ในที่สุด แฟนคลับนวนิยายอย่าง"เพชรพระอุมา" ที่ว่ากันว่าเป็นนวนิยายเรื่องยาวที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงมากที่สุดเล่มหนึ่งของบรรณพิภพไทย เป็นนวนิยายที่มีจำนวนเล่มมากที่สุด และใช้ระยะเวลาในการประพันธ์ยาวนานกว่า 25 ปี จะมีโอกาสได้รับชมมหาอมตะนิยายพงไพรทางหน้าจอโทรทัศน์ เมื่อผู้บริหารสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 7 สี เดินทางไปยังบ้านพักของนายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ พนมเทียน เพื่อเจรจาซื้่อลิขสิทธิ์ หวังทำเป็นซีนรส์ละครเรื่องยาว มีกำหนดออกฉายในปีหน้า

กระแสข่าวระบุว่า ทางช่อง 7 สี ได้ขอซื้อลิขสิทธิ์นวนิยาย เพชรพระอุมา ทั้ง 48 ตอน 48 เรื่องด้วยกัน เป็นเวลาทั้งสิ้น 5 ปี

นอกจากนั้น ผู้บริหารช่อง 7 สี ยังได้เจรจาขอซื้อลิขสิทธิ์ ผลงานนวนิยายที่มีความหลากหลายแนวของพนมเทียน ทั้งสิ้น 38 เรื่อง ที่ยังปลอดลิขสิทธิ์ เพื่อเตรียมสร้างเป็นละครออกอากาศ

ฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือ พนมเทียน

ก่อนหน้านี้ ในเว็บไซต์ของ นักเขียนนิยายหญิงท่านหนึ่ง มีการเปิดเผยว่า ช่อง 3 ซื้อลิขสิทธิ์นวนิยาย เพชรพระอุมา ทุกเรื่อง ทุกตอน และเตรียมสร้างเป็นละครออกอากาศทางช่อง 3 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็ได้มีการลบข้อความดังกล่าวออกไป

ทั้งนี้ เพชรพระอุมา แต่งโดยสุดยอดนักประพันธ์ พนมเทียน เป็นนวนิยายแนวผจญภัยที่มีขนาดความยาวมากที่สุดในประเทศไทย และนับว่าเป็นนวนิยายที่มีความยาวมากที่สุดในโลก ตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ในหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ และตีพิมพ์ต่อเนื่องในหนังสือพิมพ์รายวัน ใช้ระยะเวลาในการประพันธ์ยาวนานกว่า 25 ปี

เพชรพระอุมา เป็นนวนิยายที่ได้รับการตอบรับจากผู้อ่านเป็นอย่างดียิ่ง กระทั่งสำนักพิมพ์ผ่านฟ้าไม่ยอมให้พนมเทียนยุติการเขียน ถึงขนาดที่ว่า "...ในช่วงที่พนมเทียนกำลังเขียนเรื่องนี้ตีพิมพ์ขายเป็นเล่มพ็อกเก็ตบุ๊คติดต่อกันนั้น ถึงกับมีผู้อ่านมาเข้าคิวรอซื้อกันหน้าโรงพิมพ์เลยทีเดียว

พนมเทียนเริ่มต้นการประพันธ์เพชรพระอุมาในวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 และสิ้นสุดเนื้อเรื่องทั้งหมดในวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2533 รวมระยะเวลาในการประพันธ์ทั้งสิ้น 25 ปี 7 เดือน กับ 2 วัน

เพชรพระอุมาถูกนำมาตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มซ้ำใหม่หลาย ๆ ครั้งในรูปแบบของพ็อกเก็ตบุ๊ค จำนวน 48 เล่ม โดยสำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม ลิขสิทธิ์โดยพนมเทียน เดิมเป็นชนิดปกแข็งจำนวน 53 เล่ม แต่ละเล่มมีความหนาประมาณ 33 ยก หรือ 16 หน้ายก และเมื่อนำมารวมกันทั้งหมดจะมีความหนาประมาณ 1,749 ยก แบ่งเป็นสามภาคได้แก่ ภาคแรก จำนวน 24 เล่ม ภาคสอง จำนวน 15 เล่ม และ ภาคสาม จำนวน 14 เล่ม

