สวัสดีอีกครั้งนะครับ วันนี้ผมจะ Review ตัว Oculus ที่ได้ unbox กันไปก่อนหน้านี้นะครับ ใน Review นี้ไม่ได้อวยไส้แตกแต่เป็นประสบการณ์ที่เล่นมาหลายชั่วโมงที่ผ่านมาครับ
ในบทความนี้ผมจะเขียนเทียบกับตัว GearVR ด้วยนะครับเนื่องจากมีขายทั่วไปตามท้องตลาดแล้ว
ตัว Oculus Rift CV1 มีน้ำหนักเบามากๆ สามารถปรับระดับตรงหัวได้โดยใช้ แถบ 3 แถบ พอใส่เข้าไปจะรู้สึกดันๆ ที่หน้าอยู่นิดนึงครับ และจะมีช่องโหว่ตรง nose gap อยู่เพราะผมไม่ดั้งโด่งเหมือนฝรั่งละมั้ง เหอ เหอ
ทำให้เห็น แสงวิ่งเข้ามาครับแต่ถ้าไม่ได้มองลงล่างก็ไม่รู้สึกรำคาญอะไรครับ ตามรูปเลยครับ (ปล ในรูปไม่ใช่ผมนะครับเอามาจากเนต)

มีที่ตำหนิสักเล็กน้อยคือด้านจอภาพครับมี screen door effect ซึ่งเป็นปกติของการใช้เลนส์ zoom เข้าไปในจอภาพครับ
ภาพถ่ายไม่ได้นะครับกล้องไม่อำนวย เลยไปขอยืมพี่กู๋ มาอีกแล้ว อันนี้เป็นการเทียบระหว่าง DK2 กับ CV1 นะครับ จะเห็นว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะพอสมควร และ ถ้าเทียบกับ GearVR แน่นอนครับ หน้าจอมือถือเทียบไม่ติด อาการเบลอเวลาดูหนังบน Gear VR ก็หายไปเช่นกันครับ

ระบบเสียงทำได้ดีมาก เบสหนัก เป็นระบบ 3d surround ด้วย อธิบายได้ง่ายๆ คือเวลาเราหมุนหัวไปเสียงก็จะอยู่ในตำแหน่งเดิมที่เป็นต้นกำเนิดเสียงทำให้เรารู้ที่อยู่ของมันได้ครับ
นอกนั้นการใช้งานไม่มีปัญหาอะไรครับ ยอดเยี่ยมระบบ Tracking แม่นยำมากๆ หันปุ๊บจอที่ตาหันตาทันทีครับ แต่มีปัญหาอีกนิดหน่อยคือถ้าการ์ดจอกากภาพจะ lag ทำให้เกิดการมึนหัวได้ครับ
อาการมึนหัว (Motion Sickness) เป็นอาการที่เกิดขึ้นบ่อยๆ ระหว่างการเล่น VR เนื่องจากน้ำในหูทำหน้าที่ควบคุมสมดุลร่างกายผิดแปลกไป พูดง่ายๆ ก็คือเมารถนั่นแหละครับ
การใช้จอยควบคู่กับการเล่นเกมส์ตอนแรกคิดว่ามันจะห่วยแต่ไม่ใช่ครับมันยอดเยี่ยมมากๆ เลย
ก่อนอื่นผมขอบอก spec คอมที่ใช้เล่นก่อนนะครับ CPU: Q6600 [email protected] GPU: Inno3D iChill 650Ti RAM: 8Gb @ 1333Hz
เกมส์แรกที่ผมได้เล่นคือ Luckey’s tale ครับ ต้องปรับ Low สุดไม่งั้นกระตุก 5555
จากการทดลองเล่นผมไม่เคยคิดว่าเกมส์แนว ใสๆ คิกคุ 3rd person แบบนี้จะสนุกได้ใน VR กลายเป็นว่าเกมนี้ผมให้เต็มเลย สนุกกับมันมากๆ เล่นไปเรื่อยๆ ลืมเวลาครับ ต้องใช้การมองไปรอบๆ หาของและเล็งครับสนุก

ถ้าหากใครมี VR ต้องลองครับเกมส์นี้ คลายเครียดดี ประกอบกับดนตรีสนุกสนาน พอเล่นไปนานๆ จะรู้สึกเหมือน มาริโอ้ 3D ครับ

ส่วนเกมส์ที่ 2 ที่ผมได้เล่นคือ Dreamdeck ครับ


Dreamdeck ไม่เชิงเป็นเกมส์ซะทีเดียวมันคือการ Demo ซะมากกว่าเป็นโชว์ tech unreal engine 4 บน Oculus ซึ่งทำได้ยอดเยี่ยมเช่นกันครับ ใน Dreamdeck จะมีตัวอย่างอยู่ 10 อย่างด้วยกันให้เลือก



ที่ผมชอบที่สุดจะเป็น T-rex ครับเหมือนกับมันมาอยู่ตรงหน้าจริงๆ เอามือไปจับได้

เกมส์ที่ 3 Castle Coaster
2 คำครับ อ้วก เมา มันให้อารมณ์ว่าเราขึ้นอยู่บนนั้นจริงๆ แล้วขึ้นไปตามรางรถไฟเหาะถ้ายืนเล่นมีล้มครับ พอถึงทางลงก็จะรู้สึกเสียวแต่ไม่เท่าไปเล่นรถไฟเหาะจริงๆ นะครับ


เกมส์ที่ 4 Starwars
อันนี้ผมก็ชอบครับเหมือนกับเราไปอยู่ในหนังจริงๆ เราจะอยู่บน X-Wings คอยยิงยาน fighter ของฝ่าย Empire ครับ


มาทางด้าน Software บ้างครับ
Virtual Desktop อันนี้อันโปรดผมเลย เราสามารถเล่นไลน์ เว็บ ดูหนัง ยูทูป DOTA2 เค้าเตอร์ได้ บน Oculus จอใหญ่มากๆ สามารถปรับได้ให้มีขนาด

ตั้งแต่ 1-300 นิ้ว ครับ ตัวหนังสือชัดมาก สามารถเปลี่ยน Theme ได้เป็นหลายแบบครับ
อันนี้ผมไปเอามาจากคนอื่นนะครับถ่ายยากมากจากแว่น

มีอีกหลายๆ เกมส์ที่ผมไม่ได้กล่าวถึงนะครับ อย่าง I Expect you to die, Henry เป็นต้นครับ
ผมขอสรุปดังนี้ครับ Oculus Rift CV1 เป็นอุปกรณ์ที่ยอดเยี่ยมถึงแม้จะมีบางอย่างที่น่าหงุดหงิดใจ
รวมถึง motion sickness ที่เกิดขึ้นแต่สักพักจะชินไปเองครับ (ฝรั่งบอกมา) ถ้าหากน้าๆ เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ มีโอกาสได้ลอง VR Headset อย่าปฏิเสธนะครับมันเป็นประสบการณ์ที่ดีมากอย่าปล่อยให้โอกาสหลุดมือนะครับ
Trend VR เข้ามาแรงมากตอนนี้ มีหลายๆ เจ้าพยายามทำออกมาแต่ยังเป็นการเลียนแบบ Google Cardboard และ GearVR อยู่ครับ แต่ในอนาคตไม่แน่จะมีเพิ่ม Headset VR เหมือน Oculus อีกมากมายก็เป็นได้ครับ
วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะครับ หากมีโอกาสหน้าจะกลับมารีวิวใหม่ครับผมขอบคุณครับ