Apple - Perspective คลิปเทพจากงานเปิดตัว iPhone 6 / Apple Watch
คลิปนี้ใช้เปิดตอนเริ่มเข้างาน บิ๊วอารมณ์คนดูได้ดีเยี่ยมก่อน Tim Cook ขึ้นเวที
เรียกว่ามหาเทพทั้งงาน production และ copy writing แนะนำว่าต้องดู
ผมชอบจนต้อง transcribe และแปลไทยให้เลย
"Here's to those who have always seen things differently. ถึงผู้ที่มีมุมมองแตกต่างอยู่เสมอ
The ones who follow a vision, not a path. ผู้ที่เดินตามวิสัยทรรศน์ ไม่ใช้ไปตามทาง
Where others perceive first as valuable, บางคนให้คุณค่ากับการเป็น "คนแรก"
you value the first thing that actually matters. แต่คุณให้คุณค่ากับ "สิ่งแรก" ที่มันสร้างความแตกต่าง
While others distracted by the new, ในขณะที่คนอื่นหลงทางไปกับของใหม่
you focus on the significance of a whole new take. คุณแน่วแน่อยู่กับความพยามสร้างสิ่งใหม่
Even before you could see how, ถึงแม้ในขณะนั้นคุณยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
you never doubted we would change things. แต่คุณไม่เคยสงสัย ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
And then we did. Together. Again and again. และเราก็ทำได้ ด้วยกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า
Relentless optimism is what moves the world forward. การคิดบวกอย่างไม่หยุดยั้ง คือสิ่งที่ทำให้โลกก้าวไป
So keep seeing things differently. ดังนั้นขอให้มองต่างอยู่เสมอ
Keep trusting there is always another way, ให้เชื่อมั่นเสมอว่า ต้องมีหนทางอื่น
a better way, a bigger way. ทางที่ดีกว่า และยิ่งใหญ่กว่า
One that lifts up humanity. เพื่อยกระดับมนุษยชาติ
Breaks down our barriers. ก้าวข้ามอุปสรรค
And heals the landscape. และประสานโลกของเรา
You are the difference between the world as it was คุณคือความแตกต่างระหว่างโลกในแบบที่เป็นอยู่
and the better place it will become. และโลกที่จะดีขึ้น
And different is the one thing about us และ "ความแตกต่าง" เป็นสิ่งเดียวระหว่างเรา
that will always be the same." ที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ต่อยอดจากตำนาน Think Different ที่เป็นโฆษณาในปี 1997 ที่ออกภายหลัง Steve Jobs กลับมาคุมบังเหียน Apple ที่ตอนนั้นเกือบจะเจ๊ง จนกลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
Think Different: หนึ่งแคมเปญโฆษณาที่ดีที่สุดของโลก
ส่วนคลิปนี้ นักการตลาดควรดูไว้ Steve Jobs พรีเซนต์คอนเซปท์โฆษณา Think Different ให้พนักงาน Apple ฟัง
เรียกว่ามหาเทพทั้งงาน production และ copy writing แนะนำว่าต้องดู
ผมชอบจนต้อง transcribe และแปลไทยให้เลย
"Here's to those who have always seen things differently. ถึงผู้ที่มีมุมมองแตกต่างอยู่เสมอ
The ones who follow a vision, not a path. ผู้ที่เดินตามวิสัยทรรศน์ ไม่ใช้ไปตามทาง
Where others perceive first as valuable, บางคนให้คุณค่ากับการเป็น "คนแรก"
you value the first thing that actually matters. แต่คุณให้คุณค่ากับ "สิ่งแรก" ที่มันสร้างความแตกต่าง
While others distracted by the new, ในขณะที่คนอื่นหลงทางไปกับของใหม่
you focus on the significance of a whole new take. คุณแน่วแน่อยู่กับความพยามสร้างสิ่งใหม่
Even before you could see how, ถึงแม้ในขณะนั้นคุณยังไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
