ผมคิดว่าคนเขียนบทนั้นไม่ได้เข้าใจเข้าถึงตัวละครโจ๊กเกอร์ (ผมพูดถึงตอนที่กลายเป็นโจ๊กเกอร์ละนะ)
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม
โจ๊กเกอร์ในเรื่องนี้ไม่ต่างจากพวกเรียกร้องความสนใจ
โจ๊กเกอร์ทำตัวเป็นเด็ก
โจ๊กเกอร์เศร้าเหลือเกินที่ชีวิตนี้ไม่เคยมีใครมองเห็นตัวตนเค้า
โจ๊กเกอร์ดีใจสุดๆที่ในที่สุดก็มีกลุ่มคนที่เห็นตัวตนเค้า
คำถามคือ ถ้าวันนึงกลุ่มคนนี้หายไป แล้วโจ๊กเกอร์ตัวนี้จะอยู่ได้รึ ไม่เศร้าจนฆ่าตัวตายเลยรึ ในหนังก็เกือบละ กะจะฆ่าตัวตายในรายการ แต่กลายเป็นมานั่งระบายความทุกข์ ทำตัวเป็นเด็กน้อยโดนโลกรังแก
ผมเข้าใจนะว่าตอนนี้อาจจะยังไม่ได้เป็นโจ๊กเกอร์เต็มตัว
แต่มันก็ไม่สามารถลบจุดบกพร่องในตอนที่ยืนบนรถ กลายเป็น โจ๊กเกอร์ ได้

โจ๊กเกอร์ในความคิดผม คือคนอยากเห็นโลกลุกเป็นไฟ ไม่แคร์สายตาใคร ไม่แคร์ว่าใครจะมองตัวยังไง
สนใจแค่ทัศนคติ และ ความคิดลึกๆของตัวเอง ไม่สนว่าต้องมีใครมาแคร์ตัวเอง
คนมันจะสนใจโจ๊กเกอร์ ก็เพราะ สิ่งที่โจ๊กเกอร์คิดจะทำ
เพราะงั้นคนส่วนใหญ่ถึงชอบฉากที่ โจ๊กเกอร์แกล้งคนแคระ เอามือยื่นไปเหมือนจะไปจับมาฆ่า
เพราะอะไร? เพราะมันคาดเดาไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นไง นั่นเป็นสเน่ห์ของตัวละครนี้ ที่อยู่ผิดที่ผิดทาง

ในแง่การทำหนัง ผมคิดว่าตัวหนังเองก็ควรจะเล่นกับคนดู หนังเรื่องนี้ โจ๊กเกอร์ ใช่ไหม
ตัวตลกต้องเล่นมุกใช่ไหม
เล่นกับคนดูสิ หมัดฮุคของมุกนี้ยัดไปตอนจบ แต่นี่ไม่มี จบแบบเรียบๆ เล่าเรื่องชีวประวัติ จบก็จบ

นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดเกี่ยวกับ แม่ และ พ่อที่แท้จริงของอาเธอร์
โทมัส อาจจะเป็นพ่อที่แท้จริง (อาจจะ)
1.โทมัสใช้อำนาจดัดแปลงเอกสาร
2.โทมัสคบกับแม่โจ๊กเกอร์ไม่ได้เพราะความผิดปกติทางจิตของเธอ

ส่วนแม่เป็นแม่จริงๆของโจ๊กเกอร์
1.แม่แคร์โจ๊กเกอร์ เขียนจดหมายก็มีเขียนถึงตัวลูกตัวเอง
2.แม่ไม่เคยทำอะไรรุนแรงในเรื่องนี้เลยใส่โจ๊กเกอร์
3.แม่เส้นเลือดแตกเมื่อมีนักสืบสงสัยโจ๊กเกอร์ในการฆาตกรรม
4.เวลาโจ๊กเกอร์เครียด แต่ไม่ได้แสดงออก แม่ก็รู้ และ ทำตัวเป็นด้านบวกให้ลูก
5.อาการป่วยทางจิต เรื่องการคิดไปเอง ตัวอาเธอร์เองก็มีเหมือนกัน

