Menu
Home
News
Space
N
Market
Forum
Feed
ทั้งหมด
ทั่วไป
เกม
อนิเม / มังงะ
ซื้อขาย
บทสรุป
แจ้งปัญหา
[--mobilemenu--]
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ขอลิ้งยืนยันใหม่
ลืมรหัส
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
[email protected]
หรือ
[email protected]
This thread is locked
ทั้งหมด
>
ทั่วไป
กระทู้การเมือง ��าค 6 (แจ้งล่วงหน้าว่ากระทู้การเมืองจะปิดชั่วคราวในเวลา 15...
#การเมือง
Tweet
Reply
Vote
#
Mon 24 Apr 2017 : 3:21PM
toranin
member
Since 19/8/2008
(10420 post)
เห็นห่วยตูน กิตติทัช (สลิ่ม) ออกมาป้องว่าเป็นของเดิมใช้มาตั้งกะปี 42 ส่วนเสื้อแดงก็รีบออกมาเคลมว่าเป็นผลงานของแม้ว ทำมาตั้งกะปี 42
1. กม.นี้ไม่ใช่แบบเดียวกับปี 42 ของแม้ว (เริ่มปชป.) คนละอันกัน ถ้ามันอันเดียวกัน มันคงไม่ต้องมาเขียนใหม่
2. ต่างชาติเช่า 99 ปีไม่ใช่ประเด็น เพราะของเดิม พรบ.การเช่าอสังหาฯเพื่อพาณิชย์และอุตสาหกรรม ปี 2542 มาตรา3,4,5 โดยการอนุมัติของอธิบดีกรมที่ดิน ก็เช่าได้สองรอบ 50 ปี +อีก 50 ปี หรือถ้าต่างชาติอยากซื้อขาดก็สามารถใช้ชองทาง มาตรา 44 ในพรบ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ. 2550 ก็ทำได้อยู่แล้ว
3. แต่ประเด็นที่คนกังวลกันคือกรอบอำนาจของสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษ ที่ครอบคลุมกว้างมาก รวมอำนาจไว้หมดเลย แล้วพื้นที่มันครอบคลุม 3 จังหวัด กินพื้นที่ 1.3 หมื่นกว่าตร.กม ผู้ว่า นายอำเภอ บทบาทจะลดลงแน่นอน ก็มีสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษดูแลทุกอย่างแล้วนี่ แล้วมันจะครอบทับอำนาจปกครองส่วนท้องถิ่นด้วย
- ร่างพรบ.EEC กำหนดให้แผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินและแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่จัดทำขึ้นตาม พรบ.นี้ เป็น "ผังเมือง" ตามกม.ว่าด้วยผังเมือง สำหรับจังหวัดต่างๆในเขตพัฒนาพิเศษ และให้มีผลบังคับโดยไม่มีกำหนดเวลาสิ้นอายุ
ง่ายๆ คือ พรบ. ผังเมืองจะไม่มีผลบังคับใช้ในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในเขตนี้อีกต่อไป และให้ใช้ "แผนผัง" ที่คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษ จัดทำขึ้น
- การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม พรบ.นี้ กำหนดให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการหรือกิจการนั้น "เป็นการเฉพาะ" ได้
ข้อดี การพิจารณาโครงการต่างๆ จะทำได้เร็ว เพราะมีคณะกรรมการเฉพาะ แถมยังอาจตั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือเฉพาะพื้นที่ เป็นกรรมการได้
แต่ข้อเสีย คณะกรรมการที่ตั้งขึ้น อาจตั้งเพื่อให้โครงการหรือกิจการผ่านได้โดยง่าย แทนที่จะผ่านคณะกรรมการผู้ชำนาญการปกติ ซึ่งจะผ่านยากกว่า
- การอนุญาตโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน ร่างพรบ.EEC ยกอำนาจให้ครม. สามารถกำหนดให้หน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง (ซึ่งก็อาจจะเป็นสำนักงานคณะกรรมการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก) ดำเนินการจัดทำโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งที่อยู่ในและ "นอกเขต" พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก "แต่เพียงหน่วยงานเดียว" ได้
