ณ เกาะแห่งโชคชะตาDestiny Islands ชายหนุ่มผมสีเงินยืนอยู่ที่ชายหาดในยามเย็นและพูดว่าโลกนี้ช่างเล็กเกินไป ภาพจะตัดไปเป็นตอนกลางคืนในสถานที่เดียวกัน Master Xehanortในชุดฮู้ดสีดำที่เหมือนพวกOrganizationXIIIใส่ ได้พาVentusมายังที่นี่ Venนั้นมีรูปร่างหน้าตาเหมือนกับRoxasทุกอย่าง ในตอนนี้Venอยู่ในสภาพหลับใหลเนื่องจากหัวใจของเขานั้นได้ถูกแยกออกไปส่วนหนึ่ง แต่แล้วภายในหัวใจของVenก็มีเสียงคนๆหนึ่งที่ตามแสงสว่างของVenมา มาคุยกับเขาและเติมเต็มหัวใจของVenให้เต็มอีกครั้ง และในตอนนี้Venกับคนเจ้าของเสียงจะเชื่อมโยงถึงกันนับจากนี้ไป ซึ่งเจ้าของเสียงนั่นคือSoraที่กำลังจะมาเกิดที่Destiny Islandsนั่นเอง และVenจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในสภาพเหม่อลอย













เหตุการณ์จะตัดมาที่ปัจจุบัน ในตอนนี้Venได้มาอยู่ที่Land of Departureเพื่อฝึกวิชากับMaster Eraqusให้ได้เป็นKeyblade Master Venได้อยู่กับเพื่อน2คนนั่นคือTerraกับAqua Venนั้นนับถือTerraเสมือนพี่ชายเลย Venจะมานอนดูดาวแล้วAquaกับTerraจะมาหา และพูดคุยหยอกล้อกันตามภาษาเพื่อน Aquaจะพูดเรื่องที่เธอกับTerraต้องทดสอบเพื่อเป็นMaster(Mark of Mastery exam)ในวันพรุ่งนี้ เธอทำเครื่องรางรูปดาวคล้ายๆกับของKairiมาให้สำหรับทั้ง3คน เธอได้ใส่เวทมนต์เล็กๆน้อยๆลงไปด้วยนั่นคือสายสัมพันธ์ที่ไม่สามารถพังทลายได้ จากนั้นทั้ง3จะฝึกซ้อมKeybladeกันนิดหน่อยก่อนจะกลับบ้านกัน อีกด้านหนึ่งพระราชาMickeyได้ทดสอบMark of Mastery exam อยู่กับYen Sid และYen Sidรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่ไม่ดีที่กำลังจะเกิดขึ้น









แล้วก็มาถึงวันทดสอบMark of Mastery exam ของTerraและAqua การทดสอบนี้เป็นการทดสอบโดยจะตัดสินจากหัวใจของผู้ทดสอบ Master Eraqusจะเป็นผู้ตัดสิน โดยมีMaster Xehanortมาดูด้วย และVenก็มาค่อยเชียร์อยู่ข้างๆ ระหว่างการทดสอบTerraจะเผลอปล่อยพลังความมืดออกมา Master Xehanortที่จับตามองTerraอยู่ก็ยิ้มออกมา เมื่อจบการทดสอบMaster Eraqusตัดสินให้Aquaผ่านการทดสอบเพียงคนเดียว เนื่องจากTerraนั้นมีความมืดในหัวใจปรากฏออกมา Terraจะรู้สึกแย่ในเรื่องนี้มาก ด้านMaster Xehanortที่เดินออกมาจากห้องทดสอบแล้วได้มาคุยกับเด็กหนุ่มใส่หน้ากากสีดำที่ชื่อVanitasซึ่งเขา2คนร่วมมือกันอยู่



ด้านTerraที่ปลีกตัวออกมากำลังคิดเรื่องความมืดในตัวเขา แล้วMaster Xehanortจะมายั่วยุเขาเรื่องพลังความมืดไม่ใช่สิ่งน่ากลัว แต่Master Eraqusนั้นเป็นคนที่ไม่ยอมรับในความมืด เลยทำให้Terraไม่ผ่านการทดสอบ ด้านAquaที่ผ่านทดสอบเป็นMaster ได้ฟังMaster Eraqusอบรม อยู่Yen Sidก็ติดต่อมาหาMaster Eraqus TerraจะตามมาสมทบAqua และทั้งคู่จะสงสัยว่าทำไมVenไม่มา แล้วMaster Eraqusจะมาบอกทั้งคู่ว่าYen Sidเพื่อนของเขาได้ติดต่อมาบอกถึงเรื่องเหล่าเจ้าหญิงแห่งหัวใจกำลังตกอยู่ในอันตราย เรื่องUnversedที่ปรากฏตัวขึ้นมาคุกคามโลก และเรื่องMaster Xehanortหายตัวไป Master Eraqusต้องการให้TerraกับAquaออกไปจัดการกับเหล่าUnversed และตามหาMaster Xehanort Master Eraqusได้ปลดล็อคเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางไปยังดาวต่างๆหรือLanes Betweenให้แล้ว แต่ระหว่างทางนั้นมันจะเต็มไปด้วยความมืดชุดเกราะของพวกเขาจะสามารถป้องกันความมืดนั้นได้ Master EraqusจะบอกกับTerraว่าเขายังให้โอกาสTerraอีกที่จะเป็นMaster เมื่อTerraออกไป Master Eraqusจะแอบบอกให้AquaคอยจับตาดูTerraไม่ให้เขาถูกความมืดครอบงำ AquaจะสัญญากับMaster Eraqusว่าจะไม่ให้มันเกิดขึ้น และจะพาTerraกลับมา



ด้านVenที่ไม่มาฟังเรื่องราวปัญหาที่เกิดขึ้นกับโลก เขาถือKeybladeไม้ที่Terraมอบให้เขาและคิดเรื่องเกี่ยวกับTerra แล้วVanitasจะปรากฏตัวมาพูดยั่วยุVen ว่าVenจะไม่ได้เจอTerraอีกและถึงจะเจอ Terraก็คงเปลี่ยนไปแล้ว Vanitasมาพูดแบบนี้กับVenเพื่อให้VenกังวลใจและออกเดินทางตามTerraไป VenจะมาหาTerraที่กำลังจะออกเดินทาง TerraจะเอามือลูบหัวVenและบอกว่าทุกอย่างจะโอเค Terraจะสวมชุดเกราะและออกจากดาวไป Venที่รู้สึกเป็นห่วงTerraก็สวมชุดเกราะและตามออกไป ด้านAquaที่ออกมาเห็นว่าVenจะออกไปก็รีบมาห้ามแต่ไม่ทัน Master Eraqusจะบอกให้AquaพาตัวVenกลับมา Aquaก็รับคำ สวมชุดเกราะและตามออกไป

ด้านTerraจะเดินทางไปยังดาวต่างๆและกำจัดเหล่าUnversed TerraจะเจอกับMaleficent และถูกMaleficentควบคุมโดยผ่านทางความมืดในตัวเขาเอง Terraจะถูกควบคุมให้ดึงหัวใจของเจ้าหญิงแห่งแสงคนหนึ่งออกมา เมื่อTerraรู้สึกตัว เขาจะเสียใจกับเรื่องนี้มาก และเริ่มเรียนรู้เรื่องแสงสว่างกับความมืด Terraจะได้เจอAquaที่กำลังตามหาVenอยู่โดยบังเอิญ และAquaจะบอกTerraเรื่องที่VenออกจากดาวLand of Departureเพื่อหาTerra แล้วTerraจะออกเดินทางต่อไป แล้วระหว่างการเดินทางTerraจะได้รู้เรื่องเด็กหนุ่มผู้นำของเหล่าUnversed เขาสงสัยว่าเป็นใครเลยจะไปถามYen Sidที่Mysterious Tower





