เนื้อเรื่องไม่มีไรมากครับ

คือพ่อพระเอก ถูกฆ่าตาย
แล้วพระเอกก็เลยออกตามสืบหาว่าฆาตกรเป็นใคร ภาคแรกคือแค่นั้น

ส่วนภาค 2 พระเอกเดินทางไปฮ่องกง เกาลูน แล้วก็หุบเขากุ่ยหลิน(ประเทศจีน)
เพื่อติดตามหาฆาตกร จนไปเจอกับนางเอกในช่วงท้ายภาค 2 ครับ

ถ้าถามว่ามันสนุกยังไง?

คือสมัยนั้น มันไม่เคยได้สัมผัสเกมส์แบบนี้ครับ
ยิ่งภาคแรกนี่ ต้องบอกว่า อลังการงานสร้างมาก
แบบว่า เดินไปคุยกับใคร บนท้องถนน จะมีเสียงพากย์ทุกตัวละครเลยทีเดียว แล้วบนท้องถนนมีคนเป็นร้อย

มีอยู่ครั้งนึง ผมลองเดินตามเด็กผู้หญิงคนนึง ไปเรื่อย ๆ ตัวละครตัวนี้ก็จะเดินไปเรื่อย ๆ ... เข้าซอยนั้น เลี้ยวซอยนี้... จนสุดท้ายก็เดินไปเข้าบ้านตัวเอง
สมัยนั้นผมถึงกับทึ่งว่า... นี่คนเขียนโปรแกรม ต้องนั่งกำหนดตัวละครแบบนี้ทุกตัวเลยหรือเปล่าเนี่ย? ทั้งเสียงพากย์ ทั้งการเดินไปมาของตัวละครต่าง ๆ ที่เป็นแค่ตัวประกอบในฉากเกมส์ จนถึงบ้านตัวเอง

นั่นคือส่วนนึงของความทึ่งนะ

ส่วนถัดมาก็คือ มันคือเกมส์ กึ่งภาษา กึ่งแอ็คชั่น
คือมันมีเรื่องราว ที่เราต้องเดินทางไปที่นั่น ที่นี่ มีการฝึกวิทยายุทธ์ด้วย

ฉากการต่อสู้ พอสู้จนเกือบชนะแล้ว ก็จะทำคล้าย ๆ กับ God Of War ที่ให้เรากดปุ่มให้ตรงกับที่เขากำหนด ถึงจะสู้ชนะบอสได้

จุดนึงที่ชอบมาก ๆ ก็คือ เกมส์มันทำละเอียดมากนะ
ภาค 2 ที่พระเอกเดินทางไปฮ่องกง ก็เหมือนกับเราได้เห็นฮ่องกงในอดีตเป็นสิบ ๆ ปี
เนื้อเรื่องก็น่าติดตาม

ตอนที่พระเอกไปตามหาเรื่องราว แล้วต้องไปสู้กับนักสู้ นักสู้บางคนถ้าไม่ชนะ ก็เล่นเราถึงตาย
มินิเกมส์ในเกมส์ เช่น พระเอกเดินไปร้านตู้เกมส์ ก็มีตู้เกมส์จริง ๆ และเกมส์ในตู้ก็เล่นได้จริง ๆ

หรือแม้แต่เล่นพนันทอยเต๋า โยนลูกแก้วลงหลุม ... คือมันพูดแล้ว คนที่ชอบอะไรโบราณ ๆ จะรู้สึกฟินอ่ะ
ส่วนคนที่เป็นคนยุคใหม่ ๆ ก็จะได้เห็นว่า สมัยก่อน มันเป็นยังไง?

ชอบฉากต่อสู้อยู่หลายฉากเลย
อย่างมีฉากนึง ที่พระเอกสู้กับบอสจนแทบแย่แล้ว... สุดท้ายนึกถึงคำสอนของปรมาจารย์หญิง แล้วหลับตาสู้ด้วยท่าอัดกระแทก... ผมงี้ ลุ้นจนเครียดเลย กว่าจะผ่านไปได้

ในส่วนของปลายภาค 2 ที่พระเอกเดินทางบนเขากุ่ยหลินกะนางเอก นางเอก เราก็จะเห็นสภาพป่าเขา เห็นสถานที่แปลก ๆ เช่นแม่น้ำเปลี่ยนสี ต้นไม้โบราณ
คือถ้ามาดูภาพในสมัยนี้ มันก็คงดูโบราณและไม่สวยนะ... แต่ถ้าเป็นสมัยนั้น เกมส์นี้ถือว่า เทพสุด ๆ ละเอียดสุด ๆ

จึงเป็นเกมส์ที่ลงทุนสูงมาก และขาดทุนกระจายเลย

พอหมดภาค 2 เลยไม่มีภาคต่อ ๆ มาอีกเลย

แถมตอนจบภาค 2 ก็เหมือนกำลังจะเริ่มเรื่องราวที่น่าติดตาม... มันเลยเป็นอะไรที่ทำให้คนที่เคยเล่นเกมส์นี้ อยากจะรู้ว่า เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป

ซึ่งเชื่อว่า ถ้าใครที่ชอบเกมส์แนว Action-RPG บวกกับ Open World ที่มีเรื่องราวน่าติดตาม และฉากเมืองในอดีต... ก็คงหลงรักเกมส์นี้ได้ไม่ยากเลยล่ะ

อารมณ์มันเหมือนหนังฮ่องกงครับ
ตามหาคนฆ่าพ่อ
ยู ซูซูกิเขาเป็นคนทำ virtua fighter ด้วย เกมนี้ฉากต่อสู้ได้กลิ่น vf มาเต็มๆ
เกมละเอียดมากอย่างที่ข้างบนว่าน่ะครับ ไม่ใช่แบบ gta ที่สุ่มตัวละครมาเดินตามถนน
แต่เกมนี้ทุกตัวมีกิจวัตรครับ ลองเดินตามได้ ย้ำว่าทุกตัวครับ
ทุกตัวมีเสียงพากย์ และบทพูดจะเปลี่ยนไปตาม progress ของเรา เช่นเราได้ เบาะแสของรถสีดำมา พอไปคุยกับคนอื่น เราจะถามเรื่องรถสีดำทุกคน ไม่ใช่เฉพาะ npc ที่กำหนด
เกมนี้เล่นแบบสมจริง ไม่ใช่ว่าทำเควสคือคุยคนนั้น แล้วไปคุยคนนี้ต่อแบบมีลูกศรบอกบนหัว
แต่เราต้องคุยไปเรื่อยๆ จนหาคนที่รู้เบาะแสเจอจริงๆ ครับ ตัวเกมจะไม่บอกเลยว่าต้องคุยกับใคร
เกมนี้เป็นเกมแรกที่มีระบบ QTE ครับ
ซึ่งมันเหมาะกับเกมจริงๆ คือเวลามี QTE ออกมาบางทีมันกระทันหันจริงๆ แล้วมัน dynamic ด้วย เช่นเจอลอบทำร้าย แล้วกดไม่ผ่าน แต่ยังเล่นต่อได้ แต่พลังลดลงอะไรแบบเนี้ย

แต่อย่างข้างบนว่า หละครับ สำหรับสมัยนั้น มันอู้อ้ามาก ทุกอย่างมันใหม่จริงๆ
แต่สำหรับยุคนี้ ทุกอย่างในเกมมันถูกเกมอื่นเอาไปใช้ เช่น QTE จนคนเห็นว่าธรรมดาไปแล้ว