พอเข้าใจโปรดิวเซอร์พวกนี้อยู่ว่า จะอวยเรื่องมิติตัวละคร ที่เมื่อก่อน jrpg ทำได้ดีกว่า และ wrpg ช่วงหลังๆก็ทำตัวละครมีมิติมากขึ้นตาม

wrpg หลายเกมเนื้อเรื่องดีนะ ดีมากๆด้วย ไม่ใช่ไม่ดี แต่พอลงลึกไปถึงมิติตัวละคร อุปนิสัยต่างๆ แนวคิด การกระทำของตัวละคร มันดูแบนๆ ทื่อๆ ไม่ค่อยมีมิติ บางเกมบทพูดก็ใส่มาซะดีเกินไป โต้ตอบกันคมคายผิดปกติ รับมุกจนดูเหมือนท่องจำมาตอบ จนกลบความเป็นตัวละครนั้นๆไปเลย

jrpg บางเกมมันก็ใส่ตรงนี้มิติอย่างเข้มข้น แต่น่าเสียดายที่คนส่วนมากไม่สนใจกัน มองกันตรง กราฟิก เกมเพลย์ เนื้อเรื่องเป็นหลัก ก็มันเป็นเกมนี่นะ ไม่ใช่นิยาย หรือบางทีก็ใส่เยอะไปจนน่ารำคาญ หาจุดลงตัวกันไม่เจอ และเหมือนว่าเอาเวลามาทำเรื่องไม่เป็นเรื่องมากไปจน จนอย่างอื่นไม่ค่อยพัฒนา

สำหรับผม ผมว่าjrpg มีปัญหาตรงเควสซ้ำซากเหมือนกัน จากแทนที่ทำอะไรแบบไม่มีแกนเป็นใสเนื้อเรื่องย่อยแสดงชีวิตของnpc ในโลกนั้นผมว่ามันน่าสนใจมากกว่าอีก

JRPG เจนเจ็ดที่ดีๆก็มีเยอะนะครัับ(นอกเหนือจากคุณ Kanann Corleone )


Lost Odyssey


Nier Replicant


The Last Remnant


Trusty Bell


Radiant Historia


End of Eternity

และอีกหลายๆเกม (ส่วนตัวผมให้ Rune Factory Frontier เป็นอันดับหนึ่งในดวงใจ )

หวังว่า JRPG คงไม่หายไปจากวงการเกมนะ เพราะมันมีรูปแบบความสนุกและเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือน WRPG



นอกจาก Persona 5 แล้วรอเกมนี้อยู่

เห็นด้วยกับหลายๆท่านเป็นแฟนJRPGตั้งแต่เด็กแต่ปัจจุบันไม่ค่อยได้แตะเลย ขนาดซีรียโปรดอย่างSO5ผมก็ยังไม่เล่น
สำหรับผมผมว่าJRPGขาดความรู้สึกที่ว่าเป็นเกมฟอร์มยักษ์ ภาพช่วยทำให้มันดีหน่อยได้มั้ยและที่ผมว่าเซ็งสุดๆช่วยทำเกมแบบไม่งกได้มั้ย บางเกมเอนจิ้นเดียวล่อไป4-5ภาคมอนก็รียูส แล้วหลังๆJRPGผมเล่นได้ไม่นานเลยมันซ้ำซากอะเบื่อฟาร์มของ
ดูอย่างWITCHER3ก็ได้เกมยาวก็จริงแต่ไม่เบื่อเลย แต่ที่สำคัญสุดเลยนะผมรู้สึกว่าหลังๆฝั่งJRPGทำเกมไม่ประณีตเอาซะเลย
ง่ายๆมักง่ายนั่นแหละ จากนิสัยคนญี่ปุ่นผมก็ไม่ค่อยคิดหรอกว่าคนประเทศเขาทำเกมค่อนข้างมักง่ายแต่พอได้มาเล่นWRPGเกมพวกเขาโคตรละเอียดใส่ใจมากไม่ได้สนุกแค่เกมเพลย์แต่สนุกด้วยระบบเกือบทุกอย่าง บางเกมแค่เดินเล่นถ่ายรูปก็สนุกแล้ว
อีกข้อผมว่าJRPGอิงเกมภาคต่อเกินไปไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆเลย ยิ่งเกมภาคต่อก็ไม่กล้าเปลีย่นอะไรมากมันเลยทำให้เหมือนฝั่งนี้ไม่พัฒนามาหลายปีแล้ว

