Star Ocean: Till the End of Time เป็นจุดจบของซีรีย์จริงหรือ ? (Spoil)
ทาง Siliconera ได้ไปสำรวจผู้กำกับเกม Star Ocean คุณ Hiroshi Ogawa มาถึงคำถามที่ว่าเกม Star Ocean: Till the End of Time ภาคสามนั้น เป็นจุดจบของซีรีย์ Star Ocean รึเปล่า (ที่ว่าโลกใน Star Ocean นั้นเป็นโลกจำลองในคอมพิวเตอร์)
คุณ Ogawa ก็ได้ตอบว่าว่าเกม Till the end of Time มีคนตีความกันหลากหลายทั้งถูกและผิดเยอะแยะไปหมด
"คุณ Gotanda ผู้สร้างเกม Star Ocean เคยให้สัมภาษณ์ว่าการตีความดังกล่าวนั้นคลาดเคลื่อนไปจากเจตนารมณ์ของเนื้อเรื่อง แม้ว่าตัวเกมจะอยู่ในโลกจำลอง แต่คุณ Gotanda เองก็คิดว่าโลกที่เราอยู่นั้นก็อาจจะเป็นโลกจำลองเช่นกัน เป็นโลกที่พระเจ้าจำลองสรรสร้างขึ้นมา แล้วทำไมมนุษย์จึงไม่สามารถสร้างโลกแบบนั้นมาได้บ้างล่ะ"
"เกม Star Ocean: The Last Hope และภาค Star Ocean: Integrity & Faithlessness ที่เป็นภาคล่าสุดปกติแล้วมันควรจะเป็นภาคต่อของ The End of Time ใช่ไหม แต่ว่าเนื่องจากตัวเกมมันทิ้งช่วงเวลานานมาก อย่างภาคล่าสุดก็ห่างกันไป 7 ปี ดังนั้นพวกเราจึงอยากทำอะไรเพื่อดึงดูดผู้เล่นหน้าใหม่ ซึ่งถ้าเราทำภาคต่อของ Till the End of Time ก็จะทำให้เสียผู้เล่นตรงส่วนนี้ไป เพราะพวกเขาไม่ได้เล่นเกมซีรีย์นี้มาก่อน จึงไม่เข้าใจเนื้อเรื่อง ดังนั้นคุณ Gotanda จึงเลือกช่วงเวลา Timeline ในซีรีย์ที่เหมาะสมมาทำเป็นเกมที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะได้ลองเล่นดูได้
แต่จริงๆคุณ Gotanda เองก็คิดเนื้อเรื่องหลังจากเกมภาค Star Ocean: Till the End of Time ไว้แล้วด้วยนะ"
แต่จริงๆคุณ Gotanda เองก็คิดเนื้อเรื่องหลังจากเกมภาค Star Ocean: Till the End of Time ไว้แล้วด้วยนะ"
.
เมื่อถามต่อว่าแล้วเนื้อเรื่องหลังจากเกม Till the End of Time ที่ว่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง ใบ้ให้แฟนๆ หน่อยได้ไหม คุณ Ogawa ก็ได้ตอบว่า
"ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน (ฮา) มันอยู่ในหัวคุณ Gotanda ซึ่งเขาเองก็โดนถามคำถามนี้บ่อยมาก แต่เขาก็ไม่ยอมบอกแม้กระทั่งพวกเราเอง"
คุณ Shuichi Kobayashi ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์จาก Square Enix ก็ได้กล่าวเสริมว่า จริงๆ แล้วเขาเองก็เคยถามคำถามแนวๆ นี้กับคุณ Gotanda เหมือนกัน
"จริงๆ ผมเคยถามคุณ Gotanda นะว่าหลังจากเกม Star Ocean: Integrity & Faithlessness แล้วพี่จะเอาไงต่อ แกก็ตอบสิ่งที่แกอยากทำ แต่ทว่ามันดันเป็นเกมที่ไม่ได้มีเนื้อเรื่องหลัง Till the End of Time นะ(ฮา)"
[Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
" ถ้าทำแล้วกาก ไม่ตั้งใจทำ อย่าทำดีกว่า "
ผมแฟน wild arn / ชอบแค่ 1 2 3
ที่เหลือพอระบบเปลี่ยน ไม่มีอนิเม 2d เพลงเปิด
ไม่เล่นเลยครับ....
