Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Metaphor: ReFantazio คะแนนรีวิว GOTY!?

Reply
Vote
# Sun 27 Oct 2024 : 6:31PM

Rattasit Lee
member

Since 2015-07-18 01:33:32
(125 post)
GOTY อาจจะ Spoil แน่ๆ เรื่องเมสเสจ ข้ามได้ข้ามครับ

เล่นจบแล้ว โหมด hard 100 ชม. ++ follower เต็มทุกคน มีเปิดทิ้งไปหาไรกินบ้าง หลับบ้าง

พูดตรงๆ เกมนี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไร ไม่ได้มีเมสเสจลึกซึ้งระดับเปลี่ยนชีวิต แต่กลับอินได้ซะงั้น แบบมันมีอะไรบางอย่างที่กินใจแบบบอกไม่ถูก ขนาดเรื่องมันไม่ได้ใหม่ แต่วิธีเล่าในแบบแฟนตาซีนี่แหละที่ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับตัวละครแบบไม่รู้ตัว

เกมมันสำรวจประเด็นเกี่ยวกับชนชั้น การเหยียดเชื้อชาติ และการครอบงำทางศาสนาในสังคม ผ่านคำถามที่ว่า "แฟนตาซีมีพลังเปลี่ยนแปลงความจริงได้หรือไม่?" (ซึ่งก็เชื่อว่ามีนักคิด นักเขียนหลายคน ที่เขียนเรื่องนี้กันมาเยอะแล้ว) การใช้โลกแฟนตาซีเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นจริง ทำให้ตอนเล่นเราเริ่มคิดถึงว่าเรื่องราวที่ดูเหมือนจะไกลตัวนั้นสามารถส่งผลต่อสังคมและแนวคิดของคนทั่วไปยังไง แค่ผ่านการเล่าด้วยเกม แน่นอน โลกเรามีคนแยกเรื่องจริงเรื่องแต่งไม่ออกจนเป็นอันตรายต่อสังคมเต็มไปหมด (escapism at its best ) แต่เกมก็โจมตีกันตรงๆเลยว่าการเชื่อมั่นในความเป็นจริง โดยไม่มีความหวังจะเปลี่ยนแปลงอะไรเลย มันน่าสิ้นหวังกว่าการลุกขึ้นสู้เสียอีก ก็ถือว่าเป็น Persona 5 ที่โด๊ปมามั้ง กับความพยายามจะสาธยายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสังคมน่ะ

ประเด็นสำคัญอย่างเผด็จการศาสนา (theocracy) ที่ต้องการครอบงำการปกครองโดยใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือก็อ่านฟังสนุก ก็เหมือนกับยุคกลางในยุโรปที่คริสตจักรมีอำนาจสูงสุดในรัฐ (ที่ว่าอำนาจและความรู้สามารถควบคุมความเชื่อและมุมมองของคนได้ และศาสนาเป็นตัวกำหนดให้ผู้คนทำตามโดยไม่ตั้งคำถาม) ทั้งที่ในรัฐประชาธิปไตยที่ไม่มีศาสนาประจำชาติ มักจะมีความหลากหลายทางศาสนาและวัฒนธรรมที่อิสระ การไม่มีศาสนาประจำรัฐทำให้ผู้คนจากหลากหลายความเชื่อสามารถอยู่ร่วมกันได้ การที่รัฐเลือกจะไม่มีศาสนาประจำชาติยังเปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถแสดงความเชื่อของตนเองได้อย่างเสรีโดยไม่มีการแบ่งแยกหรือกดขี่จากศาสนาหนึ่งไปสู่อีกศาสนา เพราะงี้สถานการณ์ในเกมสะท้อนถึงความพยายามของกลุ่มศาสนาที่ต้องการครอบงำการปกครองโดยอ้างความศักดิ์สิทธิ์ในการควบคุมคนที่เห็นต่าง