ด้านVenก็ได้เดินทางไปดาวต่างๆเพื่อตามหาTerra จนเขาได้ช่วยหัวใจของเจ้าหญิงแห่งแสงคนที่Terraเป็นคนดึงออกมา และเจอกับMaleficent เธอจะไม่พอใจที่Venช่วยหัวใจของเจ้าหญิงออกมา และบอกว่าคนที่ขโมยหัวใจของเจ้าหญิงมาคือTerra Venจะไม่เชื่อและเข้าสู้กับMaleficentจนเอาชนะได้ MaleficentจะพูดจนVenเริ่มลังเล แต่AquaจะมาเตือนสติVenว่าTerraไม่มีทางทำแบบนั้น และAquaจะบอกให้VenกลับดาวLand of Departure แต่Venคิดถึงเรื่องที่Vanitasพูดเรื่องTerraและบอกกับAquaว่าเขาขอโทษ เขายังกลับไม่ได้แล้วเขาจะวิ่งหนีไป MaleficentจะคุยกับAquaต่อ Aquaจะแปลกใจที่Maleficentรู้เรื่องKeybladeด้วย และMaleficentจะย้ำเรื่องของTerra และเธอก็รู้จักMaster Xehanortด้วย แล้วMaleficentจะโจมตีใส่Aquaให้Aquaตกลงไปที่อื่น เมื่อAquaเจอMaleficentอีกครั้ง Maleficentก็จะพูดเรื่องความมืดในตัวTerraอีก แล้วAquaจะสู้กับMaleficentที่แปลงเป็นมังกร Aquaจะสามารถเอาชนะได้ และMaleficentจะหนีไป



ด้านTerraมาที่Mysterious TowerจะเจอMickeyกับKeybladeของเขากำลังออกเดินทางโดยใช้Star Shard และTerraจะมาคุยกับYen Sidเรื่องเด็กหนุ่มปริศนาที่สวมหน้ากาก Yen Sidคิดว่าอาจเกี่ยวข้องกับMaster Xehanort จึงบอกให้TerraตามหาMaster Xehanortเป็นอย่างแรก ระหว่างที่Terraเดินทาง อยู่ๆMaster Xehanortก็ติดต่อมาหาTerra ให้Terraไปหาเขาที่สถานที่หนึ่ง Master Xehanortได้บอกTerraว่าเด็กหนุ่มที่สวมหน้ากากนั้นมีนามว่าVanitas และเขาเป็นคนปลดปล่อยออกมาเองจากในตัวVen โดยแยกความมืดจากในหัวใจของVenออกมา และเกิดเป็นตัวตนความมืดที่หัวใจมีแต่ความมืดมิด เขาจะโกหกTerraว่าเขาทำเพื่อช่วยVenที่กำลังถูกความมืดกลืนกิน แต่การที่ทำแบบนั้นก็ทำให้Venหมดสภาพและไปฝากให้Master Eraqusเลี้ยงดู เขาแกล้งทำเป็นเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น Terraจะบอกว่าตอนนี้Venก็ดีขึ้นมากแล้ว และTerraก็นึกถึงตอนที่เจอVenครั้งแรก Venอยู่ในสภาพเหม่อลอยไม่ค่อยมีสติ TerraกับAquaจะเข้ามาทัก และพอVenโดนถามมากๆ ทำให้Venปวดหัวและล้มลงไป นั่นเพราะVenตอนนั้นความจำเสื่อม กลับมาที่ปัจจุบัน Master Xehanortจะบอกว่าVanitasนั้นใช้Keybladeได้ และเขาอยากยืมพลังของTerraในการแก้สิ่งที่เขาทำผิดไปโดนการกำจัดVanitas แล้วอยู่ๆTerraจะเห็นนิมิตว่าAquaกับVenถูกจัดการโดยใครบางคน Master Xehanortจะบอกให้Terraไปที่Radiant Gardenดู แล้วTerraจะไปยังRadiant Garden







ด้านVenจะเจอVanitasระหว่างทางและตามเขาไปยังดาวที่เป็นที่รกร้างแห่งหนึ่ง Vanitasจะพูดให้Venสับสนเรื่องTerraอีกและทั้งคู่จะสู้กัน Venจะเสียเปรียบแล้วMickeyจะโผล่มาช่วยสู้ด้วย จนเอาชนะได้แล้วVanitasจะหนีไป VenและMickeyจะแนะนำตัวซึ่งกันและกัน แล้วMickeyจะพูดถึงวิธีเดินทางของเขาโดยใช้Star Shard แล้วอยู่ๆStar Shardจะเปล่งแสงออกมา Venรู้สึกตัวอีกทีก็อยู่หน้าดาวRadiant Gardenแล้ว Venจึงเข้าไปในดาวนั้น เมื่อเข้ามาที่ดาวVenจะเห็นMickeyเดินไปที่แห่งหนึ่ง เขาจะตามไปจนถึงหน้าปราสาท Mickeyนั้นมาหาจอมปราชญ์Ansemเพื่อนของเขานั่นเอง Venจะตามเข้าไปแต่เจอDilanกับAeleusขวางทางไม่ให้เข้าไปในปราสาท แล้วจะมีUnversedยักษ์ตัวนึงโผล่มา Venจะตามไปเพื่อกำจัด









ด้านAquaจะเห็นTerraที่กำลังมุ่งหน้าไปยังดาวRadiant Garden Aquaจะตามไปที่ดาวนั้นแต่คลาดกันในเมือง Aquaจะเดินมาจนถึงหน้าปราสาทและพบกับKairiวัยเด็กที่เก็บดอกไม้อยู่ แล้วโดนพวกUnversedไล่ Aquaจะเข้ามาช่วย Kairiจะมาจับโดนด้ามจับKeybladeของAquaโดยบังเอิญ Mickeyก็ปรากฏตัวออกมาช่วยเช่นกัน เมื่อจัดการกับเหล่าUnversedหมดแล้ว AquaกับMickeyจะแนะนำตัวซึ่งกันและกัน Aquaจะบอกว่าเธอรู้สึกถึงแสงสว่างที่อยู่ในตัวKairi Mickeyจะบอกว่าใช่แล้ว Kairiนั้นเป็นคนที่พิเศษมากๆ จากนั้นMickeyจะออกจากดาวไป KairiจะมาขอบคุณAqua แล้วแนะนำตัวเอง จากนั้นคุณยายของเธอจะมารับ ก่อนที่KairiจะไปAquaได้ใส่เวทมนต์บางอย่างไว้ที่สร้อยของKairi เมื่อใดที่Kairiมีปัญหา แสงสว่างในตัวKairiจะนำแสงสว่างอีกดวงมาปกป้องเธอ แล้วKairiจะเดินไปกับคุณยายของเธอ ระหว่างที่เดินไปKairiจะขอให้คุณยายเล่าเรื่องบางอย่างให้ฟัง คุณยายของKairiจะเล่าว่า "นานมาแล้ว ผู้คนอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขภายใต้ความอบอุ่นของแสงสว่าง ทุกๆคนรักแสงสว่าง จากนั้นก็มีผู้คนบางส่วนเริ่มสู้กันเพื่อที่จะเก็บมันไว้เป็นของตัวเอง และความมืดเริ่มเกิดขึ้นในหัวใจพวกเขา ความมืดได้กระจายไปทั่ว กลืนกินแสงสว่างและหัวใจผู้คนจำนวนมากมาย ความมืดได้ปกคลุมทุกสิ่งและโลกได้หายไป แต่ในความมืดนั้นก็มีแสงสว่างเล็กๆเหลืออยู่ในหัวใจของเด็กๆ ด้วยแสงเหล่านั้น เด็กๆได้สร้างโลกที่หายไปขึ้นมาใหม่ และนั่นก็คือโลกที่เราอาศัยกันอยู่ในตอนนี้ แต่แสงสว่างที่แท้จริงนั้นหลับใหลอยู่ในส่วนลึกของความมืด จึงทำให้โลกต่างๆอยู่กระจายกันออกไป แต่เมื่อวันหนึ่งที่ประตูที่อยู่ในความมืดที่ลึกที่สุดได้เปิดออก แสงสว่างที่แท้จริงจะกลับมา และจงจำไว้นะว่า ในความมืดที่ลึกที่สุด จะมีแสงสว่างนำทางให้เสมอ จงเชื่อในแสงสว่าง ความมืดจะไม่มีวันชนะเราได้ หัวใจจะเปล่งแสงออกมาด้วยพลังนั้นและปัดเป่าความมืดออกไป" Aquaที่ฟังอยู่ก็คิดว่าการที่Aquaได้เจอKairiนั้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แล้วจะมีUnversedยักษ์ตัวนึงโผล่มา Aquaจะตามไปกำจัด