ไม่อยากสอนนิสัยมักง่ายให้ค่าย japan บางค่าย
tale ล่าสุด เอามา 2 รอบ / นายทิ้ง 2 รอบ ฝืนไม่ไหว
อย่าง SO5 eng จริงๆ หวังมากนะ แต่ถ้า แค่ 20h / เล่นเกมอื่นดีกว่า
คือ " เกมอื่นๆ ที่สนุกกว่าซีรี่ย์ที่เราตาม มันมีอีกมาก "
งั้นเล่นเลย ถ้า 50h....ขอบคุณงับ
ส่วน 5 ข้ามได้ ผู้เขียนย้ายบริษัทไปแล้ว คนแต่งเพลงก็ไม่อยู่
ส่วนเรื่อง SO5 นี่ผมเริ่มชินละ ถ้าคิดว่ามันเป็นเกมทุนน้อย เล่นๆไปก็จะสนุกไปกับมันเอง เพราะ ณ ตอนนี้ผมก็ยังเล่นแล้วสนุกเหมือนเดิม
เกมเพลย์มันเร็วๆ ได้รีวิวค่อนข้างดีในส่วน เกมเพลย์
ผมเองเล่นทุกภาคนะ ไม่จบแค่ภาค 4 -5
รับบเฮกก้อดีคับ แต่ผมชอบแบบภาคเก่าๆมากกว่า
ชอบภาค 2 ที่สุด
ส่วนตัวชอบภาค 4 มากสุด ทั้งเพลงประกอบ คาแรคเตอร์ดีไซน์ และอาวุธแอคติ้งต่างๆเท่ห์ดี แม้เกมจะสั้นไปนิดแถมเวิล์ดแมพหายไปก็ตาม แต่ระบบ HEX ชอบมาก บัฟกันสนุกสุดๆ แต่เกมขาดความสมดุลไปมาก (เก่งอยู่คนเดียว)
มาภาค 5 ปรับใหม่เกมสมบูรณ์ขึ้น แต่กลับเป็นภาคที่เง่นง่ายที่สุด เพราะคอมโบเหรียญตราทำได้โกงมากๆ แทบจะอมตะ ต่อให้รากิลโอสุดโหดก็ไม่รอด
แต่ภาคที่ผมชอบองค์ประกอบมากสุดคงเป็นภาค 3 เพราะมันตัวเอกหญิงที่เข้าบรรยากาศมาก ดนตรีประกอบก็แจ่ม แถมยังเป็นภาคที่หินมากๆๆๆ ยากสุดในซีรีย์นี้ละ
ส่วน 1 2 code F XF ไม่ขอพูดถึง เพราะยังเล่นไม่จบ แต่ชอบธีม เพลงประกอบกับคาแรคเตอร์ดีไซน์ทุกตัวทำได้ดีจริงๆ
ก็รออยู่ว่า Media.Vision จะเข็นภาคใหม่ออกมาอีกไหม ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าทีมเก่าๆมารวมตัวกัน อาจมีโปรเจคอเไรบางอย่างมาให้แฟนๆสะใภ้ตอนครบรอบ 20 ปีก็ได้
ภาค 1-3 ได้สัมผัสแต่เล่นไม่จบสักภาคเดียว
ส่วนคุณภาพของเกมก็อย่างที่เห็นกัน ตอนแรกฉันคาดหวังว่าเกมนี้จะเทพระดับ S ขึ้นไป แต่ความเป็นจริงให้ A+ ก็นับว่าเข้าข้างแล้วนะ ก็เล่นเพลินๆไป แต่ไม่ถึงขั้นเกมที่ต้องเล่น ไม่เล่นแล้วจะเสียดายอะไรอย่างนั้น
ถ้าเพราะว่ายอดขายในภาคก่อนๆ ไม่ถึงเป้าที่หวังไว้ เป็นเหตุให้งบที่ได้จำกัด คุณภาพเกมก็เลยงั้นๆ ซึ่งเป็นเหตุให้เกมไม่น่าเล่นไม่น่าสนใจเท่าที่ควร ยอดขายก็เลยไม่ได้ดีเด่อะไร ซึ่งก็จะเป็นเหตุให้งบที่จะได้ต่อไปยิ่งถูกจำกัดขึ้นอีก แล้วแบบนี้ เกมซีรีส์นี้มันจะมีอนาคตไหมเนี่ย เฮ้อ อนาคตในมือถือ? ไม่อยากได้อย่างงั้นเลยนะ
