Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
[Review/PS4] Idol M@ster : Starlit Season ไอมาส��าคที่ดีที่สุดอีก 1 ��าค

Reply
Vote
# Mon 25 Oct 2021 : 8:35PM

NeKoCh@n
member

Since 18/3/2006
(2877 post)


นั่งเล่นยาวตั้งแต่วันที่ 14 จนเพิ่งจบครับเมื่อไม่กี่วันก่อน และเพิ่งจะมีเวลาเขียนรีวีวครับ ใช้เวลาไปราวๆ 60-70 ชั่วโมง และยังน่าจะเล่นต่อได้อีกซักพักเพื่อเก็บอะไรต่างๆให้ครบ เห็นไม่มีใครพูดถึงก็เลยขอรีวีวตัวเกมในด้านต่างๆนะครับ



เนื้อเรื่อง

เท่าที่เข้าใจ เหมือนเนื้อเรื่องจะต่อจากซักภาคที่พระเอกหรือตัวเราต้องเดินทางไปอเมริกาเพื่อเรียนรู้งานเกี่ยวกับไอดอลเพิ่มเติม และเมื่อกลับมาถึงก็มี Project ใหม่เข้ามาพอดีในชื่อ Starlit Season โดยได้ร่วมมือกับไอดอลอีก 3 ค่ายเพื่อสู้ศึกนี้และปั้นไอดอลตั้งแต่เดือน 4 จนถึงเดือน 11 ให้ชนะ 4 เวทีเพื่อได้เข้าไปแข่งตัดสินผู้ชนะใน Starlit Dome ที่จะจัดขึ้นในเดือน 12 และเมื่อเป็นเนื้อเรื่องต่อหลังจากกลับจากอเมริกา ดังนั้น 13 ไอดอลใน 765 จึงจะออกแนวรู้จักและสนิทกับเราดีตั้งแต่ต้น อีกทั้งมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย (มั้ง) เป็นเหมือนรุ่นพี่ให้กับไอดอลใหม่ที่มาจากอีก 3 ค่าย

ภาคนี้ต้องบอกเลยว่าทีมงานจัดเต็มมากกับตัวเนื้อเรื่อง เพราะเนื้อหาอัดแน่นแบบสุดๆ มีอีเว้นเนื้อเรื่องหลักแทรกตลอดการเล่น และอีเว้นพิเศษๆอีกมากมายเช่นร่วมมือกันจัดกิจกรรมอะไรซักอย่าง รวมถึงการไปแคมป์ฝึกฝนด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เห็นเนื้อเรื่อง Mix กันของตัวละครข้ามค่ายมากมายและสนุกสนานชวนให้ยิ้มได้ตลอด อย่างเช่นการแย่งโซฟาของมิกิกับอันสึ และอีเว้นเฮฮาของ 2 คู่แฝด และนี่คือยังไม่รวมอีเว้นที่ต้องปลดจากการเพิ่มค่าความสัมพันธ์ของตัวละครหลายๆตัวด้วย ที่มีถึงตัวละ 12 ระดับ คือจัดเต็มจนภาคก่อนๆนี่อายเลย อาจจะเป็นเพราะ 2 ภาคที่แล้วโดนด่าว่าแทบไม่มีเนื้อเรื่องก็ได้มั้ง (ฮา)

แม้แต่ไอดอลของ 961 ที่เป็นคู่ปรับกับเราเสมอมา ก็ดึงเอาตัวเด่นของภาคเก่าอย่างเลออนและชิกะ กับไอดอลหน้าใหม่มาเป็นยูนิต 3 คน ซึ่งก็จะมีอีเว้นระหว่างตัวละคร 3 คนนี้เรื่อยๆ และหลังจบเกมยังมี Bonus พิเศษสำหรับการเล่นรอบ 2 ที่เราสามารถ NTR...เอ้ย สามารถเพิ่มความสำพันธ์กับทั้ง 3 คน รวมถึงทำการ Produce บางอย่างได้ แถมยังได้เห็นมุมน่ารักๆของประธาน 961 ที่เป็นคู่ปรับตลอดกาลของเราด้วย ถ้าจะเล่นให้ครบ เอาเป็นว่าหากใครที่ชอบเนื้อเรื่องแบบจัดเต็มละก็ ภาคนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน



ระบบเกมทั่วไป

ระบบทั่วไปก็จะคล้ายๆกับเกมภาคก่อนๆ นั่นคือเราต้องทำการฝึกฝนเพิ่มค่าพลังให้ไอดอลผ่านการเล่นมินิเกม 3 แบบ แบ่งเป็น Voice Dance และ Visual เช่นเคย โดยเป็นมินิเกมที่เล่นง่ายๆ (แต่ระดับหลังๆก็ยากขึ้นพอสมควรนะ) และสิ่งที่เพิ่มมาในภาคนี้คือเราสามารถฝึกแบบออโต้ได้ ไม่จำเป็นต้องเล่นมินิเกมตลอด แต่น่าจะเป็นระบบสำหรับการเล่นหลังจบมากกว่า เพราะออโต้ไม่ได้การันตีออกผลฝึกแบบดีสุด แถมมิชชั่นรายอาทิตย์ชอบมีเกี่ยวกับการฝึกแต่ไม่นับหากเราใช้ระบบออโต้

และก็จะมีระบบเรียนสกิล ที่สามารถเก็บแต้มสำหรับการอัพสกิลได้จากเคลียอีเว้นความสัมพันธ์กับไอดอล รวมถึงการส่งไปฝึกงาน ซึ่งต้องใช้การอ่านเนื้อเรื่องเพื่อพยายามตอบคำถามในอีเว้นให้ถูกต้อง แต่หากตอบผิดก็สามารถโหลดใหม่เพื่อเลือกตอบข้ออื่นจนกว่าจะตอบถูกได้ โดยในส่วนของสกิลก็จะมีทั้งการเพิ่มแต้มสำหรับค่าพลังต่างๆ และสกิลระหว่างการไลฟ์คล้ายกับภาคก่อนๆ แต่ที่อยากติมากสุดสำหรับภาคนี้คือมันต้องอัพสกิลในการเพิ่มระดับเพดานค่าพลังแต่ละค่าด้วย หากไม่อัพก็จะไม่สามารถอัพค่าพลังสูงขึ้นเกินกว่าเพดานได้ โดยสาเหตุที่เป็นปัญหาก็เพราะตัวละครมีเยอะ แต่หากเรามัวแต่เน้นเก็บอีเว้นของตัวที่ชอบ ตัวที่ไม่ได้เคลียอีเว้นก็จะไปค่าพลังตันตอนช่วงกลางๆเกมเพราะเราไม่มีแต้มไว้ปลดเพดาน หากจำเป็นต้องใช้งานขึ้นมาก็จะต้องเริ่มจากค่าพลังที่ต่ำมาก และที่แย่อีกอย่างคือเวลาจะเลือกตัวละครเพื่อฝึกฝน มันไม่แสดงระดับเพดานของแต่ละตัว เลยต้องเสียเวลาไปเปิดดูหน้า Status แล้วจำเอาว่าตัวไหนยังไม่ตัน

นอกจากการฝึกและเคลียอีเว้นของไอดอลแล้ว ก็จะสามารถส่งไอดอลไปทำงานเพื่อหาเงินได้ โดยเราก็ต้องตอบคำถามเพื่อแนะนำการทำงานให้ไอดอล เพื่อที่จะทำงานสำเร็จและได้เงินกับแต้มสกิลที่มากขึ้น โดยไอดอลแต่ละคนจะมีงาน 3 ระดับให้ทำ ไม่สามารถทำซ้ำได้ แต่ภาคนี้ก็มีระบบส่งทำงานเป็นกลุ่มด้วย โดยต้องส่งไอดอล 5 คนไปทำงานพร้อมกันโดยเลือกให้ค่าพลังถึงเป้าที่งานต้องการ การส่งแบบนี้จะไม่ต้องตอบคำถามอะไร สำเร็จมากน้อยจะชึ้นอยู่กับค่าพลังและสามารถทำงานซ้ำได้เรื่อยๆ น่าจะเหมาะสำหรับเวลาที่ทำงานเดี่ยวๆจนหมดแล้ว

ระบบทั้งหมดข้างต้นจะถูกกำหนดเป็นตารางมาให้ว่าเราจะต้องทำอะไรในวันไหน เช่นวันจันทร์จะเป็นการฝึก ส่วนวันอังคารจะเป็นการส่งไปทำงาน เพราะงั้นหากไม่ได้ทำอะไรพลาดบ่อยๆก็สามารถเล่นได้แบบไม่งงและเล่นผ่านได้ไม่ยาก ยกเว้นช่วงหลังๆที่ตัวเกมจะมีทางเลือกเพิ่มมาให้ เช่นวันศุกร์จากที่แรกๆจะสามารถฝึกฝนได้อย่างเดียว ก็จะสามารถส่งไอดอลไปทำงาน หรือจัดไลฟ์ก็ได้ ซึ่งก็สามารถตัดสินใจเองได้ตามความเหมาะสม

