<div class="copy-paste-block">
<p>
จากงาน Letter from the Producer Live part XXI ที่ผ่านมา ทีมงานเกม<em><strong> Final Fantasy XIV</strong></em> ได้เปิดเผยข้อมูลสกิลใหม่ ๆ ที่จะมาให้ใช้กันใน Expansion ต่อไปของเกมที่ชื่อ <em><strong>Heavensward</strong></em> สรุปรายละเอียดของแต่ละอาชีพได้ดังนี้ครับ</p>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/paladin.jpg" style="width: 600px; height: 327px;" /></p>
<p>
<strong>Paladin:</strong></p>
<div class="copy-paste-block">
<ul>
<li>
สกิลคอมโบใหม่นอกจาก Savage Blade และ Riot Blade ท่าใหม่นี้จะโจมตีเป็น DoT (Damage over time) ทำให้การเล่นคอมโบขณะเป็น Main Tank หรือ Off Tank หลากหลายขึ้น (เดิมมีท่าหากินอยู่คอมโบเดียว...)</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Divine Veil</strong>" สร้างบาเรียที่เป้าหมายระยะเวลาหนึ่ง ขณะนั้นหากเป้าหมายได้รับเวทย์ฟื้นพลัง จะทำให้สมาชิกรอบเป้าหมายได้รับบาเรียด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
มีการเพิ่มความสามารถด้านการใช้โล่ป้องกันการโจมตีมากกว่าเดิม</li>
</ul>
<ul>
<li>
นอกจากนี้จะยังเสริมความสามารถด้านการป้องกันที่ส่งผลให้ปาร์ตี้ด้วย</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/warrior.jpg" style="width: 600px; height: 329px;" /></p>
<div class="copy-paste-block">
<p>
<strong>Warrior:</strong></p>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Deliverance</strong>" เป็น stance ใหม่สำหรับใช้โจมตี โดยขณะใช้จะสามารถสะสม stack ของบัฟใหม่ที่เรียกว่า <strong>Abandon </strong>ได้ด้วย เมื่อเปลี่ยน stance เป็น Defiance บัฟ stack เดิมจะคงอยู่ สามารถสลับบัฟ Wrath-Abandon ได้ โดยสกิลที่ใช้ stack ของ Abandon มีสกิลที่ใช้ฟื้น HP ตัวเองอยู่ด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Raw Intuition</strong>" รับการโจมตีที่มาจากด้านหน้าแบบ parry 100% แต่การโจมตีที่มาจากด้านข้างหรือด้านหลังจะกลายเป็น Critical Hit ทั้งหมด</li>
</ul>
</div>
</div>
</div>
<p>
 </p>
<div class="copy-paste-block">
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/darkknight.jpg" style="width: 600px; height: 329px;" /></p>
<p>
<strong>Dark Knight:</strong></p>
<ul>
<li>
สกิล <strong>Darkside</strong> เป็น stance สำหรับโจมตี โดยขณะใช้จะโจมตีได้รุนแรงขึ้น แต่จะกิน MP ไปเรื่อย ๆ และไม่สามารถรับผลที่ช่วยฟื้นฟู MP จากปาร์ตี้ได้ ทั้งนี้จะมีสกิลที่ใช้สำหรับฟื้นฟู MP ตนเองอยู่ จึงควรบริหาร MP ให้ดี</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิล <strong>Grit </strong>เป็น stance สำหรับป้องกัน ก็มาตรฐานสกิลสำหรับแทงค์คือทำให้โจมตีแล้วสร้าง enmity ได้มากขึ้น ใน stance นี้จะสามารถฟื้นฟู MP จากปาร์ตี้ได้แล้ว ฉะนั้นการสลับไปมาระหว่าง stance จึงเป็นสิ่งสำคัญตามสถานการณ์</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิล <strong>Living Dead</strong> ท่าสำหรับรับการโจมตีหนัก ๆ คล้ายสกิล Holmgang ของ Warrior</li>
</ul>
<ul>
<li>
อาชีพนี้ไม่มีสกิลโจมตีระยะไกลจำพวกปาโล่ปาขวานปาหอกเหมือนอาชีพอื่น แต่จะมีสกิลที่กระโดดเข้าไปทั้งตัวเลย</li>
</ul>
<ul>
<li>
อาชีพ Dark Knight สามารถครอสสกิลจาก class Gladiator และ Marauder มาใช้ได้</li>
</ul>
</div>
<p>
 </p>
<div class="copy-paste-block">
