Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Warcraft ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote
# Fri 27 May 2016 : 10:39PM

FallsDowns
staff

Since 12/6/2011
(4906 post)


หลังจากที่แฟนๆเกมรอคอยกันมานานแสนนาน ในที่สุดภาพยนตร์ซึ่งสร้างมาจากวิดีโอเกมชื่อดังมากที่สุดเกมหนึ่งในโลกอย่าง Warcraft ก็ได้มาปรากฏโฉมบนจอภาพยนตร์เสียที

Warcraft ในด้านหนึ่งแล้วก็คือสุดยอดเกมที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน ลากไปตั้งแต่ปี 1994 ซึ่งเกมเมอร์ในยุคปัจจุบันหลายต่อหลายคนก็เติบโตมากับชื่อๆนี้ ไม่ว่าจะเป็นในด้านของเกมหลักหรือเกมที่แตกแยกแขนงออกมาเป็นอีกหนึ่งเกมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันอย่าง Defense of the Ancients (Dota), Hearthstone และอื่นๆอีกมากมาย



แต่ในอีกมิติหนึ่ง ความจริงที่ปฏิเสธได้ยากก็คือคำสาปอันโด่งดังเมื่อวงการภาพยนตร์พยายามที่จะจับมือกับวงการเกม มักจะพบกับความหายนะเสมอๆ ไม่ว่าเกมๆนั้นจะมีชื่อเสียงที่โด่งดังมากน้อยเท่าไรก็ตาม เฉกเช่น Resident Evil, Prince of Persia, Silent Hill, Hitman และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งสำหรับใครหลายคนแล้ว Warcraft ดูจะเป็นความหวังครั้งสุดท้ายหรือเกือบสุดท้าย ที่จะมาทำลายคำสาปอันแสนน่ากลัวนี้ลงไปให้ได้

แม้ว่าภาพรวมของ Warcraft จะไม่ได้เข้าขั้นหายนะหรือแย่เสียทีเดียว แต่ในหลากหลายส่วน กระทั่งแฟนเกมอย่างเราเอง ก็ไม่อาจที่จะปฏิเสธถึงตัวตนของช่องโหว่ที่มีให้เห็นอยู่ตรงหน้ามากมายเต็มไปหมด



ซึ่งต้นตอของปัญหาเกือบทั้งหมดของภาพยนตร์ที่แฟนๆทั่วโลกรอคอยเรื่องนี้ ก็หนีไม่พ้นขนาดความใหญ่ของมันที่ย้อนกลับมาทิ่มแทงตัวมันเอง ดั่งสุภาษิต 'ยิ่งใหญ่ยิ่งล้มดัง'

Warcraft พยายามที่จะจับนู้นจับนี้ เล่าหลายสิ่งหลายอย่างที่มีมากจนเกินไป โดยปราศจากการคำนึงถึงขีดจำกัดของตัวเอง ไม่ว่าจะในด้านของเวลาบนจอภาพยนตร์ที่มีจำกัด หรือขีดจำกัดของผู้กำกับอย่าง ดันแคน โจนส์ ซึ่งกระโดดจากการกำกับภาพยนตร์ระดับเล็ก-กลาง อย่าง Moon (2009) และ Source Code (2011) มากำกับภาพยนตร์ซึ่งกล่าวขานกันว่าอาจจะยิ่งใหญ่เทียบเท่า Lord of the Rings (2001 - 2003) จนเป็นเหตุทำให้ไม่สามารถคุมเรื่องราวที่ล้นมือ ล้นหน้าตักนี้ได้จนหมด



เมื่อผู้กำกับไม่สามารถที่จะควบคุมเรื่องราวที่มีอยู่ได้ ผลของมันก็เปรียบเสมือนโดมิโน่ที่ลากยาวไปกระทบถึงองค์ประกอบอื่นๆอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเรื่อง ปมขัดแย้ง หรือตัวละคร ต่างก็ถูกดันออกมาโดยปราศจากการปูพื้นฐานที่ดี แม้ว่าตัวเนื้อส่วนประกอบต่างๆแต่ละส่วนจะค่อนข้างดี แต่กว่าจะค่อยๆแซะเข้ามาก็สายไปเสียแล้ว ทำให้เราไม่รู้สึกมีความผูกพันธ์กับตัวละครเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย จนนำไปสู่การปราศจากอารมณ์ร่วมไปกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ในที่สุด

