แอปเปิล (Apple) แบรนด์อันดับหนึ่งของโลกเผยผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัท (ตุลาคม-ธันวาคม 2014) โดยมียอดกำไรสุทธิมากเป็นประวัติการณ์ถึง 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 585,000ล้านบาท แซงหน้าผลกำไรที่เคยติดอันดับหนึ่งมาก่อนของเอ็กซอนโมบิล (ExxonMobil) ที่เคยทำได้ 15,900 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 516,750 ล้านบาท) เมื่อปี ค.ศ. 2012 ไปอย่างขาดลอย

แถมด้วยยอดขายไอโฟนที่ทุบสถิติอีกครั้ง โดยในไตรมาสดังกล่าวแอปเปิลขายไอโฟนได้เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้จากยอดขายทั้งสิ้น 74.5 ล้านเครื่อง ขณะที่รายได้ของบริษัทในไตรมาสดังกล่าวก็พุ่งไปอยู่ที่ 74,600 ล้านเหรียญสหรัฐ (2,424,500 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าด้วย



ไม่เพียงเท่านั้น คอมพิวเตอร์แบรนด์แอปเปิลก็ทำยอดขายเพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาพตลาดซึ่งเป็นขาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยยอดขายเครื่องแมคในไตรมาสดังกล่าวมีถึง 5.5 ล้านเครื่อง และทำให้หุ้นของแอปเปิลพุ่งขึ้นกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ด้วย

อย่างไรก็ดี ในความสำเร็จก็มีความล้มเหลว เพราะผลิตภัณฑ์เดียวที่ไม่ได้ยืนอยู่ในฟากผู้ประสบความสำเร็จก็คือไอแพดที่มียอดขายลดลงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ (เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า) นั่นเอง

สำหรับใครที่ประเมินตลาดใหญ่อย่างจีนแผ่นดินใหญ่ว่าเป็นตลาดที่ยากลำบากสำหรับแอปเปิลก็ไม่ต้องกังวลแล้ว เนื่องจากในไตรมาสดังกล่าวยังพบว่าแอปเปิลได้เม็ดเงินกลับไปสูงถึง 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 521,600 ล้านบาทเลยทีเดียว แถมยังเอาชนะคู่แข่งขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของจีนในไตรมาสดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งกรณีนี้หากใครยังจำได้ถึงข่าวคราวการสั่งจองไอโฟน 6 และไอโฟน 6 พลัสของชาวจีนอาจไม่แปลกใจกับตัวเลขดังกล่าวเลยก็เป็นได้

ที่มา [Link]

หมายเหตุ รู้หรือไม่ว่า มูลค่าเงิน 585,000 ล้านบาท ที่เป็นกำไรสุทธิในช่วงไตรมาส 1 ของบริษัท(ตุลาคม - ธันวาคม 2558) นั้น สูงกว่ารายได้ที่รัฐบาลไทย นำส่งคลังในช่วงเวลาเดียวกัน!! ขณะที่ตัวเลขรายได้รวม 2 ล้านล้านบาทนั้น เทียบได้กับงบประมาณเพื่อขับเคลื่อนบริหารราชการแผ่นดินไทยปีนี้ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพิ่งอนุมัติไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2557!!