เรื่องระบายความร้อนของตัวเครื่อง ผมเห็นช่องลมเข้าด้านล่าง (เป็นขีดยาวๆ 2 อัน) และช่องระบายความร้อนด้านบนนะครับ

ส่วนน้ำหนัก น่าจะจัดการใด้แบบ ps vr นะครับ หนักกว่า Rift กับ Vive ก็จริง แต่กระจายน้ำหนักใด้ดีก็ ok

อันนั้นผมเห็นเหมือนกันครับ

แต่ความร้อนระหว่างเล่นเกมก็อีกเรื่องนึง

ความร้อนตอนเล่น VR ก็อีกเรื่องครับ ซึ่งการประมวลผลมันหนักกว่าปกติเยอะมาก ซึ่งไหนๆก็ยกตัวอย่าง gear vr มาแล้วก็คือ เวลาเล่นเกม VR เนี่ย ตัวเครื่องจะร้อนจัด เรียกได้ว่า ร้อนจนแทบจับเครื่องไม่ได้ครับ โดนแจ้งเตือนให้เลิกเล่นทั้งๆที่เล่นได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ หรืออย่างดูวิดีโอเฉยๆก็อาจจะนานหน่อย แต่ก็ร้อนอยู่ดี

เรื่องแบตเตอรี่ด้วยครับ สูบหนักกว่าใช้งานเล่นเกมภาพหนักๆปกติซะอีก ยังไงๆผมก็มองว่า NS ไม่ควรมาสาย VR Box นอกจากจะเพิ่มจอ Standalone แบบ PSVR ครับ

น่าจะมีอุปกรณ์แยกมานะครับ

เค้าบอก switch ควรเรียกว่า add-on hardware จะดีกว่า

อาจจะไม่ได้เอาไปใส่บนหัวก็ได้ครับ มันขนาด 6.2 นิ้วนี่ แถมไม่ ful HD เอาจอทำ VR นี้น่าจะแยกนะ
ผมว่าอาจจะเป็นกระเป๋าเสียบ แล้วต่อสายจากจอเอาก็ได้มั้ง มั้งนะ เพราะยังไม่เห้น port เลย

VR Box เดี่ยวนี้ทำดีกว่าเดิมเยอะ อย่าง Xiaomi Virtual Reality รุ่นแรก หรือ Google Daydream ที่เป็นโครงพลาสติก หุ้มด้วยผ้าระบายความร้อนใด้ดีและแยกซัก(มือ)ใด้ นอกจากนี้ยังมีตัวเลือก VR แบบไม่ปิดหมด

อีกอย่าง NS อาจจะชาจไปเล่นไป ซึ่ง Daydream ก็ทำใด้



6.2 นิ้ว 720p เป็นข่าวลือครับ ขนาดและความละเอียดจริงๆ เราไม่รู้ แต่ขนาดไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะด้านมือถือเรามี Samsung Galaxy Note กับ Nexus 6 ที่ 5.7นิ้ว และ Nexus 6 (2015) ที่ 5.9 นิ้ว

เรื่องระบายความร้อนด้วยผ้าผมมองว่ามันไม่เกี่ยวครับ เพราะ Gear VR นี่ไม่มีการปิดฝาหลังด้วยซ้ำ เล่นไปชาร์จไป Gear VR ก็ทำได้เช่นกัน แต่ความร้อนก็จะยิ่งเพิ่ม ปัญหาคือการเล่น VR ตอนนี้มันมีหลายอย่างมากๆที่ต้องใช้งานพร้อมๆกันทั้ง sensor ต่างๆ รวมไปถึงการประมวลผลกราฟฟิก ขนาด PS4 และ PSVR ยังมีแต่คนบ่นภาพกากภาพแย่ ทั้งๆที่ไม่ใช่ mobile processor บางท่านยังรีพอร์ตว่ามีเสียงพัดลมดังกว่าปกติอีกตะหาก ผมเลยมองว่า mobile VR ณ เวลานี้มันยังเร็วไปที่จะทำออกมาได้ดีครับ