สำหรับผู้ชมทั่วไปที่ไม่ได้เป็นแฟนเกมหรือไม่ได้สนใจเรื่องราวในเกมเท่าไรนัก เพียงเท่านี้ก็เป็นเหตุผลเพียงพอในการที่จะทำให้พวกเขาอาจไม่รู้สึกประทับใจหรือชื่นชอบใน Warcraft ซักเท่าไรนัก แม้ว่าในซอกหลืบต่างๆของภาพยนตร์เรื่องนี้จะแอบแฝงไปด้วยเรื่องราวความขัดแย้งที่น่าค้นหา หรือมีกราฟฟิก ซีจีที่อลังการงานสร้างมากเท่าไรก็ตาม



แต่สำหรับแฟนเกมหรือผู้ที่มีความสนใจและมีความผูกพันธ์กับผลงานของ Blizzard นี้อยู่แล้ว Warcraft ก็อาจเปรียบเสมือนแนวคิด 'Guilty Pleasure' อย่างแท้จริง เอาจริงๆเพียงแค่เราได้เห็นเรื่องราวมหากาพย์และตัวละครที่เราชื่นชอบในเกม มีชีวิตจริงๆขึ้นมาบนจอภาพยนตร์ก็ฟินอย่างบอกไม่ถูกแล้ว

ยิ่งพอได้เห็นเรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์แล้ว ยิ่งทำให้เราจินตนาการอนาคตและภาคต่อที่(อาจ)จะมาถึง ซึ่งคงจะยิ่งใหญ่ อลังการกว่านี้อย่างแน่นอน



สุดท้ายแล้ว แม้ว่า Warcraft จะเต็มไปด้วยปัญหามากมาย และยังคงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่ทำลายคำสาปลงได้ แต่มันก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนักสำหรับบุคคลทั่วไป สำหรับแฟนเกมแล้ว นี้เป็นผลงานที่ยังคงจัดอยู่ในหมวด "ไม่ว่ายังไงก็ห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด"



[Edited 1 times FallsDowns - Last Edit 2016-05-27 22:41:07]


# Fri 27 May 2016 : 11:28PM

TheJokerz
member

Since 2013-11-13 22:29:27
(1418 post)
ครั้งนี้คะแนนเท่ากับที่ผมคิดเลย เป็นหนังที่ดูสนุก แต่ไม่ถึงกับทำให้มีอารมณ์โอ้โห้ สำหรับเรื่องนี้ได้

# Sat 28 May 2016 : 12:36AM

PandB
member

Since 2014-09-04 16:30:03
(231 post)
สำหรับผม ผมรู้สึกว่าจังหวะตัดต่อมันแปลกๆบางครั้งเรากำลังเริ่มรู้สึกอินกับตัวละครละ ประมาณรู้สึกเสียใจไปกับตัวละครหรือฮึกเหิมละอยู่ดีๆก็ตัดฟึบๆมันทำให้อารมณ์ร่วมกับหนังเราไปไม่สุดอะคือกำลังมาๆก็หายไปซะงั้นซึ่งถ้าเป็นซีนๆเดียวยังพอโอเคแต่นี่เป็นทั้งเรื่องเลย บางช่วงที่น่าจะโฟกัสไว้หน่อยเพื่อให้เราได้รู้สึกไปกับมันพี่ก็เล่นตัดซะเร็ว หนังมันเลยดูจืดๆคือมันเป็นหนังที่สนุกดูเพลินๆแต่ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอินหรือรู้สึกไปกับตัวละครเลยซึ่งถ้าทำตรงส่วนนี้ได้ดีผมว่าจะดีกว่านี้เยอะมากก ส่วนพวกฉากต่อสู้cgผมว่าโอเคนะสวยตระการตาดี ส่วนตัวอยากให้มีภาค2นะเพราะดูจบก็ยังรู้สึกอยากรู้เรื่องต่อแต่อยากให้แก้เรื่องจังหวะตัดต่อจริงๆเนื้อเรื่องโอเคนะสำหรับผมแต่เหมือนผู้กำกับพยายามยัดๆนู้นนี่มาให้ครบๆมันเลยทำให้รู้สึกว่าถ้าไม่พยายามยัดๆทุกอย่างใส่เข้ามาแล้วไปเน้นปูเนื้อเรื่องให้ตัวละครพวกเหตุผลนู้นนี่ให้มันแน่นๆซะก่อนน่าจะออกมาดูดีกว่านี้(อารมณ์เหมือนรีบอะใส่ๆมาให้มันจบถึงจุดๆนี้ให้ได้)