คือ "รวบ" อำนาจการอนุญาตที่อยู่ในหน่วยงานต่างๆ ให้มาอยู่ที่หน่วยงานเดียว และสามารถทำได้ไปจน "นอกเขต" พัฒนาพิเศษอีกด้วย
ลองนึกภาพ หากอำนาจในการอนุญาตให้ใช้พื้นที่อนุรักษ์ (เช่น อุทยานแห่งชาติ) ถูก "รวบ" มาให้สำนักงานเขตพัฒนาพิเศษเป็นผู้ให้การอนุญาต (แทนที่จะเป็น กรมอุทยานฯ เช่นในปัจจุบัน) แล้วอะไรจะเกิดขึ้น ในเมื่อหน่วยงานที่คิดโครงการกับหน่วยงานที่อนุมัติโครงการเป็นหน่วยเดียวกัน
อำนาจที่จะถูกรวบนี้จะรวบถึงอำนาจของ "องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น" ในการอนุญาตโครงการต่างๆ เช่น การให้อนุญาตโครงการที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ตามพรบ.การสาธารณสุข เป็นต้น ก็จะถูกรวบมาไว้ที่หน่วยงานเดียวได้ด้วยเช่นกัน
#####################################################################
เรื่อง EEC อาจจะยาว จริงๆเนื้อหาไม่มีอะไรมาก เค้าจะยกเลิกอำนาจของกรมที่ดิน และหน่วยงานอื่น คือให้สำนักเขตพัฒนาพิเศษ EEC นี้มีอำนาจอนุมัติได้รวดเร็ว สะดวก ฉับไว
มาดูตัว ร่าง พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ว่ารัฐบาลจะให้ยกเว้นกฎหมายอะไรบ้าง
มาตรา ๔๓ ของร่าง พ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (ฉบับก่อนเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560) ระบุว่า
“ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการหรืออยู่อาศัยในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ อาจได้รับสิทธิประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามที่กำหนดในประกาศจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ดังต่อไปนี้
(๑) สิทธิในการถือกรรมสิทธิ์ที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์อื่นของคนต่างด้าว
ต่อมาใน มาตรา ๔๔ ของร่างดังกล่าวระบุว่า
“ผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการหรืออยู่อาศัยในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งเป็นคนต่างด้าวและได้รับสิทธิตามมาตรา ๔๓ (๑) มีสิทธิถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินภายในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน”
ขอเน้นคำว่า “โดยไม่ต้องรับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน” แปลว่า ถ้าได้รับอนุมัติจากสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกแล้ว สามารถเช่าที่ดินได้เลย
ต่อมาอีก ในมาตรา ๔๖ ของร่างพ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
“การเช่า หรือให้เช่าที่ดินหรืออสังหาริมทรัพย์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ มิให้นำมาตรา ๕๔๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ มาใช้บังคับ”
สรุปว่า ให้ยกเลิก “มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒” ทั้งที่ เป็นกฎหมายที่ฝ่ายรัฐบาลอ้างถึงนะครับ
สรุปว่า สิ่งที่จะถูกยกเลิกไปตามร่างกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ประกอบด้วย มาตรา ๕๔๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ และการไม่จำเป็นต้องได้รับอนุญาตตามประมวลกฎหมายที่ดิน
คราวนี้ เรามาดูสิ่งที่จะต้องถูกยกเลิกไปตามร่าง พ.ร.บ. นี้มีเนื้อหาอะไรบ้าง?