ภาคหลักต่อไปของซีรี่ส์นี้ น่าจะรีบูทเนื้อเรื่องไปเลยนะ เริ่มใหม่ไปเลยดีกว่า เผื่ออาจจะสร้างกระแสเปรี้ยงปร้างขึ้นมาได้ คืนทู่สี้ต่อไปแบบนี้ ท่าจะแย่
------------------------------------------------
ทีนี้ก็คงอดไม่ได้ที่จะมีคนคิดถึงประเด็น WRPG กับ JRPG ซึ่งโดยเนื้อหาส่วนใหญ่ก็จะทำนองว่า JRPG นับวันจะยิ่งตกต่ำ ดูอย่างเกมสตาร์โอเชียนห้า ซึ่งเป็นภาคล่าสุดของหนึ่งในซีรีส์ JRPG สำคัญ ก็ยังมีคุณภาพที่ไม่น่าพอใจเลย ทำให้ภาพลักษณ์เกม JRPG ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่
ในประเด็นนี้ ฉันมีความคิดดังนี้ค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว วงการเกมตะวันตกมีความเหนือกว่าเกมญี่ปุ่นทั้งด้าน ตลาด เงินทุน และเทคโนโลยี อยู่แล้ว จึงเป็นเหตุให้มีเกมตะวันตกระดับใหญ่ๆ ออกมาจำนวนมาก เมื่อเทียบกับเกมจากฝั่งญี่ปุ่นแล้วของตะวันตกใหญ่กว่าเยอะ
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีเกม WRPG ที่ยิ่งใหญ่และยอดเยี่ยมออกมาหลายเกมเช่น สกายริม แมสเอฟเฟคท์ ฟอลเอาท์ ดราก้อนเอจ เดอุสเอ็กซ์ และล่าสุดที่เป็นที่กล่าวขวัญกันทั่วคือ วิทเช่อร์สาม ทำให้เกม WRPG เป็นที่ชื่นชมและได้รับความสนใจกันทั่วไป เทียบกับเกม JRPG ซึ่งปกติแล้ว ก็มีตลาดที่จำกัด ได้รับความนิยมเป็นวงแคบกว่าอยู่แล้ว ยิ่งเกมที่เป็น JRPG ที่ดังที่สุดบนโลก ในเจ็น 7 อย่าง ไฟนอล 13 ก็เป็นที่พูดถึงในแง่ลบซะมาก ทำให้ภาพลักษณ์ของ JRPG ยิ่งดูตกต่ำ
อย่างไรก็ตาม ที่ฉันกล่าวไปนั้น แท้จริงเป็นเพียงแค่ “ส่วนหนึ่ง” ของสิ่งที่เกิดขึ้นในวงการเกม RPG เท่านั้น จริงๆแล้ว เกม WRPG ที่ไม่ค่อยจะดี หรือไม่ได้รับความนิยมก็มี เพียงแต่เกมพวกนั้น มันไม่มีคนสนใจ ไม่มีใครกล่าวถึงกันเลยไง ก็เลยไม่เกิดกระแสอะไร อย่างเร็วๆนี้เพิ่งมีเกม The Technomancer ออกมา ก็แทบไม่มีใครจะเหลียวตามองเลย แต่พอเป็นเกม JRPG ยิ่งเป็นเกมภาคต่อนะ ถ้าทำออกมาไม่ดี มันมักจะมีกระแสวิจารณ์เชิงลบออกมามากกว่า เกม WRPG ที่ห่วยในระดับพอๆกัน ซึ่งมักจะไม่มีใครพูดถึงเท่าไร ก็เป็นเรื่องที่ประหลาดดี
