รายละเอียดล่าสุด FF VII Remake ใช้ Unreal Engine 4, แบ่งงานให้ CyberConnect2 ทำด้วย
รายละเอียดต่างๆของ Final Fantasy VII Remake ถูกปล่อยออกมามากมายหลังจากเผยเกมเพลย์เบื้องต้นในงาน PlayStation Experience ที่ผ่านมา
โดยเริ่มกันที่ Epic Games ได้ออกมาเผยว่า Final Fantasy VII Remake ถูกพัฒนาโดยใช้ Unreal Engine 4 ครับ
และในนิตยสาร Famisu ได้เผยรายละเอียดใหม่ๆดังนี้
-ชื่อเกมส์อย่างเป็นทางการก็คือ Final Fantasy VII Remake เพราะ Square Enix ต้องการถ่ายทอดตรงๆถึงผู้เล่นว่ามันคือภาค Remake มิใช่ภาค Spin-off หรือภาคต่อแต่อย่างใด
-มีหลายบริษัทรวมถึง CyberConnect2 เข้ามาช่วยพัฒนาเกมส์ อย่างไรก็ตาม แนวการทำเกมส์ของ CyberConnect2 นั้นแตกต่างกับทาง Square Enix ดังนั้น ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกัน โดยคุณ Tetsuya Nomura ไดเร็คเตอร์ของเกมส์นั้นยังไม่ค่อยพอใจในแนวทางของเทรลเลอร์ล่าสุด ดังนั้น Square Enix จึงได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ามาในแนวทางของตัวเอง
-โมเดลจาก Final Fantasy VII: Advent Children ไม่ได้ถูกเอามาใช้เพราะว่ามันเก่ากว่า 10 ปีแล้วและไม่สมส่วนเกินไป (อารมณ์ว่าดูไม่สมจริง) โมเดลแต่ละส่วนของ Remake ถูกปรับแก้มาหลายครั้งเพื่อให้ทั้งดูสมจริงและสมส่วน
-สิ่งที่เห็นในเทรลเลอร์ล่าสุดนั้นอยู่ในเกมส์จริง ยกเว้นบางส่วนจากเทรลเลอร์ในงาน E3 2015 คุณสามารถปรับมุมกล้องได้ในฉากรถไฟที่เห็น
-Cloud ที่ดูออกจะผอมไปหน่อยเพราะผิวของเขาที่ขาวและจากแสงในเกมส์
-ฉากแต่งหญิงของ Cloud ที่ไปหา Don Corneo ยังคงมีในเกมส์ แต่ยังไม่ได้ออกแบบในตอนนี้
-ยังคงมีหลอด ATB แต่ไม่ได้เหมือนเดิมแบบที่รอให้เต็มแล้วจริงกดโจมตีได้ แต่แทนที่ด้วยระบบในตัวมันเองที่จะช่วยระบบแอ๊คชั่นในเกมส์นี้ ซึ่งชื่ออาจจะเปลี่ยนอีกก็ได้ โดยคุณ Nomura บอกว่าคุณต้องสนใจเกจนี้ให้ดีหากว่าเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว
-ในปาร์ตี้มีสมาชิกได้ 3 คนเช่นเดิม และสามารถสลับได้อย่างอิสระ จะสลับหรือไม่สลับไปใช้คนอื่นๆในปาร์ตี้เลยก็ได้
-คุณสามารถสำรวจเมืองมิดการ์ได้หลากหลายแห่ง ซึ่งมีบางแห่งที่ไม่สามารถสำรวจได้ในภาคดั้งเดิม
-คุณภาพในเทรลเลอร์ล่าสุดเป็นแค่จุดเริ่มต้นในการแสดงถึงทิศทางในการ Remake และจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
-มีหลายบริษัทรวมถึง CyberConnect2 เข้ามาช่วยพัฒนาเกมส์ อย่างไรก็ตาม แนวการทำเกมส์ของ CyberConnect2 นั้นแตกต่างกับทาง Square Enix ดังนั้น ทั้ง 2 บริษัทจะร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกัน โดยคุณ Tetsuya Nomura ไดเร็คเตอร์ของเกมส์นั้นยังไม่ค่อยพอใจในแนวทางของเทรลเลอร์ล่าสุด ดังนั้น Square Enix จึงได้ปรับเปลี่ยนให้เข้ามาในแนวทางของตัวเอง
-โมเดลจาก Final Fantasy VII: Advent Children ไม่ได้ถูกเอามาใช้เพราะว่ามันเก่ากว่า 10 ปีแล้วและไม่สมส่วนเกินไป (อารมณ์ว่าดูไม่สมจริง) โมเดลแต่ละส่วนของ Remake ถูกปรับแก้มาหลายครั้งเพื่อให้ทั้งดูสมจริงและสมส่วน
