10 อันดับหนังที่ผมชอบที่สุดในปี 2018

ปีนี้ผมดูหนังน้อยลง หนังดีๆหลายเรื่องก็พลาดไป ลิสท์มันเลยอาจขาดหนังที่คนชอบกันเยอะไปบางเรื่อง *ปีนี้ไม่มีหนังไทยติดถึงจะดูหนังไทยเยอะก็ตาม*

ชี้แจงก่อนว่า หนังที่ผมให้คะแนนไว้สูง ถึงเวลาอาจจะอยู่อันดับล่างกว่าหรือไม่ติดอันดับเลยก็ได้นะครับ ความชอบกับคะแนนผมว่าคนละเรื่องกัน หนังคุณภาพสูงแต่ถูกจริตน้อยกว่ามันก็เกิดขึ้นได้ครับ

10. The Shape of Water

อาจจะงงกันว่าได้อันดับแค่นี้เอง ทั้งๆที่เป็นหนังออสการ์ Best Picture ผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกัน อะไรๆมันเอื้อให้ชอบไปหมด ทั้งการที่เป็นหนังของผกก.คนโปรดเดลโทโร่ ทั้งธีมของมัน อาจจะเป็นเพราะถูกสองแม่ลูกเสียงดังกวนตลอดเวลาในโรง หรือเพราะการเฉลยในตอนท้ายมันให้อะไรกับเราน้อยไปหน่อยก็เป็นได้



9. All the Money in the World

งานล่าสุดของปู่ Ridley Scott ที่ถึงจะมีความธรรมดาอยู่บ้าง แต่ตัวละครเอกที่รับบทโดย Christopher Plummer ก็มีสเน่ห์น่าสนใจสุดๆ



8. The Post

ชอบเมสเสจของมันที่เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันได้ดีมากๆ ถึงแม้จะตามสูตรหนังออสการ์ไปหน่อยก็ตาม Streep ก็เล่นดีมากๆ



7. Crazy Rich Asians

รอมคอมยังไม่ตาย เขาอยู่ใต้รถบรรทุก ชอบที่มันคืนชีพหนังรอมคอมเนี่ยแหละแถมยังทำได้สนุกลงตัวมากกก



6. Annihilation

งานของผกก.คนนี้ยังดีงามเสมอต้นเสมอปลาย ด้วยธีมไซไฟที่สุดล้ำ เมสเสจที่ลุ่มลึก และงานสร้างที่เนี้ยบสุดๆ



5. Three Billboards Outside Ebbing, Missouri

หนังออสการ์ที่นักวิจารณ์หลายคนยี้ แต่เรากลับชอบมาก เราคงไม่เทพพอที่จะเห็น flaw ในการสร้างตัวละครของมัน (ที่เป้นสิ่งที่หลายคนด่า) แล้วฉากขยี้มันโดนใจเราจนร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวร



4. Aquaman

เจมส์ วานแกอยากใส่อะไรก็ใส่ แล้วทำให้มันเว่อร์ทะลุขีดเพดาน ผลที่ได้ดันออกมาโคตรสนุก



3. One Cut of the Dead

แนวคิดโคตรอัจฉริยะ แล้วทำออกมาได้ตลกฉิบหาย อารมณ์ครึ่งเรื่องแรกก็ดิบดี



2. Hereditary

เนี้ยบสุดๆ สยองสุดๆ เพอร์เฟคสุดๆ และสำหรับผมที่กำลังจะเป็นพ่อคน นี่เป็นหนังที่น่ากลัวสุดๆ



1. Ready Player One

แน่นอน มันไม่ใช่หนังที่เพอร์เฟคเท่า Hereditary ถ้าตัดความตื่นตาตื่นใจของ reference ต่างๆออกไป มันก็เป็นหนังที่เนื้อเรื่องธรรมดามากเรื่องหนึ่ง คนที่อ่านหนังสือมาแล้วก็คงยี้กันเพราะมันสู้หนังสือไม่ได้ แต่ผมไม่เคยอ่านนี่นา และผมโกหกตัวเองไม่ได้เลยว่านี่เป็นหนังที่ทำให้ผมมีความสุขในโรงมากที่สุดของปีนี้ reference มันก็ไม่ได้มาดาดๆ ดูใส่ใจและดูเนิร์ดจริงๆ ต้องขอกราบตีนสปีลเบิร์กมา ณ ที่นี้ (ทำหนังมาสองเรื่องติดลิสท์ทั้งคู่ บ้าจริง)