Daydream ตอนนี้เองก็ยังไม่มีการ benchmark เอามาเล่นจริงๆจังๆให้เห็นเพราะยังไม่ออกมาให้เล่นแบบเต็มตัว ถึงตอนนั้นค่อยว่ากันอีกทีครับว่าเวิร์คมั้ย เพราะเสปกขั้นต่ำของมือถือที่รองรับก็ต้องเป็น snapdragon 821 ขึ้นไป ซึ่งก็ยังไม่ชัวร์ว่าจะร้อนขนาดไหนตอนรันเกม VR นะครับ

ไม่ได้ไม่เห็นด้วยได้แง่ของการทำ VR Standalone ขึ้นมาแล้วเสียบกับตัวเครื่อง เป็น wireless อันนี้เป็นไอเดียที่ดี ทำได้แต่ผมคิดว่าคงทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรครับ สำหรับ NS ตอนนี้แค่ลุ้นเรื่อง spec ก็ว่ายากแล้ว อย่าเพิ่งหวังไปถึงขั้น VR เลยครับ ถึงแม้จะทำขึ้นมาจริงๆ ก็คงได้ระดับ mobile VR ไม่เกิน Gear VR แต่คงไม่ถึงระดับ PSVR แน่ๆครับ

Daydream ที่ว่าคือ Daydream View เป็น VR Box ครับ ไม่มีอะไรให้ benchmark อยู่แล้ว



ส่วน NS มีช่องระบายลม คิดว่าหลังจะไม่ปิดก็ใด้เช่นกัน

เสปคไช้ชิพทำมาเฉพาะของ Nvidia และไม่ติด VM ของ Android น่าจะเกิน Gear VR ใด้ไม่ยาก เพราะ Gear VR แรงสุดตอนนี้ไช้มือถือ s7 snapdragon 820 ส่วน note 7 (sd 821) ระเบิดเลยมีการ update ปิดการไช้ร่วมกับ Gear VR ไปแล้ว

อีกนิดคือ จอ S7 เป็น Quad HD 2560×1440 ซึ่งไช้เสปคมากกว่าจอของ NS ที่เดากันว่า 720 / 900 / 1080p @60 fps

"Daydream View" มันก็คือ VR Box ถูกต้องแล้วครับ แต่ที่ผมหมายถึง "Daydream" ที่ต้อง benchmark เนี่ย เพราะมันคือ Platform ใหม่ไปเลย ไม่ใช่ Cardboard เดิมที่เป็นการรันแอป android เฉยๆ แล้วแยกจอซ้ายขวา ถึงต้องมา benchmark กันใหม่ว่าจะจัดการทรัพยากรในเครื่องตอนรันได้ดีแค่ไหน เพราะสำหรับ Daydream คือ เซนเซอร์ทุกอย่างต้อง built-in มาในตัวมือถือทั้งหมดด้วย ต่างกับ Gear VR ที่เซนเซอร์การเคลื่อนไหวแยกไปอยู่ในตัว HMD

ไหนๆก็พูดถึง Gear VR เพราะทางนั้นเองก็ใช้วิธีรัน service ของ Gear VR ขึ้นมาใหม่เหมือนกันครับ แล้วก็ลดการทำงานของ android os ไปบางส่วนเพื่อให้รัน OS ของ Gear VR ได้ดีขึ้นครับ เพราะงั้น Gear VR กับ Daydream เนี่ยก็ไม่ได้ต่างกันในแง่ของวิธีการเลย ตอนนี้เหลือแค่มารอลุ้นผลว่า ภาพ ความร้อน แบตเตอรี่ จะทำได้ดีกว่า Gear VR มากแค่ไหน

เรื่องจออันนั้นก็ไม่เถียงครับ แต่ถ้า NS ใช้จอ 1080p ก็จะได้ภาพที่ไม่ต่างกับ PSVR แถมจะด้อยกว่าเพราะ PSVR มี refresh rate ถึง 120hz แล้วก็ต้องมารอดูว่า จอจะเป็นแบบไหน OLED? LCD? มาลุ้นต่อว่ามี low persistance มั้ย แถมตัวเกมเองต้องตันให้ถึง 60fps ในทุกๆเกมอีก ไม่งั้นก็มึนหัวอ้วกแตก ฯลฯ ผมเลยคิดว่า มันยังไม่ค่อยน่าลุ้นเท่าไหร่สำหรับ VR กับ NS ครับ

