอันยังได้อ้างถึงจุดมุ่งหมายจากสิ่งที่เรียกว่าผลกระทบทางสังคม ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน โดยมีเป้าหมายในการสร้างโปรแกรมทางสังคมสำหรับพื้นที่ด้อยโอกาส เพื่อเชื่อมโยงชุมชนให้มีความสุขกับเศรษฐกิจที่กำลังเติบโตขึ้น

ข้อมูลจาก:เอบีซี นิวส์