เริ่มต้นกันจาก มาตรา ๕๔๐ ของประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ซึ่งระบุว่า
“อันอสังหาริมทรัพย์ ท่านห้ามมิให้เช่ากันเป็นกำหนดเวลาเกินกว่า สามสิบปี ถ้าได้ทำสัญญากันไว้เป็นกำหนดเวลานานกว่านั้นท่านก็ให้ลดลงมาเป็นสามสิบปี อนึ่งกำหนดเวลาเช่าดังกล่าวมานี้ เมื่อสิ้นลงแล้วจะต่อสัญญาอีกก็ได้ แต่ต้องอย่าให้เกินสามสิบปีนับแต่วันต่อสัญญา”
แปลง่ายๆ ว่า ต่อไปในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก การเช่าที่ดินจะสามารถทำสัญญาเช่าได้นานกว่า ๓๐+๓๐ ปี นะครับ
ต่อมา มาดู มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่ถูกยกเลิกไป
มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ระบุให้ ชาวต่างชาติสามารถเช่าที่ดินได้ ๕๐+๔๙ ปี จริงอยู่ แต่ไม่ใช่ใครก็เช่าได้ครับ
มาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ ในวรรคที่สองระบุว่า “การเช่าที่ดินที่มีเนื้อที่เกินกว่าหนึ่งร้อยไร่จะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดี (กรมที่ดิน) ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
ส่วนในวรรคที่สามระบุว่า “การจดทะเบียนการเช่าตามพระราชบัญญัตินี้ การกำหนดประเภทของพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมที่ให้ทำการเช่า และการใช้หรือการเปลี่ยนแปลงประเภทการใช้อสังหาริมทรัพย์ตามที่เช่า ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดในกฎกระทรวง”
ซึ่งในเว็บไซด์ของกรมที่ดิน ระบุเงื่อนไขในการขอเช่าที่ดินของต่างชาติไว้ชัดเจน แยกเป็น 2 กรณีคือ กรณีที่เช่าที่ดินไม่เกินกว่า ๑๐๐ ไร่ และกรณีที่เช่าที่ดินเกินกว่า ๑๐๐ ไร่
กรณีแรก คือ การเช่าที่ดินไม่เกินกว่า ๑๐๐ ไร่ มีเงื่อนไขสำคัญ ๓ ข้อ
หนึ่ง เงื่อนไขด้านสถานที่ตั้ง อสังหาริมทรัพย์ที่จะจดทะเบียนเช่าจะต้องอยู่ในบริเวณหนึ่งบริเวณใด ดังนี้
(1) บริเวณที่กำหนดให้เป็นที่ดินประเภทพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง
(2) เขตนิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สรุปง่ายๆ ว่า ต่างชาติเช่าได้เฉพาะในเขตนิคมอุตสาหกรรมและพื้นที่พาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมตามกฎหมายผังเมืองเท่านั้น (แต่ต้องผ่านอีก 2 เงื่อนไขด้วย)
สอง เงื่อนไขด้านประเภทของการลงทุน ประเภทของพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมที่จดทะเบียนเช่าต้องมีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
(1) พาณิชยกรรมที่มีการลงทุนไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านบาท
(2) อุตสาหกรรมที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
(3) พาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศตาม ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
พูดง่ายๆ เช่าที่ดินได้เฉพาะอุตสาหกรรมบางประเภทเท่านั้น
