Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
โซนี่ - เราไม่สามารถเมินเฉยต่อนินเทนโด้สวิทซ์
eatGcon at 2017-12-07 16:30:14 , Reads (41982), Comments (53) , Source :

Sony: We Can't Ignore the Nintendo Switch

ยังไม่ได้มีความเห็นอะไรมาก แต่เหมือนส่งสัญญาณ
ว่าจะเริ่มทำสงคราม "เกม" กันอีกรอบละมั๊ง บรรดาแฟนๆ
คิดว่า น่าจะออก vita 2 มาแข่ง

ตลาดโลกเป็นไงไม่รู้ แต่ที่ญี่ปุ่น ออกไม่ครบปี ก็ไล่เกือบ
ครึ่งหนึ่งของ ps4 แล้ว ก้นไม่ร้อน ก็ไม่รู้ว่ายังไงกันแล้ว


แสดงความคิดเห็น
33 more comments >>

คนนี้่เขาอธิบาย (คิดเหมือนกันเลย) ว่าทั้งโซนี่ และ ปู่นิน ต่างก็มีฐาน
อยู่ในญี่ปุ่น การที่ปู่นินไล่ตามมาโดยคิดว่าอีกปีเดียว จะไล่ตามทันโซนี่ที่ญี่ปุ่น
ซึ่งเป็นเรื่องที่โซนี่ยอมรับไม่ได้ มันจะเกิดการแข่งขันชิงความเป็นหนึ่ง
(ms ไม่เกี่ยว)

ส่วนตัวคิดว่า คงแทบไม่มีโอกาสที่จะเกิด vita 2 เพราะนึกไม่ออกว่าโซนี่
จะออกเกมมือถืออะไรที่สามารถเล่นเกม ps4 ได้เลย ซึ่งไม่ตรงกับแฟนโซนี่
คิดว่า 3 ปีผ่านไปแล้ว การทำเกมมือถือ แรงเท่า Ps4 มันง่ายมาก มีสโตเรจ
500 กิ๊กไบท์ เล่นนานกว่าสวิทซ์ 2 เท่า สามารถเล่นเกมดิจิตอลของ ps4
ได้เลย

คิดว่าข่าว (ลือ) ที่บอกว่าโซนี่จะลดราคารเหลือแค่ 199 จะเป็นไปได้มากกว่า
ต้นทางจริงๆ Nikkei ไปถามว่า Sony จะทำกำไรปีงบประมาณนี้ได้เกินเป้าไหม

[Link]

Sony มันก็ตอบว่ามีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา อย่างหน่วยธุรกิจ Sensor ที่แข็งแกร่งก็ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์ 3d sensor ออกมาแข่งด้วยเพราะยังอ่อนด้อยอยู่

สำหรับธุรกิจเกมแม้ว่า PS4 ยังแรงไปจนถึงช่วงปลายปีนี้ แต่พี่แกบอกว่าไม่สามารถมองข้าม Switch ที่กำลังได้รับความสนใจไปได้ โมเดลธุรกิจมันคือการขายเครื่องคอนโซลควบคู่กับ Software ดังนั้นตอนนี้ก็กำลังทำอะไรบางอย่างเพื่อดึงดูดให้คนเล่นจ่ายเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อเสพย์ Content เกม เช่นจากระบบ Subscription service เป็นต้น


คือพออ่านบทสัมภาษณ์ทั้งหมดจะเห็นได้ว่ามันพูดว่า Switch อาจส่งผลกระทบกับยอดขายงบประมาณปีนี้ว่าจะได้เกินเป้ารึเปล่า และก็พยายามหาทางเพิ่มยอดขายจาก Plus เพื่อให้เกินเป้า

ซึ่งมันไม่ได้สื่ออะไรเลยว่า เรามองข้าม Switch ไม่ได้ เรามีแผนจะออกเครื่องรุ่นใหม่ Vita 2 / PS5 พกพาได้มาแข่ง