แถมหนังที่เกลียดที่สุดของปี

หนังไทย : The Pool หนังมันโง่เกิ๊น

หนังเทศ : จริงๆมี Candidate 2-3 เรื่อง แต่ขอให้เรื่องนี้ละกัน Fantastic Beast : The Crimes of Grindelwald เพราะมันมีความผิดหวังเข้ามาด้วย ภาคแรกทำไว้โคตรดีภาคนี้ทำไมยังกะร่ายคาถานอนหลับไว้ฟะ

ก็คงประมาณนี้นะครับกับ list ปี 2018 ปีหน้าฝากตัวด้วยเด้อ

Avenger Infinity war ไม่ติดงะ

dragonball super broly อันดับ 0 สินะ

The poolก็ตามสไตล์ผู้กำกับ ชอบเขียนอะไรเว่อร์แบบนี้ครับ

ไม่มี quiet place แฮะ ผมให้ ที่ 1 ปีที่แล้วเลย หนังเทพมาก 555

ตอนนี้ที่เข้าหัวมี 5 เรื่อง
อนิเมะ 2 เรื่อง sayoasa ดราก้อนบอล
หนังไทย 1 เรื่อง homestay
หนังฝรั่งแนวฮีโร่ อควอแมน ,infinity war

มีสนุกเกินคาดมากๆ 1 เรื่องคือ Overlords ทั้งที่ตอนแรกเห็นตัวอย่างหนังนึกว่าหนังเกรด C เอาชื่อเมะแนวต่างโลกที่กำลังเป็นที่นิยมฝรั่งมาตั้ง ที่ไหนได้สนุกและดีกว่าที่คิดเยอะ

ที่เห้ที่สุดที่เข้าหัวมาก็เหมือน จขกท. The pool มีดีข้อเดียวจริงๆคือพี่เคนแสดงได้ดีมาก

ให้น้องพี่ที่รัก ไปดูแบบไม่คิดอะไรมากแต่ก็สนุกแถมซึ้งดี

ของผม 14 อันดับ



1 ISLE OF DOGS (2018)



2 SHOPLIFTERS (2018)



3 One Cut of the Dead (2017)



4 READY PLAYER ONE (2018)



5 Paddington 2 (2017)



6 YOU WERE NEVER REALLY HERE (2017)



7 MANDY (2018)



8 UPGRADE (2018)



9 A QUIET PLACE (2018)



10 EIGHTH GRADE (2018)



11 BLINDSPOTTING (2018)



12 THE GUILTY (DEN SKYLDIGE) (2018)



13 Bird Box (2018)



14 MIRAI (2018)

หนังที่ผิดหวังของปี 2018



The Predator (2018) .....ตัวหนังสนุก แล้วก็ฮาโคตรๆ แต่มันไม่ใช่อ่ะ

อันนี้หนังในใจของผม
อันดับ1 ทรีบิลบอร์ด หนังครบทุกอารมณ์ คาดเดายาก พอร์ตเรื่องแปลกแต่โดยรวมดีมาก นักแสดงแสดงได้ดีสุดๆ
อันดับ2 เรดี้เพลย์วัน หนังสนุกจนต้องดูซ้ำ
อันดับ3 เฮียดิทารี่ เป็นหนังที่ดูแล้วไม่ชอบเอามากๆ แต่ให้อันดับ3เพราะทุกอย่างมันดีหมด ซาวน์ทำมาดีมาก มุมกล้องดี ที่ผมไม่ชอบเพราะมันกดดัน+ภาพติดตาจนทำให้หลอนไปหลายวัน แต่ถ้ามองในแนวการทำหนังผมจัดให้เป็นหนังสยองขวัญแห่งปีเลย

ส่วนหนังห่วย ขอให้เดอะนันเลยจ้า คือไม่สร้างก็ได้ พอร์ตเรื่องแบบดันทุรัง งานภาพหรือความหลอนนี่แทบไม่มีเลย เดาได้ทุกตอนผีออกทางใหน ซาวน์จัดว่าเห้สุด ไปดูในโรงไม่คุ้มอย่างแรงแบนราบเหมือนทำเสียงมาแบบโมโน ยกเว้นตอนนกพิราบบินผ่านหลัง

ปี 2018 ที่ผ่านมาผมก็ดูไปเยอะเหมือนกัน ถ้าคัดที่ชอบมา 10 ลำดับก็ (ไม่จัดลำดับ)