ด้านTerraจะเข้ามายังในเมืองดาวRadiant Garden Terraจะเห็นUnversedยักษ์ตัวนึง เขาจะตามไปเพื่อกำจัด

Terra Ven Aqua ทั้ง3ได้พบกันโดยบังเอิญเพราะต่างคนต่างมาเพื่อกำจัดUnversed ทั้ง3ช่วยกันจะสู้กับUnversedยักษ์ตัวนั้นและเอาชนะลงได้ แล้วทั้ง3จะได้คุยกัน VenจะพูดถึงVanitasที่พูดไม่ดีเรื่องTerra Terraจะเป็นห่วงVenและบอกให้กลับไปกับAqua แต่Venไม่ยอม เขาอยากไปกับTerra Terraจะบอกว่าไม่ได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมันอันตรายเกินไป Aquaก็จะถามTerraว่าสิ่งที่Terraจะทำฟังดูเหมือนไม่ใช่สิ่งที่Master Eraqusบอกให้ทำ Terraก็ตอบว่ามันอาจจะต่างจากที่Master Eraqusสั่งมาก็จริง แต่เขาก็กำลังต่อสู้กับความมืดอยู่ แต่Aquaไม่มั่นใจในสิ่งที่Terraบอก เพราะเธอเห็นสิ่งที่Terraทำไว้ในดาวต่างๆ เธอจึงคิดว่าTerraกำลังเอาตัวเองไปเข้าใกล้ความมืด Terraจะเข้าใจว่าAquaนั้นจับตาดูเขาอยู่ตามคำสั่งของMaster Eraqus ซึ่งAquaก็เถียงไม่ออก แล้วTerraจะเดินจากไปคนเดียวไม่ให้ใครตามมา Aquaจะพยายามแก้ตัวให้Master Eraqus แต่Terraก็ไม่ฟัง Venก็จะถามAquaด้วยว่า ที่มาพาเขากลับบ้านนี่ก็เป็นคำสั่งของMaster Eraqusด้วยรึเปล่า Aquaพูดไม่ออก VenจึงบอกกับAquaว่า ตอนนี้Aquaก็เป็นKeyblade Masterแล้ว เธอควรจะทำตามความคิดตัวเองได้แล้ว และVenจะไปตามหาTerraต่อ ปล่อยให้Aquaยืนคิดอยู่คนเดียว



ด้านTerraที่เดินออกมาก่อนนั้นจะคิดตอนนี้คนที่เขาพึ่งพาได้เหลือเพียงMaster Xehanortเท่านั้น และจะพบกับBraig Braigจะบอกว่าเขาจับMaster Xehanortไว้ ให้Terraตามมาหาเขาแล้วกัน Terraจะไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ตามไป จนเจอMaster Xehanortถูกจับมัดไว้จริงๆ Braigจะพูดยั่วโมโหTerraแล้วสู้กัน Terraจะใช้พลังความมืดเอาชนะBraigได้และช่วยMaster Xehanortได้ แล้วBraigจะหนีไป Terraจะรู้สึกแย่ที่ใช้พลังความมืดแต่เขาใช้มันไปเพราะความโกรธ Master XehanortจะมาปลอบและพูดถึงMaster Eraqusที่ยอมรับเพียงแสงสว่างไม่ยอมรับความมืด แต่Master Xehanortคิดว่าทั้งสองอย่างต้องอยู่อย่างเท่าเทียมกัน และพูดชักชวนให้Terraร่วมมือกับเขา แถมยังยกย่อว่าTerraเป็นMaster จากนั้นTerraจะเดินทางตามหาVanitasต่อ ด้านVenจะได้ช่วยIenzoที่กำลังถูกUnversedทำร้ายแล้วEvenจะโผล่มาขอบคุณแล้วพาตัวIenzoไปก่อนไปเขาจะบอกว่าเขารู้สึกว่าต้องได้เจอกันอีก Venจะได้มาเจอTerra ในตอนที่Terraกำลังจะออกเดินทางพอดี Venขอไปด้วย แต่Terraปฏิเสธและบอกว่าถ้าในตอนที่เขาต้องการVenจริงๆ Venต้องอยู่ที่นั่นกับเขาแน่นอน Venจะยอมไม่ตามไปและTerraจะออกเดินทางไป ด้านMaster Xehanortจะคุยอยู่กับBraig ทั้งคู่ร่วมมือกันหลอกTerra แต่BraigจะเคืองMaster Xehanortเพราะที่ตกลงกันเขาต้องไม่ได้รับบาดเจ็บ และMaster Xehanortจะพูดว่าTerraยังคงมีแสงสว่างที่ทรงพลังอยู่ในตัวTerra







ด้านAquaจะได้มาเจอกับVanitasและสู้กัน Aquaจะเอาชนะได้ แล้วVanitasจะหนีไป เธอคิดว่าเธอจะหาทางกำจัดVanitasให้ได้ แล้วVenที่พึ่งแยกกับTerraมาจะมาหาAquaและขอไปด้วย แต่Aquaก็ปฏิเสธเช่นเดียวกับTerra เธออยากให้Venกลับบ้านเพราะเธอเป็นห่วงVen แล้วเธอจะออกจากดาวไป ปล่อยให้Venยืนคิดเพียงลำพัง Venจะนึกถึงเรื่องในอดีตสมัยที่เขา3คนฝึกวิชากันอยู่ และTerraมอบKeybladeของเขาให้แก่Ven และเรื่องความฝันของพวกเขาทั้ง3คนที่จะเป็นKeyblade Master ตัดกลับมาปัจจุบันVenจะนั่งมองKeybladeไม้ที่Terraให้ และได้พบLeaกับIsaโดยบังเอิญ LeaจะทักทายVen และชวนให้สู้กัน Leaจะแพ้และลงไปนั่งกับพื้นและIsaจะมาเยอะเย้ย แล้วLeaจะบอกลา แล้วบอกกับVenว่าเราเป็นเพื่อนกันแล้วนะ "จำไว้ด้วยล่ะ" Venก็รับคำ IsaจะถามLeaว่าถึงทำไมชอบทำความรู้จักกับคนแปลกหน้า Leaก็ตอบว่า เพราะเขาอยากให้ทุกคนที่เขาเจอจำเขาได้ และภายในความทรงจำของคนเหล่านั้น เขาจะอยู่ไปตลอดกาล แล้วVenจะออกเดินทางอีกครั้ง จากนั้นทั้ง3คนก็ได้ท่องไปตามดาวต่างๆ ด้านMickeyจะพบกับVanitasที่ดาวNeverland









