ระบบพื้นฐาน

- Battle System -
ส่วนสำคัญของไฟนอลจิบิที่จะไม่กล่าวไม่ได้คงไม่จะหนีไม่พ้นเรื่องของ Battle System บางคนลองในเดโมแล้วบอกว่าช้าบ้าง สนุกบ้าง โดนใจคนรุ่นเก่าบ้าง หรือไม่ทันใจวัยรุ่นบ้าง กดแบบเกมไฟต์ติ้งเลยได้ไหม ซึ่งตรงนี้เราสามารถปรับรูปแบบของ Battle System ให้ตรงกับรูปแบบที่เราชอบหรือถนัดได้ตลอดเวลาจากคำสั่ง Config ในหน้าเมนูหลัก ()

Wait
เป็นรูปแบบ Classic ATB จ๋าจากไฟนอลแฟนตาซีสมัยดั่งเดิมอย่างแท้จริง โดยในโหมดนี้ ขณะที่เรากำลังเลือกกดคอมมานด์รวมไปถึงการแสดงอนิเมชั่นของทุกตัวละครในฉากต่อสู้ ลำดับการวิ่งของเทิร์นเกจจะถูก "หยุด" ลง
- ข้อดีของโหมดนี้คือเป็นโหมดที่ค่อนข้างปลอดภัย แต่แลกมาด้วยความช้าในการรอลำดับเทิร์นของตัวละครถัดไป แต่ก็พอแก้ไขได้โดยการกดเร่งความเร็วด้วยปุ่ม

Semi-Active
เป็นรูปแบบ ATB จากไฟนอลแฟนตาซีทั่วไปสมัยนี้ โดยลำดับการวิ่งของเทิร์นเกจจะวิ่งอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าลำดับเทิร์นของเราจะถึงก่อนแต่หากว่าเราเลือกคอมมานด์ได้ช้ากว่า ศัตรูก็สามารถแย่งลำดับการออกคอมมานด์ก่อนได้ การแสดงอนิเมชันต่างๆไม่ทำให้ลำดับการวิ่งของเทิร์นหยุดลง แต่หากว่าเราออกคอมมานด์ด้วย Classic Menu ศัตรูจะไม่แสดงอนิมเชั่นโจมตีจนกว่าเราจะเลือกคอมมานด์เสร็จ (แต่ก็ยังสามารถแย่งลำดับการออกคอมานด์ได้อยู่)
- ข้อดีของโหมดนี้คือเทิร์นเกจที่วิ่งตลอดเวลาทำให้แทบไม่มีการรอลำดับเทิร์นของตัวละครถัดไป แต่หากไม่ได้เซ็ต Shortcut Ability มาดีๆก็อาจจะมีภัยได้ง่ายๆ


หน้าจอ Classic Menu โดนศัตรูแย่งลำดับการออกคอมมานด์ไปก่อนแล้ว แต่จะไม่แสดงอนิเมชั่นโจมตีจนกว่าเราจะเลือกกดคอมมานด์เสร็จ

Active
ความหมายตามชื่อนั้น เป็นรูปแบบ ATB ที่มีความไวไม่มีการรอ โดยลำดับการวิ่งของเทิร์นเกจจะไม่มีการหยุดลงยกเว้นแต่จะถูกชะลอด้วย Slow ถูกติดสถานะ Stun หรืออะไรก็ว่ากันไป เรียกว่ากดคอมมานด์ปุ๊บ แสดงอนิเมชั่น(ยังไม่ทันเสร็จด้วยซ้ำไป) ก็ได้เทิร์นใหม่ปั๊บเลย
- ข้อดีของโหมดนี้คือความรวดเร็วไวปานสายลม และอาจเกมโอเวอร์ได้อย่างรวดเร็วปานสายลมเช่นกันหากว่าไม่ได้เซ็ต Shortcut Ability มาดีพอ

==========

- Sizes/Stacking -
ระบบ Stacking หรือนำ Mirage มาขี่หลัง ขี่หัว ซ้อนกันเป็นระบบหลักของไฟนอลจิบิ โดย Mirage จะถูกจำแนกอยู่ 4 ขนาด

