Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
นักวิเคราะห์เผย Batman v Superman อาจทำกำไรน้อยกว่า Man of Steel
FallsDowns at 2016-04-09 19:07:15 , Reads (33721), Comments (60) , Source :


ถึงแม้ว่าสุดยอดภาพยนตร์ฮีโร่ตบกันแห่งปีของทางฝั่ง DC อย่าง Batman v Superman: Dawn of Justice จะเปิดตัวทั่วโลกสูงถึงกว่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์แรก แต่เป็นที่น่าแปลกใจว่าสัปดาห์ที่สองกลับน่าเป็นห่วง ด้วยตัวเลขที่ตกลงมาถึง 69.1%



ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า เมื่อรวมทุนสร้าง 250 ล้านเข้างบประมาณโปรโมทภาพยนตร์ต่างๆแล้ว สุดท้ายแล้ว Dawn of Justice อาจจะทำกำไรให้ค่าย Warner Bros. น้อยกว่า Man of Steel เสียอีก

"Batman v Superman เป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ใช้ทุนสร้างสูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อวางจำหน่ายลง Home Video ทีวี และการขายสินค้าต่างๆแล้ว มันจะทำกำไรให้กับ Warner Bros. ประมาณ 278 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนั้นน้อยกว่า Man of Steel ซึ่งคาดกันว่าสตูดิโอทำกำไรไปกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ นี้เป็นหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าทาง Warner Bros. ยังต้องทำการบ้านอีก เพื่อให้ส่วน DC Comics นั้นกลายเป็นธุรกิจภาพยนตร์ซุปเปอร์ฮีโร่อย่างที่ต้องการ" - นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ Bloomberg กล่าว

"ผมเข้าใจว่านั้นคงเป็นอะไรที่น่าผิดหวังทีเดียว ทางค่ายคงหวังว่าจะทำ Box Office ได้สูงพอๆกับ Avengers: Age of Ultron จากที่ Batman v Superman มีตัวละครที่โด่งดังมากที่สุดของ DC รวมตัวถึง 3 คนในเรื่องเดียวกัน"



Avengers: Age of Ultron ของ Marvel ทำรายได้จากทั่วโลกไป 1,405 ล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ Batman v Superman: Dawn of Justice ทำรายได้จากในอเมริกาไป 273 ล้านเหรียญสหรัฐในขณะที่ทั่วโลกอีก 450 ล้าน รวมกัน 723 ล้านเหรียญสหรัฐครับ

ref: [Link]

แสดงความคิดเห็น
28 more comments >>
หน้าหนังมันมีหลายองค์ประกอบรวมกัน

MOS และ BVS ตัวหนังมันไม่ค่อยเป็นมิตรกับเด็กเล็ก ทั้งโทนหนังและเนื้อหาที่เด็กน่าจะเข้าถึงยาก

มันมีความแตกต่างระหว่าง Harry กับ MOS BVS ที่เป็นหนังค่าย WB เหมือนกัน ในขณะที่โทนสีของ Harry มืดหม่นแต่หนังสร้างให้เด็กดู มันมืดหม่นเพื่อสร้างบรรยากาศลึกลับตื่นเต้น และตอนแรก WB ก็กลัวว่าเด็กๆจะไม่ชอบ แต่ MOS BVS นี่ WB ทำอีกแบบเลย คือสร้างให้หนังเป็นความบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ อันนี้ต้องยอมใจ WB และขอชื่นชม ถึงแม้ส่วนตัวจะมองว่าหนังซูเปอร์แมนเหมาะกับโทนสดใสแบบของ ริชาร์ด ดอนเนอร์ มากกว่า


เรื่องไม่เคยปูพื้นสร้างหนังฮีโร่เรื่องอื่นมาก่อน อันนี้ไม่เกี่ยวครับ ลองหาหนัง JL:War มาดูครับ จะเข้าใจว่าคนที่ไม่รู้จักตัวละครฮีโร่มาก่อน ก็สามารถรู้จักจากเรื่องนี้เรื่องแรกได้เลยครับ (งั้นถ้าจะสร้าง 3ก๊ก ไม่ต้องปูกันเป็นชาติเหรอ) หนังดี-แย่อยู่ที่ตัวมันเอง หนังสือห่วยแต่หนังสนุกก็มี หนังสือ/เกมดีแต่หนังแย่ก็มี