you never doubted we would change things. แต่คุณไม่เคยสงสัย ว่าเราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ได้
And then we did. Together. Again and again. และเราก็ทำได้ ด้วยกัน ครั้งแล้วครั้งเล่า
Relentless optimism is what moves the world forward. การคิดบวกอย่างไม่หยุดยั้ง คือสิ่งที่ทำให้โลกก้าวไป
So keep seeing things differently. ดังนั้นขอให้มองต่างอยู่เสมอ
Keep trusting there is always another way, ให้เชื่อมั่นเสมอว่า ต้องมีหนทางอื่น
a better way, a bigger way. ทางที่ดีกว่า และยิ่งใหญ่กว่า
One that lifts up humanity. เพื่อยกระดับมนุษยชาติ
Breaks down our barriers. ก้าวข้ามอุปสรรค
And heals the landscape. และประสานโลกของเรา
You are the difference between the world as it was คุณคือความแตกต่างระหว่างโลกในแบบที่เป็นอยู่
and the better place it will become. และโลกที่จะดีขึ้น
And different is the one thing about us และ "ความแตกต่าง" เป็นสิ่งเดียวระหว่างเรา
that will always be the same." ที่จะไม่มีวันเปลี่ยนแปลง
ต่อยอดจากตำนาน Think Different ที่เป็นโฆษณาในปี 1997 ที่ออกภายหลัง Steve Jobs กลับมาคุมบังเหียน Apple ที่ตอนนั้นเกือบจะเจ๊ง จนกลายมาเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก
Think Different: หนึ่งแคมเปญโฆษณาที่ดีที่สุดของโลก
ส่วนคลิปนี้ นักการตลาดควรดูไว้ Steve Jobs พรีเซนต์คอนเซปท์โฆษณา Think Different ให้พนักงาน Apple ฟัง
Popular News
แสดงความคิดเห็น
บอกตามตรง ตอนนี้เค้าเป็นแค่ ผู้ตามที่ดี และพยายามจะสร้างความประทับใจในการใช้งานผลิตภัณฑ์เสียมากกว่า อารมณ์คล้ายๆ ของจีนที่ลอกมาแล้วพยายามปรับ แต่จีนมันยังไม่ทำให้ฟีลกู้ดได้แบบ แอปเปิ้ล
มี innovation ทางด้าน hardware มีการคิด input method ใหม่ๆ เช่นเม็ดมะยมและจอ pressure sensitive ที่น่าจะมีประโยชน์มากในจอเล็กๆ แบบนาฬิกา
ในขณะที่ฝั่ง Android ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้เท่าไหร่นัก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นพวก smart watch ผมรอให้มันมี GPS ก่อน เอาแบบไปใส่วิ่งได้โดยไม่ต้องพกมือถือไปด้วยแล้วจึงจะพิจารณา ตอนนี้ใช้พวก Garmin ไปก่อน ในวันธรรมดาขอใช้นาฬิกาจักรกลไปก่อนและกัน
ผมกลับชอบไอ้ตัวนี้ และ Android wear มากกว่านะ คาดว่าถ้าของพวกนี้บูม มันจะมาแข่งกันที่หน้าตา ความสวย จำนวนพิกเซลให้ดู ปึ้กยิ่งกว่านี้อีกอะ
Apple Watch ผมก็ไม่ชอบ มันดีไซน์ของเล่นไปหน่อย ให้ใส่ทำงานไม่เอาแน่ๆ Rolex, IWC, Omega, Patek เวิร์คกว่าเห็นๆ
วัดด้าน software Android wear ณ ปัจจุบันก็กากพอได้ ดูจาก keynote ในเรื่อง software Apple ดูเหนือกว่าพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอดูของจริง
ถ้าบางกว่านี้ จะสวยเต็ม 100% เลย ตอนนี้ยังเหม่งๆอยู่
ปัญหาคือดีไซน์ยังกะของเล่น หน้าตาย้อนยุคยังกะ iPod Classic
Moto360สวยสุดนะตอนนี้ แต่เสืรอกอา45nm ตอนสมัย driodx มาใส่ กินไฟเป็้น ไม่ยอมใช้พวก snapdragon หรือรุ่นใหม่ๆ มันคงเอาของเก่าเมื่อ 2ปีที่แล้วมาเคลียร์ stock ละมั้ง
ส่วนwatchนี้ผมชมไอ้ตัวหมุนๆของมัน คิดได้ดีมากกว่าระบบ card ของ android อีกเพราะมันทำให้มี app เป็นสิบร้อยๆก็ไม่เป็นไร
แต่ apple สำหรับ watch นะครับ ต้องไปเน้นพวก fitness หลักๆละอย่ามาชนเรื่อง notification กับด๋อยเลย เพราะสู้ Google now ไม่ได้หรอก มันเทพจริงๆ