และตัวละครที่จำเป็นต้องฝึกเป็นหลักในแต่ละเดือนจะถูกกำหนดโดยเนื้อเรื่อง (ประมาณ 10 กว่าคนในแต่ละเดือนจาก 29 คน) ดังนั้นเราจะไม่สับสนว่าช่วงไหนควรจะฝึกฝนใครดี แต่ก็ยังเปิดให้เราเลือกตัวหลักๆ 5 คนที่ชอบมาเน้นฝึกฝนเป็นตัวหลังของแต่ละเดือนไป



ระบบไลฟ์

ภาคนี้ย้อนระบบการเล่นไลฟ์กลับไปแบบสมัยภาค Idol Master 2 หรือ One For All ที่เป็นการกดปุ่มทำแต้มด้วยค่าพลัง จะไม่เหมือน 2 ภาคก่อนของ PS4 ที่เป็นแนวเพลงทั่วๆไปที่ต้องกดปุ่มให้ตรงปุ่มที่ลอยมา ใครที่ชอบระบบนี้ตั้งแต่สมัยภาคเก่าๆมากกว่า 2 ภาคก่อนก็น่าจะดีใจกับจุดนี้

สิ่งที่ต่างออกไปคือภาคก่อนๆจะเป็นการกดปุ่ม 3 ปุ่มโดยแบ่งเป็นค่าพลัง 3 ชนิด แต่ของภาคนี้จะเปลี่ยนเป็นกดปุ่มตามตัวละครแทน โดยระหว่างไลฟ์นั้นปุ่มจะมีสีระบุว่าต้องใช้ค่าพลังอะไร ซึ่งหากกดปุ่มที่ตัวละครไหน ก็จะคิดแต้มตามค่าพลังของตัวละครนั้น โดยสีของปุ่มก็จะมีการเปลี่ยนไปเรื่อยๆระหว่างเพลง ทำให้ต้องคำนวนตำแหน่งของทีมและจังหวะการกดดีๆเพื่อให้ได้แต้มออกมาเยอะ ยกเว้นบางไลฟ์ที่ระบุว่าต้องใช้ค่าพลังอะไรเน้นเป็นพิเศษ ก็จะออกสีของค่าพลังนั้นบ่อยกว่าสีอื่นๆ

นอกจากนี้ มีการเพิ่มระบบ Appeal Burst แบบพิเศษเรียกว่า Climax Burst ที่ใช้เกจพิเศษอีกหลอดหนึ่งด้วย โดยจะเป็นโมชั่นหมู่สวยๆต่างกับ Appeal Burst ทั่วไป โดยมีหลายแบบให้ติดตั้ง ถ้าเล่นตามเนื้อเรื่องก็จะได้มา 2 แบบ ส่วนแบบอื่นๆต้องเล่นเคลียไลฟ์พิเศษเพื่อปลด และแต่ละชนิดก็จะมีโมชั่นรวมถึงผลสกิลที่ต่างออกไป

และภาคนี้ยังได้เอาระบบไลฟ์แบบ Audition และ Fes กลับมาด้วย ซึ่ง Audition จะมีออกคำขอของกรรมการให้เน้นกด Appeal ที่ใครเพื่อได้แต้ม x2 และมี Request พิเศษที่ต้องกดปุ่มให้ตรงเพื่อได้แต้มพิเศษเพิ่ม ส่วนแบบ Fes ก็เป็นการแข่งกับไอดอลกลุ่มอื่นที่น่าจะคุ้นเคยกันในภาคเก่าๆ ซึ่งกลับมาแล้วในภาคนี้



เพลงและเครื่องแต่งกาย

ภาคนี้เพลงเมื่อปลดครบจะมีทั้งหมด 20 เพลง ซึ่งไม่ค่อยเยอะ แต่ก็จำนวนราวๆนี้มาเกือบทุกภาคอ่ะนะ ไม่น่าแปลกใจเท่าไร นอกนั้นก็เหมือนเดิมคือต้องซื้อ DLC เพิ่มเอา (จริงๆแล้วมี 21 แต่เป็นเพลงซ้ำไป 1 เพลง แค่ต่างที่แบบ 5 คนกับ 3 คน ซึ่งก็ไม่รู้จะแยกทำไมเพราะมันปรับจำนวนตัวบนเวทีได้อิสระอยู่แล้ว)