เรื่องเปลี่ยนแผนหนัง DC คงทำไม่ได้ละครับ เค้าเตรียมงานมานาน ชุด ฉาก บท คิวงานดารา,ผกก. ขอOD เงินกู้ วันฉาย จะเปิดกล้องละ อย่าง JL ถึงเปลี่ยนตัวผกก.ไม่ได้
View all 2 comments >
แต่ผมว่ามันเกี่ยวนะ สำหรับ กรณีนี้

เพราะหนังมันไม่ได้ดี มากมาย

อย่างมาเวล หนังบางเรื่องมันก็ไม่ได้ดีมาก แต่คนมันดูมาจนติดแล้วเหมือนติดละครน่ะ ยังไงมันก็ต้องดูตอนต่อไป

แต่อันนี้ยังสร้างฐานแฟนๆ จักรวาลหนังได้ไม่เท่าที่มาเวลทำเลย พอออกมาไม่ดีสมบูรณ์แบบ คนทั่วไป ที่ไม่ใช่แฟน คอมมิคมันก็ไม่ตื่นเต้น จนอยากไปดู

หลายๆคน ยังไม่รู้จัก วันเดอร์วูแมน ด้วยซ้ำ เล็กลูเธอร์คือใครก็ไม่รู้ จะพึ่งแต่ แฟนคอมมิคอย่างเดียว มัน ไม่พอหรอกครับ

มันต้อง พึ่งคนดูขาจร ที่ไม่ใช่แฟนคอมมิคด้วย ซึ่งน่าจะเยอะกว่า แฟนคอมมิคด้วยซ้ำนะ แน่นอนทั้งโลกอาจจะรู้จัก แบทกับซุป ในฐานะ ไอคอนิคของโลกซุปเปอร์ฮีโร่เมกา แต่ตัวอื่นๆล่ะ ผมว่าคนดูหนังทั่วๆไป ทั้งโลก ไม่น่าจะรู้จักมักคุ้นขนาดนั้น
มันจึงควรมีการค่อยๆเล่าๆ ค่อยๆสร้าง ฐานแฟนฮีโร่แต่ละตัวมาก่อน แบบที่มาเวลทำ

อย่างอะเวนเจอร์ภาคแรก โคตรสนุกๆ แต่ถ้ามันคือหนังเรื่องแรกของมาเวลเลย ก็อาจจะไม่ ถล่มทลายขนาดนี้

ซึ่ง BVS นี่เข้าใจได้นะ ว่ามันไม่ใช่ จัสติคลีค มันคือภาคแรกๆของจักรวาลมันคือหนังที่เปิดประตูจักรวาล

จะไปคาดหวังว่ามันจะ 1000 ล้าน 2000 ล้านน่ะ มัน คาดหวังเกินตัวไปหน่อย

ได้แค่นี้ก็ถือว่าสมศักดิ์ศรีแล้ว

สร้างหนังฮีโร่ของแต่ละคนปูพื้นมาก่อน ถ้าเรื่องช่วยสร้างฐานคนดูนะช่วยได้ครับ แต่ก็ไม่ได้รับประกันว่าสูตรนี้จะปัง

ลองมองสูตรนี้นะครับ การให้ WW ไปโผล่เปิดตัวใน BVS น่าจะทำให้รายได้ของ WW ดีกว่า สร้าง WW ออกฉายก่อน BVS นะครับ

หรืออย่างเช่นตัวละครของ เบเนซิโอ เดลโตโร ในหนัง Sicario ที่มีข่าวว่าอาจจะสร้างภาคแยกให้ตัวละครนี้ หรืออย่างซีรี่ย์ Fast ที่มีข่าวว่าจะสร้างภาคแยกของตัวละคร ฮอบบ์ (เดอะร็อค) หรืออย่าง X-Men ที่สร้างภาคแยกตัวละครออกมาที่หลัง



หนังจะดีไม่ดี สนุกไม่สนุก คนดูจะอินไม่อินกับตัวละคร มันอยู่ที่บท อยู่ที่ตัวหนังเองครับ