สาม เงื่อนไขการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ประเภทของพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมที่ให้คนต่างด้าวจดทะเบียนการเช่าได้ต้อง เป็นประเภทที่คนต่างด้าวสามารถประกอบธุรกิจได้ตามกฎหมาย ว่าด้วยการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
หรือไม่อนุญาตให้ต่างชาติเช่าที่ดินเพื่อมาทำกิจการที่ห้ามให้คนต่างชาติทำ
กรณีที่สอง คือ การเช่าที่ดินเกินกว่า ๑๐๐ ไร่
สำหรับการเช่าที่ดินมีเนื้อที่เกินกว่าหนึ่งร้อยไร่นั้น นอกจากจะต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ทั้งสามข้อข้างต้นแล้ว ยังจะต้องอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ “อย่างหนึ่งอย่างใด” ดังต่อไปนี้ด้วย
1. เป็นการประกอบกิจการที่เพิ่มมูลค่าการส่งออกหรือสนับสนุนการจ้างแรงงานภายในประเทศ
2. เป็นการประกอบกิจการที่ยังไม่มีในราชอาณาจักรหรือมีแต่ไม่เพียงพอ
3. เป็นการประกอบกิจการที่มีกรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัยหรือเป็นการพัฒนาด้านเทคโนโลยี
4. เป็นการประกอบกิจการที่เป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างสูง ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
5. ในกรณีที่คนต่างด้าวเป็นผู้เช่า ผู้เช่าช่วง หรือผู้รับโอนสิทธิการเช่า การประกอบพาณิชยกรรมหรืออุตสาหกรรมนั้นจะต้องมีการลงทุนไม่น้อยกว่าหนึ่ง ร้อยล้านบาท โดยไม่รวมถึงจำนวนเงินค่าเช่า และต้องนำเงินตราต่างประเทศเข้ามาในราชอาณาจักรหรือถอนเงินจากบัญชีเงินฝาก เงินตราต่างประเทศหรือถอนเงินจากบัญชีเงินบาทของบุคคลที่มีถิ่นที่อยู่นอก ประเทศ ตามจำนวนเงินลงทุนทั้งหมด
แถมในวรรคสุดท้ายของมาตรา ๕ ยังระบุด้วยว่า “ให้อธิบดีมีอำนาจเพิกถอนการจดทะเบียนการเช่าที่ฝ่าฝืนหรือมิได้ปฏิบัติตามความในวรรคสอง และวรรคสาม” (หรือไม่ทำตามเงื่อนไขที่ได้กล่าวไปข้างต้น)
กระบวนการและเงื่อนไขทั้งหมดตามมาตรา ๕ รวมถึงอำนาจของอธิบดี ที่ได้กล่าวไปแล้วต้นนั้น จะถูกยกเลิกไปตามร่าง พรบ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
แปลว่า การเช่าที่ดิน ของชาวต่างชาติ จะเป็นไปได้โดยสะดวก กรมที่ดินไม่มีอำนาจจะกำหนดกฎเกณฑ์ ไม่มีอำนาจจะพิจารณา รวมถึงไม่มีอำนาจจะเพิกถอนสัญญาเช่าดังกล่าวอีกด้วย
สิ่งที่อาจต้องกังวลเพิ่มเติมก็คือ ร่างพ.ร.บ. เขตพัฒนาพิเศษ เขียนไว้ในลักษณะที่เมื่อได้รับอนุญาตจากสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษให้ลงทุนแล้ว ผู้ประกอบการก็สามารถเช่าที่ดินในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตเช่าที่ดินอีก
โดยผู้ประกอบการต่างชาติเหล่านั้นจะสามารถเช่าที่ดินแปลงอื่นๆ (ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ) ก็ได้ เพื่อทำกิจการอื่นๆ ก็ได้ โดยไม่จำกัดเฉพาะที่ได้รับอนุญาตในตอนแรก ต่างจากเดิมที่กรมที่ดินจะพิจารณาความจำเป็นในการให้อนุญาตเป็นรายแปลงไป
ทั้งหมดเหล่านี้ ฝ่ายรัฐบาลไม่ได้กล่าวถึงเลย เอาแต่อ้างกฎหมายที่ตนกำลังเสนอให้ “ยกเว้น” เท่านั้น