---------------
แต่โพสต์นี้ไม่ได้หมายความว่า Sony มันไม่แล เมิน Nintendo อะไรนะ อย่าเข้าใจผิด ปกติบริษัทพวกนี้มันก็ต้องสำรวจคู่แข่งในตลาดอยู่แล้ว
Like : Alopoe, NG\'zxyu, Dedy, Rajeedz, PerCentTile, Onizaki, PrinnyDood, Exodist, Nurinaki, DickDuck, Zon, Mozardd, C.ronaldo, MOS_P
คือ เขาก็ต้องตอบหล่อๆเอาใจนักลงทุนนิดนึง ไม่ได้เกี่ยวขนาดต้องทำเครื่องมาแข่งอะไรเลย
ISO
เครื่องแรงแค่ไหน ไม่มีเกมที่อยากเล่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ไม่ได้ คำตอบก็ง่ายนิดเดียว ~
Like : ทาคุยะ
มาติดไฟด้วยคน
ส่ง Vita 2 มาสู้เลย ทำวิจัยตลาดมาดีๆล่ะ อย่าแป๊กเหมือนรุ่นแรก
ไม่งั้น เกมพกพาจะเหลือแต่ แคชชวล เปิดไพ่ กาชาๆๆ น่าเบื่อมากๆ
พูดถึงเรื่องผูกขาด ถามแบบโง่ ๆ เลยนะ คือตั้งแต่ผมจำความได้ในวงการเกมเนี่ย นินก็เป็นเจ้าตลาดยาว ๆ ยันยุค play station เลยนะ คิดเป็นเวลาก็ไม่ใช่น้อย ๆ กว่าเจ้า play station จะกำเนิดขึ้นมา famicom , super famicom เกมบอย แทบจะกินรวบหมด ในวงฝั่ง Dev ผมไม่รู้นะ แต่ฐานะคนเล่นเนี่ย ยุคนั่นไม่เห็นต้องคิดมากเหมือนยุคนี้เลยว่า เกมอะไรจะลงเครื่องไหน เกมอะไรออกก็ตามเล่นได้หมด ถ้ามีตังซื้อตลับ คู่แข่งนินน้อยมากและไม่ค่อยน่าดึงดูดในยุคนั่น

แต่มายุคนี้อนิจจา เห็นคนว่าแข่งขันกันจนผู้บริโภคได้ประโยชน์ ตอนนี้นับ ๆ กันดูซิว่าถ้าอยากจะเล่นเกม AAA ทุกเกมจะต้องมีคอนโซลทั้งหมดกี่เครื่อง ไม่นับที่มัลตินะ บางครั้งผมก็คิดนะว่าท้ายที่สุดเราได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจริง ๆ รึเปล่านะ เรามีเกมให้เล่นไม่ได้มากมาย แต่เครื่องเกมในครอบครองนี่งอกเอา ๆ



ถ้าโซนี่จะหันทำเกมมาลง Switch เพิ่มหวังเกาะตลาดฝั่งแฮนด์เฮลนี่ก็เป็นตัวเลือกที่แปลกพอดู เพราะอาจกระทบยอด ps4 ตัวเองด้วย แต่ถ้าทำ Vita II ออกมา แล้วทำให้มันแท้งและมีชีวิตเยี่ยงซอมบี้ที่พ่อแท้ ๆ ไม่รักเหมือน Vita ปัจจุบันผมก็ว่าแย่อยู่ดี
Like : Uncle mui, Iseria Queen
View all 5 comments >
สมัยก่อนมีเครื่องแฟมิคอมกะเกมบอยพอละ พอมายุค PS1 ก็ซื้อเครื่องเดียวจบกะ GBA ชีวิตผมเริ่มมายุ่งยากช่วงเริ่มมี GC Dreamcast แล้วเกมดังๆย้ายไปลงนี่แหละเช่น RE ตอนที่ RE4 พอร์ตมา PS2 โคตรดีใจเลยไม่ต้องซื้อเครื่องเพิ่ม
จริงๆ ประวัติศาสตร์เครื่องเกม นี่หาอ่านไม่ยากนะ
นินเป็นเจ้าตลาด แต่ในตอนนั้นมี pc-engine, mega-drive
ขับเคี่ยวกันมา ทุกค่ายมาพ่ายแพ้โซนี่ ที่ครองตลาดยุค
ps1-ps2 ก่อนจะมาคู่คึ่กับ xbox
ไอ้ประวัติศาสตร์น่ะผมเคยอ่านมานานแล้ว แต่จุดที่สงสัยคือ "สรุปแล้วผู้เล่นรึผู้บริโภคเนี่ย ได้อะไรมากขึ้นจริง ๆ รึ ? จากการที่มีผู้ผลิตลงมาเล่นตลาดทำ hardware เพิ่ม" ผมไม่ได้โฟกัสเลยว่านินจะเป็นเจ้าตลาดรึเปล่า มีคู่แข่งไหม แพ้ใคร ตรงนั่นน่ะรู้กัน แต่สงสัยในมุมมองว่าผู้เล่นได้อะไรเพิ่มจากการแข่งขันนี้บ้าง คุ้มกันแล้วจริงรึมากกว่า