-สิ่งที่เห็นในเทรลเลอร์ล่าสุดนั้นอยู่ในเกมส์จริง ยกเว้นบางส่วนจากเทรลเลอร์ในงาน E3 2015 คุณสามารถปรับมุมกล้องได้ในฉากรถไฟที่เห็น
-Cloud ที่ดูออกจะผอมไปหน่อยเพราะผิวของเขาที่ขาวและจากแสงในเกมส์
-ฉากแต่งหญิงของ Cloud ที่ไปหา Don Corneo ยังคงมีในเกมส์ แต่ยังไม่ได้ออกแบบในตอนนี้
-ยังคงมีหลอด ATB แต่ไม่ได้เหมือนเดิมแบบที่รอให้เต็มแล้วจริงกดโจมตีได้ แต่แทนที่ด้วยระบบในตัวมันเองที่จะช่วยระบบแอ๊คชั่นในเกมส์นี้ ซึ่งชื่ออาจจะเปลี่ยนอีกก็ได้ โดยคุณ Nomura บอกว่าคุณต้องสนใจเกจนี้ให้ดีหากว่าเปลี่ยนเป็นสีแดงแล้ว
-ในปาร์ตี้มีสมาชิกได้ 3 คนเช่นเดิม และสามารถสลับได้อย่างอิสระ จะสลับหรือไม่สลับไปใช้คนอื่นๆในปาร์ตี้เลยก็ได้
-คุณสามารถสำรวจเมืองมิดการ์ได้หลากหลายแห่ง ซึ่งมีบางแห่งที่ไม่สามารถสำรวจได้ในภาคดั้งเดิม
-คุณภาพในเทรลเลอร์ล่าสุดเป็นแค่จุดเริ่มต้นในการแสดงถึงทิศทางในการ Remake และจะพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปอีก
ต่อมาเป็นบทสัมภาษณ์จาก Dengeki Online
ถาม Final Fantasy VII Remake นั้นถูกแบ่งออกเป็นหลายภาค ช่วยบอกข้อมูลเพิ่มเติมหน่อยเกี่ยวกับการตัดสินใจนี้
Kitase: “แนวคิดในการ Remake เกมส์ Final Fantasy VII นั้นไม่สามารถทำได้ในการวางจำหน่ายเกมส์เพียงครั้งเดียว ซึ่งเกมส์ถูกพัฒนาใหม่ทั้งหมด เรายังไม่สามารถเผยข้อมูลในประเด็นนี้ได้ ขอให้อดใจรอการประกาศในอนาคตครับ”
Nomura: “ถ้าเรามุ่งทำเกมส์ให้ออกมาวางจำหน่ายในครั้งเดียว หลายส่วนในนั้นคงถูกสรุปรวบรัดเกินไป เราจึงจำเป็นต้องแบ่งออกมาเป็นภาคๆ แทนที่จะทำเป็นเกมส์ภาคเดียว เราจึงตัดสินใจแบ่งมันออกมาครับ”
Kitase: “อย่างที่คุณเห็นในเทรลเลอร์ เราเผยให้เห็นเมือง Sector 1 และ Sector 8 ในมิดการ์ ซึ่งแค่ในเมืองส่วนนั้นคงเห็นว่ามันมีความหนาแน่นขนาดไหน ถ้าคุณต้อง Remake สิ่งนี้ที่เคยมีในเกมส์เวอร์ชั่นดั้งเดิม มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยเกมส์มาวางจำหน่ายเพียงครั้งเดียวครับ”
ถาม แล้วระบบต่อสู้จะเป็นอย่างไร?
Kitase: “แทนที่จะเกาะติดใช้ระบบ Command-based (ระบบแบบคำสั่ง) เมื่อปะทะกับศัตรู เราตั้งเป้าให้มีระบบต่อสู้ที่ลื่นไหลแนบเนียนแบบที่เห็นในเทรลเลอร์ละครับ”
Nomura: “เมื่อเอ่ยถึงความเร็วในการต่อสู้และจังหวะของมัน เพื่อไม่ให้เป็นระบบที่เล่นแล้วเครียด เราจึงอยากทำอะไรบางอย่างในระดับเดียวกับ Dissidia Final Fantasy ถ้าเทียบระดับความเป็นแอ๊คชั่นเป็นลำดับ จะเป็น Dissidia Final Fantasy จากนั้นคือ Kingdom Hearts และ Final Fantasy VII Remake ตามมาหลังสุด ซึ่งไม่ท่าต่างๆไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษอะไร ซึ่งในระบบต่อสู้แบบใหม่นี้ เราต้องการให้การต่อสู้เป็นแบบแอ๊คชั่นซึ่งสามารถสู้ไปด้วยและคิดแบบวางแผนไปด้วยได้”
ถาม แล้วแก่นของระบบต่อสู้แบบเดิมจะเป็นอย่างไร?