กล่าวโดยสรุป ในปีพ.ศ. ๒๕๔๒ (๒ ปีหลังจากต้มยำกุ้ง) ภายใต้แรงกดดันของสถาบันการเงินของโลก รัฐบาลไทยจำเป็นต้องออกพระราชบัญญัติที่ยอมให้คนต่างชาติเช่าที่ดินได้ ๕๐+๔๙ ปี แต่ก็ตั้งเงื่อนไขในการเช่าที่ดินไว้มากมายพร้อมกับสงวนเงื่อนไขในการให้อนุญาตและเพิกถอนไว้ด้วย จนการเช่าที่ดินของชาวต่างชาติเป็นไปอย่างจำกัด
แต่ปัจจุบัน รัฐบาล คสช. ซึ่งต้องการให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น กำลังเสนอให้ยกเลิกเงื่อนไขและอำนาจเหล่านั้น เพื่อให้นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับอนุมัติจากสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกให้เข้ามาลงทุนในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ก็สามารถเช่าที่ดินได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่ต้องทำตามเงื่อนไขของกรมที่ดิน ตามที่เคยเป็นมา (และยังใช้บังคับอยู่ในอีก ๗๔ จังหวัดของประเทศ)
อำนาจทั้งหมดในการให้ชาวต่างชาติเช่าที่ดินจึงถูกโอนมาเป็นอำนาจของสำนักงานเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ถ้าสำนักงานนี้อนุญาตให้ลงทุนแล้วก็ไม่ต้องทำตามกฎหมายที่ดินอีกต่อไป
ทั้งหมดคือ รายละเอียดที่ผมหามาและลองวิเคราะห์ให้ฟังครับ ส่วนเพื่อนๆ จะคิดเห็นอย่างไร? และจะมีอะไรแนะนำเพิ่มเติมก็ยินดีเลยครับ
และขออภัยที่ต้องใช้เวลาอธิบายอย่างยืดยาวครับ
############################################################################
แต่เท่าที่ดูทุกคนสนับสนุนโครงการนี้นะ ไม่มีใครค้านไม่ให้ทำ อย่างบัณรสยังบอกว่าไทยจำเป็นต้องทำโดยด่วน
Bunnaroth Buaklee
EEC #2
อีสเทิร์นซีบอร์ดเกิดตั้งแต่ยุคป๋าเปรมต่อเนื่องพล.อ.ชาติชาย 30 กว่าปีมาแล้ว ทำให้ภาคตะวันออกกลายเป็นฐานอุตสาหกรรมส่งออก เปโตรอุตสาหกรรม ท่าเรือและนิคมอุตฯ เรียงรายไปจนสุดแถบ
ก็ประเทศเราถูกตั้งเข็มให้เป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ตามแผนชาติ-แผนทุนมาแต่ครั้งโน้น ทำให้เราอาศัยรายได้หลักจากส่งออกเกือบ 70%
แล้วต้องยอมรับความจริงอันเจ็บปวดว่า ตอนนี้อีสเทิร์นซีบอร์ดหมดแรงส่งแล้ว พลังลดลงเรื่อยๆ
โลกกำลังอยู่ในยุคเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ เทคโนโลยีนำเศรษฐกิจใหม่เข้ามา อะไรที่เก่าๆ กำลังถูกกวาด เราก็พูดกันมาเยอะ
เรื่อง Disruptive Tech. ที่ทั้งยุโรป อเมริกาก็กำลังเผชิญถ้วนหน้า.... ไม่ใช่เราชาวโลกที่สามกลุ่มเดียว
ฐานส่งออกประกอบรถยนต์ภาคตะวันออก และโรงกลั่น/ปิโตรเคมี กำลังจะเปลี่ยนยุค เป็นรถไฟฟ้า / end of oil era.
โรงงานอุตฯ ยุคเดิมที่เน้นแรงงานกึ่งทักษะไปแน่นอน เพราะประเทศอื่นถูกกว่า คนของเขาก็ใช้ได้
อีสเทิร์นซีบอร์ดที่ทำให้ค่าเฉลี่ยรายได้/หัว/คน ระยอง เมืองชล แปดริ้วสูงสุดในประเทศไทยกำลังจะล่ม แบบเดียวกับ ห้างสรรพสินค้าที่ถูกลาซาด้าและขนส่งถึงประตูบ้านโจมตี
ถ้าไม่ทำอะไรเลย !
