Sony จะขาย PlayStation VR แบบไม่เน้นทำกำไร
DigitalSpy ได้ไปสัมภาษณ์ Shuhei Yoshida ประธาน Sony WWS ในงาน Paris Games Week ที่ผ่านมา โดยสรุปเนื้อหาได้ดังต่อไปนี้ครับ
- ยังไม่คอนเฟิร์มเรื่องวันขายเหมือนเดิม เพราะต้องเตรียมการอะไรหลายๆ อย่างก่อน อย่างตอนนี้ทีม Software Developer ก็กำลังง่วนอยู่กับการทำ SDK, OS และฟีเจอร์ระหว่าง PS VR กับ PS4 อยู่
- เกมของ 1st Party เช่น Rigs ก็ยังไม่ตัดสินใจเลยว่าจะใส่ Content เริ่มต้นไปมากน้อยเท่าไหนดี แม้กระทั่งช่องวางจำหน่ายก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเลย (คุณ Yoshida หัวเราะบอกว่าเดี๋ยวจะตัดสินใจเร็วๆ นี้ล่ะ)
- ตอนนี้ ค่ายหนังหลายๆ แห่งก็เริ่มทำ Marketing หนังของค่ายตนเองบน VR แล้ว อย่างของ Sony Pictures ก็มี The Walk มาลง PlayStation VR ทาง DigitalSpy เลยถามความเห็นคุณ Yoshia ถึงเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ว่าคิดยังไงบ้าง ซึ่งคุณ Yoshida ได้ระบุว่าเทรนด์นี้มันก็เกิดขึ้นเพราะว่า เวลาสร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่มาเรื่องนึง ก็จะมีการสร้างโมเดล กราฟิกความละเอียดสูงมาอยู่แล้ว ดังนั้นพวกค่ายหนังก็คงอยากจะเอาโมเดลเหล่านั้นมาใช้ซ้ำอีกที ซึ่งเราก็คงค่ายหนังเอา VR มาใช้ทำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะเอาคอนเทนท์ VR ที่สร้างขึ้นมาไปขายจริงๆ ก็ได้ ไม่ใช่เอาไว้ใช้แค่โปรโมทหนังอย่างเดียว
สำหรับ The Walk VR นั้น จริงๆ แล้ว Sony Pictures นั้นเป็นคนเข้าหา และเสนอไอเดียให้กับฝั่ง PlayStation เองเลย ซึ่งเกมที่สร้างมาก็ไม่ได้พัฒนาโดยฝั่ง PlayStation ด้วย Sony Pictures จ้างคนมาพัฒนาเกมนี้เอง
- คุณ Yoshida ได้ยกตัวอย่างในสมัยก่อน เขาเล่น Doom ไม่ได้เลย มันรู้สึกกดดันเกินไป ต้องใช้เวลานานกว่าคนเล่นจะปรับตัวได้ ซึ่งเกม VR ก็คล้ายๆ กัน Developer ที่พัฒนาเกมนั้นรู้ดีว่าเกมตัวเองจะเล่นยังไง เลยเล่นได้ไม่มีปัญหา แต่คนทั่วไปพอมาเล่นแล้วอาจจะรู้สึกแย่ เวียนหัว ไม่สบายก็ได้
ดังนั้นแล้วนอกจากทาง Sony จะคุยเรื่องพัฒนาเกม VR กับ Developer แล้ว ก็ยังมีการพูดถึงวิธีการทดสอบเกมเพื่อให้มั่นใจว่าคนเล่นเกมรู้สึกสบายในระหว่างการเล่นเกมด้วย
- เขาคิดว่า VR นั้นให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ก็จริง แต่มันก็มีศักยภาพที่จะให้ประสบการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นสูงมาก เช่น เกมสยองขวัญอาจทำให้คนเล่นเกิด Trauma บอบช้ำทางจิตใจได้เลยก็ได้ ในอนาคตอาจจะต้องมีการจัดเรตเกม VR โดยเฉพาะเพื่อบอกว่าคนซื้อเกมไปเล่นจะได้เจอกับอะไรในเกม
- คุณ Yoshida กล่าวว่า Sony จะขาย VR แบบไม่คิดถึงกำไรเป็นหลัก แต่คิดว่าจะทำยังไงที่จะทำให้ขายได้ มี Install base เยอะมากพอที่คอนเทนท์จะขายได้ และส่วนตัวเขารู้สึกว่า ไม่ว่าใครจะเลือกใช้ PlayStation VR, HTC Vive หรือ Oculus ก็ทำให้วงการนี้ Win-Win กันทั้งหมด
บทความเต็ม
[Link]
- ยังไม่คอนเฟิร์มเรื่องวันขายเหมือนเดิม เพราะต้องเตรียมการอะไรหลายๆ อย่างก่อน อย่างตอนนี้ทีม Software Developer ก็กำลังง่วนอยู่กับการทำ SDK, OS และฟีเจอร์ระหว่าง PS VR กับ PS4 อยู่