ยังมีเรื่องราคา ความสะดวกอีกก้อนครับ

psvr ประกอปด้วย ps4 + pseye (ขายแยก) + psvr (ขายแยก) + ps move (ขายแยก optional) อยากเล่น potable ซื้อ ps vita อีกเครื่อง

กับ NS + VR Box ... VR ไร้สาย motion control ในตัว ฟรี potable mode และจอยสอง(ที่เล่นใด้ในบางเกมส์)

ผมว่าเอามาเปรียบเทียบแบบนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เพราะยังไงประสบการณ์ VR แบบ PSVR นี่ mobile VR เทียบไม่ได้แน่นอน แล้วเรื่องราคารอประกาศอย่างเป็นทางการก่อนค่อยว่ากันก็ดีครับ

ดูจากการเปรียบเทียบด้านบนเองก็ค่อนข้างมีความ bias นะ เพราะจงใจวงเล็บบอกว่าฝั่ง ps4 ต้องซื้อแยก
แต่ NS ไม่มีการวงเล็บเพราะถ้าจะเอากันจริงๆก็

NS + VR Box (ขายแยก) motion control (dualshock 4 ก็มีนะแค่ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่และแถมมากับเครื่องเหมือนกัน ไม่ต้องซื้อแยก) ที่ยังไม่ได้พูดถึงคือมีอุปกรณ์อะไรในการ tracking controller หรือตัว HMD หรือเปล่า ซึ่งถ้าตัวเครื่องไม่มี ก็ต้องใช้กล้องอะไรซักอย่าง (ขายแยก) เช่นกัน

portable ไม่พูดถึงครับ คนละจุดขาย เหมือนเอากล้อง dslr มาเทียบกับกล้องมือถือ แล้วบอกว่ากล้อง dslr โทรออกไม่ได้อ่ะครับ vita เองก็เป็นคนละ platform เกมก็ต่างกัน ไม่งั้นก็ต้องเอา wii u + 3ds มาเปรียบเทียบครับ

ผมไม่ได้เป็นแฟนบอยค่ายไหนเป็นพิเศษ (แต่สารภาพว่าช่วงประมาณห้าปีก่อนเป็นแฟนปู่นินนะ 555) ตอนนี้ซื้อเครื่องเกมตามเกมที่อยากเล่นมากกว่า 3DS ผมก็มี Vita PS4 PSVR ผมก็มี สำหรับ NS นี่ผมก็ตื่นเต้นนะ เพราะยังไม่มี Wii U พอดี แต่ตราบใดที่ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของ Spec ผมก็ยังไม่เชียร์อ่ะ ผมถือว่าข่าวที่ออกมาจนกว่าจะถึงปีหน้าคือ ข่าวลือ ไว้ก่อน ซึ่งผมก็วิเคราะห์ไปตามข่าวลือ ว่ามันอาจจะเป็นไปได้หรือเป็นไปไม่ได้แค่นั้นเอง ถ้าถึงเวลาที่ออกมาเต็มตัวแล้วมีจริงๆ ก็ถือว่าผมวิเคราะห์ผิด เพราะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อ้างอิงจากข้อเท็จจริงในปัจจุบันเฉยๆ ซึ่งถ้าตอนนั้นมีเทคโนโลยีใหม่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ เพราะผมก็เคยตื่นเต้นๆมากตอนที่เห็น Wiimote หรือ Kinect ครั้งแรก

ผมก็เดาเยอะเหมือนกันครับ

ทั้วไป VR Box มีต้นทุนต่ำมากและไม่มีชิพอะไร ยกเว้น ถ้าทำ head tracking จะต้องมี ir cam แต่อาจอยู่ใน tablet เลยเพื่อลดต้นทุน จึงไม่วงเล็บลงไป

ที่แน่ๆ joy-con ด้านขวา มีคนเห็น ช่องที่น่าจะเป็น IR pointer แบบเดียวกับ Wii แปลว่าไม่ต้องซื้อแยกไช้อันนั้นแหละ