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/monk.jpg" style="width: 600px; height: 329px;" /></p>
<p>
<strong>Monk:</strong></p>
<ul>
<li>
ตามมาตรฐานวิธีเล่นอาชีพนี้ก็คือการเลี้ยงบัฟ Greased Lightning III เอาไว้ ความสามารถใหม่นี้สามารถนำบัฟตรงนี้มาใช้ได้ เช่นในกรณีที่ไม่สามารถโจมตีหรือทำอะไรเพื่อเลี้ยงบัฟเอาไว้ ก็นำบัฟนี้ไปใช้กับสกิลอื่นก่อนได้ ดีกว่าปล่อยให้บัฟหายไปเปล่า ๆ</li>
</ul>
<ul>
<li>
ระบบใหม่ <strong>Chakra </strong>โดยสามารถสะสมได้ 5 stacks และนำ stack เหล่านี้มาใช้โจมตีอย่างรุนแรง หรือใช้ฟื้นฟู TP ก็ได้ โดย Chakra นี้สามารถนำมาใช้คอมโบร่วมกับ Greased Lightning III เพื่อทำดาเมจได้อีกด้วย</li>
</ul>
</div>
<p>
 </p>
<div class="copy-paste-block">
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/dragoon.jpg" style="width: 600px; height: 328px;" /></p>
<p>
<strong>Dragoon:</strong></p>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Blood of the Dragon</strong>" ที่จะทำให้สามารถต่อคอมโบ Thrust ท่าที่ 4 ได้</li>
</ul>
<ul>
<li>
แต่จะมีสกิลโจมตีที่รุนแรงอื่น ที่ทำให้ผลของ Blood of the Dragon หายไปด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
มีการปรับปรุงอนิเมชันของท่า Jump (อีกแล้ว)</li>
</ul>
<p>
 </p>
<div class="copy-paste-block">
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/ninja.jpg" /></p>
<p>
<strong>Ninja:</strong></p>
<ul>
<li>
นินจาไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรมากเป็นพิเศษ</li>
</ul>
<ul>
<li>
เพิ่มสกิลที่ยืดระยะผลของ Huton ทำให้สามารถไปใช้คาถานินจาอื่น ๆ เพื่อทำดาเมจเพิ่มได้</li>
</ul>
<ul>
<li>
มีสกิลใหม่ที่ใช้สำหรับช่วยจัดการ Enmity ในปาร์ตี้ได้ นับว่าเป็นประโยชน์กับแทงค์ในทีมมากในยามที่ Enmity ในทีมกำลังรวน</li>
</ul>
<ul>
<li>
เพิ่มท่าโจมตีที่ขึ้นกับทิศทางแบบอาชีพอื่น ๆ เพราะตอนนี้การโจมตีของนินจาค่อนข้างอิสระเกินไป</li>
</ul>
</div>
</div>
<p>
 </p>
<div class="copy-paste-block">
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/bard.jpg" style="width: 600px; height: 330px;" /></p>
<p>
<strong>Bard:</strong></p>
<ul>
<li>
เพลงใหม่ "<strong>The Wanderer’s Minuet</strong><b>"</b> เพลงนี้จะพิเศษกว่าที่สามารถใช้ทับกับเพลงอื่นได้ เพลงจะยกเลิก auto-attack และโจมตีอย่างรุนแรงด้วยการชาร์จยิงแทน โดยการชาร์จยิงนี้จะมีหลอดร่ายด้วย นั่นคือจะไม่สามารถวิ่งไปชาร์จยิงไปในขณะใช้เพลงนี้ได้ เพลง The Wanderer’s Minuet ไม่ใช้ MP เหมือนเพลงอื่น ๆ</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Sidewinder</strong>" เป็นท่าโจมตีที่เพิ่มประสิทธิภาพของ DoT จากสกิลก่อนหน้าที่ใช้สกิลนี้</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/machinist.jpg" style="width: 600px; height: 331px;" /></p>
<p>
<strong>Machinist:</strong></p>
<ul>
<li>
โรลของอาชีพนี้จะคล้ายกับ Bard แต่วิธีการเล่นและหลักการต่างกันค่อนข้างมากเลยทีเดียว</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิล <strong>Reload </strong>เมื่อใช้จะได้ 5 stack ของ ammunition (กระสุนปืน) การบริหารจังหวะการใช้กระสุนและรีโหลดจึงเป็นสิ่งสำคัญ การรีโหลดไม่จำเป็นต้องรอให้กระสุนหมด สามารถโหลดกระสุนขณะที่มีอยู่แล้วเพื่อเพิ่มพลังโจมตีได้อีกด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