Nomura: “ในท้ายที่สุดแล้ว มันจะอยู่บนพื้นฐาน Final Fantasy VII ดังนั้นระบบเดิมๆอย่างเกจ ATB และท่า Limit Breaks ยังคงมีอยู่ โปรดติดตามกันต่อไปว่าเกมส์จะวิวัฒนาการสิ่งเหล่านี้อย่างไรในเวอร์ชั่น Remake”
ถาม แล้วเนื้อเรื่องจะถูกปรับเปลี่ยนทั้งหมดหรือไม่?
Nomura: “ถ้ายิ่งเล่นให้ลึกลงไปในแต่ละ Episode พวกเราจะเตรียมระบบกลไกต่างๆไว้ให้ลองเล่นกัน ใครที่เคยเล่นภาคดั้งเดิมจะรู้ส่วนสำคัญๆและเข้าใจเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ และเพื่อแฟนๆกลุ่มนั้น ผมหวังว่าพวกเขาจะต้องเซอร์ไพรซ์กันอีกครั้ง”
Kitase: “ผมไม่อยาก Remake เกมส์เพียงเพื่อให้ระลึกถึงความหลัง ผมอยากให้แฟนเกมส์ดั้งเดิมรู้สึกตื่นเต้นด้วย เราทำการปรับแต่งเนื้อเรื่องโดยคำนึงถึงความรู้สึกนี้ไว้”
Kitase: “แนวคิดในการ Remake เกมส์ Final Fantasy VII นั้นไม่สามารถทำได้ในการวางจำหน่ายเกมส์เพียงครั้งเดียว ซึ่งเกมส์ถูกพัฒนาใหม่ทั้งหมด เรายังไม่สามารถเผยข้อมูลในประเด็นนี้ได้ ขอให้อดใจรอการประกาศในอนาคตครับ”
Nomura: “ถ้าเรามุ่งทำเกมส์ให้ออกมาวางจำหน่ายในครั้งเดียว หลายส่วนในนั้นคงถูกสรุปรวบรัดเกินไป เราจึงจำเป็นต้องแบ่งออกมาเป็นภาคๆ แทนที่จะทำเป็นเกมส์ภาคเดียว เราจึงตัดสินใจแบ่งมันออกมาครับ”
Kitase: “อย่างที่คุณเห็นในเทรลเลอร์ เราเผยให้เห็นเมือง Sector 1 และ Sector 8 ในมิดการ์ ซึ่งแค่ในเมืองส่วนนั้นคงเห็นว่ามันมีความหนาแน่นขนาดไหน ถ้าคุณต้อง Remake สิ่งนี้ที่เคยมีในเกมส์เวอร์ชั่นดั้งเดิม มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยเกมส์มาวางจำหน่ายเพียงครั้งเดียวครับ”
ถาม แล้วระบบต่อสู้จะเป็นอย่างไร?
Kitase: “แทนที่จะเกาะติดใช้ระบบ Command-based (ระบบแบบคำสั่ง) เมื่อปะทะกับศัตรู เราตั้งเป้าให้มีระบบต่อสู้ที่ลื่นไหลแนบเนียนแบบที่เห็นในเทรลเลอร์ละครับ”
Nomura: “เมื่อเอ่ยถึงความเร็วในการต่อสู้และจังหวะของมัน เพื่อไม่ให้เป็นระบบที่เล่นแล้วเครียด เราจึงอยากทำอะไรบางอย่างในระดับเดียวกับ Dissidia Final Fantasy ถ้าเทียบระดับความเป็นแอ๊คชั่นเป็นลำดับ จะเป็น Dissidia Final Fantasy จากนั้นคือ Kingdom Hearts และ Final Fantasy VII Remake ตามมาหลังสุด ซึ่งไม่ท่าต่างๆไม่จำเป็นต้องใช้เทคนิคพิเศษอะไร ซึ่งในระบบต่อสู้แบบใหม่นี้ เราต้องการให้การต่อสู้เป็นแบบแอ๊คชั่นซึ่งสามารถสู้ไปด้วยและคิดแบบวางแผนไปด้วยได้”
ถาม แล้วแก่นของระบบต่อสู้แบบเดิมจะเป็นอย่างไร?
