เป็นกระแสดราม่าในเวทีรางวัลออสการ์ปีนี้เสียแล้วละครับ กับการวิพากษ์วิจารณ์ว่าเวทีออสการ์นั้นไม่ให้ความสำคัญกับนักแสดงผิวสี โดยเฉพาะภาพยนตร์ที่ได้รับเสียงตอบรับที่ดีในด้านของรายได้และนักวิจารณ์อย่าง Creed หรือ Straight outta Compton ที่ได้เข้าชิงเพียงแค่คนละสาขาเท่านั้น



โดยวันนี้ทางผู้กำกับ สไปค์ ลี ได้โพสลงบนอินสตราแกรมของตน กล่าวว่าปีนี้ตัวเขาและภรรยาจะไม่ไปร่วมงานเวทีรางวัลออสการ์

"เราไม่สามารถที่จะสนับสนุนได้ และไม่ได้พยายามจะดูหมิ่นเพื่อนๆของเรา, คริส ร็อค, ผู้อำนวยการสร้างเรกกี้ ฮูร์ดิน และประธาน ไอแซค รวมถึงตัว Academy แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรที่สองปีติดๆกันแล้ว ผู้เข้าชิง 20 คนในสาขานักแสดงเป็นคนผิวขาวทั้งหมด ? และอย่าให้ผมพูดถึงสาขาอื่นๆเลย คนผิวขาว 40 คนในเวลา 2 ปีติดกัน พวกเราแสดงกันไม่เป็นงั้นหรอ ?! WTF!!"

ในขณะเดียวกันนักแสดงสาว เจด้า พินเก็ตต์ สมิธ ก็ได้ทวีตข้อความในวันเสาร์ที่ผ่านมา กล่าวว่า



"ที่ออสการ์ คนทุกผิวสีนั้นได้รับการต้อนรับที่จะให้ออกไปประกาศรางวัล หรือสร้างความบันเทิง แต่พวกเราแทบจะไม่ได้รับการจดจำทางด้านศิลปะของเราเลย"

งานนี้เรียกได้ว่าเป็นกระแสดราม่าในอเมริกากันพอสมควรเลยละครับ ก็คงจะต้องติดตามกันต่อไปว่าประเด็นจะร้อนแรงไปถึงขนาดไหนกันหนอ

ref: [Link]

จริง แต่ก็เคยมีปีที่ออสการ์ให้แดนเซลกับฮัลลี่ในปีเดียวกันเพราะกระแสเรื่องผิวสีนะ


ออสการ์มันก็คืออมเริกาแหละ ก็เป็นมุมมองของอเมริกา ต่อให้หนังดีโคตรๆแค่ไหนแต่ถ้าเป็นหนังที่มีทัศนคติไม่ตรงกับคนอเมริกันก็หมดสิทธิ์ได้รางวัล พูดง่ายๆคือหนังออสการ์อเมริกาต้องเป็นพระเอก รวมถึงต้องถูกจริตเรื่องค่านิยมต่างๆของคนอเมริกันด้วย อย่างเรื่องศาสนา-สีผิวนี่ก็เกี่ยว แน่นอนล่ะ ก็เพราะกก.คือคนอเมริกัน


นึกถึงที่คนเขียนนารูโตะบอก จะเขียนการ์ตูนส่งเข้าประกวดต้องดูด้วยว่าส่งให้ค่ายไหน หนังสือการ์ตูนเด็กผู้ชายหรือผู้หญิง เด็กเล็กหรือเด็กโต ไม่ใช่เป็นนิตยสารสำหรับเด็กแต่เขียนเรื่องส่งประกวดอย่างโหด เพราะฉะนั้นหนังของคนผิวสีแบบผู้กำกับผิวสี นักแสดงผิวสี อันนี้น่าจะรู้ตัวกันอยู่แล้วว่าหวังออสการ์ยาก

ก็จัดมัน2เวทีไปเลยละกัน ดำฟากหนึ่ง ขาวฟากหนึ่ง สิ้นเรื่องชอบกันจังเรื่องเยียดสีผิวเนี่ยไอ้พวก KKK เอ๋ยข้างในเลือดมันก็สีแดงเหมือนกันเวรแท้ๆ
ปล.แล้วไมเคิล แจ็คสันนี่สีอะไรฟะ BLACK OR WHITE

