Kingsman : The Secret Service ( 2015 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
Kingsman : The Secret Service ( 2015 ) บทวิจารณ์ภาพยนตร์โดย FallsDownz
"Kingsman : The Secret Service ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่แปลกใหม่หรือไร้ที่ติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี้คือภาพยนตร์ที่บันเทิงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในต้นปี 2015"
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ปีใหม่ 2015 นี้ ภาพยนตร์แอ็คชั่นหลายเรื่องที่เข้าฉายในช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นที่น่าสนใจว่าน่าผิดหวังพอสมควร ตั้งแต่ Jupiter Ascending , ฺBlackhat หรือ ภาพยนตร์ที่เข้าขั้นหายนะไปไม่กลับอย่าง Taken 3
ในท่ามกลางความสิ้นหวังสำหรับคอภาพยนตร์แอ็คชั่นนี้ ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง Kingsman : The Secret Service ซึ่งกำกับโดย แมทธิว วอห์น ผู้กำกับมากฝีมือเจ้าของผลงานที่น่าจดจำอย่าง Stardust , Kick Ass ภาคแรก และโดยเฉพาะ X-Men : First Class
Kingsman : The Secret Service ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มสายลับอังกฤษกลุ่มหนึ่งที่นำตัวเด็กหนุ่มที่มีความสามารถแอบแฝงคนหนึ่งมาฝึกให้เป็นสุดยอดสายลับ แต่ระหว่างนั้นเอง แผนการน่ากลัวของวายร้ายอัจฉริยะก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น สายลับอังกฤษและเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถหยุดวายร้ายคนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะพินาศได้หรือไม่ ?
จุดที่น่าชื่นชมมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ก็คือการโอบกอดและรับความโอเวอร์ เหนือจริงของตัวภาพยนตร์เข้ามาใช้อย่างเต็มที่
Kingsman : The Secret Service เป็นภาพยนตร์ที่รู้ตัวดีว่าในบางครั้ง ตัวมันเองช่างหลุดโลกแค่ไหน แต่แทนที่จะลดระดับความหลุดโลกนั้นลงมา ตัวผู้กำกับแมทธิว วอห์น เลือกที่จะเพิ่มความหลุดโลก ความเหนือจริงเข้ามาอีก จึงเป็นเหตุทำให้ฉากต่อสู้หลายฉากในภาพยนตร์กลายเป็นฉากตลกขบขันมีสีสันท่ามกลางความโหดร้ายทารุณ เลือดสาดกระจายได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งจุดนี้กลายเป็นจุดที่ตัวภาพยนตร์ทำออกมาได้โดดเด่นและน่าจดจำมากที่สุดเลยทีเดียว
อีกสิ่งที่บันเทิงสุดๆเลย ก็คือการกำกับฉากต่อสู้ของแมทธิว วอห์นซึ่งยังคงยอดเยี่ยม และสวยงามเช่นเคย เขายังคงพิสูจน์ว่าเขาคือผู้กำกับที่รู้จักวิธีการสร้างฉากต่อสู้ให้สวยงาม อลังการ น่าติดตาม และรู้จุดวางกล้อง การเคลื่อนที่ของกล้องหรือตัวละครเป็นอย่างดี ซึ่งความสามารถนี้ดูจะเป็นสิ่งที่เริ่มหายากขึ้นทุกทีในตัวผู้กำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นของฮอลลีวูดสมัยนี้
ยิ่งผนวกฉากต่อสู้เข้ากับอารมณ์หลุดโลก ขบขันของตัวภาพยนตร์ก็ยิ่งทำให้ Kingsman : The Secret Service กลายเป็นภาพยนตร์ที่รู้สึกน่ามองและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว
ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อเราลงไปสำรวจและวิเคราะห์ตัวบทภาพยนตร์จริงๆแล้ว ก็จะพบได้ไม่ยากว่า นี้ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีบทภาพยนตร์อันน่าจดจำหรือยอดเยี่ยมแต่อย่างใด
เอาเข้าจริงแล้วบทภาพยนตร์ของ Kingsman : The Secret Service นั้นค่อนข้างจะซ้ำซาก และเดาง่ายด้วยซ้ำไป
