เคยบอกว่ามันเหมือนภาคแรก แต่ตอนจบนี่ต้องเปลี่ยนใจละ มันด้อยกว่าภาคแรกประมาณ 30% เลย ทั้งเนื้อหาทั้งเกมเพลย์ ภาคแรกโดนวิจารณ์ว่าเนื้อเรื่องมันขาดๆเกินๆยังไง แต่มันก็ยังมีบอสมังกรที่เจ๋งที่สุดตัวนึงจนหาคนเอาลงยาก ทั้งไดอะล็อค เสียงพากย์ เนื้อเรื่องช่วงท้าย งานกำกับ มันสุดยอดมากเลย ตั้งแต่วิ่งหนีมังกร เดินกลับเมือง ตกลงไปใน everfall ไปเจอกับ senechal ทั้งงานศิลป์งานเสียง ไม่นับเกาะ dlc ที่ดีทั้งงานออกแบบ เกมเพลย์ เสียง และเนื้อหา อันนี้ขนาดไม่คาดหวังเนื้อเรื่องยังอิหยังวะได้

แล้วมอนมันมีเยอะกว่าสี่ห้าชนิดเองมั้ง แม็พใหญ่ขาลากแต่ก็เจอไรซ้ำๆ ซอกซอย ทางแยกมีเพียบ แต่ของรางวัลดันไม่คุ้มเท่าไหร่ ยิ่งระบบพัฒนาตลค.นี่ผมเสียดายใหญ่เลย ภาคแรกมันเหมือนเป็นฝันของคนที่อยากลองผสมอะไรหลายๆอย่างอ่ะ

คือที่ภาค 2 มี wayferer ผมเฉยๆกับจำนวนสกิลที่ใส่ได้นะ เพราะเปลี่ยนอาวุธระหว่างสู้ มันก็มีทักษะเฉพาะอาวุธอยู่แล้ว แถมใส่เกราะได้ทุกอย่าง มอนก็กากกว่าภาคกแรก ถ้าใส่ทุกท่าได้ เกมง่ายทันที แต่ที่ผมว่าน่าเสียดายคือไอเดีย และความเป็นเอกลักษณ์มากกว่า

ภาคแรกถ้าชอบนักรบ อัศวิน แต่อยากใช้เวทย์ ก็มี mystic knight เปลี่ยนไปใช้คฑาก็ได้ ดาบ ตะบองก็ไหว ชอบนักธนู แต่อยากเป็นทั้งโจร ทั้งจอมเวทย์ ก็มี magick archer ใช้ได้ทั้งของมีด ธนู คฑา ซึ่งคิดๆดูแล้ว มันดันเล่นสนุกกว่า wayferer ที่เน้นจับฉ่าย คือโดยไอเดียมันก็ไม่ผิดหรอก เพราะภาคแรกมันกะผสมให้มันเป็นของใหม่ ภาคสองมันผสมเพื่อให้เล่นอะไรที่อยากเล่นได้ทันที แต่ดันออกมาครึ่งๆกลางๆเกิ๊น ระบบพัฒนา pawn ก็ด้อยกว่า เปลี่ยนนิสัย เปลี่ยน inclination การเรียนรู้จากเจ้าของ pawn ได้ไม่ละเอียดเท่า

สองเดือนนี้เจอทั้ง 7R ทั้ง DD2 ผลาญเวลาชีวิตเพียบแต่ยังไม่คิดว่าอิ่มเอมเท่าไหร่ แต่ตอนเล่น BG3 จนใกล้จะจบ กลับรู้สึกว่าคุ้มจนไม่ต้องซื้อเกมอื่นเล่นก็ยังได้ สงสัยต้องไปขุดกลับมาเล่นต่อจริงๆ ดันผ่าลัดคิวมาเล่นสองเกมนี้ก่อน ทำเอาฝืดเลย5555