ที่เซอร์ไพรส์+ดีเกินคาด (เรียงลำดับ)

The Most Favorite 10 อันดับหนัง 2018

10. Aquaman
ยอมรับว่าหนังไม่ได้ perfect อะไรเลย การตัดต่อดำเนินเรื่องและบทที่สะเปะสะปะและลิเกไปหน่อย แต่...ผมชอบ เพราะมันให้อารมณ์เหมือนดูการ์ตูนสมัยก่อนๆอย่างพวก Thundercat Heman อะไรทำนองนี้คือ ผกก. เจมส์ วาน รู้ตัวว่ากรูไม่สนว่า Aquaman จะถูกจริตใครอะไรยังไง ขอแค่ให้หนังมันสนุก และหนังมันก็สนุกจริงๆ การที่ทำให้ตัวละครอย่าง Aquaman badass ได้นี้มันก็ถือว่าผ่านสำหรับผมแล้วล่ะ



9. Paddington 2
ดูหนังเรื่องนี้ มันให้อารมณ์นึกถึงตอนดูหนังครอบครัวสมัยเด็กๆ Home Alone, Matilda, A Christmas Story มันทั้งสนุก ดูเพลินๆและอบอุ่นหัวใจ



8. Avengers Infinity Wars
ตอนแรกก็คิดอยู่ว่า มันจะทำได้ยังไงว้า ในการที่เอาตัวละคร superhero เป็นสิบๆตัวมายัดรวมกันเป็นหนังเรื่องเดียว 2 ชั่วโมงครึ่ง แต่ ผกก.พี่น้อง Russo ทำได้ และทำได้ดีมากๆด้วย โดยการทำเป็นหนัง Thanos The Movie ซะเลย และมันเป็น way of work ที่บรรเจิดสุดๆ ทำให้ Avengers Infinity Wars ประสบความสำเร็จขนาดนี้ แถมด้วยฉากจบที่ค้างคาใจคนดู ต้องมานั่งดูภาค 4 อีกให้ตายสิ




7. Black Panther
ถ้ามองผ่านบทเนื้อเรื่องทีไม่ได้แปลกใหม่อะไร เจ้าชายดินแดนหนึ่งโดนพระอนุชาต่างมารดาแย่งบัลลังค์ไปได้ แล้วสุดท้ายก็กลับมากอบกู้อาณาจักร (ฮัลโหล Simba) แต่ถ้ามองข้ามประเด็นนี้จริงๆหนังนำเสนออะไรหลายอย่างในมุมมองเรื่องของ Afrofuturism ได้ดีมากๆ ผมชอบในการที่ได้เห็น gadget หรือชีวิตความเป็นอยู่ของชาววากานด้า บรรดาเหล่า futuristic nigga ว่าเป็นยังไงประกอบกับนำเสนอ Art Direction ประเด็นนี้ได้ดี โอเคถ้านอกจากบทโดยรวมที่ออกจะเชยไปหน่อย แต่หนังก็สนุก



6. Mission Impossible : Fallout
เป็นภาคที่ดีที่สุดในบรรดาหนัง Mission Impossible ที่มีมา ไม่มีอะไรพูดมากหนังสนุกบทสายลับเล่นหักหลังเซอร์ไพร์สคนดูทั้งท่าง่ายท่ายาก ทำเอาดูแล้วลุ้นไปตั้งแต่ต้นยันจบ




5. Spiderman Into Spiderverse
หนังอนิเมชั่นที่ชอบมากสุดในปี 2018 (ถึงแม้เพิ่งดูสัปดาห์ก่อนปี 2019 รอบ Pre-Screening แต่ผมยึดเอาตาม Wide Release Date ดังนั้นผมก็จะจัดหนังเรื่องนี้อยู่ในปี 2018) ชอบงานภาพเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆ มีการเอาจับตัวละครในโลก Spiderman มาใช้ได้แปลกใหม่ เหมาะสมดี นึกไม่ถึงว่าการได้เห็น Spiderverse ออกมาโลดเล่นบนจอภาพยนตร์มันทำได้ดีขนาดนี้ ถ้ามีภาคต่อหวังว่าจะหยิบเอาเนื้อเรื่อง Spider Island มาทำต่อนะ



