ผมว่าไม่ยุติธรรมซะเท่าไรที่เอาไปเทียบกับ R* ที่ทำเกมแนว Openworld มาเป็นสิบๆปีนะคับ และที่กลวงๆนี้เพราะตัวเกมโฟกัสไปที่ภูมิประเทศที่เป็นสนามรบ จะให้มีเมืองย่อยๆหมู่บ้านผู้คนเดินไปเดินมาแบบ GTA มันก็ใช่ที เกมนี้มีระบบ Openworld ที่เหมือนกับ Farcry นะ

ถึงจะเคยทำเป็นครั้งแรก แต่วงการนี้มันก็ดัดแปลงของคนอื่นมาใช้กันอยู่เสมอ ๆ ครับ ดังนั้นไม่เกี่ยวหรอกครับ ถ้าจะมีอะไรที่สู้ไม่ได้คงเป็นงบประมาณการสร้างเกมมากครับ

มันไม่เกี่ยวกับประสบการณ์การทำก็ใช่ครับ เห็นด้วยเลย งานดีไม่ดีก็ว่ากันไปตามเนื้อผ้า แต่ผมก้เห็นด้วยเรื่อง มันคนละ Theme กันนะครับ คือ Theme เมทั่ลเกียร์มันออกแนวสงครามกลางเมืองอ่ะ จะให้มีคนมาเดินดุ๊กดิ๊กคุยแล้วได้เควสได้ของก็ไม่ถูกแหละ

ผมว่า openword ที่มีชีวิตชีวิตชีวา ไม่จำเป็นต้องมีคนเดินไปเดินมาก็ได้ครับ
ขอแค่มีฉากสภาพแวดล้อม ธรรมชาติทั่วๆไปนี่แหละ
อยากให้มันดูสวยงาม มีอะไรน่าค้นหามากกว่านี้ มีจุดเด่นมากกว่านี้
พูดง่ายๆคือ เดินเล่นในฉาก ดูวิวไปเรื่อยๆนั่นแหละ

ถ้ายกตัวอย่างก็ RDR ผมว่าเกมนี้ฉากสภาพแวดล้อมทำออกมาดีมากเลย ดูมีชีวิตชีวาทั้งๆที่เป็นทะเลทราย
แต่ในทางกลับกัน L.A. Noire ที่เป็นฉากในเมือง มีคนเดินไปมา แต่มันกลับดูจืดชืดมาก เพราะฉากมันไม่มีจุดเด่นอะไรเลย

เห็นด้วยครับ

โอเพ่นเวิร์ล ไม่ว่าจะเกมแนวไหน ก็สามารถทำให้ดีได้
อย่างฟาร์คราย ก็ธีมสงครามกลางเมืองเหมือนกัน แต่ก็ทำโอเพ่นเวิร์ลได้ยอดเยี่ยม มีอะไรให้ทำระหว่างเดินทางมากมาย ล่าสัตว์, หาซีเคร็ทต่างๆ, พบปะศัตรูต้องบู๊กันกลางทาง เยอะแยะ

ที่สำคัญคือ ทำได้ไม่ดีเท่าที่โม้ไว้ อันนี้เป็นเหตุสำคัญของความผิดหวังทั้งปวงด้วยส่วนหนึ่ง