Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
"ต้อง รอด" The Revenant ( 2015 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2016-02-04 22:34:01 , Reads (23019), Comments (13) , Source :


The Revenant ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz



"ต้อง รอด"

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า The Revenant เป็นภาพยนตร์ที่มีส่วนผสมหลักค่อนข้างน่าสนใจมากทีเดียว ไม่ใช่แค่จากนักแสดงหลักอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ หรือทอม ฮาร์ดี้ แต่รวมไปถึงผู้กำกับ อเลฮานโดร อินาริตู เจ้าของรางวัลออสการ์ Birdman ในปี 2014 นี้เอง เรียกได้ว่าแค่ชื่อของพวกเขาเหล่านี้ก็แทบจะพาเอาคอหนังทุกคนจับตามองกันตั้งแต่เริ่มสร้างเลยทีเดียว



ถ้าหากพูดถึงสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากที่สุดใน The Revenant ก็คงหนีไม่พ้นโปรดัคชั่นอันแสนอลังการงานสร้างของมัน ไม่ว่าจะเป็นฉาก อุปกรณ์ เสื้อผ้า หรือบรรยากาศ ต่างก็งดงามมากทีเดียว ยิ่งผนวกไปกับแนวความคิด ความพยายามในการสะท้อนสัจธรรมของโลก ซึ่งผู้อ่อนแอไม่อาจมีชีวิตรอด ก็ยิ่งทำให้ Revenant เป็นภาพยนตร์ที่ละสายตาได้ยากมากที่สุดเรื่องหนึ่งในปี 2015 เลยทีเดียว

ซึ่งความที่โลกของ The Revenant นั้นยอดเยี่ยม นั่นก็ส่งผลมาสู่เรื่องราวการผจญภัยอันแสนทรหดของตัวละครเอก รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ เช่นเดียวกัน ทำให้การผจญภัยของตัวละครนี้รู้สึกเต็มไปด้วยอันตรายและการกระเสือกกระสนเอาชีวิตรอดยิ่งกว่าภาพยนตร์เรื่องไหนๆ ด้านการแสดง เขายังคงสร้างผลงานได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นในฉากแอ็คชั่น หรือในฉากอารมณ์ ต่างก็ทำให้ผู้ชมเชื่อมต่อกับตัวละครได้ไม่ยากนัก ถึงแม้ว่าในด้านบทตัวละครจะยังถูกเขียนมาขาดมิติไปบ้างก็ตาม



ที่น่าสนใจยิ่งกว่าก็คือตัวละครของ ทอม ฮาร์ดี้ ซึ่งกลายเป็นว่าน่าค้นหายิ่งกว่าตัวละครเอกซะอีก สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นก็มาจากตัวบทและเส้นทางของตัวละคร ความที่ในช่วงกลางถึงท้ายเรื่อง ตัวละครของลีโอนาร์โดนั้นค่อนข้างมีเป้าหมายและทัศนคติที่ชัดเจนมาก อาจมากเกินไปหน่อย จนเสมือนเผยทุกอย่างในมือให้ผู้ชมได้เห็นซะหมด ทำให้ตัวละครของลีโอนาร์โดมีความน่าค้นหาน้อยลง ในขณะที่ตัวละครของ ทอม ฮาร์ดี้ ยังคงมีความคลุมเครือและชวนค้นหามากกว่า

แต่ถ้าหากมองในภาพรวมของ The Revenant แล้ว สิ่งที่น่าตั้งคำถามจริงๆคงจะเป็นการกำกับและเล่าเรื่องของ อเลฮานโดร อินาริตู ซะส่วนมาก ไม่ใช่ว่าแย่แต่อย่างใด แต่มันธรรมดาและจืดชืดจนเกินไป ขาดลูกเล่นหรือชั้นเชิงที่จะมาทำให้ตัวภาพยนตร์นั้นโดดเด่น มีความลึกซึ้งยิ่งขึ้น สร้างความน่าจดจำแม้ภาพยนตร์จะจบลงไปแล้ว ในบางมุมเสมือนเป็นการเพลย์เซฟ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับผลงานก่อนหน้าอย่าง Birdman ที่ดูจะเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ และโดดเด่นในการเล่าเรื่อง เป็นเอกลักษณ์มากกว่าผลงานชิ้นนี้ ถึงแม้ว่าจะมีความพยายามในการใส่เทคนิคถ่ายทำติดต่อกันโดยไม่ตัดหรือ Long Take แบบที่เคยทำใน Birdman มาบ้าง แต่นั้นก็ไม่ได้มีพลังมากพอ ที่จะสร้างความแตกต่างให้กับภาพยนตร์ทั้งเรื่องซึ่งยาวถึง 156 นาทีได้ จริงๆแล้วสาเหตุอีกส่วนหนึ่งก็มาจากการเลือกเครื่องมือ ซึ่งเนื้อหาและองค์ประกอบต่างๆของทั้งสองภาพยนตร์มีความแตกต่างกัน จึงทำให้เครื่องมือบางชนิดที่นำมาใช้ ได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน



อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคำนึงถึงความคุ้มค่าและเวลาที่เสียไปในการชมภาพยนตร์ เพียงแค่โปรดัคชั่นอันน่าทึ่ง การผจญภัยที่ยอดเยี่ยม และการแสดงของลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ก็ทำให้ The Revenant เป็นทางเลือกที่ห้ามพลาดสำหรับคอหนังทุกคน ถึงแม้ว่ามันจะยังห่างจากคำว่าสมบูรณ์แบบก็ตาม

Final Score : [ 7.5 ]




(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
1 more comments >>
สปอยThe Revenant ในเรื่องผู้กำกับให้ ทอม ฮาร์ดี้ มีบทพูดเป็นประโยคมากกว่าที่เคยเล่นใน MAD MAX FURY ROAD
ทอม เล่นเป็นอไรใน เเมดเเมกครับ
View all 1 comments >

สปอยนะครับ


Like : Username
ผมให้8.5
หนังนานไปหน่อยเลยรู้สึกเอื่อยๆบ้าง ส่วนลีโอทั้งการเเสดง เเละบท ก็ดูถูกจริตกับออสการ์นะ มีลุ้นได้สูง
View all 2 comments >
ลีโอถูกจริตออสการ์มานานแล้วครับ แต่คนให้รางวัลออสการ์ดูท่าทางไม่ชอบลีโอมาตลอด
Like : เป็นคนดีของสังคม

ผมก็รู้สึกว่านานไปเหมือนกัน จริงๆบางส่วนน่าจะตัดได้บ้าง แต่ผมคิดว่าตัวผกก อเลฮานโดร คงอยากให้คนดูได้รู้สึกว่าตัวละครฟันฝ่าอะไรมาเยอะจริงๆ ลำบากจริงๆ เลยยาวขนาดนี้
Like : เป็นคนดีของสังคม
ผมดูเรื่องนี้แล้วมันรู้สึกว่าช่วงพีคของหนังคือช่วงต้นเรื่อง แล้วก็ค่อยๆแผ่วจากช่วงกลางจนจบ
หนังสนุก แต่เสียดายที่ยืดไปมาก หาวหลายครั้ง หนังเสียดสีคนขาวได้ดี ชอบฉากแลบลิ้นของลีโอ ฉากนี้ดูตลกแบบปัญญาอ่อนคลายเครียด​ดีครับ สรุป ถึงไม่ดูก็ไม่รู้​สึกเสียดายครับ
โคตรยืด เอื่อนเฉื่อยมาก เนิบๆตลอดเรื่องเลย

กว่าครึ่งเรื่องเป็นการโชว์ โลเคชัน ซึ่งสวยยอมรับ (เคสเดียวกันกับ สเปคเตอร์เลย)

อีกหนึ่งเสี้ยวเป็นเนื้อเรื่อง อีกเสี้ยวที่เหลือ เป็นการฟัง ลีโอ ไอ กับ หายใจ

ปีก่อน พูดเยอะในวุล์ฟแล้วไม่ได้

ปีนี่ แกไม่พูดละ ขอไออย่างเดียว แค่กๆๆๆ
ยังเซ็งอยู่เลย เรื่องนี้ดันชนะ mad max ในงานลูกโลกทองคำได้ไง
ผมคิดว่า ลีโอ จะไม่ได้ออสก้า เพราะ ได้มาเกือบทุกงานเเล้ว
[Link]

ลีโอนาโด ดิคาปริโอ รับบท "แบร์ กิล"

ที่น่าตกใจคือ นี่เมิงจะได้ออสก้าร์เพราะไอ้บทแบร์ กิลเนี่ยนะ