4. A Quiet Place
ความเงียบคือประสบการณ์ของหนังเรื่องนี้ ที่ผมดูในโรงและเพิ่งได้ประสบพบเจอกับการที่คนดูเต็มโรงและพร้อมใจไม่ส่งเสียงซักแอะเลย เพราะทุกคนมีสมาธิและลุ้นไปกับหนังจนจบเรื่อง มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และแสดงให้เห็นว่าหนังมันเล่าเรื่องดีขนาดไหน



3. Roma
ที่ผมชอบมากๆในหนังเรื่องนี้ เพราะงานกำกับและถ่ายภาพโดยเฉพาะเลยจริงๆ เสมือนเราได้ immerse ตัวเองไปส่องชีวิตชาวบ้านธรรมดาๆ ความเรียบง่ายลงตัวแต่แฝงแง่คิดในตัวหนัง มันทำให้ผมเข้าใจในตัวละครที่พยายามดิ้นรนใช้ชีวิตผ่านอุปสรรคไปวันๆ เป็นวัฏจักรฟ้าหลังฝน ทุกอย่างถึงแม้มีสิ่งร้ายมาสร้างบาดแผลให้เราอยู่เรื่อยๆแต่เดี๋ยวก็มีสิ่งดีๆเข้ามาเช่นกัน



2. A Star is Born
หนังเรื่องเดียวในปีนี้ที่ทำผมน้ำตาซึม หนังดีเพลงเพราะ และยอมใจให้กับการแสดงทั้งตัวพระเอก Bradley Cooper และนางเอก Lady Gaga จริงๆ



1. Hereditary
ไม่มีหนังเรื่องไหนที่ดูแล้วหดหู่เท่าที่ดูมาในรอบหลายๆปี หนังทั้งแฝงด้วยความน่ากลัวและประเด็นลึกลับไปตลอดทาง เหมือนกำลังนั่งอ่านนิยายสยองขวัญ ถึงแม้หลายคนไม่ชอบที่หนังมันเล่าเรื่องช้า เนิบๆ ไปเรื่อยๆ แต่ผมว่านี่แหละหนังลึกลับสยองขวัญมันควรต้องเป็นแบบนี้และมันเป็นสิ่งที่ขาดหายไปในหนังสยองขวัญปัจจุบันจริงๆ ไม่ใช่เจอแต่ Jump Scare ตุ้งแช่ๆ แล้วหมุนกล้องซูมไปซูมมาเวียนหัว ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ทำฉากให้น่ากลัว คือ Hereditary ไม่มีอะไรแบบนี้เลย เป็นหนังครอบครัวที่กำลังพังทลายบนฉากธรรมดาๆ หมุนกล้องแบบค่อยๆแพนกล้องไปเรื่อยๆ เสมือนเรานั่งดูนิทรรศการเล่าเรื่องโศกนาฏกรรมอย่างหนึ่ง แต่มันทำให้ผมดูลุ้นและบีบหัวใจไปตลอดเพราะไม่รู้อะไรเลยจริงว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น มันเหมือนมีปีศาจเอามีดจ่อคอหอยตัวละครตลอดเวลาแล้วเรามองมันไม่เห็น หนังพยายามสื่อให้เห็นปีศาจร้ายที่แฝงอยู่ในตัวคนมากกว่า supernatural ที่มาจากไหนไม่รู้ ที่ต้องชมมากๆคือนักแสดงที่รับบทเป็นแม่ Toni Collette แสดงดีมากๆจนแบบ เธอ...เข้าชิงออสการ์เถอะ ฉากทะเลาะกันบนโต๊ะอาหารนี่ตราตรึงจริงๆ

เดียวนะครับ
อันดับ1นี้ชอบเหมือนผมเลย
แต่อันดับ3ไม่เคยดู
รอมาสเตอร์ต่อไป

ในลิสนี้ได้ดูแค่สองเรื่องเอง ช่วงนี้เสพติดยูทูปหนักมาก
ทั้งหนัง ทั้งซี่รี่ย์ ทั้งเกม ทั้งเมะ บูชาให้ยูทูปหมด
Hereditary ไอเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยที่ทำให้ผมสยองกับหนังผีมากกว่าปกติ

ตอนแรกคิดว่าเป็นแนวจิตวิทยาไซโคครอบครัว แถมตอนนั้นดูในโรง แถวว่างทั้งหน้าทั้งหลัง

โอ้ยโคตรเครียด ลิทธิคนโป๊นี้โครตหลอน


Ready Player One ถ้าไม่แก่พอคงดูไม่อินอะ แต่เรื่องเอฟเฟคนี้สวยงามรายละเอียดเยอะดีมาก