นอกจากนี้ยังมีสกิล <strong>Quick Reload</strong> ที่จะโหลดกระสุนเพียงหนึ่งนัด ไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลต่าง ๆ ก็จะมีรูปแบบการใช้งานร่วมกันแบบต่าง ๆ เช่น ยิงนัดที่ 1 เพิ่มโอกาสบูสต์ให้นัดที่ 2 แล้วยิงนัดที่ 2 ก็จะเพิ่มโอกาสบูสต์ให้นัดที่ 3 เป็นต้น</li>
</ul>
<ul>
<li>
นอกจากนี้ยังมีสกิลอื่น ๆ เช่น <strong>Wildfire </strong>ที่ชาร์จแล้วแล้วโจมตีออกไปอย่างรุนแรง หรือปล่อย Turret ที่ส่งผลต่อปาร์ตี้ เป็นต้น</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/blackmage.jpg" /></p>
<p>
<strong>Black Mage:</strong></p>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Ley Lines</strong>" วางวงเวทย์ลงที่พื้น ทำให้ได้สถานะ Haste เมื่ออยู่ในวงนี้ สามารถเคลื่อนที่อยู่ในวงนี้ได้ แต่หากออกนอกวง วงเวทย์นี้จะหายไป</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Sharp Cast</strong>" ทำให้เวทย์ต่อไปที่ใช้จะติด Proc แน่นอน 100% (เวทย์ Fire และ Thunder)</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิล ใหม่ "<strong>Enochian</strong>" เรียนเมื่อเลเวล 60 เมื่อใช้จะได้บัฟเป็นระยะเวลา 30 วินาที ในระยะบัฟนี้หากมีสถานะ Astral Fire หรือ Umbral Ice อยู่จะสามารถทำให้ใช้เวทย์ <strong>Fire IV</strong> หรือ <strong>Blizzard IV </strong>ได้ และระยะเวลาของบัฟสามารถขยายออกไปได้เมื่อใช้ Blizzard IV แต่ระยะเวลาบัฟต่อไปจะลดลงทีละ 5 วินาที (30, 25, 20...)</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/summoner.jpg" /></p>
<p>
<strong>Summoner:</strong></p>
<ul>
<li>
Summoner มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก จะสามารถยัดเวทย์ Bio, Bio II และ Miasma ได้ในครั้งเดียว โดยการแลก stack ของ Aetherflow รวมถึงสกิลใหม่ที่จะได้ตอนเลเวล 60 จะทำให้ rotation ของการเล่นเปลี่ยนไปแน่นอน</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิล Tri-Disaster เดิมเปลี่ยนชื่อเป็น "<strong>Tri-Bind</strong>" เพราะความสามารถเดิมไม่เข้ากับชื่อ ขณะที่ "<strong>Tri-Disaster</strong>" จะเป็นสกิลใหม่ที่ใช้สำหรับยัดเวทย์ DoT สามเวทย์ที่กล่าวไว้ข้างต้นนั่นเอง</li>
</ul>
<ul>
<li>
ทีมงานตัดสินที่จะยังไม่เพิ่ม egi ใหม่ในเวลานี้ แต่เลือกที่จะเพิ่มแนวทางการเล่นด้วยการเพิ่มสกิลก่อน แต่กระนั้นทีมงานก็มีแผนจะให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งรูปร่าง egi รวมถึง Carbuncle ของตัวเองได้</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Dreadwyrm Trance</strong>" สืบเนื่องจาก rotation ปัจจุบันของอาชีพนี้คือ ระหว่างรอ Aetherflow คูลดาวน์ 60 วินาที 30 วินาทีแรกใช้ไปกับสกิล DoT จากนั้นก็รอเฉย ๆ อีก 30 วินาที ในช่วงหลังนี้เองเป็นแนวคิดให้เกิดสกิลนี้ โดยผลของสกิลคือการอัญเชิญพลังของ Bahamut ผู้เล่นจะสามารถสะสม stack ของ <strong>Bahamut Aether</strong> เพื่อใช้ในสกิลต่าง ๆ ได้</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66095/white1.jpg" /></p>
<p>
<strong>White Mage:</strong></p>
<ul>
<li>
เนื่องด้วย White Mage คืออาชีพที่ออกแบบมาสำหรับฮีลโดยเฉพาะ สกิลใหม่ ๆ จึงมาช่วยหนุนจุดนี้มากยิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มสกิลบางส่วนมาอุดในส่วนที่ขาด</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Asylum</strong>" สร้างพื้นที่ฟื้นฟูพลังให้กับสมาชิกปาร์ตี้ที่อยู่ในพื้นที่นี้</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Assize</strong>" สกิลที่ใช้ฟื้นฟูพลังและโจมตีได้ในเวลาเดียวกัน</li>