ด้านVenจะได้มอบKeybladeไม้ไว้ที่ดาวNeverland และพบStar ShardของMickeyแต่ตัวMickeyนั้นไม่อยู่ Star Shardจะเปล่งแสงออกมาและพาVenไปยังMysterious Tower

ด้านAquaจะมาที่NeverlandหลังTerraกับVen เธอจะเห็นKeybladeไม้ที่Venมอบไว้ที่ดาวดวงนี้ ทำให้รู้ว่าVenมาที่นี่ AquaจะเจอกับVanitas VanitasจะเอาKeybladeไม้ของVenมาหักทิ้ง Aquaจะโมโหมากแล้วเข้าไปสู้กับVanitas เธอจะสามารถเอาชนะได้และคิดว่ากำจัดVanitasได้แล้ว แล้วจะสลบไป



ด้านVenจะมายังMysterious Towerแล้วเจอกับDonaldและGoofy ทั้งคู่จะแปลกใจที่VenมีStar ShardของพระราชาMickeyอยู่ และพาVenไปพบกับYen Sid Yen Sidจะเข้าใจเรื่องที่ไม่ทำตามคำสั่งMasterของตน นั่นเพราะMickeyก็เป็นอยู่บ่อยๆ แล้วพวกเขาจะพูดถึงMickeyที่หายตัวไป Yen Sidจะร่ายเวทมนต์ลงบนโต๊ะเพื่อหาที่อยู่ของMickey Venบอกว่าจะไปหาเพียงคนเดียวเพราะMickeyนั้นเคยช่วยเขาเอาไว้

ด้านTerraได้ถูกแสงที่อบอุ่นนำทางมายังดาวDestiny Islands เขาได้เจอSoraกับRikuสมัยเด็กกำลังเล่นกันอยู่ Terraจะรู้สึกได้ถึงแสงสว่างในตัวRiku จากนั้นRikuจะเข้ามาทักTerra Rikuจะรู้ว่าTerraไม่ใช่คนในดาวดวงนี้ ทั้งคู่จะคุยกัน แล้วอยู่ๆTerraจะเห็นRikuเป็นภาพของชายหนุ่มผมสีเงินที่เกริ่นไว้ตอนต้นเรื่อง และภาพของRikuที่โตแล้วในภาค2 และภาพจะกลับมาเป็นRikuตอนเด็กเหมือนเดิม Rikuจะพูดถึงเด็กหนุ่มที่เคยออกไปจากดาวดวงนี้ Rikuต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นเพราะปกป้องเพื่อนของเขาได้ TerraจะถูกใจRiku เขาเรียกKeybladeของเขาออกมา และให้Rikuจับที่ด้ามจับKeyblade การกระทำนี้คือพิธีสืบทอดคุณสมบัติผู้ที่เหมาะสมจะถือครองKeyblade และที่Kairiบังเอิญจับด้ามKeybladeของAquaก็ถือว่าเป็นพิธีสืบทอดเช่นกัน ทำให้RikuกับKairiในตอนโตนั้นสามารถใช้Keybladeได้ ผู้ที่จะทำพิธีสืบทอดKeybladeนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นMasterเท่านั้น นั่นหมายความว่าTerraก็มีคุณสมบัติเป็นMasterแล้วนั่นเอง TerraจะบอกRikuว่าอย่าบอกใครในเรื่องนี้นะ Rikuจะรับคำแล้ววิ่งไปหาSora Terraจะคิดถึงสิ่งที่Rikuพูด เรื่องปกป้องเพื่อน เขาก็ต้องปกป้องVenกับAquaเช่นกัน Terraจะออกจากดาวดวงนี้ไป











ด้านAquaที่พึ่งจะฟื้นขึ้นมาหลังจากสู้กับVanitasแล้วสลบไป เธอก็ได้ถูกแสงที่อบอุ่นนำทางไปยังDestiny Islandsเช่นกัน Aquaได้เจอSoraกับRikuกำลังเล่นกันอยู่ เธอจะเข้ามาคุยกับทั้งคู่ Aquaจะมองว่าทั้งคู่บุคลิกคล้ายๆTerraกับVenเลย RikuเหมือนTerra SoraเหมือนVen Aquaคิดว่าบางทีไม่Rikuก็Soraจะพิเศษพอที่จะรับการสืบทอดKeybladeของเธอไป แต่Aquaจะรู้สึกถึงพลังในตัวของRikuที่ได้รับจากTerraซะก่อน เลยหยุดความคิดนั้นไป AquaจะถามSoraว่าชอบRikuไหม Soraก็ตอบว่าแน่นอนสิRikuเป็นเพื่อนรักของเขา Aquaจะพูดต่อ "ถ้าวันนึงเกิดเรื่องร้ายขึ้นแล้วRikuหายตัวไปหรือRikuเริ่มเดินในเส้นทางแห่งความมืดเพียงลำพัง Soraต้องอยู่กับเขาและปกป้องเขานะ นั่นคือหน้าที่ของเธอSora ฉันฝากด้วยนะ" Soraก็จะงงๆ Aquaจะลูบหัวทั้งคู่ แล้วSoraกับRikuจะเดินจากไป Aquaจะพูดคนเดียวว่า "หนึ่งKeybladeก็พอแล้วสำหรับมิตรภาพแห่งเพื่อนพ้อง ฉันรู้ดี ฉันไม่อยากให้พวกเขามีชะตากรรมแบบเดียวกับพวกเรา" Aquaจะห่วงเรื่องของพวกเขา3คนว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และนั่งดูเครื่องรางรูปดาวของเธอ





ด้านVenได้ตามหาMickey จนมาเจอตัวที่ดาวพื้นที่รกร้างแห่งหนึ่ง Master Xehanortจะปรากฏตัวออกมา และความจำของVenก็ค่อยๆกลับมาทำให้เขาปวดหัว Master XehanortจะพูดถึงสุดยอดKeybladeที่เกิดจากแสงสว่างที่บริสุทธิ์สู้กับความมืดที่มืดสนิท ที่มีชื่อว่า X-blade โดยXนั้นออกเสียงว่าKeyหรือบางคนก็ออกเสียงว่าKyeมีความหมายว่าความตาย และVenเป็นคนที่จะใช้สร้างX-bladeนั้น โดยให้สู้กับVanitasที่เป็นความมืดที่มืดสนิทที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจของVenนั่นเอง และMaster Eraqusก็รู้เรื่องนี้ดี จึงไม่ยอมให้VenออกจากLand of Departureนั่นเอง จากนั้นVenกับMickeyจะถูกMaster Xehanortส่งออกไปนอกดาวดวงนี้ เมื่อVenได้สติ เขาจะมุ่งหน้ากลับLand of DepartureไปหาMaster Eraqus



หลังจากMaster Xehanortส่งVenออกจากดาวไป ก็ได้เรียกTerraให้มาหา Master XehanortบอกกับTerraว่าให้รีบตามVenไป ตอนนี้Venรู้เรื่องชาติกำเนิดของตัวเองแล้ว และตอนนี้เขากำลังไปหาMaster Eraqusที่Land of Departure แล้วTerraก็รีบตามไป