# Sat 28 May 2016 : 1:04AM

K.N.W.
member

Since 2015-08-01 02:54:19
(622 post)
Mad max:Only

# Sat 28 May 2016 : 1:06AM

maique
member

Since 2012-02-03 04:07:27
(3504 post)
บ่น : พากย์ไทยฟังอ๊อคพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเลย

ต้องไปดู soundtrack อ่านซัพอีกรอบ

สนุกดี แต่ก็นั้นแหละ มันขาดๆเพราะสเกลหนังมันใหญ่มากกกกกก

ตัวละครเยอะมากกกก ชอบไม่กี่ตัว

พระเอกฝั่งมนุษย์ กับ ผู้นำฝั่งออค(หน้าตาคล้ายๆ axe) แล้ว gamora(เขียวเหมือนกัน5555)

บทมันเลยกระจายสุดๆ เลยไม่จุดไหนที่เด่นให้ตราตรึงใจเลย นอกจากสายตาของพระเอก ที่จับไปหลายรอบมาก

ไม่เคยเล่นเกม warcarft เล่นแต่ dota2 ซึ่งไม่เกี่ยวสักนิด แต่ชอบนะ (ออกจากโรงยังมีคนบอกเป็นหนัง dota1 อยู่เลย 5555+)

9/10



# Sat 28 May 2016 : 3:31AM

Mozardd
member

Since 2012-09-04 18:05:33
(1140 post)
คือเนื้อเรื่องโดยรวมก็ผ่านนะ แต่วิธีการเล่าเรื่องมันดูฝืดๆยังไงไม่รู้

พอถึงฉากที่ควรจะตราตรึง กลับเฉยๆ แบบไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่

คือโดยรวมก็สนุก แต่ผมว่าเหมือนผู้สร้างกั๊กๆรายละเอียดหลายอย่างไว้มาก ไม่รู้ว่าค่อยจัดเต็มตอนภาคต่อหรือเปล่า

# Sat 28 May 2016 : 9:52AM

eak054
member

Since 2006-04-20 19:32:08
(1273 post)
ขอให้มันสนุกก็พอละ

# Sat 28 May 2016 : 10:47AM

Fugo1503
member

Since 7/11/2009
(771 post)
ไปเสพ CGi อย่างเดียวละกัน TT

# Sat 28 May 2016 : 2:20PM

K.N.W.
member

Since 2015-08-01 02:54:19
(622 post)
เอาตามภาษาคนเล่นเดโบลน่ะ สนุกดี ซีจีสวยสุดล่ะตอนนี้ ตอนท้ายเรื่องก็หวังให้เมดีฟใช้สูตร show me the money อยู่น่ะ
8/10

# Sat 28 May 2016 : 3:23PM

Bigwakka
member

Since 2015-01-15 22:07:28
(2284 post)
ตัดเร็วไป เร่งไป.....(ต้นเรื่องเสียอารมอย่างบอกไม่ถูก.......) กลางๆเรื่องพอโอเค ปลายๆ ถือว่าผ่าน........

ปล. ทำไมรู้สึกว่า ฉากใน trailer มันมาไม่ครบแหะ..........(ไอ้หนวด(อัศวิน) ไม่มีบทพูดเลย lol) จำได้ว่าใน trailer มันมีนะ--"

# Sat 28 May 2016 : 6:09PM

Rooney
member

Since 18/2/2006
(5010 post)
หวังว่าจะทำเงิน เผื่อ จะได้ดู starcraft บ้าง
View all 1 comments >

# Sat 28 May 2016 : 9:04PM

GludMunZ
member
สุภาพบุรุษใจเกินร้อย
Since 1/8/2008
(6388 post)
ดูมาแล้ว ผกก. กาก

เปลี่ยนเป็นผกก.ดีๆซีรี่ย์นี้สามารถขึ้นเป็นหนังทำเงินได้เลย
View all 2 comments >

# Sat 28 May 2016 : 9:52PM

FreedomError
member

Since 16/7/2009
(2285 post)
โดยรวมก็ ok นะ แต่การดำเนินเรื่องหลายๆช่วงมันรวบรัดไปหน่อย แค่คิดว่านั่งดู CG ช่วง Cutscene เกมก็สนุกแล้ว