ลองหาหนัง JL:War มาดูครับ จะเข้าใจว่าหนังจัสติสลีกไม่จำเป็นต้องสร้างหนังฮีโร่เรื่องอื่นๆปูไว้ก่อน คนที่ไม่เคยรู้จักซูเปอร์ฮีโร่ของ DC ก็ดูเรื่องนี้แล้วรู้จักตัวละครทุกตัวได้เลย

หรืออย่าง7เซียนซามูไรเรายังรัก/เอาใจช่วยลุ้นไปกับตัวละครทุกตัวได้เลยครับ ถ้าหนังมันดีซะอย่าง

(แต่จริงๆแล้ว BVS มันก็ไม่ได้เล่าเรื่องซับซ้อนอะไร ถึงมันจะไม่เล่าพื้นเพตัวละครในหนัง ตัวละครหลักมันมีแค่ 3 คนเอง และตัวซูเปอร์แมนก็ต่อยอดมาจาก MOS)
กลับมาที่หัวเรื่อง ที่บอกว่า bvs จะกำไรน้อยกว่า mos

ตอนนี้ bvs จะถึง 800 ล้านละ ด้าน mos ทำรายได้ราวๆ 670 ล้าน budget ของ mos 225 ส่วน bvm 250 ต่อให้ค่าโปรโมทเยอะกว่า หรือนับรายได้ส่วนต่างจากสินค้าอื่นแล้ว ผมก็ว่า BVS ก็น่าจะกำไรมากกว่า mos อยู่ดีนะ
Like : alcalshel
แซง Trans ภาคแรกไปแล้ว ดีใจด้วย

สำหรับหลายๆคน Trans ภาคแรก เป็นอะไรที่ No Name นะ

แต่ก็ถือว่าเปรี้ยงปร้างมิใช้น้อย
ใครแสดงเป็นสว.ครับ ชอบจัง สาวใหญ่

ถ้าไม่คิดอะไรมากฟินนะครับ ผมฟินมากเลย ถึงบางอย่างจะไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก
View all 1 comments >
ตามลิงค์เลยครับ

[Link]
ไม่ขออะไรมาก เรื่องอื่นที่เฮียแซ็คแกมีคิวกำกับต่อ อย่างน้อยก็ขอฉากแอคชั่นมาคั่นกลางมั่งเหอะ
ไม่ใช่มาปล่อยกัน 30-40 นาทีสุดท้าย จะโทนมืดหม่นยังไงก็ขอให้มีจังหวะเร้าใจมาคั่นกันเบื่อนิสนึง
แอ็คชั่นมันจัดเต็มได้มากกว่านี้อะ

ตอนแบทสู้กะซุปนี่แทบจะอยู่ใน ตย หมดแล้ว

ส่วนดูมเดย์ตายใน 15 นาทีได้
ถ้าบทไม่ดี ต่อให้ตัวละครดังแค่ไหน ผมว่าก็ยากนะที่จะถล่มทลายได้

ที่เหลือ คงต้องเอาใจช่วยหนังย่อยๆ อย่าง WW, aquaman, the flash และอื่นๆ ให้มันสนุก เร้าใจ (ถ้ามาแบบ Green Lantern นี่กลับบ้านเก่าได้เลย) พอไปรวมเป็น Justice League คนก็จะดูกันเยอะเอง แบบ Avengers
เอาจริงๆ หนังทำรายได้เกิน 700 ล้านเนี่ย ผมว่า มันควรจะเรียกว่าเยอะมากแล้วนะ

อย่างมาเวลเนี่ย เปิดตลาดมานานแล้ว สร้างโลกให้คนรู้จาก ผ่านมาหลายเรื่อง หลายภาค เลยทำให้เกาะขึ้นมาอยู่ระดับ 600-700 ล้าน+ได้ไม่ยาก ลองไปดูกัปตันหรือทอร์ภาคแรกสิ ได้กันแค่ 3-400 แต่ภาค 2 ขยับมากันแถวๆ 6-700 เพราะกินฐานลูกค้าจาก ww ได้แล้ว คือ ใช้เวลานานอยู่นะ กว่าจะติดตลาดขนาดนี้ เพราะเดิมที คนที่คุ้นเคยกับการ์ตูนมาเวล มันก็มีแต่ใน US นั่นแหละ