ด้านVenได้เจอก็Master Eraqus เขารู้ความจริงหมดแล้ว และโมโหที่Master Eraqusพยายามขังเขาไว้ที่นี่ และเรื่องที่เขาจะถูกใช้สร้างX-blade Master Eraqusจะเดาได้ว่าVenได้ยินเรื่องราวมาจากMaster Xehanortและเขาก็นึกถึงเรื่องในอดีตที่มีปากเสียงกับMaster Xehanortแล้วได้รับแผลเป็นที่ใบหน้า ในตอนนั้นMaster Xehanortบอกว่าต้องการค้นหาX-blade Master Eraqusจะพูดถึงคำสั่งสอนของอาจารย์พวกเขาที่อย่าไปยุ่งกับความรู้บางอย่าง และไม่เข้าใจว่าทำไมMaster Xehanortต้องทำแบบนั้นด้วย เพราะมันจะทำให้โลกทุกโลกถูกปกคลุมไปด้วยความมืด Master Xehanortจะพูดถึงเหตุการณ์Keyblade Warที่ทำให้ความมืดปกคลุมไปยังโลกทุกโลกและเหล่าโลกก็ถูกความมืดกลืนกิน แต่แล้วก็มีแสงสว่างเล็กๆเกิดขึ้นและเกิดเป็นดวงดาวต่างๆ เขาจะสงสัยว่าแสงสว่างนั้นเกิดมาได้อย่างไร แล้วถ้าเกิดKeyblade Warและโลกต่างๆถูกความมืดกลืนกินอีกครั้ง จะเกิดแสงสว่างเล็กๆแบบครั้งนั้นอีกหรือไม่ เขาต้องการรู้คำตอบนั้น และX-bladeนั่นเป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้เกิดKeyblade Warอีกครั้ง Master Eraqusไม่ยอมให้ทำแบบนั้นตราบที่เขายังมีชีวิตอยู่เพราะมันเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเข้าไปยุ่ง แล้วเขาจะเข้าไปสู้กับMaster Xehanort แต่ถูกMaster Xehanortใช้พลังความมืดยิงใส่ที่หน้าจนเป็นแผลเป็นมาถึงทุกวันนี้ แล้วจะกลับมายังเหตุการณ์ปัจจุบัน Master Eraqusจะไม่ยอมให้มันเป็นไปตามแผนของMaster Xehanortอีกแล้ว เขาจะกำจัดVenที่นี่ซะเพื่อไม่ให้X-bladeเกิดขึ้น ขณะที่Master Eraqusยิงพลังใส่Venนั้น Terraที่ตามมาจะช่วยVenไว้ทัน Master Eraqusจะให้Terraหลบไป แต่Terraไม่ยอมเขาจะปกป้องเพื่อนของเขา Venนั้นยอมรับความตายได้แล้ว แต่Terraก็จะปกป้อง Terraนั้นจะสู้Master Eraqusไม่ได้ Terraจะเปิดประตูมิติส่งVenไปยังDestiny Islands แล้วTerraจะปล่อยพลังความมืดออกมาเพื่อให้สามารถสู้กับMaster Eraqusได้ TerraจะเอาชนะMaster Eraqusได้ Master Eraqusจะบาดเจ็บ Terraจะเสียใจในสิ่งที่เขาทำ แต่เขาทำเพื่อปกป้องเพื่อนของเขา จังหวะที่ทั้ง2คนคุยกันอยู่Master Xehanortจะโผล่สังหารMaster Eraqus ทำให้Master Eraqusนั้นร่างกายสลายไปในอ้อมกอดของTerraเลย เหลือไว้เพียงKeybladeของเขา Terraจะเสียใจจนร้องไห้ออกมา Master XehanortจะมาบอกความจริงกับTerraว่าเขานั้นหลอกให้Terraปลุกพลังความมืดในหัวใจขึ้นมา และบอกให้ไปหาเขาที่Keyblade Graveyard ดูจุดจบของAquaกับVen และแสงสว่างสุดท้ายในตัวTerraหายไป แล้วMaster Xehanortจะเรียกบอลพลังความมืดให้มาทำลายภายในดาวLand of Departure และเขาจะหนีไป Terraจะหยิบเครื่องรางรูปดาวที่Aquaให้ขึ้นมาและพูดว่า "Ven Aqua ฉันจะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายพวกนาย" แล้วTerraจะมุ่งหน้าไปที่Keyblade Graveyard



























ด้านVenที่ถูกTerraส่งมาที่Destiny Islands จะพบกับVanitas Vanitasจะบอกว่าVenนั้นแข็งแกร่งพอที่จะทำหน้าที่ที่แท้จริงของVenแล้ว นั้นคือสร้างX-blade เพราะการสร้างX-bladeนั้นต้องให้แสงสว่างกับความมืดมีพลังเท่ากันพอดีก่อนแล้วถึงจะต้องสู้กัน Venจะปฏิเสธและหลีกเลี่ยงที่จะสู้กับVanitas แล้วอยู่ๆความทรงจำของVenจะกลับมาทั้งหมด ในตอนนั้นMaster Xehanortให้Venสู้กับเหล่าHeartless แต่Venในตอนนั้นจิตใจอ่อนแอไม่กล้าสู้ Master Xehanortนั้นต้องการให้Venเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความโกรธ เรียกความมืดในตัวVenออกมา เพื่อสร้างX-bladeให้กับเขา แต่Venนั้นทำไม่ได้และโดนHeartlessทำร้ายจนสลบไป Venนั้นไม่ยอมใช้พลังความมืดแม้ตัวจะตาย Master Xehanortจึงใช้KeybladeของเขาดึงเฉพาะความมืดในตัวVenออกมา และความมืดนั้นก็ก่อตัวเป็นเด็กที่ชื่อVanitas แล้วVenนั้นก็ได้หลับใหลไป กลับมาที่ปัจจุบัน Vanitasจะบอกให้มาหาเขาที่Keyblade Graveyardสถานที่เดียวที่จะทำให้เกิดX-bladeได้ ที่นั่นเขาจะจัดการกับTerraและAqua แล้วVanitasจะหนีไป Venจะหยิบเครื่องรางรูปดาวที่Aquaให้ขึ้นมาและพูดว่า "Terra Aqua ฉันสาบาน ฉันจะทำให้เรื่องนี้มันจบลงซักที" แล้วVenจะมุ่งหน้าไปที่Keyblade Graveyard







ด้านAquaที่กำลังเดินทางอยู่จะเจอMickeyที่สลบอยู่ และเธอจะพาMickeyไปหาYen Sidที่Mysterious Tower Yen Sidจะบอกข่าวแก่Aquaว่าMaster Eraqusน่าจะถูกจัดการไปแล้ว โดยMaster XehanortกับTerra Aquaจะไม่เชื่อและถามYen Sidว่าตอนนี้Terraอยู่ที่ไหน Yen Sidจะบอกว่าTerraกำลังไปKeyblade Graveyard AquaจะไปหาTerraแล้วถามความจริง ระหว่างทางAquaจะหยิบเครื่องรางรูปดาวของเธอขึ้นมาและพูดว่า "Terra Ven ขอให้ปลอดภัยด้วยเถอะ ฉันจะหาวิธีช่วยให้พวกเธอหลุดพ้นจากเรื่องนี้ให้ได้" แล้วAquaจะมุ่งหน้าไปที่Keyblade Graveyard