เกมมันไม่ได้แค่ให้เราอยู่ในแฟนตาซีสวยหรู แต่ให้เราเลือกด้วยว่าจะละทิ้งมันไปไหม ในฉากที่ตัวเอกต้องเลือกระหว่างการอยู่ในโลกที่ไม่มีเวทมนตร์ ไม่มีอะไรดีสักอย่างกับการกลับไปช่วยเพื่อนในโลกแฟนตาซีที่เขาเชื่อมั่น ตรงนี้มันสะท้อนว่าแฟนตาซีและความฝันของตัวเอกมันโคตรจะสำคัญ การที่เขาเลือกกลับไป ทำให้เห็นว่าแฟนตาซีเป็นที่ที่เขาเลือกจะสร้างความยุติธรรมและการเปลี่ยนแปลง นี่แหละคือพลังของการจินตนาการ ของสื่อบันเทิง ที่ว่ามันช่วยให้คนตั้งคำถามและสร้างความเปลี่ยนแปลงในโลกจริงได้

พลังของแฟนตาซี และความเชื่อมโยงกับความจริงแบบชัดๆ
-ที่หลบหนีและเยียวยาทางใจ
-ปลูกฝังแนวคิดโดยใช้สัญลักษณ์
-การทดลองเชิงความคิด: โลกแฟนตาซีในเกมมันเหมือนกับที่ให้เราได้ลองตั้งคำถามกับบรรทัดฐานในสังคม เช่น แนวคิดศาสนาที่กดขี่ผู้คน แบบ Sanctism ที่ถูกยกมาในเกม ให้คนในโลกเกมเชื่อในอะไรที่ “ศักดิ์สิทธิ์” เพื่อให้คนกลัวและเชื่อฟังแบบไม่ตั้งคำถาม
-การท้าทายความจริงที่เคยเชื่อถือ: เกมตั้งคำถามใหญ่ให้กับตัวเอก ให้เราเลือกว่าจะทิ้งแฟนตาซีที่โหดร้าย ไม่มีเวทมนตร์ ไม่มีอะไรสวยงาม หรือจะอยู่ในโลกแฟนตาซีต่อ ซึ่งแน่นอนว่าตัวเอกเลือกกลับไปช่วยเพื่อนๆ สู้กับการกดขี่ทางสังคม เกมมันสื่อว่าการยึดมั่นในอุดมการณ์ของตัวเอง คือสิ่งที่มีพลังที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในโลกจริงหรือแฟนตาซี
-แฟนตาซีกับการเมือง: แนวคิดที่ว่าแฟนตาซีมันมีพลังเปลี่ยนแปลงความจริงได้คล้ายกับสื่อหรือศิลปะในโลกจริง ที่มันกระตุ้นให้เราฉุกคิด ตั้งคำถาม และบางทีก็ทำให้คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงสังคม เหมือนที่พวก Sanctism ในเกมใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือควบคุมคนให้เชื่อและทำตาม เกมมันใส่สิ่งนี้มาแบบโคตรตรงว่า โลกจริงก็มีคนใช้ศาสนาเป็นเครื่องมือแบบนี้แหละ
- ความหวังและแรงบันดาลใจ: การเลือกกลับไปยังโลกแฟนตาซีแสดงถึงความหวังในการสร้างโลกที่ดีกว่า ด้วยการใช้พลังของในการช่วยเหลือผู้อื่น ตัวเอกกลายเป็นสัญลักษณ์ของความหวังและการต่อสู้ในโลกที่เต็มไปด้วยอุปสรรค

เกมนี้ไม่ใช่เกมที่จะซับซ้อนระดับโคตรปรัชญาอะไร แต่กลับทำให้เรามองแฟนตาซีเป็นเครื่องมือสร้างพลังใจให้คนลุกขึ้นสู้ ผมชอบที่ Metaphor ไม่ได้บังคับให้เราเชื่ออะไร (แรกๆอวยหนังสือ Fantasy เหมือนฝ่ายซ้ายยุค 1900s อวยหนังสือคอมมี่ สุดท้ายก็ยอมรับว่า มันเป็นจริงไม่ได้) มันโจมตีหมด อย่างถึงแม้ในเกมจะการเลือกตั้ง ที่คนได้ประโยชน์ คือคนที่มีแบ็คและมีอำนาจอยู่แล้ว หรือโจมตีพวกเบียวทหาร Military dictatorship ถ้าจะมีจุดให้ไม่ชอบนิดๆ ก็คงเป็นฉากที่ตัวเอกขึ้นเป็นราชา (โคตรจะเบียว แบบเล่นมาทั้งเกมก็หวังให้มันเปลี่ยนระบอบการปกครอง แบบ disposition ตัวเองออกจาก political agenda เทือกนั้น แต่ด้วยแนวคิด และค่านิยมผู้คนในเกมก็ทำให้เข้าใจได้แหละ ไม่ต่างอะไรจากหลายๆประเทศตอนเปลี่ยนแปลงการปกครอง) แต่เมสเสจของเกมที่เน้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงโลกมันชัดจนเรายอมมองข้าม เพราะตัวเอกไม่ได้เป็นแค่ผู้นำ แต่เป็นตัวแทนของคนที่อยากเปลี่ยนแปลงโลกให้ดีขึ้น เหมือนเกมมันสื่อว่าถ้าเราเชื่อมั่นในอะไรสักอย่าง สุดท้ายมันจะสร้างผลกระทบได้จริงๆ (+ ความ JRPG กลุ่มตัวเอกมันก็ดีแสนดี ก็มองข้ามไปได้)