เกม JRPG รวม แอ็คชั่นอาร์พีจี จากฝั่งญี่ปุ่นเข้าไปด้วย ก็มีดีอยู่ไม่น้อย โซลบอร์นซีรีส์ ก็ระดับ S ขึ้นทั้งนั้น เกมของวานิลลาแวร์ก็ดี อย่างล่าสุด โอดีนสเฟียร์เวอร์ชั่นรีเมคนี้ขั้น SS เลยนะ เกมนิโนคุนิของเลเวล 5 นั้นอีก เกม JRPG ที่ดีๆก็ยังมีอยู่ เพียงแต่กระแสในระดับโลกมันไม่มากเท่าพวกเกม WRPG ใหญ่ๆ และในช่วงที่ผ่านมากกระแส JRPG มันก็ค่อนข้างจะซบเซาลงไปด้วย แต่จากนี้ไป ทุกอย่างมันต้องดีขึ้นแน่นอน
เอาแค่เกมใหญ่สุดของฝั่งญี่ปุ่นในเดือน ก.ย. นี้อย่าง ไฟนอล 15 ซึ่งคุณ XTER อวยแล้วอวยอีกว่าจะได้เกมแห่งปี 16 ก็เป็น เกมไฟนอลภาคที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นที่คาดหวังว่ามันจะยอดเยี่ยมยิ่งใหญ่ไม่แพ้เกมตะวันตกฟอร์มยักษ์ กู้ชื่อซีรี่ส์ไฟนอลให้กลับมา และสร้างกระแสที่ดีให้กับเกมญี่ปุ่นในระดับโลกด้วย เพอร์โซน่า 5 ที่หลายคนรอคอยเล่นอีก ถ้าวัดกันที่ความเป็น JRPG และสไตล์เอกลักษณ์ของตนเอง เกมนี้น่าจะได้ชื่อว่าเทพที่สุดนะ
เกม JRPG ใหญ่ๆที่จะตามมาในอนาคตอย่าง ไฟนอลเจ็ดรีเมค ดราเก้สิบเอ็ด KH3 ทั้งนี้ ยังมีเกมระดับรองอีกมากที่ยังไม่ได้กล่าว เท่านี้ก็คงจะเห็นแล้วว่า เกม JRPG ยังมีดีอยู่อีกมาก และดูท่าจะมีอนาคตที่สดในเจ็นนี้อย่างแน่นอน ไอ้เกมที่แป็กก็แป็กไป แต่จะมาเหมาว่า วงการเกม JRPG อับเฉาไปเสียหมด ไม่ได้นะจ้ะ
และเนียร์สุดที่รักของฉัน ที่จัดเป็นเกม ACT-RPG จากฝั่งญี่ปุ่นเช่นกัน จงเทพสุดในโลกหล้าฟ้าดิน จงแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่า แม้จะเป็นเกมฟอร์มรองที่ไม่ได้ทุนสร้างมหาศาลแบบเกมยักษ์ใหญ่ ก็เทพสุดๆได้ จงทำลายอาถรรพ์เกมแพลตินั่มที่ยอดขายแป็กซะ(แต่ก็คงไม่ขายดีอะไรมากหรอก แค่ไม่แป็กก็พอใจแล้ว) ถ้าเนียร์เกิดออกมาห่วยยิ่งกว่านินจาเต่า แถมยอดขายอนาถา มีหวังจอมมารได้กระอักเลือดคายอดขายแหง
อยากได้รีบูทแบบตัว tech demo หนะครับแต่ความจริงมันโหดร้ายเลยได้ กลายเป็น SO5 เวอร์ชั่นทุนต่ำอย่างที่เห็น
ปล. ถ้าผมเป็นเหลี่ยม ผมจะเอาวัลคีรี่โปรไฟล์มารวมเป็นซีรี่ย์เดียวกับ SO แล้วบุกถล่มสวรรค์ซะเลย
จำได้ว่าช่วงนั้นติดมาก