ภาวนาให้รายได้เข้าเป้าหน่อย จะได้มีแรงทำภาคต่อ ความมันมันอยู่หลังจากนี้

# Sat 28 May 2016 : 10:22PM

เป็นคนดีของสังคม
member

Since 2012-07-05 20:49:51
(894 post)
เห็นด้วยกับคะเเนนที่ได้ ตัวหลักบางตัวบทค่อนข้างดี เเต่ตัวหลักบางตัวบทพังมาก เลยพาคนอื่นลงเหวไปด้วย

# Sat 28 May 2016 : 10:31PM

akekiller
member

Since 1/5/2009
(527 post)
สิ่งที่ประทับใจมากที่สุดและคาดหวังมากที่สุดคือคอมพิวเตอร์กราฟฟิก และโมชั่นต่างๆของตัวละครที่ทำได้ละเอียดมากๆ บวกกับบรรยากาศโลกของอะเซรอธที่มีความเป็นแฟนตาซีทั้งเครื่องแบบแต่งกาย อาณาจักรมนุษย์กับออร์คและพลังเวทย์มนต์
มันคือสิ่งที่จะมีภาพยนตร์ดีๆซักเรื่องหนึ่งมาอธิบายได้ยากมาก ใกล้เคียงกันก็เห็นจะเป็นแอสการ์ดของธอร์ แต่ก็ไม่ได้อ้างอิงโลกของคอมมิคส์เท่าที่ควร ฉากต่อสู้โดยรวมอาจเห็นเป็นมุมกว้างซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับรีเทิร์น ออฟ เดอะ คิงส์เมื่อสิบปีก่อน เห็นได้ชัดเลยว่าการตัดต่อจะพยายามโฟกัสตัวละครหลักเพียงแค่นั้น จะแตกต่างจากรีเทิร์น ออฟ เดอะ คิงส์ที่เห็นเป็นสมรภูมิบนภูมิศาสตร์จริง แต่กลับกันคาแรคเตอร์ในวีดีโอเกมส์ของวอร์คราฟต์ก็มีมากให้โฟกัสเช่นกัน จึงบวกลบกับตัวละครกับสงครามแล้วพอไปวัดไปวาได้

เราได้เห็นภาพยนตร์จากวีดีโอเกมส์มากมาย ที่มีเนื้อเรื่องพาออกนอกจากเค้าโครงเดิมจากเกมส์ ซึ่งเป็นข้อเสียถึงร้อยละแปดสิบของเกมเมอร์ แต่เรื่องนี้ที่บริษัทพัฒนาเกมส์อย่างบลิซซาร์ดดูแลโปรเจ็กท์เอง ก็เลยมองดูต้องรัดกุมเรื่องสตอรี่เป็นพิเศษ เลยกลายเป็นการชมภาพยนตร์ที่เป็นเส้นตรงมาแบบต้นฉบับ
เราเคยวิจารณ์ต่างๆนาๆที่หนังพาเกมส์ออกทะเล แต่เราก็ยังไม่เคยดูหนังจากเกมส์ที่รู้ผลลัพธ์อยู่แล้ว ตรงจุดนี้ดีหรือไม่ดีผมไม่ทราบ ผมขอออกความเห็นว่าไม่ดีแล้วกัน ซึ่งถ้าวอร์คราฟต์จะเดินรายละเอียดเช่นเกมส์อีกในภาคต่อๆไป เอาผู้กำกับไทยอย่างพจน์ อานนท์ไปกำกับการแสดงก็ได้

สุดท้ายแฟนเกมส์คงได้ดูสิ่งที่เคยเล่นบังคับตัวละครนั้นๆในเรื่องวอร์คราฟต์ คงประทับใจและกลับไปเล่นเกมส์ตระกูลวอร์คราฟต์อีกแน่นอน
ส่วนผมขอให้คำสาบหนังสร้างจากเกมส์ห่วยหยุดลงที่โปรแกรมหน้าอย่างแอสซาซิน ครีดแล้วกันครับ
6/10
View all 1 comments >

<<
<
1
2
>
>>
Reply
Vote




1 online users
Logged In :