Terra Ven Aqua ทั้ง3ได้พบกันที่Keyblade Graveyard AquaจะถามTerraเรื่องที่Master Eraqusตายแล้วนั้นจริงรึเปล่า Terraจะบอกว่าเป็นความจริง เขาโง่เองที่โดนMaster Xehanortหลอกใช้ และที่เขาทำไปก็เพราะMaster Eraqusจะทำร้ายVen เขาแค่ต้องการปกป้องVen ทั้งหมดนั้นMaster Xehanortวางแผนไว้หมด รวมทั้งเรื่องที่ปลุกความมืดในตัวเขาด้วย Aquaพูดถูกทุกอย่าง เขาหลงผิดเอง แต่จะไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว Venจะมาแล้วบอกเรื่องที่Master Xehanortต้องการให้เขากับVanitasสู้กันเพื่อสร้างX-blade ซึ่งMaster Eraqusนั่นไม่ต้องการให้มันเกิดขึ้น Master Eraqusเลยจะกำจัดเขาทิ้ง TerraจะปลอบVen และบอกว่าเขากับAquaจะปกป้องVenเอง Venจะบอกกับทั้งคู่ว่า "ถ้าในที่สุดแล้วฉันต้องสู้กับVanitasจริงๆ ถ้าถึงตอนนั้นจริงๆ ฉันอยากให้..." Venยังพูดไม่จบ Terraจะพูดแทรกขึ้นมาก่อนไม่ให้Venพูดต่อ แต่Venจะพูดต่อ "ฉันขอร้องในฐานะเพื่อน . . . ช่วยกำจัดฉันที" AquaกับTerraจะตกใจกับสิ่งที่Venพูด แล้วMaster XehanortกับVanitasจะปรากฏตัวออกมา Master Xehanortจะพูดว่า "มองไปรอบๆสิ Keybladeที่ตายไปแล้วเหล่านี้เคยเต็มไปด้วยพลังอยู่ร่วมกับหัวใจของเหล่าMaster บนพื้นดินที่แห้งแล้งนี้เหล่าKeybladeแห่งแสงสว่างและKeybladeแห่งความมืดถูกใช้ในการต่อสู้ นั่นคือมหาสงครามKeyblade War ผู้ใช้Keybladeนับไม่ถ้วนยอมทิ้งชีวิตตัวเองเพื่อตามหาสุดยอดKeyblade และมันกำลังจะกลายเป็นของฉันแล้ว X-blade" แล้วทั้ง3จะสวมชุดเกราะเพื่อจะเข้าไปสู้กับMaster XehanortและVanitas Venจะพลาดท่าถูกMaster Xehanortแช่แข็ง แล้วMaster Xehanortจะใช้พลังเปิดเมฆให้เห็นถึงKingdom Heartsของโลกนี้



































ด้านTerraจะตรงไปสู้กับMaster XehanortกับVanitasพร้อมกัน เมื่อสู้ได้ซักพัก Master Xehanortจะสั่งให้VanitasไปจัดการVenและAqua Terraจะไปช่วยทั้งคู่แต่ก็โดนMaster Xehanortขวางทางไว้และยุให้Terraปล่อยพลังความมืดออกมา Terraจะบอกว่าMaster Xehanortต้องชดใช้ แล้วระเบิดพลังความมืดในร่างกายออกมาด้วยความโกรธและเข้าสู้กับMaster Xehanort





ด้านAqua เธอจะดูแลVenที่ถูกแช่แข็งอยู่ แล้วBraigจะมาสู้กับเธอเพื่อถ่วงเวลา แล้วBraigจะหนีไป Vanitasที่ได้รับคำสั่งจากMaster Xehanortให้มาจัดการAquaกับVenจะปรากฏตัวออกมา และทำให้Aquaสลบไป ในตอนที่VanitasกำลังจะปลิดชีพAqua Venก็ได้ฟื้นตัวจากสภาพแช่แข็งและเข้าสู้กับVanitasอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อสู้ได้ซักพัก Vanitasจะถอดหน้ากากออกให้เห็นใบหน้าที่แท้จริง Vanitasมีใบหน้าเหมือนSoraไม่มีผิด แต่มีผมเป็นสีดำและนัยน์ตาสีทอง การที่Vanitasมีใบหน้าเหมือนSoraนั้นเพราะคนที่มาเติมหัวใจให้Venกลับมาใช้ชีวิตได้คือSoraนั่นเอง Vanitasจะบอกอีกด้วยว่าเหล่าUnversedทั้งหมดนั้นเกิดมาจากอารมณ์ในแง่ลบต่างๆของเขาเอง และตอนนี้พลังของVenกับเขาก็เท่ากันพอดีแล้ว เขาจะเข้าไปรวมกับVen แล้วX-bladeจะถือกำเนิดขึ้น เมื่อVanitasเข้าไปรวมกับVenแล้วจะเกิดแสงพุ่งขึ้นไปบนฟ้า









ด้านTerra TerraสามารถเอาชนะMaster Xehanortได้ และเห็นแสงที่เกิดจากการรวมตัวกันของVenและVanitasเพื่อให้กำเนิดX-blade Master Xehanortจะดำเนินการตามแผนขั้นสุดท้าย นั่นคือยึดร่างของTerraทำให้เขากลับเป็นหนุ่มอีกครั้ง และยึดพลังความมืดมาเป็นของตัวเอง Master Xehanortจะใช้Keybladeของเขาแทงตัวเองเพื่อดึงเอาหัวใจเขาออกมาและส่งหัวใจของเขาพุ่งมาที่Terra Terraจะเรียกชุดเกราะมาป้องกันแต่ไม่เป็นผล ร่างกายของMaster Xehanortที่ถอดหัวใจไปแล้วจะสลายไป ชุดเกราะของTerraจะหลุดออกจากตัวเผยให้เห็นTerraที่มีผมสีเงิน นัยน์ตาสีทอง แล้วเขาจะเรียกKeybladeของMaster XehanortออกมาและจะเดินไปหาX-blade แต่แล้วอยู่ๆบริเวณนั้นก็ถูกปิดกั้น ขังไม่ให้Master Xehanortที่อยู่ในร่างTerraไปไหน(จากนี้จะเรียกMaster Xehanortที่อยู่ในร่างTerraว่าTerranortชั่วคราวนะครับ) Terranortจะหันมาแล้วพบชุดเกราะของTerraที่ประกอบตัวเป็นรูปร่างด้วยจิตที่เป็นห่วงพวกพ้องของTerra Terranortจะสงสัยว่าร่างกายก็จำยอม หัวใจก็จำนนแล้ว แต่ทำไมจิตของTerraยังต่อต้าน แล้วจิตในร่างชุดเกราะของTerraจะชักKeybladeของเขาขึ้นมาเพื่อสู้กับTerranort





















ด้านAquaจะฟื้นขึ้นมาพบกับMickey Aquaจะเห็นVenที่ถือX-bladeอยู่ และAquaดีใจที่Venปลอดภัย แต่จริงๆแล้วVenในตอนนี้ได้ถูกVanitasควบคุมซะแล้ว Vanitasจะบอกว่าX-bladeนี้จะใช้ในการเปิดประตูที่ไปสู่ทุกโลก(หรือก็คือKingdom Hearts) เมื่อX-bladeถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว เหล่าผู้ใช้Keybladeจะมารวมตัวและสู้กันเพื่อแย่งชิงแสงสว่างแห่งKingdom Hearts แล้วKeyblade Warจะเกิดขึ้นอีกครั้ง แล้วAquaกับMickeyจะช่วยกันสู้กับVanitasในร่างของVenที่ใช้X-blade เพื่อเรียกหัวใจของVenกลับมา ในตอนแรกAquaจะสู้ไม่ได้ Aquaจะหยิบเครื่องรางรูปดาวของเธอขึ้นมาและพูดขอพลังจากTerraกับVen Keybladeของเธอจะเปล่งแสงออกมาและเธอจะเอาKeybladeของเธอเข้าไปประดาบX-blade