เพราะทุกวันนี้เหมือนเราอยากจะเล่นเกมอะไรถ้าไม่มัลติเราต้องซื้อเครื่องนั่นมาเล่น แม้ว่าจะไม่ได้รักเกมอื่น ๆ ของเครื่องนั่นเลยอะไรแบบนี้ ครั้นจะขอทาน ภาวนาให้มันมัลติมาลงเครื่องที่เราชอบมันก็ไม่ได้เป็นไปได้ทั้งหมดหรอก ในเมื่อเค้าทำเครื่องเกมมามันก็ต้องทำทุกอย่างให้เครื่องเค้าขายได้ ทำเกม exclusive ก็เป็นกลยุทธ์หนึ่งแค่นั่นเอง
มีทางเลือก แล้วไม่เลือก(หรือเลือกไม่ได้เพราะตังค์น้อย)
แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีให้เลือกเลยนะ

สมัยก่อน ตัวเทียบน้อย เลยนึกภาพไม่ออกต่างหาก
ว่าถ้าเป็นแบบมีหลายตัวเลือกดีกว่ายังไง
และเกมที่มีให้เล่นเยอะๆตอนนั้น
ถ้ามันเป็นเกม exclusive มันอาจยิ่งโคตรดีขึ้นอีกก็ได้

ซึ่ง ผมว่า ก็เกมส์ exclusive นี่แหละ
ที่ทำให้เราได้เปรียบ
มันคือแรงจูงใจ ในการปั้นเกมเลยนะ
บางที อาจหวังโปรโมตเครื่องตัวเองมากกว่าขายเอายอดด้วยซ้ำ
อนาคตเครื่องขึ้นกับเกมพวกนี้หลายส่วนเลย
เกมพวกนี้มันเลยใส่ไข่พิเศษเสมอ

แน่นอนว่าจ่ายเพิ่มหลายเครื่องก็จริง
แต่ก็ทำให้มีเกมเด่นๆ แจ่มๆ มากขึ้นด้วย
ลองเหลือค่ายเดียวสิ เกม exclusive เจ๋งๆ ก็ไม่โผล่
ถ้าเหลือกแค่เครื่องปู่ ต่อให้มี UC หรือ Gow ลง
มันก็ไม่ได้กราฟิก หรือ แม้กระทั่งแรงจูงใจให้ออกมาแบบที่เห็นนา
ทำไมต้องมีเกม AAA exclusive ในเมื่อมันผูกขาดเจ้าเดียว
ทำหรือไม่ทำ ก็ต้องซื้อ ใครจะบ้าทำเกมต้นทุนสูง ในเมื่อทำปานกลาง
ก็ขายได้ ไร้คู่แข่ง? มันต้องรอให้มีการผูกขาดจริงๆ แล้วจะรู้

ราคาเกม คงที่มานานเท่าไหร่แล้ว ทำไมไม่ขึ้นทั้งๆ ที่ต้นทุนสูงขึ้น
แต่ไปออก dlc ออก loot box แทน ก็เพราะมันมีคู่แข่ง เลยยังไม่
มีการขึ้นราคา

แผ่นมือสองหายไปแน่ๆ เพราะจะโดนล็อค

จะว่าไป การผูกขาดตลาดทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์นี่ ทำให้การ
ค้าเสรี การออกกฏหมายปกกันการผูกขาด กลายเป็นเรื่องตลกไป
ทั่วโลกเลย นึกภาพถึงตอนมือถือเครื่อง 2-3 แสนนี่เป็นกำไรของ
ผู้บริโภคโดยแท้หรือเนี่ยะ
เหรอครับ
อาจจะเป็นการส่ง Fate / Grand Order ไปเกลือใน Switch ก็ได้
คิดว่าทั้ง 3 เจ้าคงแข่งกันที่ content เป็นหลัก เพราะตัว Hardware จะทำให้มันแรงขนาดไหนก็ได้ แต่ถ้า content ไม่โดนมันก็ไม่เกิด

ตอนนี้แต่ละเจ้ามีแนวทางในการทำ Hardware แตกต่างกัน แต่ถ้าเจ้าไหนทำ content ไม่โดน โอกาสที่ผู้บริโภคจะหันไปเลือกอีกเจ้านึงแทนก็มีสูง

เพราะงั้นเกม AAA Exclusive ยังไงก็มีมาให้เราเล่นได้อีกเรื่อยๆ ใครชอบของค่ายไหน ก็เลือกเสพกันไป
เกมทำออกมาแล้วภาพกากโทษเครื่องเฉย เกมอื่นไม่เห็นกากขนาดนั้นเลย

ผมมีทุกเครื่องจะวิจารณ์ยังไงก็ได้