- เกมของ 1st Party เช่น Rigs ก็ยังไม่ตัดสินใจเลยว่าจะใส่ Content เริ่มต้นไปมากน้อยเท่าไหนดี แม้กระทั่งช่องวางจำหน่ายก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเลย (คุณ Yoshida หัวเราะบอกว่าเดี๋ยวจะตัดสินใจเร็วๆ นี้ล่ะ)
- ตอนนี้ ค่ายหนังหลายๆ แห่งก็เริ่มทำ Marketing หนังของค่ายตนเองบน VR แล้ว อย่างของ Sony Pictures ก็มี The Walk มาลง PlayStation VR ทาง DigitalSpy เลยถามความเห็นคุณ Yoshia ถึงเทรนด์ใหม่ที่เกิดขึ้นนี้ว่าคิดยังไงบ้าง ซึ่งคุณ Yoshida ได้ระบุว่าเทรนด์นี้มันก็เกิดขึ้นเพราะว่า เวลาสร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่มาเรื่องนึง ก็จะมีการสร้างโมเดล กราฟิกความละเอียดสูงมาอยู่แล้ว ดังนั้นพวกค่ายหนังก็คงอยากจะเอาโมเดลเหล่านั้นมาใช้ซ้ำอีกที ซึ่งเราก็คงค่ายหนังเอา VR มาใช้ทำตลาดมากขึ้นเรื่อยๆ และอาจจะเอาคอนเทนท์ VR ที่สร้างขึ้นมาไปขายจริงๆ ก็ได้ ไม่ใช่เอาไว้ใช้แค่โปรโมทหนังอย่างเดียว
สำหรับ The Walk VR นั้น จริงๆ แล้ว Sony Pictures นั้นเป็นคนเข้าหา และเสนอไอเดียให้กับฝั่ง PlayStation เองเลย ซึ่งเกมที่สร้างมาก็ไม่ได้พัฒนาโดยฝั่ง PlayStation ด้วย Sony Pictures จ้างคนมาพัฒนาเกมนี้เอง
- คุณ Yoshida ได้ยกตัวอย่างในสมัยก่อน เขาเล่น Doom ไม่ได้เลย มันรู้สึกกดดันเกินไป ต้องใช้เวลานานกว่าคนเล่นจะปรับตัวได้ ซึ่งเกม VR ก็คล้ายๆ กัน Developer ที่พัฒนาเกมนั้นรู้ดีว่าเกมตัวเองจะเล่นยังไง เลยเล่นได้ไม่มีปัญหา แต่คนทั่วไปพอมาเล่นแล้วอาจจะรู้สึกแย่ เวียนหัว ไม่สบายก็ได้
ดังนั้นแล้วนอกจากทาง Sony จะคุยเรื่องพัฒนาเกม VR กับ Developer แล้ว ก็ยังมีการพูดถึงวิธีการทดสอบเกมเพื่อให้มั่นใจว่าคนเล่นเกมรู้สึกสบายในระหว่างการเล่นเกมด้วย
- เขาคิดว่า VR นั้นให้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่ก็จริง แต่มันก็มีศักยภาพที่จะให้ประสบการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นสูงมาก เช่น เกมสยองขวัญอาจทำให้คนเล่นเกิด Trauma บอบช้ำทางจิตใจได้เลยก็ได้ ในอนาคตอาจจะต้องมีการจัดเรตเกม VR โดยเฉพาะเพื่อบอกว่าคนซื้อเกมไปเล่นจะได้เจอกับอะไรในเกม
- คุณ Yoshida กล่าวว่า Sony จะขาย VR แบบไม่คิดถึงกำไรเป็นหลัก แต่คิดว่าจะทำยังไงที่จะทำให้ขายได้ มี Install base เยอะมากพอที่คอนเทนท์จะขายได้ และส่วนตัวเขารู้สึกว่า ไม่ว่าใครจะเลือกใช้ PlayStation VR, HTC Vive หรือ Oculus ก็ทำให้วงการนี้ Win-Win กันทั้งหมด
บทความเต็ม
[Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
เท่าที่ลองๆ และด้อมๆ มองๆ มา เกม vr มันนอนเล่นไม่ได้อยู่แล้วนะครับ ส่วนใหญ่ใช้ลูกเล่นขยับตัวไปมาซะเยอะ
แถม ps vr tracking ด้วยกล้องอีก ถ้าจะนอนเล่นคงต้องติดกล้องไปบนเพดานแล้วล่ะ
ยิ่งดูยิ่งอยากเอามาเล่นกับเกมจับแมลงจริง ๆ
แต่ภาพต้องลื่นด้วยนะ ถ้าเฟรมตกมีอ้วกอะ
ได้มีแต๋วแตกกันแน่นอน 55555
แต่ถ้ามองแง่คนไม่อยากได้ของถูกมากมายนักแล้ว มันทำให้เกิดการครองตลาดเจ้าเดียว เจ้าอื่นที่ขายสู้ไม่ได้ต้องเจ๊งหมด
ก็ ขายต่ำกว่าทุนขนาดโรงงานก๊อปไม่กล้าก๊อปอะนะ
ส่วนของก๊อปผมว่าไม่เกินความสามารถพี่จีนหรอก แต่ก็ You get what you pay ครับ คุณภาพตามราคา
ส่วนราคา vr ค่ายอื่นๆอย่าง Oculus Rift ก็ระบุว่ารุ่นสำหรับขายผู้บริโภคคงวิ่งอยู่ราวๆ $350 - $400 ก็น่าจะไม่ต่างจาก PS VR เท่าไหร่นะ ราคาที่หลายๆสำนักข่าวเก็งกันก็ราวๆ $350 แต่คงต้องรอ Sony ประกาศราคาจริงๆอยู่ดี