บางเกมทำบทมาใหญ่โต แต่ใส่ลงในตัวเกมไม่หมด ถ้ามันมีความรู้สึกเคลียร์ในบทและสมบูรณ์ในเนื่อเรื่องจะไม่ว่าอะนะ...แต่บางเกมออกแนว ในตัวเกมเองคนเล่นระหว่างดำเนินเรื่องยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอะไรยังไง

แต่พยายามยัดเยียดlore เข้ามา จากบทไดอล็อค ที่แค่กล่าวถึง (ดันมีผลกับcoreของเนื่อเรื่อง) และก็ไม่ได้เฉลยไม่ได้เคลียร์ชัดเจนอยู่ดีเพราะการเล่าเรื่องภายในตัวเกมมันบอกได้ไม่หมด ถึงความยิงใหญ่ของบท(ที่ดันไม่ได้บอกมาในเกม...)

ด้วยความที่บางเกมบทสไตล์JRPG จะล้ำในแนวคิดออกไปทางเซอเรียลเข้าถึงแก่นได้ยาก กลายเป้นผู้เล่นขาจรก็จะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องไม่ดีเท่าที่ควร แฟนเดนตายก็ต้องออกมาคอยบอกว่า จริงๆเนื้อเรื่องมันดีมากอย่างนั้นอย่างนี้ต้องอ่านนิยายเพิ่มต้องหาฟังนิยายเสียงต้องตามฟังสัมภาษย์dev ต้องบลาๆ ถึงจะรู้เรื่องครบ


อันที่จริง เกมมันควรจะเคลียร์ในการเล่าเรื่อง และควรจะจบคนเล่นควรจะรู้สึกสนุกและเคลียร์กับเนื่อเรืองตั้งแต่ในตัวเกมนั้นๆแล้วไม่ใช่ไล่ผู้เล่นไปหาดูหาอ่านส่วนสำคัญ (ที่ไม่ใช่แค่lore)จากสื่ออื่นอะนะ

(ปัญหานี้ที่จริงฝั่งWRPG เองเบางเกมเลยใช้วิธีเขียนlore ลงในข้อมูลตัวละครในเกมแทนก็มี)


บางทีคำว่า"เหมือนว่าเอาเวลามาทำเรื่องไม่เป็นเรื่องมากไปจน จนอย่างอื่นไม่ค่อยพัฒนา" นี่ผมก็แอบเห็นด้วยอยู่

jrpg มันมีปัญหาตรงบทพูดระหว่างตัวละครนี่แหละ มัน over acting มากกกกกกกก แต่ก็คงช่วยไม่ได้เพราะมันเป็นวัฒนธรรมของ Japan Media (ละคร ภาพยนตร์ อนิเมะ มังกะ) ไปแล้ว ทำให้เวลาเล่นแล้วเกิดความรู้สึก "รำคาญ" ยิ่งแนว rpg มันเน้นเนื้อเรื่องด้วย กลายเป็นว่าต้องมาทนรำคาญไปทั้งเกม

แต่พล็อตใหญ่ ๆ ทาง jrpg ทำได้ดีกว่า wrpg นะ อารมณ์ผู้กล้ากอบกู้โลกเนี่ย ทาง wrpg ยังทำได้ไม่ถึง

ตามนั้นแหละ ล่าสุด SO 5 กลายเป็นเกมส์ทุนต่ำ

บาบะเค้าไม่ใช่มือใหม่นะครับ ร่วมงานเทลล์มาตั้งแต่ TOD รีเมคแล้ว Eternal Sonata เกมส์ที่หลายคนว่าดีเขาก็คุม

นักอวยต้องสาป

ตามๆ

Lost Odyssey, Last Remnant กับ Trusty Bell (Eternal Sonata)

