"เมื่อท้องทะเลเรียกหา"



ณ จุดนี้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าดิสนีย์เป็นค่ายภาพยนตร์ที่เหมือนมีของหรือพลังอะไรบางอย่างที่คอยดึงเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง มีส่วนร่วมกับตัวละครหรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ของพวกเขาอย่างง่ายดาย แม้เอาเข้าจริงแล้วโครงสร้างต่างๆในแต่ละเรื่องของพวกเขานั้นแทบจะไม่แตกต่างกันเท่าไรนักเลย

ซึ่ง Moana ผลงานแอนิเมชั่นส่งท้ายปี 2559 จากค่ายเจ้าหนูมิกกี้ เมาส์ก็เป็นภาพยนตร์ที่เข้าข่ายสิ่งที่บรรยายไปข้างต้นทั้งปวง ไม่ว่าจะด้านในตัวละคร ปมขัดแย้ง หรือการดำเนินเรื่อง เชื่อว่าใครที่ได้ชมภาพยนตร์แอนิเมชั่นของดิสนีย์มาพอสมควร จะรู้สึกได้ถึงความซ้ำซากของเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน นำไปสู่ทิศทางที่คาดเดาได้ไม่ยาก



ทว่านั้นกลับแทบจะเป็นเพียงแค่ความคิดที่ลอยไปมาและหายจากหัวเราไปอย่างรวดเร็วเมื่อเรานั่งชมไปได้สักพัก เสมือนเราได้ถูกดูดเข้าไปในโลกของภาพยนตร์ ออกเดินทางสู่ท้องทะเล ผจญภัย และร้องเพลงไปกับสองตัวละครหลักของเรื่อง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าจุดที่สำคัญที่สุดของภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือตัวละครหลักเจ้าของชื่อเรื่อง โมอาน่า ด้วยความที่ตัวภาพยนตร์เรียกได้ว่าติดหนึบอยู่กับเธอทั้งเรื่องยิ่งกว่าแตงเม



ด้วยมิติตัวละครที่ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีความเหมือนมนุษย์จริงๆของเธอ ทำให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่าสนใจ น่าติดตาม และน่าคอยเอาใจช่วยที่สุดในแทบจะทุกช่วงเวลา ไม่ว่าจะในช่วงเวลาที่เธอพูดถึงความฝันในการออกไปท่องทะเลอันแสนกว้างใหญ่ หรือช่วงที่เธอต้องประสบปัญหาต่างๆนานาประการ และทุกครั้งที่เธอจำเป็นจะต้องกุมภาพยนตร์ทั้งเรื่องไว้ด้วยตัวเอง เธอก็เฉิดฉายได้อย่างสง่างามทุกครั้งไป

ซึ่งเครดิตก็ต้องขอยกให้กับหลากหลายฝ่าย ตั้งแต่ทีมเขียนบทภาพยนตร์ซึ่งขีดเขียนเรื่องราวตัวละครและอุปสรรคที่หล่อหลอมให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่าสนใจได้อย่างดีเยี่ยม ไปจนถึงสองผู้กำกับซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวได้กลมกล่อม แม้ภาพรวมทั้งสองฝ่ายจะติดโครงสร้างเดิมๆมากไปนิดก็ตาม



ในขณะเดียวกันนักแสดงสาวหน้าใหม่อย่าง อัลลิ‘อิ คราวัลโย่ ก็พากษ์เสียงและร้องเพลงได้ยอดเยี่ยมอย่างน่าตกใจ จนบางครั้งเรานึกว่าเธอเป็นนักร้องและนักพากษ์เสียงมืออาชีพที่มีประสบการณ์มายาวนานแล้วเสียอีก โดยเฉพาะบทเพลง "How Far I'll Go" ซึ่งถูกนำมาร้องหลากหลายครั้งในภาพยนตร์ แต่ทุกครั้งที่เธอร้อง บทเพลงก็ได้พัฒนาตามการผจญภัยและประสบการณ์ของตัวละครยิ่งขึ้นทุกครั้ง ทำให้แม้คำหลายคำในบทเพลงจะเหมือนกัน แต่กลับรู้สึกแตกต่างอย่างชัดเจน

อีกหนึ่งตัวละครที่ต้องขอซูฮกให้จริงๆก็คือเจ้าไก่เฮย์เฮย์ ซึ่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับเราได้ตลอดเวลาแทบทุกฉาก และกลายเป็นตัวละครโปรดไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เมาอีซึ่งพากษ์เสียงโดย ดเวย์น จอห์นสัน จัดอยู่ในระดับกลางๆ ซึ่งคงเป็นผลมาจากความน่าสนใจของ โมอาน่า ซึ่งเบียดเมาอีตกทะเลไปอย่างรวดเร็ว



แม้ Moana จะให้ความรู้สึกเหมือนผลงานเก่าๆของดิสนีย์แทบจะทุกประการ แต่ในท้ายที่สุดแล้ว เราก็มิอาจต้านทานพลังแห่งท้องทะเลและบทเพลงอันแสนไพเราะนี้ได้ จนต้องยอมพ่ายแพ้และสยบให้แก่เจ้าหญิงแห่งท้องทะเลคนใหม่ในที่สุด

Final Score: [ 7.9 / 10 ]

ไปดูมาแล้ว เห็นด้วยกับบทวิจารณ์เลย
สูตรสำเร็จแบบเดิม แค่เติมน้ำร้อน รอเวลา
แต่อร่อยทุกครั้งที่ได้ลิ้มลอง เพลงอาจจะแพ้frozen
แต่โดยส่วนตัว ภาพรวมmoanaย่อยง่าย และกลมกล่อมกว่าfrozenนะ

เป็นหนังที่ทำให้รู้สึกมีชีวิตชีวาได้จริงๆครับ
เพลงก็เพราะ

ปล.พอดูเรื่องนี้แล้วอยากกลับไปเล่น CIV5 เป็นชาวพอลินีเซียเลย