</ul>
<ul>
<li>
เพิ่มท่า instant heal นอกจาก Benediction แต่จะเป็นเวอร์ชันที่ฮีลเบาลง</li>
</ul>
<ul>
<li>
เพิ่มเวทย์ <strong>Stone III</strong> และ <strong>Aero III</strong> เป็นเวทย์โจมตีหลักและสำหรับทำ DoT</li>
</ul>
<ul>
<li>
เดิมมีเพียง White Mage เท่านั้นที่สามารถใช้ Protect แบบเพิ่มพลังป้องกันเวทย์มนต์ได้ การมาของฮีลเลอร์อาชีพที่สาม จึงมีการปรับสมดุลจุดนี้ให้อาชีพอื่น ๆ ก็ใช้ Protect ได้เต็มประสิทธิภาพได้เช่นกัน</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/scholar.jpg" style="width: 600px; height: 328px;" /></p>
<p>
<strong>Scholar:</strong></p>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเน้นการวางแผนจังหวะการใช้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยเฉพาะในการสู้บอส ฉะนั้นในการลุยดันเจี้ยนอาจจะเห็นความเปลี่ยนแปลงไม่มาก</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Idomitability</strong>" สกิลใหม่ที่จะช่วยเสริมให้ Scholar ฮีลหมู่ได้ดีกว่าเดิม จากเดิมทีอาชีพนี้ค่อนข้างจะอ่อนเรื่องการฮีลหมู่</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Deployment Tactics</strong>" ท่านี้จะขยายเอฟเฟคของ Adloquim กับ Eye for an Eye จากเป้าหมายไปให้กับเพื่อนร่วมทีมที่อยู่รอบข้างด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Emergency Tactics</strong>" ผลของ Adloquium จากบาเรียจะเป็นเพิ่มประสิทธิภาพการฟื้นฟู HP แทน</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลใหม่ "<strong>Dissipation</strong>" สละแฟรี่เพื่อเสริมพลังเวทย์มนต์</li>
</ul>
<p>
 </p>
<p style="text-align: center;">
<img alt="" src="http://www.gconmedia.com/images/66041/astrologian.jpg" style="width: 600px; height: 332px;" /></p>
<p>
<strong>Astrologian:</strong></p>
<ul>
<li>
พื้นฐานของอาชีพนี้จะมี 2 stance คือ "<strong>Diurnal Sect</strong>" (Tsukiyomi - อ่านจันทรา) และ "<strong>Nocturnal Sect</strong>" (Hoshiyoshi - อ่านดารา) แบบแรกคือเน้นฮีลแบบ White Mage แบบหลังเน้นฮีลและบาเรียแบบ Scholar</li>
</ul>
<ul>
<li>
สกิลต่าง ๆ ที่ใช้ ผลที่ได้จะต่างกันออกไปตาม stance ที่ใช้อยู่ ฉะนั้นการเล่นจึงควรฝึกให้เชี่ยวชาญ stance อันใดอันหนึ่งก่อน แล้วจึงฝึกอีกอย่างหนึ่ง</li>
</ul>
<ul>
<li>
ตัวอย่างสกิล จะมีสกิลบาเรียแบบที่ Y’shtola ใช้ในเนื้อเรื่องด้วย</li>
</ul>
<ul>
<li>
การจั่วไพ่จะเป็นแบบสุ่ม ผลที่จากไพ่แต่ละใบก็จะต่างกันออกไป มีตั้งแต่เสริมพลังโจมตี เพิ่มสถานะ Haste หรือลดดาเมจ</li>
</ul>
<ul>
<li>
หากจั่วได้ไพ่ใบที่ไม่ต้องการ มีสกิล <strong>Royal Road</strong> ที่ส่งไพ่นั้นคืนสำรับ แล้วเสริมความสามารถให้ไพ่ใบต่อไปที่จะจั่วขึ้นมา</li>
</ul>
<ul>
<li>
นอกจากนี้ยังมี <strong>Shuffle </strong>ส่งไพ่ใบที่จั่วมานั้นกลับเข้ากอง แล้วจั่วใบใหม่แทน นับเป็นอาชีพที่สนุกตรงที่ต้องวางแผนการใช้ไพ่แต่ละใบที่จั่วขึ้นมาในสถานการณ์ต่าง ๆ</li>
</ul>
<ul>
</ul>
</div>
<p>
 </p>
<p>
 </p>
<p>
<em><strong>Final Fantasy XIV: Heavensward</strong></em> มีกำหนดวางจำหน่ายวันที่ 23 มิถุนายนนี้ และสำหรับผู้ที่ pre-order จะได้รับสิทธิ์ early access ตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน</p>