3 เกมนี้ระบบเควสดีจริงๆ ไม่ซ้ำซาก แต่ข้อเสีย คือ จำกัดเวลาโหดมากสำหรับ First Run เล่นเองไม่ดูไกด์หรืออะไร

เกม JRPG มันอยู่ได้นะ ผมว่าตลาดนี้คนยังมีคนซื้ออยู่เพราะพอมีเกมเทพๆออกมา คนก้อเฮกันไปซื้อทุกทีนะ

แต่หลักๆที่ทำให้คนเลิกเลยคือ คนสร้างไม่พัฒนาเท่าที่ควร ชอบขายภาคต่อ แต่ไม่พัฒนาอะไรมาก เปลี่ยนตัวละคร เนื้อเรื่อง ระบบนิดหน่อย ยัดเข้าเกมขาย ดูง่ายๆ เทียบระหว่าง เกม Witcher ภาค 1 ไป 3 แทบจะเป็นคนละเกม สเกลใหญ่ขึ้น สร้างมาตรฐานให้เกมตัวเองสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เกม Tales แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไรเท่าไหร่ตั้งแต่ TOX มาจน TOZ นอกจากเพิ่มระบบนิดหน่อย กราฟฟิคเหมือนเดิมแถมมีหน่วงด้วย

คือจะสร้างภาคต่ออะไรมาน่าจะสร้างบรรทัดฐานไว้ให้สูงหน่อย ไม่ใช่ยกของเดิมมาใช้เกือบทั้งหมด กลายเป็นเกมภาคต่อ เราต้องมาคาดหวังว่าจะดีเท่าเดิม

ส่วนประเด็นที่อ่านแล้วงงคือ จุดเด่นของ JRPG คือเนื้อเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร-ผู้เล่น ผมว่าตึความผิดไปนิด จุดเด่นของเกม RPG คือ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้เล่น-โลกเสมือน เพราะเราเล่นเกมสวมบทบาท โลกที่เราเข้าไปอยู่ต้องดูมีความน่าสนใจ แต่ถ้าจะเน้นความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร-ผู้เล่น ก้อโอเค แต่เลิกประเภทตัวละครแบบอนิเมจ๋าได้แล้วนะ คือเห็นซํ้าๆกันอยู่ไม่กี่แบบ

"ส่วนตัว"ผมคิดว่าเกม JRPG มาตรฐานมัน drop ลงมากกว่านะ
ถึงผมจะไม่ใช่แฟน JRPG จ๋า (เล่นแค่ FF, Tales บางภาค, อื่นๆ)
แต่ส่วนตัวผมคิดว่า JRPG ใหม่ๆ ยุคหลังๆ เมื่อเทียบกับยุคก่อน มันดรอปลงนะ
ไม่ต้องไปอ้างถึง WRPG หรือ รสนิยม ผู้เล่นเลย ย้อนมองดูตัวเองก่อนดีกว่า ยุ่นเอ๋ย

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆก็ Final Fantasy ผมขอพูดถึงภาค 7 ละกันนะ เห็นภาพง่ายดี

เนื้อเรื่องยาว น่าติดตาม ปริศนาเยอะ มีSecretลับ SideQuestลับ
การสำรวจ หรือพูดคุยกับคนในเมือง ช่วยให้อินกับเกมมากขึ้น

ตัวละครเยอะมาก แถมแต่ละตัวก็เป็นที่น่าจดจำทุกตัว ขนาดพนักงานชินระที่นานๆโผล่มาที ยังมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
ในเนื้อเรื่องมีเล่าความหลัง/บ้านเกิด ที่มา ของแต่ละตัวอย่างดี
ผู้เล่นมีความผูกพันกับตัวละคร อย่างจัดปาร์ตี้ได้แค่3คน หลายคนอาจจะใช้ตัวเดิมซ้ำๆเพราะชอบ แทนที่จะจัดทีมเพื่อให้ทีมเก่ง

ของส่วมใส่ บางชิ้น มีคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น exp ของ materia x2, หรือจะเป็นเปลี่ยนสาย range ให้กลายเป็น melee
แต่ละชิ้นมีความสามารถเฉพาะ ไม่ใช่มีแค่เพิ่ม atk/def