ด้านVen จะรู้สึกตัวว่าตอนนี้เขาอยู่ภายในหัวใจตัวเอง Vanitasจะปรากฏตัวมาบอกว่าการรวมตัวของเรา2คนยังไม่สมบูรณ์ เลยยังทำให้X-bladeนั้นยังมีส่วนที่แตกหักอยู่ให้Venมาร่วมมือกับเขาซะ Venจะบอกว่าเขามีไอเดียที่ดีกว่านั้น นั่นคือจะทำลายทั้งVanitasทั้งX-bladeซะ แต่Vanitasจะหัวเราะแล้วบอกว่าX-bladeนั้นก็สร้างมาจากหัวใจของVenด้วย ถ้าทำลายX-blade Venก็จะหายไปด้วย Venก็จะยอมถ้ามันทำให้TerraกับAquaปลอดภัย Vanitasก็เยาะเย้ยVenที่เอาแต่คิดเรื่องเพื่อน Venจะบอกว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจพวกเพื่อนเขา และพวกเพื่อนเขาก็เป็นส่วนหนึ่งในหัวใจเขาความผูกพันนี้คือพลังของเขา แล้วVenจะเข้ามาจัดการกับVanitas เมื่อVenเอาชนะVanitasในหัวใจของเขาได้ X-bladeกับVanitasจะสลายไป และหัวใจของVenก็หลุดลอยออกจากร่างไป















ด้านAquaที่ประดาบอยู่กับVanitasในร่างVen เมื่อVenภายในหัวใจเขาเอาชนะVanitasได้ จึงทำให้X-bladeที่Aquaประดาบอยู่แตกสลายออกตามไปด้วย Venจะกลับสภาพเดิมแต่หมดสติอยู่ แล้วX-bladeจะเกิดการระเบิดครั้งใหญ่







ด้านTerra จิตของTerraจะเอาชนะTerranortได้ แต่ถึงจะชนะ แต่จิตของTerraก็ไม่สามารถนำร่างกายของเขากลับมาได้ ได้แต่นั่งเฝ้ารอคอยเวลาอยู่ที่Keyblade Graveyardแห่งนี้

แรงระเบิดของX-bladeส่งAquaกับVenไปลอยอยู่ที่Lanes Between Mickeyจะพาทั้ง2คนไปยังMysterious Tower ส่วนTerranortนั้นไปตกอยู่ที่ดาวRadiant Garden เมื่อAquaตื่นขึ้นมาเธอจะพยายามปลุกVenแต่เขาไม่ยอมตื่น Yen Sidจะบอกว่าตอนนี้หัวใจของVenหลับใหลไปแล้ว เพราะหัวใจเขาหลุดออกจากร่างไป ถ้านำหัวใจของVenกลับมาได้ เขาก็จะฟื้น แต่ถ้าไม่ เขาก็หลับแบบนี้ไปชั่วนิรันดร์ Aquaจะบอกว่าเธอจะปกป้องVenจนกว่าจะตื่น Yen Sidจะบอกว่าสิ่งที่Venต้องการตอนนี้ไม่ใช่การปกป้องแต่เป็นการเชื่อในตัวเขา หัวใจของVenนั้นหลับใหลอยู่ในที่ที่อยู่ระหว่างแสงสว่างกับความมืด เขามองหาเพื่อนที่เชื่อในตัวเขา แล้วจะนำทางให้เขากลับบ้าน ตราบที่AquaยังรักVenอยู่ Venก็สามารถตามความรักนั้นกลับมายังRealm of Lightได้ Mickeyก็บอกว่าเขาก็เชื่อในตัวVenเช่นกัน แล้วAquaจะไปตามหาTerra





ทางด้านหัวใจของVenนั้นได้เดินทางมาจนถึงหัวใจของSoraแล้ว เนื่องจากหัวใจของSoraนั้นเชื่อมโยงกับVenตั้งแต่ตอนที่Soraเกิดแล้ว ด้านAquaจะพาVenไปอยู่ในที่ปลอดภัย อยู่ๆKeybladeของVenก็ได้เปิดประตูมิติไปยังLand of Departure Aquaจะตกใจสภาพซากของดาวที่เป็นบ้านของเธอ เธอจะเก็บKeybladeของMaster Eraqusมา และเสียใจที่เคยสัญญาว่าจะพาTerraกลับมาแต่ทำไม่ได้ แล้วAquaจะพาVenไปยังห้องโถงหลักที่มีเก้าอี้ของMasterอยู่ ระหว่างทางAquaจะคิดถึงตอนที่เธอพึ่งผ่านการทดสอบเป็นMaster ตอนนั้นMaster Eraqusได้บอกกับเธอว่า "ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเขา แล้วความมืดได้เขาปกคลุมโลกของพวกเรา ให้Aquaใช้Keybladeของเขาปิดผนึกดาวดวงนี้ซะ Keyblade Masterหลายต่อหลายรุ่นมาแล้วได้ปกป้องดาวดวงนี้ให้ปลอดภัย แสงสว่างกับความมืดจะอยู่อย่างสมดุลกันที่นี่ แต่ก็มีคนที่มุ่งร้ายต่อสภาพแบบนี้ จึงเป็นเหตุผลที่บรรพบุรุษได้สร้างกลไกบางอย่างไว้ เพียงแค่ใช้กุญแจดาวดวงนี้ก็จะเปลี่ยนสภาพไป ใครที่มายังที่แห่งนี้จะค่อยๆสูญเสียความทรงจำ และจะไม่มีใครไขปริศนานี้ได้นอกจากAquaเท่านั้น" Aquaจะใช้KeybladeของMaster Eraqusปิดผนึกรูกุญแจ ทำให้ดาวดวงนี้กลายเป็นCastle Oblivionและห้องที่เธออยู่ตอนนี้ก็คืนห้องแห่งการตื่น(Chambers of Waking) Aquaจะให้Venหลับรออยู่ที่นี่ ส่วนเธอจะไปตามหาTerra อยู่ๆAquaจะได้ยินเสียงของTerraในใจของเธอว่า "Aqua ช่วยกำจัดฉันที" AquaจะไปยังดาวRadiant Garden เธอจะเจอTerraยืนเหม่ออยู่ แต่ตอนนี้TerraคือTerranortไปแล้ว TerranortจะบีบคอAquaและยกเธอขึ้นมา Terranortจะจำตัวเองไม่ได้ Aquaจะพูดชื่อTerraขึ้นมา จะทำให้Terranortจำได้แล้วจะโจมตีใส่Aqua Aquaจะสู้ด้วยเพื่อเรียกหัวใจของTerraให้กลับมา ในตอนที่Terranortใกล้จะพ่ายแพ้ หัวใจของTerraจะพยายามยึดร่างคืน Terranortจะใช้Keybladeของเขาแทงตัวเอง แล้วTerranortจะหมดสติไปและจมลงสู่Realm of Darkness Aquaจะเข้าไปช่วยร่างของTerra แต่ประตูกำลังจะปิดแล้วเธอจึงถอดเกราะของเธอให้อุ้มร่างของTerraกลับไปยังRadiant Gardenได้ทัน แต่Aquaก็ตกลงไปสู่Realm of Darkness



























ด้านSoraกับRiku อยู่ๆSoraจะน้ำตาไหลออกมา เพราะมีใครบางคนกำลังเสียใจอยู่ Rikuเลยบอกให้Soraเปิดหัวใจแล้วฟังดู Soraก็ลองทำและได้พบกับหัวใจของVenลอยมายังหัวใจของเขา SoraจะรับหัวใจของVenให้มาพักพิงอยู่ในตัวเขาเพื่อให้หัวใจของVenรู้สึกดีขึ้น และนี่ก็เป็นเหตุผลที่Roxasมีหน้าตาเหมือนVen เพราะRoxasนั้นมีหัวใจของVenอยู่ในตัวนั่นเอง