Nomura: “ในท้ายที่สุดแล้ว มันจะอยู่บนพื้นฐาน Final Fantasy VII ดังนั้นระบบเดิมๆอย่างเกจ ATB และท่า Limit Breaks ยังคงมีอยู่ โปรดติดตามกันต่อไปว่าเกมส์จะวิวัฒนาการสิ่งเหล่านี้อย่างไรในเวอร์ชั่น Remake”
ถาม แล้วเนื้อเรื่องจะถูกปรับเปลี่ยนทั้งหมดหรือไม่?
Nomura: “ถ้ายิ่งเล่นให้ลึกลงไปในแต่ละ Episode พวกเราจะเตรียมระบบกลไกต่างๆไว้ให้ลองเล่นกัน ใครที่เคยเล่นภาคดั้งเดิมจะรู้ส่วนสำคัญๆและเข้าใจเนื้อเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ และเพื่อแฟนๆกลุ่มนั้น ผมหวังว่าพวกเขาจะต้องเซอร์ไพรซ์กันอีกครั้ง”
Kitase: “ผมไม่อยาก Remake เกมส์เพียงเพื่อให้ระลึกถึงความหลัง ผมอยากให้แฟนเกมส์ดั้งเดิมรู้สึกตื่นเต้นด้วย เราทำการปรับแต่งเนื้อเรื่องโดยคำนึงถึงความรู้สึกนี้ไว้”
Final Fantasy VII Remake อยู่ระหว่างการพัฒนาสำหรับ PlayStation 4 และวางจำหน่ายสำหรับเครื่องนี้ก่อน
ที่มา [Link] [Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
มโนถูกไปเรื่องนึง ก็พยายามมโนเรื่อยๆสมกับกับเป็นเซเลบแบล็กฟายเดย์จริงๆ
[Link]
มินิเกมใช้ unity? (ล้อเล่นนะคัฟ)
สาบานได้ว่าแค่เกมเมอร์
ผมว่าลงๆมันครบทุกเครื่องก็ดีแล้วนนี่นาเกมส์จะได้ขายเยอะๆ
ยิ่งใช้ unreal ด้วยยิ่งง่ายเลย แค่ลง pc มันไม่ได้ทำให้คุณค่าของ่กมส์มันด้อยลงหรอกเนอะ
ประมาณว่าภาคภาษาอังกฤษก็ลง pc ด้วยส่วนภาษา ญี่ปุ่น ก็ลงพร้อมกันทุกเครื่องไปเลย
แต่มักมีความพยายามในการแสดงความเหนือกว่าอีกฝ่ายอยู่บ่อยๆน่ะครับ
เลยทำให้รู้สึกรังเกียจ จะข่มก็ข่มได้ แต่รับความรังเกียจไปด้วย
จะเหนือกว่าก็ไม่มีใครว่าและก็ไม่ได้อยากรู้เลย แต่ถ้าแสดงตัวมาแบบที่ว่า ก็ต้องโดนยำแน่ๆครับ
สาบานได้ว่าแค่เกมเมอร์
พอดีที่บ้านมีตังอ่ะคับ แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ส่งให้เรียนหนังสือสูง ก็เลยมีความรู้ แล้วก้ได้ทำงานตรงสาย ก็เลยรู้นะครับ หวังว่าไม่อิจฉานะครับ ที่มีความรู้ พอดีที่บ้านมีตังจริง ๆ โทษที
อีกอย่าง ผมอยู่วงการ Animation คงไม่รู้มั้ง ว่าเขาทำงานกันยังไง ถึงจะไม่ได้ทำเกมก็เถอะ - -
ส่วนแบ่งการใช้เอนจิ้นอีกด้วยถ้ามันไม่แพง แถมพัฒนาได้รวดเร็ว พัฒนาเครื่องมือส่วนเฉพาะของเกมตัวเองได้ไม่ยาก อนาคตก็ทะยอย ใช้เครื่องมือพัฒนาเกมของของบริษัทพัฒนาเอนจิ้นโดยเฉพาะ และตัดส่วนที่พัฒนาเองไปให้หมด ก็อาจลดต้นทุนเพื่อสามารถแข่งขันได้ หรือใช้ทุนเท่าเดิมแต่ไม่ต้องเสี่ยงจ้างพนักงานจำนวณมาก
ธุรกิจต้องปรับตัว ตามโลกที่หมุน บางทีแข็งขืนเกินไปก็อยู่ไม่รอด ทำเองทุกอย่างลำบากกว่าทำเฉพาะอย่าง