Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Fast and Furious 7 ( 2015 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์ โดย FallsDownz

Reply
Vote
# Mon 6 Apr 2015 : 7:38AM

toranin
member

Since 19/8/2008
(10420 post)


คนที่เดินเข้ามาทักจาคือนีล เอช มอร์ริทซ์ โปรดิวเซอร์ใหญ่ของซีรี่ย์นี้ทุกภาค เลยนะนั่น จะได้กลับมาภาค8มั๊ยเนี่ย


##################################################################################

ว่ากันว่าหนังแข่งรถ รวมถึงฉากขับรถไล่ล่า (Car chase scene) มีจอห์น แฟรงเกนไฮม์เมอร์ เป็นคนคิดค้น (ก่อนหน้านั้นก็มีแต่มันไม่เป็นน้ำเป็นเนื้อ) และก็เป็นต้นตำรับ ฉากขับรถไล่ล่าบนฟุตบาทในตลาดชนแผงผลไม้... ก่อนที่หนังแอ็คชั่นเรื่องอื่นๆจะใส่เข้ามาเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ 007, The Raid2, คนเหล็ก, เฉินหลง, แบดบอยส์ ฯลฯ ทุกเรื่องเป็นหนี้บุญคุณ จอห์น แฟรงเกนไฮม์เมอร์ รวมถึงซีรี่ย์เดอะฟาสต์ด้วย



grand prix 1966 ปู่จอห์นทำไว้สุดตีนมาก

ส่วนหนังขับรถแนวสมจริง ลัทธิRealism ต้องยกให้
bullitt 1968 ที่สตีฟ แม็คควีน เป็นคนขับรถเอง และก็The French Connection







อาเฮียรถคิท ต้นฉบับรถซิ่งโม้เวอร์ เหาะทะลุตึก ช่วยตัวประกัน สู้กับเฮลิคอปเตอร์ ขับฝ่าดงระเบิด ห่ากระสุน ต้องยกให้เค้าล่ะ เอ๊ะ ฉากในรูปนี่ดูคุ้นๆแฮะ


แฟรนไชส์The Fast and the Furious (ขออภัยแฟนๆซีรี่ย์นี้) ถ้าให้ว่ากันตรงๆ ซีรี่ย์นี้มันไม่ได้เจ๋งอะไรนะ ว่ากันตรงๆก็หนังเกรดบีที่มีทุนสร้างสูงดีๆนี่เอง บางภาคก็ห่วยสลัด

คือมันแปลกนะ เดอะฟาสต์มันเป็นหนังรถ แต่เวลาคนพูดถึงฉากขับรถไล่ล่า จะไม่ค่อยมีใครนึกถึงเรื่องนี้กัน ทั้งๆที่หนังก็มีมาแล้วหลายภาค ควรมีฉากซิ่งคลาสสิคอย่างน้อยๆสัก10-20ฉาก แต่คนพูดถึงกันแค่ไม่กี่ฉาก บางภาคไม่มีอะไรให้พูดถึงเลยด้วยซ้ำ (ส่วนใหญ่จะจำฉากลากตู้เซฟภาค5)

ด้านนักแสดงถ้าพูดถึงวิน ดีเซล หลายคนไม่ได้นึกถึงภาพนักซิ่ง แต่ไปนึกถึงภาพไอ้หนุ่มล่ำบึ้กมาดเถื่อนกันมากกว่า คือไม่เหมือนสตีฟ แม็คควีนที่เป็นไอดอลเรื่องความเร็ว คือเดอะฟาสต์มันขายความเท่มากกว่าขายความเร็ว

แต่ซีรี่ย์นี้มันก่อร่างสร้างตัวมานาน ปากกัดตีนถีบของจริง และมันพยายามยกระดับตัวเองขึ้นไปทุกภาค ตรงนี้คือข้อดี

1-3 เป็นแค่หนังตลาดขายวัยรุ่น มีนักแสดงวัยรุ่นหลายเชื้อชาติ เนื้อเรื่องสูตรสำเร็จแบบ Point Break คาแร็คเตอร์ของไบรอัน(พอล) กับดอม(วิน) ก็ถอดมาจากจอห์นนี่ ยูทาห์(คีนู) กับโบดี้(แพทริก สเวซี่)

4-5 นักแสดงโตเป็นผู้ใหญ่ เป็นหนังอาชญากรรม-ทริลเลอร์ เน้นเรื่องเงิน, การหักหลัง, ปล้น, อาชญากรรม, การล้างแค้น มากขึ้น แต่ยังไงก็ยังเน้นความเป็นหนังรถซิ่งขายสตั๊นคาร์อยู่ โดยเฉพาะ5 มีความเป็นทริลเลอร์+แอ็คชั่นมากขึ้น มีการวางแผนปล้น มีการหักมุม +ไคล์แม็กซ์สะใจวินาศสันตะโร

6-7 หนังก็พยายามต่อยอดขึ้นไปอีก 7นี่กลายเป็นหนังปฏิบัติการภาระกิจแบบM:I +แนวสงคราม ก็6ปูไว้ให้แล้ว สู้กับรถถังมาแล้ว

7 เนื้อหามันก็ไม่มีอะไรนะ แต่มันถูกยกระดับขึ้นไปอีก มันหาแนวทางใหม่ๆของความเป็นหนังรถซิ่ง จริงอยู่ว่ามันก็หนังสูตรสำเร็จเอาใจตลาด แต่มันหนีจากตัวมันเองที่ทำมาแล้วหลายภาคได้สำเร็จ และถึงแม้หลายอย่างมันจะไม่ใช่ของใหม่ อย่างขับรถลงจากเครื่องบินเนี่ย The living daylight , Terminal velocity ก็ทำมาก่อน แต่ถ้าว่ากันที่ความมันส์ภาคนี้ระห่ำที่สุดในซีรี่ย์แล้ว ถ้าให้คะแนนด้านความมันส์ผมให้10/10

Reply
Vote




5 online users
Logged In :