ถ้าทำจริง คะแนนหายหมด
แต่ถ้าไม่ทํา ตังมาจ่ายค่าต่างๆเริ่มไม่พอ

คงโยนหินถามทาง สุดท้ายไม่น่ากล้าทำ
แต่เอาจริงควรขึ้นจาก 7% เป็น8%9%10%ทีละขั้น

โยนหินถามทางแน่นอน ถ้าจะขึ้นน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 8 รึ 10% ตามที่ควรจะเป็นในสมัยก่อน ซึ่งผลกระทบมันคือข้าวของ ค่าครองชีพที่แพงอยู่แล้ว ก็จะยิ่งแพงชิบหาย เกินค่าแรงไปอีกไกล ซึ่งแน่นอนในทางการเมืองมันกระทบฐานเสียงคงไม่กล้าขึ้น ถ้าเกิด ขึ้นมันยิ่งสะท้อนว่าชิบหายมาก ๆ ในระยะยาว เพราะหมายความว่า 7% มันเอาไม่อยู่แล้ว เพราะดันใช้เงินโง่เกินเบอร์ไป
รึไม่ก็ไม่คิดจะเป็นต่ออยู่แล้วทำชิบหาย ปล่อยจอยแล้วก็หนีเหมือนเดิม

จริง ๆ ถ้าใช้ภาษีให้ฉลาดขึ้น ลดความกากขยะ ในระบบราชการ ( ซึ่งมันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ไม่กล้ามีใครแตะ แตะเมื่อไหร่เจริญเมื่อนั่น เลยไม่แตะกัน) มันก็ได้กลับคืนมาเยอะแล้วนะ อีกวิธีนึงคือไม่เข้มกับพวกควรจ่ายภาษีแต่ไม่ยอมจ่ายก็ได้อีกเยอะ

VAT มัน Easy เพราะหนีกันยาก เก็บได้ง่ายกว่าด้านบน แต่มันก็กระทบกับคนเป็นวงกว้างเหมือนกัน

vat มันต้องขึ้นตามเวลาอยู่แล้วครับ
แต่ 15%นี่มากไปหน่อย สำหรับไทย

ผมว่าโยนหินก่อนขึ้น ที่ไม่ใช่15

มีแผนจะขึ้นมาหลายปีแล้วครับ

เอาจริงบ้านเรามีกิจการที่ใช้เงินสดแล้วไม่จ่ายภาษีเยอะเกินไป เวลาสัมภาษณ์ พวกนักการเงิน แบงค์ มาทีไรก็บอกให้ขึ้น VAT แต่ถามจริงว่าถ้าเศรษฐกิจไม่ดี แล้วคนไหนกล้าขึ้นภาษีตัวนี้ตำแหน่งทางการเมืองอาจจะไม่มั่นคงได้ครับ

อีกเรื่องคือถ้าอำนวยให้กิจการมันทำตัวให้จากเล็กจิ๋วมาเข้าระบบจ่ายภาษีง่ายๆ เป็นกิจการระดับกลางเยอะขึ้น ก็น่าจะดีแต่คนทั่วไปจะยอมกันไหม เพราะคนไทยรักอิสระมากกว่า

เรื่องที่เรา ยั้งไว้ 7% แล้วมีแพลนจะขึ้นมาหลายปีอันนี้พอทราบครับ แต่จำตัวเลขไม่ได้จริงๆ ว่าแผนที่จะขึ้นมาหลายปีนั้นคือตัวเลข 15% หรือไม่

เห็นว่าตอนนี้ยอมถอยเรื่อง 15% แล้ว

ข่าวปี60

[Link]

ข่าวปี61

[Link]

หลักๆ คือ บ้านเราเก็บ VAT 10% อยู่แล้ว
แต่ออกกฎหมายมาลดเหลือ 7% ตั้งแต่ปีแรก แล้วก็ต่อมาเรื่อยๆถ้าวันไหนไม่ออกกฎหมายมาต่ออายุ ก็จะเป็น 10% อัตโนมัติ

ผมก็เข้าใจว่า 10% เลยตกใจที่เห็ยมีข่าว 15%

พอตามอ่านก็เข้าใจมากขึ้นละครับ