ต้องยกเครื่องเปลี่ยนสายพานใหม่ทันที รอไม่ได้ แล้วนี่ไม่ใช่เรื่องเฉพาะกลุ่ม เฉพาะฝ่าย ไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องทำทันที เกี่ยงกันประเทศล่ม
ผมคิดว่า คนในรัฐบาลนี้ก็เห็นอยู่ กลุ่มของรองฯสมคิด จะเป็นนายหน้าทุนและมีแนวคิดแบบทุนใหญ่+เสรี ไม่ค่อยมองเห็นคนเล็ก คนกลางๆ ก็เหอะ ... แต่จุดดีก็คือ อยู่ใกล้ทุนและสำเหนียกการเปลี่ยนแปลงได้เร็ว จึงพยายามเสนอระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก EEC ขึ้นมา
มีหลายอย่างน่าสนใจ เช่น รีบดึงทุนยานยนต์ให้ยังคงอยู่ฐานเดิม เสนอแรงจูงใจมากกว่า BOI++ ด้วยกฏหมายตัวใหม่ที่ออกมาทันพอดี นั่นก็คือ พรบ.เพิ่มขีดความสามารถฯ ถ้าไม่ผิดไปจากแผน ทุนยานยนต์จะใช้ไทยผลิตแบตเตอรีรถไฟฟ้า ...รองรับตลาดยุคใหม่
แล้วก็มีแนวคิดใหม่ๆ บลาๆ ... รวมถึงข้อเสนอ 99 ปีที่รวมอยู่ในนั้น (แล้วก็เป็นประกายล่อฟ้าที่สุด)
อย่างไรก็ตาม ความคิดเรื่องจะเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจใหม่ innovation เอย creative economy เอย..ฯลฯ ใครก็คิดกันทั้งนั้น ปัญหาคือทำได้-ไม่ได้ต่างหาก
พื้นที่ 13000 ตร.กม. มันใหญ่มากนะครับ ใหญ่กว่า sez เซิ้นเจิ้น / ใหญ่กว่าสิงคโปร์ 18 เท่า / พื้นที่มาก ปัญหาก็มาก
สิ่งที่บั่นทอนประเทศนี้เรื่อยมา คือ การบังคับใช้ และช่องโหว่ รวมถึงการสวมประโยชน์ (มาเป็นของตน)
ประเทศมันต้องไปข้างหน้า ต้องเปลี่ยน ...
สิ่งที่เป็นโรคเรื้อรังที่คอยบั่นทอน ก็ต้องกำจัด ....
#################################################################
แค่นี้แหละ แต่ที่ว่ามานี้ก็ยังต้องรอดูกม.ฉบับเต็มก่อน ว่ารบ.จะมีมาตรการอะไรยังไง รายละเอียดด้านไหนยังไงบ้าง ส่วนตัวมองว่าโครงการนี้มันใหญ่เมกะโปรเจคมาก ถ้ามันเวิร์คประเทศจะได้ประโยชน์มหาศาล
Like
: nueng93
Reply
Vote
Related Thread
กระทู้การเมือง ��าค 6 (แจ้งล่วงหน้าว่ากระทู้การเมืองจะปิดชั่วคราวในเวลา 15...
สนทนาประสาการเมือง ��าค 5.2
สนทนาประสาการเมือง��าค 5
Popular Thread
ประกาศ Danmachi ss5
Like a Dragon Gaiden: The Man Who Erased His Name คะแนนรีวิว
ยังอยากหากินกับบุญเก่าเหมือนเดิม Blizzard เผย มีความคิดจะนำ World of Warcraft ลงเครื่องเกมคอนโซล
KOF XV DLC|HINAKO SHIJO|Trailer
1 online users
Logged In :
member
Since 19/8/2008
(10420 post)