ปล.ตอนจบของเรื่องโดนจับได้ไง คุณโจ๊กเกอร์ คุณอยู่กับม็อบที่มีเป็นร้อยบนถนน เมืองที่ลุกเป็นไฟ แต่ก็โดนจับ ส่วนตัวคิดว่าตอนนั่งอยู่บนรถไม่มีใครมาช่วยหรอก ก็ตรงไปคุกนั่นล่ะ แต่ที่เห็นมีคนช่วยเอย ลุกมายืนเอย น่าจะเกิดจากจินตนาการ คิดไปเอง

ถ้าให้คะแนนหนังเรื่องนี้ผมคงให้ 9/10
เพราะตัวหนังก็สมบูรณ์ในแบบของมันเอง
อยู่ที่ความชอบของคนดูแล้ว ว่าชอบหนังแบบไหน

นักแสดงดี เพลงประกอบดี การตัดต่อดี การถ่ายทำเข้าขั้นงานศิลปะสวยแทบทุกช็อต

ประมาณนี้

ต้องบอกว่า​ joker.ตัวนี้มีความOriginแบบตัวเองอยู่​ จะมีก็แต่รากของตัวละครที่คล้ายๆกันทุกเวอชั่น

แม้แต่ใน​ คอมมิค ประวัติของ​jokerก็ถูกดัดแปลงและเปลี่ยนจำอยู่แล้ว​ แม้กระทั่วจริงๆแล้วjokerนั้นมีหลายคนหลายยุค

แล้ว joker คืออะไร?

joker มีคาแร็คเตอร์ที่แท้จริงด้วย ผมพึ่งรู้เลยนะนั่น

โจ๊กเกอร์ในเรื่องนี้ไม่ต่างจากพวกเรียกร้องความสนใจ
โจ๊กเกอร์ทำตัวเป็นเด็ก
โจ๊กเกอร์เศร้าเหลือเกินที่ชีวิตนี้ไม่เคยมีใครมองเห็นตัวตนเค้า
โจ๊กเกอร์ดีใจสุดๆที่ในที่สุดก็มีกลุ่มคนที่เห็นตัวตนเค้า

ก็ใช่ตัวตนของเขาแล้วนิ ข้อสามสี่นี่ถึงได้ชอบชวนแบทแมนมาเล่นกันเถอะไง

ถ้าไม่ใช่ชื่อเรื่อง Jocker

อีตานี่มันก็คือคนโรคจิต ที่ถูกเลี้ยงโดยแม่เลี้ยงโรคจิต ฐานะยากจน และไม่ได้รับยาต่อเนื่อง

พอเจอเรื่องกดดันก็ระเบิดมันออกมา เหมือนคนบ้ามีปืน

พอเจอเรื่องเครียดกดดันก็สติแตก

โดยรวมผมชอนะ โรคจิตดี ฉากยิงไอ้ 3 ตัวนั่นสะใจทึ่สุดแล้ว

8/10 ครับ

มันมีอัตลักษณ์รูปแบบการนำเสนอในมุมมองของคนที่โดนพิษจากสังคมทำร้าย จะเรียกว่าเป็นโจ๊กเกอร์ได้มั้ยก็ไม่เชิงกึ่งจะเป็นตัวละครที่ทำให้ศึกษามากกว่า ไปออกแนวจิตวิทยาด้วยซ้ำต้องใช้วิจารณญาณตีความไปเองในแบบของผู้กำกับ หนังแม่งดูยากมากยากในแบบหนังรางวัลที่ต้องใช้ความคิดร่วมกับอารมณ์หนัง

แต่ไม่ใช่ว่าหนังจะซับซ้อนอะไรมากมายเดินเรื่องเป็นเส้นตรงหักมุมก็ไม่ได้ว้าวมาก แต่การแสดงของวาคีนนี่สุดแบบเราดูเองคิดว่าเอาคนป่วยจริงๆมาแสดง โครตดาร์กทั้งโทนและหม่นในสภาพสังคมที่เรื่องชนชั้นเป็นปัญหาหลัก หนังมันสนุกในแบบของมันน่ะก็ไม่ใช่จับเอานู้นเอานี่มายำใส่ให้มันดี