Mini Game และ Gameplay แบบแปลกๆใหม่ๆ เช่น ลุกนั่งในยิม, Gold Saucer, เล่นSki, ขับรถ ขัมอไซ, อื่นๆ

ผมยกตัวอย่างแค่นี้ แล้วลองมองFF ภาคถัดๆมาเช่น FF10, 12, 13 (แฟนๆอย่าด่าผมนะ T-T ความเห็นส่วนตัว)
สิ่งที่ทำให้ FF7 มันเป็นสุดยอดเกม มันค่อยๆหายไปจาก FF เรื่อยๆ
FF ไม่ไดถูกเกมยุคใหม่ๆมาทำลายหรืออะไรหรอก แต่ผมว่าเค้าทำตัวเค้าเอง

สุดท้ายหวังว่า FF15, FF7Re, รวมถึงZelda จะ กู้ ชื่อเสียง JRPG กลับมาให้ได้นะ

________________

ขอเสริมอีกอย่าง ค่ายยุ่นเหมือนหลังๆมานี้ หิวเงินกันเกินไป ทำลายภาพพจน์เกมตัวเอง
แล้วไหนจะเรื่อง DLC ซอยย่อย + ราคาสุดแพงอีก
ดูอย่าง Witcher 3 สิ ให้ผู้เล่นเต็มที่ อัพเดทPatchเรื่อยๆ, DLCสมราคา คุ้มค่ามาก, เกมจัดเต็ม
CDProjekt Red ได้ใจ gamer ไปเต็มๆ ทำให้พวกเราอยากสนับสนุนเกมในอนาคตของค่ายนี้
Witcher 4 ยอด Pre-order + Day1 คงกระพุ่งกระฉูด ทะลุกราฟแน่นอน
ต่างกับเกมบางเกม เช่น SF5, ลองนึกภาพนะ ถ้าอนาคตมี SF6 ออกมา คนจะกล้าซื้อ Day1 กันหรอ

ปัญหาที่แท้จริง คือ RPG มันไม่ใช่เกมแนวฮิตอย่างที่ใคร ๆ เข้าใจมากกว่ามั๊งครับ คือเราอาจเห็น RPG ดัง ๆ ขายได้เป็นสิบล้าน แต่จริง ๆ แล้วก็ยังห่างจากเกมแนวฮิตจริง ๆ อย่างพวก มาริโอ้ COD หรือ GTA ที่ขายได้หลายสิบล้านอยู่ดี

เมื่อก่อนนี้ JRPG มันครองตลาดอยู่เจ้าเดียว เวลาขายเกมอะไรมันก็คงได้กำไรเยอะตลอดน่ะนะ แต่พอมันเริ่มมีเกมแนวอื่นที่เอาองค์ประกอบ RPG มาใช้ เช่น ระบบเก็บเลเวล หรือการเล่าเรื่องแบบเทพ ๆ ก็กลายเป็น JRPG ก็มีคนมาแย่งตลาดไปโดยปริยาย ยิ่งพอมาเจอ WRPG ยุคหลังปี 2000 ที่อัพเกรดจนเล่นง่ายขึ้นเยอะเข้าไปอีก มันก็กลายเป็นสองแรงบวก แล้วพอมาเจอทรรศนะคติแบบ Dev คนที่พูดถึงเรื่องกระโปรงเข้าไปอีก คราวนี้เลยเข้ารกเข้าพงไปกันใหญ่เลย

จริง ๆ Dev ควรประมาณตัวเกม RPG ไว้ระดับหนึ่งนะครับ อย่าไปหวังผลเลิศอะไรมาก RPG เกมใหญ่ ๆ ก็ใช่ว่ามันจะขายดีเป็นเทน้ำเทท่าซะที่ไหน ดราก้อนเอจ 3 ตอนนี้ขายได้สิบล้านหรือยังก็ไม่รู้ วิชเชอร์สามก็พึ่งจะได้สิบล้านเมื่อไม่กี่เดือนมานี่เอง ทั้ง ๆ ที่ออกมาตั้งปีกว่าเข้าไปแล้ว

ทำเกมแนวที่มันไม่ฮิต ก็อย่าไปคาดหวังว่ามันจะขายได้เท่ามาริโอ้