ส่วนตลาด DC ถ้าจะให้ได้แบบมาเวล มันก็ต้องลุยกันอีกยาว มันต้องเซ็ทโลกมาก่อน ต่อเนื่องยาวๆหลายเรื่อง หลายภาค

จริงๆ ดูจากรายได้ก็ได้ ฝั่ง US เนี่ย รายได้ตอนนี้ตาม AoU ไม่มากนะ แต่ที่โดนทิ้งเลยคือรายได้จากตลาด ww ซึ่งน่าจะมาจากที่ว่า โลกมันยังใหม่ในตลาด มันต้องใช้เวลาในการสร้างฐานลูกค้าด้วย

ekbee wrote:
ถ้าบทไม่ดี ต่อให้ตัวละครดังแค่ไหน ผมว่าก็ยากนะที่จะถล่มทลายได้

ที่เหลือ คงต้องเอาใจช่วยหนังย่อยๆ อย่าง WW, aquaman, the flash และอื่นๆ ให้มันสนุก เร้าใจ (ถ้ามาแบบ Green Lantern นี่กลับบ้านเก่าได้เลย) พอไปรวมเป็น Justice League คนก็จะดูกันเยอะเอง แบบ Avengers

Aquaman ผู้กำกับคือ เจมส์ วาน (Furious7, Saw, Insidious)

แต่ The Flash นี่สิ เซ็ธ เกรแฮม สมิธ ไม่เคยกำกับหนังมาก่อน แต่เขียนบท/นิยายเก่ง (คงมีวิสัยทัศน์เจ๋งๆถึงทำให้ WB ให้ทำหนัง)




ส่วน Wonder Woman ผู้กำกับคือ แพ็ตตี้ เจนกิ้นส์ (Monster)
ถ้านับกำไรกันจริงก็ต้องเอาทุนสร้างเป็นเกณฑ์วัดพื้นฐานอันดับแรก ในส่วนของทุนสร้างเอจ ออฟ อัลตรอนพอๆกันกับดอร์น ออฟ จัสติส ถ้าดูรายละเอียดของเอจ ออฟ อัลตรอนจริงตัวเลขจะสูงกว่านั้นมาก โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์รับบทนำไอออน แมนแค่ภาคนี้ก็รับไป 50 ล้านเหรียญสหรัฐและมีออฟชั่นอีกเพียบ

ส่วนดอร์น ออฟ จัสติสไม่ได้ทำสัญญาแบบยาวกับนักแสดงนำแค่ทำเป็นส่วนๆเรื่องๆ ทุนสร้างจะไม่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับมาร์เวลที่เซ็นกันเป็นระยะเวลาและจำนวนเรื่อง
ยังไงวอร์เนอร์ บราเธอร์สก็มีกำไรจากลิขสิขธิ์ของดีซีคอมมิคส์แบบเต็มๆอีกด้วย ซึ่งต่างจากมาร์เวลสตูดิโอส์ที่มีทั้งโซนี่,พาราเมาท์และดีสนีย์เป็นบริษัทแบ่งเปอร์เซ็นอยู่

และถ้านับทุนสร้างจักรวาลมาร์เวลในสามเฟสนี้ใช้งบประมาณทั้งสิ้น3,000-4,000ล้านดอลลอร์สหรัฐ ตอนนี้กำลังเริ่มเฟสสามกันอยู่เก็บรายได้ไปแล้วทั้งหมดของงบประมาณ 9,000ล้านเหรียญสหรัฐครับ

*แก้ไข*ค่าตัวดารากับทุนสร้างบางเรื่องก็รวมกัน แต่หนังฟอร์มใหญ่ๆส่วนมากมีนายหน้าติดต่อกับผู้สร้างต่างหากและไม่นับรวมกับทุนสร้างครับ
View all 1 comments >
โรเบิร์ต ดาวนี่ ค่าตัวสูงลิ่วมากเลย ตั้งเเต่ไอรอนเเมน1 จนล่าสุด ซีวิลวอร์ ไม่รู้ค่ายจ่ายเเกไปเท่าไหร่เเล้ว
Like : akekiller