พูดจาแบ่งแยกกันเข้าไป ศึกษาประวัติกันมาก่อน คนผิวดำลำบากกว่าคนผิวขาวมาก่อนเยอะ

ไมเคิล แจ็คสันเป็นคนอเมริกันผิวดำ ทำไมตอนหลังผิงขาว ? เพราะเขาเป็นโรคด่างขาว เม็ดสีผิวถูกทำลาย เขาทำลายกำแพงระหว่างเชื้อชาติและเปิดทางให้กำนักร้องผิวสีได้เป้นที่ยอมรับ เขาแต่งเพลง Black or Whtie มาเพื่อเสริมสร้างความเป็นหนึ่งเดียว ไม่แบ่งแยกผิวสี ทุกวันนี้ค่านิยมเหล่านี้น้อยลงไปมากแล้ว แต่ก็ยังมีอยู่ สำหรับคนที่ฟังข่าวผ่านๆ ก็คงไม่รู้และไม่เข้าใจ และชอบนำเขามาเปรียบเทียบกับเรื่องนี้ ทั้งที่เขาทำเรื่องราวดีๆให้โลกในแบบที่คนวิจารณ์เขา ใช้เวลาสิบชาติก็ทำไม่ได้เท่า

อันนี้เป็นเรื่องของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ คือหนังของคนผิวสีจริงๆมันไม่ได้วงกว้างเท่าไหร่ (หมายถึงหนังที่ทีมงาน ผู้กำกับ นักแสดงเป็นคนผิวสี) ณ ตอนนี้ คงยากที่จะไปถึงจุดที่อเวนเจอร์สเป็นคนผิวดำทั้งทีม ก็ต้องเข้าใจอ่ะนะว่าหนังกระแสหลักที่ทำเงินก็ไม่ใช่หนังคนดำ ถึงจะมีคนอ้างว่าทุกวันนี้ฮอลลีวู้ดเปิดกว้างให้คนผิวสีมากขึ้น มีการเอาดาราผิวสีมารับบทสมทบ (ไม่ใช่ตัวประกอบกากๆ) อย่างฟอลคอน ในอเวนเจอร์ส หรือจอห์น โบเยก้าในสตาร์วอร์ส7 ที่ได้เล่นเป็นตัวหลัก หรือดารานำที่เป็นคนผิวสี อย่าง วิล สมิธ, แดนเซล วอชิงตัน, แซมมวลเอล แจ็คสัน แต่ก็ต้องยอมรับกันนะว่ามันก็ยังไม่เท่าเทียม ไม่ได้เท่าเทียมกันอย่างแท้จริง คนดำยังมีพื้นที่น้อยกว่ามาก และค่านิยมเหยียดสีผิวมันก็ยังมีอยู่ในอุตสาหกรรมหนังฮอลลีวู้ด


ผมเห็นด้วยที่มีการแสดงออกนะ คนผิวสีควรแสดงท่าทีบ้าง (ต้องออกแอ็คชั่นบ้างไม่ใช่เอาแต่เงียบเป็นใบ้อยู่เรื่อย) เพื่อที่คนในสังคมฮอลลีวู้ดจะได้ตระหนักร่วมกัน จะได้มีการปรับตัว ปีหน้าปีต่อไปผมอยากให้เป็นแบบดาราผิวสีทุกคนพร้อมใจกันบอยคอตออสการ์เลย



"ผมจะบอกคุณว่า
ถึงแม้เราจะพบความยากลำบากในวันนี้หรือวันพรุ่งนี้
ผมจะยังคงมีความฝัน
นี่คือความฝันที่หยั่งรากลึก
ลงไปในความฝันของคนอเมริกัน
ผมมีความฝันว่าวันหนึ่งประเทศนี้
จะดำรงอยู่ด้วยความหมายที่แท้จริงของหลักการว่า
มนุษย์ทุกคนเกิดมาเท่าเทียมกัน"

-มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ ปี1964 กับสุนทรพจน์อันโด่งดัง ข้าพเจ้ามีความฝัน (I Have a Dream)


และถามว่าทำไมดาราถึงเพิ่งจะมาบอยคอตกันตอนนี้ ผมคิดว่าอาจจะเพราะเมื่อวานเป็นวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ครับ