1. Small (S) โดย Mirage หลายตัวมักจะมี Ability ในการวิ่งตามเราในฉาก
2. Medium (M) - Reynn/Lann ร่างจิบิจะจัดอยู่ในขนาดนี้
3. Large (L) - Reynn/Lann ร่างโตจะจัดอยู่ในขนาดนี้ Mirage ส่วนมากจะสามารถปลดล็อคมี Ability เพื่อขี่หลังได้
โดย Mirage แต่ละตัวจะสามารถพัฒนาไปยังร่างถัดไปได้เมื่อผ่านเงื่อนไข และเมื่อนำ S+M+L มาวางซ้อนกันจะเรียกว่าการ Stacking ค่าสเตตัสทุกอย่างจะถูกนำมารวมกัน รวมไปถึงการปลดท่าผสานต่างๆ


ตัวอย่างตรงนี้ Reynn กับ Serafie มี Cure ด้วยกันทั้งคู่ เมื่อนำมา Stack ขี่หัวกันก็สามารถปลด Cura มาใช้ได้เลย

4. Extral Large (XL) หรือ Mega Mirage เป็น Mirage ขนาดใหญ่(มาก) เมื่อเราเรียกออกมา Reynn กับ Lann ร่างจิบิ (M) จะไปขี่บนตัว Mega Mirage ตัวนั้น ส่วน Mirage ที่เหลือจะหายไปก่อน การออกคอมมานด์จะต้องใช้ AP และเมื่อ AP หมดหรือ HP ของ Mega Mirage หมดก็จะเป็นการกลับเข้าสู่การต่อสู้กับปกติ

ฉากเรียก Mega Mirage


เมื่อเรียก Mega Mirage ออกมา รูปแบบ Stack จะเปลี่ยนจาก S+M+L กลายเป็น XL+M+M ส่วนลำดับการออกเทิร์นจะเหลือเพียง Leynn กับ Rann แต่สามารถใช้ท่าทุกอย่างของ Mega Mirage ตัวนั้นได้หมด รวมถึงท่าที่ได้มาจาก Mirage ร่างก่อนที่พัฒนามาเป็น Mega Mirage ตัวนั้นด้วย (แต่ต้องอัพไว้นะ)

==========

- Toppling -
ไม่ใช่แค่เราขี่ม้าส่งเมืองได้แต่ฝ่ายเดียว - -a ศัตรูก็สามารถขี่หลังขี่คอกันได้เหมือนกัน เมื่อทำการ Stacking หรือขี่หลังกัน จะมีค่า Stability เป็นข้อความบอกว่าสามารถตกจากหลังได้ยากง่ายเพียงใด เมื่อถูก Ability โจมตีมากๆก็จะตกจากหลังหรือ Toppled โดยหากว่าเราหรือศัตรูถูก Toppled ค่าตเสตัสต่างๆที่เคยเอามาบวกทบกันก็จะแยกกันและจะติดสถานะ Stun เป็นเวลา 1 เทิร์น

Ability สำหรับทำให้ศัตรูตกจากหลังจะมีค่า Topple Strength ระบุท้าย อิงจากเดโม ท่าที่มี Topple Strength สูงๆมักจะมีผลข้างเคียง เช่นทำให้ค่า Stability ของผู้ใช้ลดลงใช้มากๆอาจจะตกจากหลังซะเอง หรือไม่ก็เป็นท่าที่มีความแม่นยำต่ำ เป็นต้น

==========

- Imprism -
หรือการจับ Mirage นับเป็นเสน่ห์ที่โดดเด่นของไฟนอลจิบิ การที่เราจะ Imprism ได้จะต้องทำเงื่อนไขบางอย่างกับ Mirage ซะก่อน โดยเงื่อนไขเหล่านี้สามารถใช้ Libra เข้าไปส่องดูได้เลย


เมื่อเราใช้ Libra ไปแล้วครั้งหนึ่ง เราสามารถกดเข้าดูสเตตัสของศัตรูได้ตลอดเวลาด้วยปุ่ม (PS4) หรือปุ่ม (PSV)