โดยเฉพาะในด้านของตัวละครต่างๆในภาพยนตร์ ตั้งแต่อาจารย์ผู้ซึ่งพยายามจะชดใช้ในสิ่งที่ทำผิด , ตัวร้ายซึ่งเห็นว่าโลกเต็มไปด้วยความชั่วร้ายหรือโรคร้ายที่จะต้องกำจัด , คู่แข่งของตัวละครเอกซึ่งต้องพยายามทำตัวน่ารังเกียจอยู่ตลอดเวลา , พ่อเลี้ยงที่ตบตีแม่ของตัวละครเอก ไปจนถึงตัวละครเอกเองซึ่งต้องพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเดินตามรอยเท้าของพ่อตนเองให้ได้
ที่ซ้ำร้ายเข้าไปอีก ก็คือการผูกปมต่างๆในแต่ละตัวละครและเนื้อเรื่อง ของแมทธิว วอห์น ค่อนข้างจะเล่าออกมาได้แย่ ลวก และไม่น่าเชื่อถือ เป็นเหตุทำให้ตัวละครเหล่านี้ไม่น่าเอาใจช่วยหรือน่าติดตามเท่าที่ควร
จริงๆแล้วในด้านเนื้อหาที่ตัวภาพยนตร์พูดถึงเองก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย ด้วยการเสียดสีระบบชนชั้นของสังคม การเมือง และการนำเรื่องราวของสภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันมาพูดถึงได้อย่างน่าสนใจ น่าเสียดายที่ประเด็นทั้งหลายยังเจาะไม่ลึกพอที่จะทำให้รู้สึกว่าควรจะนำไปขบคิดหรือน่าจดจำซักเท่าไรนัก
สุดท้ายแล้ว Kingsman : The Secret Service ก็ยังคงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่จะมาเปลี่ยนแปลงกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่นที่กำลังย่ำแย่อยู่ในตอนนี้มากนักซะทีเดียว เนื่องจากบทภาพยนตร์อันซ้ำซาก ตัวละครที่ไม่น่าสนใจ ไปจนถึงการผูกปมตัวละครที่ลวกเกินไป ยังถือว่าโชคดีที่การกำกับฉากแอ็คชั่นของแมทธิว วอห์น และการแสดงของ โคลิน เฟิร์ธ รวมถึง ซามวล แอล แจ็คสัน ยังดีพอที่จะลากตัวละครอันแสนน่าเบื่อเหล่านี้ไปได้บ้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็คือการตัดสินใจรับความหลุดโลก เหนือจริงของตนเองเข้ามาใช้ให้เป็นจุดแข็งในตัวภาพยนตร์ ก็เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอย่างน้อย Kingsman : The Secret Service ก็เป็นภาพยนตร์ที่บันเทิงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในต้นปี 2015 นี้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่น่าจดจำเท่าที่ควรก็ตาม
Final Score : [ B ]
ถ้าหากท่านชอบบทวิจารณ์ก็อย่าลืมเข้าไปกดไลค์แฟนเพจและอย่าลืมบอกเพื่อนๆต่อไปด้วยนะคร้าบ
[Link]
[Link]
"Kingsman : The Secret Service ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่แปลกใหม่หรือไร้ที่ติ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านี้คือภาพยนตร์ที่บันเทิงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในต้นปี 2015"
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่เข้าสู่ปีใหม่ 2015 นี้ ภาพยนตร์แอ็คชั่นหลายเรื่องที่เข้าฉายในช่วงเวลานี้ส่วนใหญ่เป็นที่น่าสนใจว่าน่าผิดหวังพอสมควร ตั้งแต่ Jupiter Ascending , ฺBlackhat หรือ ภาพยนตร์ที่เข้าขั้นหายนะไปไม่กลับอย่าง Taken 3
ในท่ามกลางความสิ้นหวังสำหรับคอภาพยนตร์แอ็คชั่นนี้ ก็เริ่มมีความหวังขึ้นมาอีกครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง Kingsman : The Secret Service ซึ่งกำกับโดย แมทธิว วอห์น ผู้กำกับมากฝีมือเจ้าของผลงานที่น่าจดจำอย่าง Stardust , Kick Ass ภาคแรก และโดยเฉพาะ X-Men : First Class
Kingsman : The Secret Service ว่าด้วยเรื่องราวของกลุ่มสายลับอังกฤษกลุ่มหนึ่งที่นำตัวเด็กหนุ่มที่มีความสามารถแอบแฝงคนหนึ่งมาฝึกให้เป็นสุดยอดสายลับ แต่ระหว่างนั้นเอง แผนการน่ากลัวของวายร้ายอัจฉริยะก็กำลังจะเริ่มต้นขึ้น สายลับอังกฤษและเด็กหนุ่มคนนี้จะสามารถหยุดวายร้ายคนนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะพินาศได้หรือไม่ ?