สรุปคือสนุกแต่ความดาร์กเกินบรรยายจริงๆ
คะแนน 9/10 ไปเลย

ผมไม่ได้ตาม คอมมิค
อาเธอร์ เฟล๊ค นี่เป็นชื่อตัวตนของโจ๊กเกอร์จริงๆใน ทุกๆเวอรชั่นเลยหรือเปล่าครับ หรือว่าเป็นชื่อที่มีขึ้นมาในหนังเรื่องนี้

อย่างแบทแมน ตัวตนที่แท้จริงก็คือ บรู๊ซ เวย์น

ผมว่าจุดผลิกผันที่สุดของการเป็นโจ๊กเกอร์ก็คือไม่ได้ยามากินแล้วน่ะครับ สติความยับยั้งชั่งใจอะไรเลยไม่มีแล้ว

สำหรับเรื่องนี้ผมว่าถ้าไม่ได้พะยี่ห้อโจ๊กเกอร์ก็คือหนังแนวดราม่าอาชญากรรมนั่นแหละ ไม่ได้จัดอยู่ในหมวดแนวซุปเปอร์ฮีโร่ และคนก็จะสนใจกันน้อยกว่านี้

ผมเห็นด้วย .. ถ้าตัดชื่อ Joker ออกไป มันก็หนังฆาตกรโรคจิตธรรมดาๆ
ดูจบแล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่านี่คือ Joker ที่มีชื่อเสียงในโลกคอมมิค

ไอ้ที่รีวิวกันว่ามันคือหนังมืดหม่น จิตตก รุนแรงอะไรน่ะ มันรีวิวโอเวอร์ไปรึเปล่า
ดูจบแล้วผมก็สนุกกับหนังนะ มีแง่คิดหลายอย่าง และบางเรื่องก็คล้อยตามอาเธอร์ด้วยซ้ำ
.. แต่มันยังห่างกับคำว่าจิตตก หดหู่ สำหรับผม ชีวิตจริงของหลายคนมันบัดซบกว่านี้เยอะ

ก็ปล่อยให้เป็นไปตามที่ผกก.และนักแสดงต้องการเถอะ
คือเป็น Joker ในอีกโลกนึงที่ไม่เกี่ยวกับคอมมิค ไม่ได้อยู่ในจักรวาลทีมีฮีโร่พลังวิเศษ

สิ่งที่ Joker คิดและต้องการใกล้เคียงจริงๆน่าจะเห็นได้ในตอนจบของ Arkham knight ในเกมส์น่ะครับ

คือการไม่มีตัวตนและคนมาสนใจ ทุกคนลืม Joker ไปหมดแล้ว
โดนแบทแมนขังไว้ในจิตสำนึกของแบทแมนไปตลอดกาล

ดูมาเเล้วทำไมผมรู้สึก เเค่ไม่สมเหตุกับเรื่อง โยง 3 ศพเเรกเท่านั้นที่บอกว่าฝีมือตัวตลกทำ ผมว่า มันเล่นง่ายเกินไปนะ เเละคนก็เชื่อง่ายก่อตั้งลัทธิบ้อบอไปกันใหญ่เเบบ เอาเเบบนี้เลย ไม่เล่าเรื่องให้เยอะให้พีคกว่านี้ว่า วีรกรรมเเต่ละอย่างมันเริ่มกระตุ้นให้คนออกมาร่วมชุมนุม

เเต่ที่เหลือรับได้หมด ยอมรับว่าเป็นเเนวใหม่โอเค โดยรวมมัน ดำ ดิ่งจริงๆ ดูจบ ต้องไปหาการ์ตูน หาชิงร้อยชิงร้าย อะไรบ้าๆบอๆ มานั่งดูให้ฮาลั่นบ้านถึงจะจิตสงบเเละคิดได้ว่า มันก็เเค่หนังเนอะ

เเต่ที่น่าเสียดายคือ ฉากปลุกระดมมันน้อย เเละ ดูไม่ค่อย อิมเเพค เท่าไร อยากให้มันเยอะกว่านี้ อยากให้พาคนไปถล่มตรงนู้น ตรงนี้ เเต่เข้าใจว่า เขาพยายามจะสื่อว่า เฮีย jorker ไม่ใส่ใจเรื่องเเบบนี้อยู่เเล้ว เเค่ปัญหาชีวิต ตู ก็ยังเเก้ไม่ได้เลย เเต่ก็เขียน
บท มาลง lock เข้าร่วมกับผู้ชุมนุมได้ พอดี

