Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Review : Hereditary

Reply
Vote
# Mon 2 Jul 2018 : 6:42PM

Slashmeplease
member
หลังเขา รุ่นที่ 3
Since 25/7/2010
(2337 post)
Review : Hereditary

กำกับ : Ari Aster (ผลงานแรกครับ)



- ผมไม่ได้ดูหนังนานเนื่องจากไม่ค่อยมีเวลา สำหรับเรื่องนี้ก็อยากดูมานานมากนึกว่าจะออกโรงไปแล้วแต่โชคดีที่ยังทันได้ดู และก็ต้องบอกว่าสมกับการรอคอยจริงๆครับ

- หนังมีเสียงวิจารณ์ที่ค่อนข้างดีมาก แต่ในขณะเดียวกันก็มีเสียงบางส่วนที่ผิดหวัง บอกว่าหนังไม่น่ากลัว/ดูไม่รู้เรื่อง เข้าไม่ถึง ซึ่งผมไม่มีปัญหาเหล่านี้แต่อย่างใดจึงชอบหนังได้

- สำหรับผมหนังน่ากลัวมากกกกกก ซึ่งผมไม่ได้รู้สึกกลัวหนังผีแบบนี้มานานแล้ว รู้สึกว่ามีภูมิต้านทานหนังผีในยุคหลังพอสมควร Lights Out ก็ไม่กลัว Annabelle ก็ไม่กลัว แต่มาเรื่องนี้กลัวแฮะ โดย Hereditary ไม่ได้เน้นไปที่จังหวะลูกล่อลูกชนในการ Jumpscare แต่กลับไปเน้นที่บรรยากาศที่ทำได้น่าเคลือบแคลงในตอนแรก แต่บทจะเล่นอะไรที่มัน Shocking ก็มาแบบไม่ตั้งตัวเอาซะแทบจุก และในช่วงท้ายเรื่องที่ความเฮี้ยนเริ่มถึงจุดพีคก็สร้างบรรยากาศขนหัวลุกได้สยองมาก มันเป็นส่วนผสมของ Gore, บรรยากาศขนหัวลุก, และการเล่นกับความเครียดความกังวลที่ลงตัวจริงๆ ยิ่งบรรยากาศในหนังมันดูสิ้นหวังมากๆแล้วมันยิ่งเวิร์คเข้าไปใหญ่ ติดตาอยู่นานเหมือนกันครับสำหรับภาพของหนัง

- อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ทำให้หนังมันอึดอัดที่จะดูมาก (และทำให้ชอบหนังมาก) คือการที่หนังดำเนินเรื่องไปบนพื้นฐานของ “สถาบันครอบครัวที่พังทลาย” ซึ่งเหตุการณ์หลายอย่างในหนังหากมีครอบครัวที่ดีพูดคุยเปิดใจกันก็อาจจะบรรเทามันลงไปได้ แต่เนื่องจากครอบครัวในหนังนั้นหลายๆอย่างมันพังไปแล้วจะด้วยภูติผีปีศาจหรือไม่ก็ตาม มันจึงทำให้สถานการณ์ต่างๆยิ่งแย่ลงไปอีก และทำให้สิ่งเลวร้ายในหนังยิ่งเข้มแข็งขึ้นไปอีก ซึ่งสำหรับคนที่มีครอบครัวหรือกำลังจะมีนั้นบรรยากาศในหนังมันจะกดดันมากครับ การได้เห็นตัวละครหัวหน้าครอบครัวมืดแปดด้านไม่รู้จะปกป้องครอบครัวอย่างไรมันเป็นอะไรที่รู้สึกแย่มาก ซึ่งมันช่วยเสริมให้กับความเครียดและความสยองในเรื่องให้เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณครับ

- อีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หนังดูสนุกขึ้น ก็คือรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ผกก.แอบใส่ไว้ตรงนี้นิดตรงนี้หน่อยในหนังที่หากใครตาดีสังเกตเห็นก้จะสามารถเสริม Lore ของหนังและทำให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้นไปอีก สาย Theorycraft นี่ดูจบแล้วสามารถมาวิเคราะห์อะไรต่อมิอะไรกันอีกเยอะครับ (แต่แอบรู้สึกว่าเรื่องนี้ตีความไม่ยากเท่าหนังแนวนี้เรื่องอื่นๆนะ)

- งานภาพของหนังก็ทำได้ดีมากครับ มุมกล้องสวยๆ เจ๋งๆเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีการเล่นแสงเงาและความมืดได้อย่างชาญฉลาดสร้างบรรยากาศสยองได้เป้นอย่างดี อีกทั้งยังมีแอบใส่สัญลักษณ์ให้ได้ตีความกันด้วย (แต่ก็ไม่ได้เยอะเกินไป) ส่วนดนตรีประกอบนั้นก็เป็นซาวด์หลอนๆ อื้ออึงที่จังหวะจะโคนดีเหลือเกิน ช่วยขับความหลอนในฉากนั้นให้ทวีคูณยิ่งขึ้นไปอีก อีกทั้งยังเป็นหนังที่เล่นกับซาวด์ประกอบได้ดีมากอีกเรื่องหนึ่งด้วย บางอันแค่ซาวด์เบาๆนี่แหละแต่เพราะมันบิวท์มาดีมากๆมันก็ทำให้คนดูร้องกันทั้งโรงได้เลย

- และท้ายสุดที่ไม่อวยไม่ได้ คือการแสดงครับ การแสดงนั้นสอบผ่านกันทุกคน มีมุมให้ได้โชว์กันทุกคนมากน้อยต่างกันไป แต่คนที่พีคจริงๆคือ Toni Collette ในบท Annie ตัวเอกหญิงของเรานี่ละครับ เนื่องจากเธอเด่นที่สุดในเรื่อง ฉากโชว์ของก็มีเยอะที่สุด ซึ่งเธอก็ทำได้เป๊ะจริงๆครับ ซีนอารมณ์ก็เอาเสียอยู่หมัด ส่วนซีนองค์ลงก็บ้าคลั่งซะจนตัวปีศาจเองอาจจะอายไปเลย ชอบการแสดงของเธอมากครับในเรื่องนี้

- เขียนมาจะจบยังไม่ติหนังเลยซักอย่าง 55 ถ้าจะหาข้อติจริงๆคงเป็นช่วงท้ายสุดที่อารมณืมันไปในแนวหนัง Slasher นิดนึง รู้สึกเหมือนมันดรอปเป๋ไปนิดหน่อย (นิดเดียวจริงๆ) อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นฉากที่น่ากลัวมากๆอยุ่ดีครับ

- สรุป : หนังสยองขวัญที่ชอบที่สุดตั้งแต่ The Witch เป็นต้นมา (เอาจริงอารมณ์สองเรื่องนี้คล้ายกันเลย) แต่มันอาจไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน ใครอยากได้หนังสยองที่มีสูตรสำเร็จการเล่าเรื่องเดิมๆอาจไม่ตอบโจทยื แต่หากชอบหนังสยองที่เน้นบรรยากาศ และมีลูกเล่นการเล่าเรื่องอันล้ำลึก ห้ามพลาด Hereditary ครับ

- เกรด : S



Reply
Vote




1 online users
Logged In :