จุดที่น่าชื่นชมมากที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ก็คือการโอบกอดและรับความโอเวอร์ เหนือจริงของตัวภาพยนตร์เข้ามาใช้อย่างเต็มที่
Kingsman : The Secret Service เป็นภาพยนตร์ที่รู้ตัวดีว่าในบางครั้ง ตัวมันเองช่างหลุดโลกแค่ไหน แต่แทนที่จะลดระดับความหลุดโลกนั้นลงมา ตัวผู้กำกับแมทธิว วอห์น เลือกที่จะเพิ่มความหลุดโลก ความเหนือจริงเข้ามาอีก จึงเป็นเหตุทำให้ฉากต่อสู้หลายฉากในภาพยนตร์กลายเป็นฉากตลกขบขันมีสีสันท่ามกลางความโหดร้ายทารุณ เลือดสาดกระจายได้อย่างน่าสนใจ ซึ่งจุดนี้กลายเป็นจุดที่ตัวภาพยนตร์ทำออกมาได้โดดเด่นและน่าจดจำมากที่สุดเลยทีเดียว
อีกสิ่งที่บันเทิงสุดๆเลย ก็คือการกำกับฉากต่อสู้ของแมทธิว วอห์นซึ่งยังคงยอดเยี่ยม และสวยงามเช่นเคย เขายังคงพิสูจน์ว่าเขาคือผู้กำกับที่รู้จักวิธีการสร้างฉากต่อสู้ให้สวยงาม อลังการ น่าติดตาม และรู้จุดวางกล้อง การเคลื่อนที่ของกล้องหรือตัวละครเป็นอย่างดี ซึ่งความสามารถนี้ดูจะเป็นสิ่งที่เริ่มหายากขึ้นทุกทีในตัวผู้กำกับภาพยนตร์แอ็คชั่นของฮอลลีวูดสมัยนี้
ยิ่งผนวกฉากต่อสู้เข้ากับอารมณ์หลุดโลก ขบขันของตัวภาพยนตร์ก็ยิ่งทำให้ Kingsman : The Secret Service กลายเป็นภาพยนตร์ที่รู้สึกน่ามองและน่าติดตามอยู่ตลอดเวลาเลยทีเดียว
ถึงกระนั้นก็ตาม เมื่อเราลงไปสำรวจและวิเคราะห์ตัวบทภาพยนตร์จริงๆแล้ว ก็จะพบได้ไม่ยากว่า นี้ไม่ใช่ภาพยนตร์แอ็คชั่นที่มีบทภาพยนตร์อันน่าจดจำหรือยอดเยี่ยมแต่อย่างใด
เอาเข้าจริงแล้วบทภาพยนตร์ของ Kingsman : The Secret Service นั้นค่อนข้างจะซ้ำซาก และเดาง่ายด้วยซ้ำไป
โดยเฉพาะในด้านของตัวละครต่างๆในภาพยนตร์ ตั้งแต่อาจารย์ผู้ซึ่งพยายามจะชดใช้ในสิ่งที่ทำผิด , ตัวร้ายซึ่งเห็นว่าโลกเต็มไปด้วยความชั่วร้ายหรือโรคร้ายที่จะต้องกำจัด , คู่แข่งของตัวละครเอกซึ่งต้องพยายามทำตัวน่ารังเกียจอยู่ตลอดเวลา , พ่อเลี้ยงที่ตบตีแม่ของตัวละครเอก ไปจนถึงตัวละครเอกเองซึ่งต้องพยายามพิสูจน์ตัวเอง และเดินตามรอยเท้าของพ่อตนเองให้ได้