ปล2. เอาจริงที่ดูเพราะเเรงอวยเยอะมาก การเเสดงเทพ เเต่ที่ผิดหวังเพราะไปเห็นตัวอย่างที่ joker ทำท่าเหมือนไปเป็นเเกนนำ ยกขบวนพา mob ตัวตลก บน รถไฟ ก่อนหนังเขาก็ตีความว่ามันต้องยกพวก mob ไปถล่มใส่กันยับ สร้างความปันป่วนทั่วเมืองเเน่ ที่ไหนได้ หนังชีวิตของเฮีย jorker ล้วนๆ เเต่หลายๆฉากก็ทำเอาผมน้ำตาไหลเหมือนกัน อย่างฉากโรงพยาบาลค้นหาความจริง ฉากที่เครียดเเละเหวอก็มี ฉากรภไฟ กับ อี 3 เกลอนรก เเละ ฉากเล่นตลกครั้งเเลกในผับ ฉากนั้นทั้งเหวอ เเละก็หักมุมเเบบโอ้โห

เอาไป 6/10 ผมนี่เกือบหลับคาโรง

หนังมันกราฟไม่หวือหวาเท่าไหร่ ไล่ระดับเนิบๆ
พอไม่มีคลื่นสูงบ้าง มันก็ชวนหลับ

ชอบที่ตีโจทย์โจ้กเกอร์แบบนี้ แต่ไม่ชอบที่มันเนิบเกิน
ดูแล้วจะหลับ😅

เปิดตัววีค เอ็นด์ สัปดาห์แรกในบ็อกซ์ ออฟฟิศก็เป็นหนังทำเงินพอสมควร ประมาณ 94 ล้านดอลลาร์ทั่วโลกอีก 140 ล้านตอนนี้หนังขายไปได้ที่ 234 ล้าน น่าจะคุ้มทุนสร้างราวๆ 55-70 ล้านดอลลาร์ที่สร้างหนังและมีกำไรไปแล้ว ในอเมริกาถ้าจบได้ซัก 200+อย่างเยี่ยมเลยสำหรับหนังเรต อาร์

ไปดูรายชื่อหนังเรต อาร์ที่เปิดตัวในสัปดาห์แรกโจ๊กเกอร์นี่ก็หรูหราใช้ได้อันดับที่สี่ ขนาดอเมริกัน สไนเปอร์กับโลแกนยังแพ้หนังของท็อดด์ ฟิลลิปส์เรื่องนี้ ผมว่าถ้าทั่วโลกกับอเมริกาได้ซักประมาณ 600-700 ล้านดอลลาร์ บางทีวอร์เนอร์อาจทำโปรเจ็กท์เชื่อมโยงต่อจากเรื่องนี้อีก แบบไม่ได้ไปข้องเกี่ยวโซน ดีซีอียู หรือจักรวาลอื่นๆ

ผมคิดเหมือนเจ้าของกระทู้นะ คือการแสดงดีไหมก็ดี แต่มันเหมือนหนังคนมีปัญหาทางจิตแล้วเอาชื่อโจ้คเกอร์มาใส่ ดูจบแล้วก็จบไม่ได้ดาร์คหรือมืดมนอะไร (ชีวิตส่วนตัวผมเคยผ่านช่วงดาร์คมาแล้ว เลยคิดว่าไม่ได้ดาร์คอะไรขนาดนั้น)

ตัวร้ายเรื่องอื่นเจอปมโหดๆกว่านี้ ก็มี เลยเฉยๆ เอาจริงแอ็คชั่นน้อยไปนิดน่าจะเพิ่มให้เป็นทริลเลอร์แอ็คชั่นกว่านี้หน่อย