เกมมันสื่อประเด็นทางสังคมผ่านแฟนตาซีที่สนุกและเข้าถึงง่าย (แม้จะตรงไปตรงมามากกกก แต่ในฐานะเกมเนื้อเรื่องผมคาดหวังประมาณนี้แหละ) นี่ยังไม่นับรวมประเด็นเรื่อง anxiety นะแต่ขี้เกียจพิมพ์แล้วยาวเกิน ซึ่งจะไม่แปลกถ้าเกมจะได้รางวัลอะไรติดไม้ติดมือกลับมาบ้างในงานใหญ่ๆ ซึ่งในฐานะเกมผมว่า 7rebirth อาจมีภาษีดีกว่า ผมเล่นแล้วสนุกกับการสู้ การจัดทีมและการสำรวจไรมากกว่าด้วย ซึ่งทุนมันก็ต่างกันมากอ่ะนะ และก็คิดว่าอาจได้รางวัลใหญ่ แต่ก็หวังให้เกมนี้ได้ SE มันจะได้มีแรงฮึดขึ้นมาบ้าง ว่าเกมกูกระแสดีขนาดนี้ยังแพ้

ปล. ถ้ามีอะไรให้ติริดจริงๆ คือกราฟฟิคกากมาก ผมชอบงานอาร์ตนะ ถูกใจ ไม่ได้ปวดตาลายตาเหมือนหลายคน แต่ตัวความละเอียดนี่ผมร้อง ไอเวรเอ๊ยยย ในหลายๆโมเม้นต์ เหมือนเกม PS3 แท้ๆ โชคดีไม่ใช่สายกราฟฟิค สวยก็อาหารตา ไม่สวยจะได้ไปโฟกัสอย่างอื่น
[Edited 3 times Rattasit Lee - Last Edit 2024-10-27 18:35:48]
View all 3 comments >
Sun 27 Oct 2024 : 7:06PM

Quartraz
member

Since 2014-03-29 20:38:08
(6540 post)
ถ้าเรื่องล้อการเมือง ผมว่าซีนนี้จี้ใจดำสุดละ
ไม่ก็ dev แมร้งมีความแค้นไรสักอย่างอะ ถึงคิดมุขนี้


Sun 27 Oct 2024 : 8:18PM

MyMarou
member
แอ๊บแบ้ว แอบเสี้ยม
Since 5/12/2009
(30407 post)
เผ่าปาริปัสเฟอรี่ อิงคนดำชนชั้นแรงงาน เผ่ายูจิฟคนเอเชีย ตัวเล็ก ไม่ค่อยสุงสิงกับคนนอก เสียดายไม่มีซีนเคลียใจให้ลุงไฮซ์เมกับบาซิลิโอ้เลย


Sun 27 Oct 2024 : 10:58PM

ALHAZARD
member

Since 2016-03-11 14:19:17
(95 post)
ผมว่า SE คงยังคิดไม่ได้หรอกครับ คงแนว ๆ ระบบ เหมือน FF5 Bravely ตูทำมาก่อนเป็นชาติแล้ว
เพราะก็ยังมีคนบอกระบบเกมทำให้นึกถึง FF5 Bravely
แต่ถ้าต่อไปจะมีคนพูดว่า เกมมีระบบ job เหมือน Metaphor เลยอันนี้ละน่าคิด เพราะนั้นแปลว่า SE จะไม่ได้
เป็นค่ายเกม rpg แรกในหัวผู้เล่นแล้ว


Reply
Vote




6 online users
Logged In :