ที่ซ้ำร้ายเข้าไปอีก ก็คือการผูกปมต่างๆในแต่ละตัวละครและเนื้อเรื่อง ของแมทธิว วอห์น ค่อนข้างจะเล่าออกมาได้แย่ ลวก และไม่น่าเชื่อถือ เป็นเหตุทำให้ตัวละครเหล่านี้ไม่น่าเอาใจช่วยหรือน่าติดตามเท่าที่ควร
จริงๆแล้วในด้านเนื้อหาที่ตัวภาพยนตร์พูดถึงเองก็น่าสนใจไม่ใช่น้อย ด้วยการเสียดสีระบบชนชั้นของสังคม การเมือง และการนำเรื่องราวของสภาวะโลกร้อนที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันมาพูดถึงได้อย่างน่าสนใจ น่าเสียดายที่ประเด็นทั้งหลายยังเจาะไม่ลึกพอที่จะทำให้รู้สึกว่าควรจะนำไปขบคิดหรือน่าจดจำซักเท่าไรนัก
สุดท้ายแล้ว Kingsman : The Secret Service ก็ยังคงไม่ใช่ภาพยนตร์ที่จะมาเปลี่ยนแปลงกระแสภาพยนตร์แอ็คชั่นที่กำลังย่ำแย่อยู่ในตอนนี้มากนักซะทีเดียว เนื่องจากบทภาพยนตร์อันซ้ำซาก ตัวละครที่ไม่น่าสนใจ ไปจนถึงการผูกปมตัวละครที่ลวกเกินไป ยังถือว่าโชคดีที่การกำกับฉากแอ็คชั่นของแมทธิว วอห์น และการแสดงของ โคลิน เฟิร์ธ รวมถึง ซามวล แอล แจ็คสัน ยังดีพอที่จะลากตัวละครอันแสนน่าเบื่อเหล่านี้ไปได้บ้าง และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ก็คือการตัดสินใจรับความหลุดโลก เหนือจริงของตนเองเข้ามาใช้ให้เป็นจุดแข็งในตัวภาพยนตร์ ก็เป็นการตัดสินใจที่ฉลาดและทำให้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอย่างน้อย Kingsman : The Secret Service ก็เป็นภาพยนตร์ที่บันเทิงมากที่สุดเรื่องหนึ่งในต้นปี 2015 นี้ ถึงแม้ว่าอาจจะไม่น่าจดจำเท่าที่ควรก็ตาม
Final Score : [ B ]
ถ้าหากท่านชอบบทวิจารณ์ก็อย่าลืมเข้าไปกดไลค์แฟนเพจและอย่าลืมบอกเพื่อนๆต่อไปด้วยนะคร้าบ
[Link]
[Link]
Popular News
แสดงความคิดเห็น
Ben 10
สรุปได้ว่าของดีแต่ยังดีไม่สุด สินะ
drof666
ถ้าคุณชอบ kick ass คุณจะรัก Kingsman
toranin
Alex Rider Strombreaker , The Avengers(1998) , Austin Powers , Mission Impossible , James Bond 007 , Spy Kids etc. เอาจริงๆหนังสายลับมันก็ซ้ำซากหาความแปลกใหม่ยาก อันนี้ต้องยอมรับจริงๆว่ายุคนี้มันยังไม่มีหนังสายลับเรื่องใหม่ ที่แปลกใหม่ แบบพลิกวงการหนังสายลับ