ตัวเพลงจะมีระบุชัดเจนว่าใครสามารถร้องเพลงนี้ได้บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะแบ่งไปเลยว่าเป็นเพลงจากภาคไหน เช่นเพลงของ 765 ก็จะสามารถร้องได้แค่ 13 คนจาก 765 หากให้ตัวละครจากค่ายอื่นมาใส่ในโหมด Live for You ก็จะกลายเป็นเสียงตัวละครอื่นแทน (เสียงไม่ตรงหน้า) และถ้าเป็นในโหมดเนื้อเรื่องก็จะไม่สามารถใช้ไอดอลที่ไม่มีเสียงร้องกับเพลงนั้นๆได้ ตรงจุดนี้จะยกเว้นบางเพลงที่มีอีเว้นโคราโบะจากเนื้อเรื่องหลัก ที่จะมีการให้ไอดอลค่ายอื่นบางค่ายมาแจมร้องได้

ส่วนเครื่องแต่งกายภาคนี้ถือว่าเยอะน่าพอใจ สามารถปลดได้จากเนื้อเรื่องเดือนละ 1 ชุด และในร้านขายชุดก็จะมีขายราวๆ 2 ชุดทุกๆเดือน และยังมีปลดชุดพิเศษๆตามอีเว้นอีก เช่นชุดยูคาตะขาวจะมีปลดได้ตอนอีเว้นเทศกาลหน้าร้อน กับชุดว่ายน้ำที่ปลดได้ตอนอีเว้นเที่ยวทะเล แต่ละชุดแทบจะไม่มีแบบดีไซน์ซ้ำๆแล้วย้อมสีเลย รวมๆแล้วมีมากกว่า 20 ชุดแม้จะไม่จัดเพิ่มจาก DLC ก็ตาม (ท้ายๆมีย้อมสีขายบ้างแต่นิดเดียว แค่บางชุดและชุดละ 1 สี) ส่วนระบบเครื่องประดับนี่ถูกตัดออกไปสำหรับภาคนี้ แต่เราสามารถเลือกชุดให้กับไอดอลแต่ละคนต่างกันได้ ไม่จำเป็นต้องใส่เหมือนกันหมด



โหมด Live for You

ภาคนี้มีการเพิ่มระบบการเล่นแสงสีมากกว่าภาคก่อนๆ โดยจะสามารถตั้งปุ่ม Short Cut ในการเล่นแสงสีชนิดต่างๆได้อิสระ ซึ่งน่าจะสามารถอัดเป็นคลิป Live งามๆตามความพอใจและหลากหลายกว่าเก่า แต่จุดที่น่าติเล็กน้อยคือยังไม่มีโหมด Live ที่สามารถเลือกคลิปตามที่เราทำไว้มาจัด List เพื่อเล่นแบบออโต้ไปเรื่อยๆ ทั้งๆที่จากที่เคยเล่นเกมแนวเพลงเกมอื่นๆนี่ส่วนใหญ่จะทำได้หมด โดยจำเป็นต้องกดเลือกเปิดดูเป็นอันๆไปเหมือนภาคก่อนๆ

ที่เพิ่มขึ้นมาอีกนิดคือสามารถจัดเล่นเพลงแบบ Medley ได้ 3 เพลงแล้ว โดยสามารถเลือกเพลงได้เองว่าจะเรียงแบบไหน และต้องใช้ไอดอลหลายคน โดยสูงสุดไม่เกิน 15 คน กับอีกฉากพิเศษสำหรับเมื่อเล่นจบ ซึ่งไม่ขอสปอยส์ในส่วนนี้แล้วกัน



สิ่งอื่นๆที่ประทับใจ

เวลาดำเนินเนื้อเรื่องความสัมพันธ์ จะมีเนื้อหาเช่นไอดอลได้รับของขวัญบางอย่าง หรือขอเอาของอะไรซักอย่างจากบ้านมาไว้ในออฟฟิศทำงาน ซึ่งพอจบอีเว้นนั้นๆ ก็จะมีฉากเอาของเหล่านั้นมาเพิ่มวางไว้ในออฟฟิศจริงๆ และจะวางอยู่ในนั้นตลอด ทำให้ออฟฟิศดูมีสีสันเต็มไปด้วยสิ่งของต่างๆเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ในส่วนของวันเกิดเองก็จะมีฉากฉลองวันเกิดให้กับตัวละครนั้นๆ โดยตัวฉากเองจะดูซ้ำๆแค่สับเปลี่ยนตัวละคร แต่จุดที่ทำให้ประทับใจคือ White Board ด้านหลังที่จะมีการเขียนอวยพรและวาดรูปต่างๆจากเพื่อนไอดอลด้วยกัน ซึ่งเป็นอะไรที่ผมชอบมาก โดยอ่านข้อความที่เขียนทำให้หัวเราะหรือยิ้มได้ไม่หยุดเลย