แต่ปัจจุบันได้รวบรวมเนื้อหาในแต่ละภาคและลดลงคงเหลือเพียงแค่ 48 เล่ม แบ่งเป็นสองภาคคือภาคแรก จำนวน 24 เล่ม 6 ตอน และภาคสมบูรณ์ จำนวน 24 เล่ม 6 ตอน ตีพิมพ์ฉบับรวมเล่มครั้งแรกในปี พ.ศ. 2538 ครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2541 และทำการปรับปรุงต้นฉบับเดิมพร้อมกับตีพิมพ์ครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2544 และตีพิมพ์ครั้งที่ 4 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดในปี พ.ศ. 2547

เนื้อเรื่องต่าง ๆ ของเพชรพระอุมานั้น พนมเทียนได้นำเค้าโครงเรื่องมาจาก คิง โซโลมอน'ส มายน์ส (King Solomon's Mines) หรือ สมบัติพระศุลี นวนิยายของเซอร์เฮนรี่ ไรเดอร์ แฮกการ์ด (H. Rider Haggard) ที่ผจญภัยในความลี้ลับของป่าดงดิบภายในทวีปแอฟริกา

ใบปิดภาพยนตร์ เพชรพระอุมา

เพชรพระอุมาได้นำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ระบบ 35 มม. ซีเนมาสโคป สร้างโดย วิทยาภาพยนตร์ เมื่อปี พ.ศ. 2514 หลังซื้อลิขสิทธิ์จากพนมเทียน วันที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2513 ถ่ายทำเกือบตลอดทั้งเรื่องภายในประเทศไทยและแอฟริกา กำกับโดย ส. อาสนจินดา บทภาพยนตร์โดย ประสิทธิ์ ศิริบันเทิง ถ่ายภาพโดย พูนสวัสดิ์ ธีมากร เพลงประกอบโดย สุรพล โทณะวณิก ฉายที่โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทยรอบปฐมทัศน์ในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2514 นำแสดงโดย รพินทร์ ไพรวัลย์ (วิทยา เวสสวัฒน์ ผู้อำนวยการสร้าง) รับบทเป็นรพินทร์ ไพรวัลย์, สุทิศา พัฒนุช รับบทเป็นดาริน วราฤทธิ์, อดุลย์ ดุลยรัตน์ รับบทเป็นเชษฐา วราฤทธิ์, ชนะ ศรีอุบล รับบทเป็นแงซาย, ประจวบ ฤกษ์ยามดี รับบทเป็นไชยยันต์ อนันตรัย

ปัจจุบันมีโครงการสร้างใหม่อีกครั้งโดย หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ซึ่งเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นด้วยความร่วมมือของหลาย ๆ ฝ่ายจากคลับสมาชิกเว็บไซต์พันทิปจำนวนมากภายในห้องเพชรพระอุมา คาดหวังว่าจะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของโลก ที่แฟนนวนิยายช่วยกันเขียนผ่านทางอินเทอร์เน็ต และอาจใช้เวลาในการถ่ายทำยาวนานถึง 4 ปี เฉพาะภาคแรกคือออกติดตามค้นหาพรานชด เนื้อหาแบ่งออกเป็น 3 ภาค ดูคล้ายๆแนวของฮอลลีวู๊ดอย่าง Jurassic Park, Mummy และ Gladiator

อย่างไรก็ตาม การต้อนรับจากโลกโซเชียล มีเดีย ต่อกรณีช่อง 7 สีซื้่อลิขสิทธิ์ "เพชรพระอุมา" เพื่อทำเป็นละครทีวีนั้น เป็นไปอย่างหลากหลาย บ้างก็ชื่นชมที่จะได้เห็นนวนิยายที่ตนเองรักทางหน้าจอทีวี บ้างก็ตั้งข้อสังเกตุว่า แฟนคลับเพชรพระอุมาอาจผิดหวังก็ได้เมื่อได้ชมทางจอแก้ว เนื่องจากในหนังสือเล่มนี้เต็มไปด้วยการจินตนาการทั้งป่า สัตว์ป่า และภูติผีปิศาจ ยากที่จะทำแอนนิเนชั่นออกมาให้ประทับใจได้

Credit:http://www.oknation.net/blog/yugi/2013/08/28/entry-1