ส่วนตัวผมเรื่องนี้ทั้งเรื่องถ้าเราสังเกตุตอนจบดีๆ จะเห็นว่าตาท๊อดด์แกใบ้ให้แล้วว่าจริงๆ แล้วเรื่องที่เราดูมาทั้งหมดมันเป็นสิ่งที่ Joker คนที่โดนหมอจิตเวชถามอยู่ตอนจบจินตนาการขึ้นมาเอง จากฉากที่ Joker คิดภาพที่ Bruce ยืนอยู่หน้าศพพ่อแม่ในตรอกข้างโรงละคร ที่เป็นสิ่งที่ Joker ที่เราเห็นมาในหนังทั้งหมดไม่ควรจะจินตนาการได้ตรงกับสิ่งที่เกิดขึ้นขนาดนั้นอ่ะครับ (จินตนาการได้ถูกตรอก ตำแหน่งของพ่อ และแม่ ถูกต้อง)

นั้นหมายความว่า Joker ที่เราเห็นเนี่ย คือ Joker ที่ได้สู้กับ Batman มาซักพักนึง จนรู้แล้วด้วยว่า Bruce Wayne คือ Batman ถึงได้จินตนาการเรื่องทั้งหมดออกมาว่า Joker คือต้นกำเนิดของ Batman ถึงได้หัวเราะแล้วบอกหมอไงว่าหมอไม่เข้าใจหรอก อารมณ์ตอนนั้นคือหลงตัวเอง สร้างเรื่องออกมาให้ตัวเองมีความสำคัญกับ Batman มากกว่าที่เป็นจริง ไม่ว่าจะเรื่องที่ตัวเองเป็นพี่ชายของ Bruce ซึ่งเฉพาะเรื่องนี้ก็หักมุมไปมาถึง 3 รอบ แม่บอกว่าใช่ โทมัสบอกว่าไม่ใช่ มาเจอภาพที่มีตัวย่อ TW หลังจากฆ่าแม่ตัวเองไปอีกรอบ เพื่อจะบอกว่าจริงๆ แล้วตัวเองมีความสำคัญคือเป็นพี่ของ Bruce อยู่ดี หรือการที่ตัวเองเป็นคนสร้าง Batman ขึ้นมาเอง

ตัวนิสัยของ Joker ที่นำเสนอออกมาด้วยชุดความคิดของเด็กยุคใหม่ ที่เอาแต่โทษคนอื่น สิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้้นกับตัวเอง เป็นความผิดของคนอื่นเสมอ ตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำ สามารถหาเหตุผลมารองรับการกระทำของตัวเองได้ตลอด บวกกับตัวม๊อบในเมือง Gotham ที่โทษคนรวย ประกอบกับการให้สัมภาษณ์ของตาท๊อดด์ช่วงก่อนหนังฉาย ตัว Joker และคนใน Gotham ที่เราเห็นในหนังคือตัวแทนของกลุ่ม Antifa ซ้ายตกขอบหัวรุนแรงห้ามใครเห็นต่างกุถูกเสมอ ในโลกแห่งความเป็นจริงนั้นเองครับ ดังนั้นถ้าคนที่ไปดูเข้าใจเรื่องการเมืองของอเมริกาอย่างน้อยๆ 2 เรื่องอย่าง Occupy Wall Street และ Antifa จะดูหนังเรื่องนี้และเข้าใจตัวตนของ Joker และเมือง Gotham ที่ Joker นั่งจินตนาการให้เราดูในหนังได้มากขึ้นพอสมควร และจะเข้าใจมากขึ้นเลยว่าทำไมอยู่ๆ พอตัวหนังปล่อยให้นักวิจารณ์ได้ดูเพื่อรีวิวหลังจากเทศกาลหนังที่เวนิส ถึงออกมาแบบโดนนักวิจารณ์สับเรื่องความรุนแรงอ่ะครับ

อันนี้ไม่แน่ใจว่าคิดมากไปไหม แต่คิดว่า Joker ทาปากตัวเองตามท่าคำนับคนดู เพราะมุมปากด้านขวาชี้ไปที่ 11 นาฬิกา ส่วนมุมซ้ายไปที่ 3 นาฬิกา เหมือนกับมุมของมือ Joker เวลาเต้นเสร็จแล้วคำนับคนดูครับ

อาจจะเขียนงงๆ ไปหน่อย จริงๆ มีอะไรอยากพิมพ์อีกเยอะเลย แต่วันนี้เรียงความคิดออกมาไม่ค่อยได้ยังไงไม่รู้ครับ ว่ะ ฮ่ะ ฮะ ฮา