สุดท้ายที่ชอบคือเวทีของภาคนี้ คือพัฒนาได้ค่อนข้างดี มีการเล่นแสงและลูกเล่นของฉากดูสวยงานกว่าภาคก่อนๆเยอะ เห็นแล้วชอบหลายเวทีเลย โดยเฉพาะเวทีช่วงหน้าร้อนช่วงกลางคืนที่มีการฉีดน้ำสีต่างๆ



สิ่งอื่นๆที่ไม่ค่อยชอบหรือขัดใจเล็กน้อย

เงินในเกมไม่ค่อยจะพอใช้จริงๆ เพราะตัวเกมมันกำหนดว่าทำอะไรได้บ้างในแต่ละวัน และจำนวนเงินที่ได้จากการส่งไปทำงานก็ไม่ได้ว่าเยอะอะไร จริงๆน่าจะเอาแบบภาค One For All ที่สามารถจัดไอดอลที่ว่างๆไปทำงานหาเงินเข้ามาได้ คือเงินนี่แค่เก็บดองไว้ซื้อชุดใหม่ๆทุกๆเดือนนี่ก็ไม่มีไว้ซื้อไอเทมอย่างอื่นแล้ว มีไอเทมขายหลากชนิดแท้ๆ แต่สุดท้ายไม่ได้ซื้อเลย

อีกเรื่องก็คือรู้สึกขัดใจเล็กน้อยกับการเล่นแสงเงาของโมเดลตัวละครภาคนี้ คือเหมือนจะใส่มาแบบเล่นเงามากเกินไปในบางจุดจนทำให้รู้สึกแปลกๆ จะเห็นได้ชัดเวลาฉากไลฟ์ แต่ในภาพรวมมันก็โอเคล่ะนะ ถ้าปรับเรื่องเงาอีกหน่อยจะสมบูรณ์มาก (จุดนี้เล่นบน PC อาจจะมีคนทำ Mod แก้มั้ง?)

สุดท้ายคือไม่ได้ดึงเอาจุดดีจากภาคเก่าๆมาบางอย่าง เช่นตอน One For All นี่มีคลิป Encore Movie ของไลฟ์สำคัญๆแบบเต้นครบทุกคน ไม่ใช่แค่ 3 หรือ 5 คนที่เราใช้เล่น แม้ไม่สามารถแก้ไขอะไรในฉากพวกนี้ได้ แต่เต้นครบทุกคนมันเป็นอะไรที่ฟินมากนะเวลาเล่นผ่านเวทีหลักของเกม ภาคนี้มันเน้นการประกวด 4 เวทีหลัก จริงๆอย่างน้อยก็น่าจะมีใส่มาสำหรับ 4 เวทีนี้ด้วย เสียดาย



สรุป

ภาคนี้ผมให้คะแนนที่ 8.5/10 ตัดไป 0.5 คะแนนเนื่องจากปัญหาด้านแสงเงาของตัวละครเล็กน้อย กับอีก 1 เพราะมันมีบางจุดที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้แต่ดันไม่ได้ทำ เช่นเรื่องการทำ List เพลงกับคลิปเต้นรวมทุกคน

แต่ไงก็แล้วแต่ ยอมรับว่าภาคนี้เป็นเกมซีรี่ย์ Idol Master อีกภาคที่ผมชอบมากๆ โดยเฉพาะด้านเนื้อเรื่องกับฉากจบ ภาคสุดท้ายที่ชอบขนาดนี่คือ One For All เห็นว่ายอดขายไม่ได้ว้าวเท่าไร ก็เสียดายเหมือนกัน หวังว่า DLC เพลงจะไม่โดนลดหดจนแทบไม่มีขายล่ะนะ ส่วนท่านใดที่เป็นแฟนซีรี่ย์นี้และผิดหวังจาก 2 ภาคที่แล้วจนลังเลอยู่ ก็แนะนำเลยว่าจัดเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

Reply
Vote




3 online users
Logged In :