ด้านTerranortได้นอนความจำเสื่อมอยู่ที่หน้าปราสาทดาวRadiant Garden กับชุดเกราะของAqua จอมปราชญ์Ansemจะรู้แค่ว่าเขาชื่อว่าXehanort Braigที่เป็นลูกศิษย์จอมปราชญ์Ansemที่ฟังอยู่ด้วยก็ยิ้มออกมา แล้วAnsemพาเขาไปเป็นลูกศิษย์ และเก็บชุดเกราะของAquaไปด้วย ในตอนที่Terranort(Xehanort)พึ่งมาเป็นลูกศิษย์Ansemใหม่นั้น Braigจะลองเข้าไปถามดูว่าเขาเป็นTerraรึเปล่า แต่Terranortก็ไม่ตอบอะไร







ด้านภายในหัวใจของTerra หัวใจของTerra กับหัวใจของMaster Xehanortจะเถียงกันเรื่องการครอบครองร่างกาย Terraจะไม่สนว่าMaster Xehanortจะทำอะไรแล้ว หัวใจของTerraยังไงก็เป็นหัวใจของTerraวันยังค่ำและMaster Xehanortจะพูดถึงหัวใจอีกดวงที่อยู่กับTerra Master Eraqus? และMaster Xehanortจะบอกว่าแผนของเขาจะดำเนินต่อไปและเขาได้หว่านเมล็ดพันธุ์ทั้งหมดไว้เรียบร้อยแล้ว



ด้านMickeyตอนนี้ก็ได้สอบผ่านการเป็นMasterแล้ว

ด้านAquaที่ตกลงมาที่Realm of Darknessไม่รู้นานขนาดไหนแล้ว ต้องสู้กับเหล่าHeartlessมากมายนับไม่ถ้วน ในตอนที่เธอกำลังถอดใจแล้วนั้น KeybladeของTerraกับVenก็มาช่วยAquaจัดการเหล่าHeartlessแล้วจากไป Aquaจะยิ้มออกมาแล้วหยิบเครื่องรางรูปดาวของเธอขึ้นมาคิดถึงเพื่อนๆที่เธอเจอมาจากดาวต่างๆ แล้วเธอจะพูดขึ้นมาว่า "ยังมีทางไปต่อเสมอ" จากนั้นเธอจะเห็นแสงสว่างเกิดขึ้นและดูดเอาความมืดออกไปแล้วทำให้เครื่องรางของเธออ่อนกำลังลง Aquaสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เธอจะเดินทางในRealm of Darknessไปเรื่อยๆ สู้กับเหล่าHeartlessที่แข็งแกร่งมากมาย แล้วเธอตกใจที่ได้มาพบกับปราสาทแห่งหนึ่งที่เธอเคยไป แต่ปราสาทแห่งนี้จริงๆต้องอยู่ในRealm of Light แต่นี่กลับมาปรากฏในRealm of Darknessได้อย่างไร ซึ่งเนื้อเรื่องของAquaช่วงหลังจากนี้ยังไม่มีการเปิดเผยออกมา จนกระทั่งAquaได้มาถึงชายหาดDark Marginในฝั่งRealm of Darkness เธอได้พบกับจอมปราชญ์Ansemที่ความจำเสื่อมและอยู่ในชุดฮู้ดสีดำแบบเดียวกับพวกOrganizationXIII นับตั้งแต่ตอนที่เธอตกมายังRealm of Darknessจนถึงตอนนี้เวลาก็ได้ผ่านไปเป็น10ปีแล้ว นั่นเป็นเวลาที่นับในRealm of Light แต่ในRealm of Darknessนั้น การไหลของเวลาจะช้ากว่า Aquaได้คุยกับAnsem AquaบอกกับAnsemว่าเธออยากกลับไปที่โลกของเธอเพื่อทำคำสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนไว้ให้เป็นจริง Ansemจะเล่าว่าเขาจำเด็กหนุ่มได้คนนึงที่มีKeybladeเหมือนกับAqua เขาปกป้องเพื่อนพ้อง ผู้คนทั่วโลกและแสงสว่าง Aquaจะนึกว่าเป็นVenไม่ก็Terra แต่ก็ไม่ใช่ทั้งคู่ Ansemเล่าต่อเรื่องที่เขาพยายามล้างแค้นจนกลายเป็นสิ่งเลวร้ายต่อเด็กหนุ่มคนนั้นและเพื่อนเขา เรื่องขณะที่เด็กหนุ่มคนนั้นหลับใหลไป แล้วเขาได้ซ้อนข้อมูลวิจัยบางอย่างไว้ในตัวเขา เด็กหนุ่มคนนั้นมีหัวใจที่เชื่อมโยงถึงทุกๆคน หากเป็นเขา น่าจะช่วยผู้คนที่ทุกข์ทนเหล่านั้นได้ ทุกสิ่งเกิดขึ้นจากการหลับใหล ทั้งตัวเขา ทั้งAqua Aquaจะถามว่าเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นใคร Ansemจะบอกว่าเขาชื่อSora Aquaจะยิ้มและร้องไห้ออกมา เธอจำSoraได้และเธอดีใจที่Soraได้ทำตามในสิ่งที่เธอฝากฝังไว้





























ตัดมาทางด้านSoraที่ได้รับจดหมายจากพระราชาในภาค2 Soraตัดสินใจได้แล้วว่าเขาจะออกเดินทางอีกครั้งเพื่อช่วยเหล่าผู้ที่โศกเศร้าอยู่ Kairiก็จะมอบเครื่องรางรูปดาวของเธอฝากไว้กับSoraอีกครั้ง และบอกให้Soraกลับมาด้วยนะ





---จบภาค Birth By Sleep---

ที่Disney Castle Jiminyผู้ที่ได้เดินทางร่วมกับพวกSoraมาตลอด เขาได้บันทึกการเดินทางต่างๆไว้ในสมุดบันทึกของเขา แต่มีข้อความบางข้อความที่เขาสงสัย ข้อความที่เขียนว่า "Thank Namine" เขาจำไม่ได้ว่าNamineเป็นใคร และยังมีอีกข้อความคือ "คุณต้องกลับไปปลดปล่อยเหล่าผู้คนที่เจ็บปวด" Jiminyจะไม่เข้าใจในเรื่องนี้ เลยไปรายงานต่อพระราชาMickey Mickeyจะตัดสินใจให้ChipกับDaleสร้างเครื่องบางอย่างขึ้นมา เพื่อแปลงสมุดบันทึกการเดินทางของJiminyให้เป็นโลกข้อมูล(Datascape)ที่มีโลกต่างๆที่Soraเคยเดินทางไป Mickeyจะพบว่าในDatascapeนั้นมีBugอยู่เต็มไปหมด MickeyจะปลุกSoraในร่างข้อมูล(Data Sora)ขึ้นมาเพื่อให้ช่วยจัดการกับBugเหล่านั้น MickeyจะคุยกับData SoraจากReal World แล้วData Soraจะพบกับคนในฮู้ดสีดำ คนๆนี้จะไม่พูดอะไรแล้วเดินหนีไป Mickeyจะให้Data Soraตามไป แต่คนชุดฮู้ดดำจะหายไปเหลือเพียงHeartlessให้Data Soraกำจัด Data Soraจะได้Keybladeที่สร้างจากข้อมูล เพื่อใช้สู้ในการเดินทาง Data Soraจะมาที่Destiny IslandsในData World เขาจะเริ่มจัดการกับเหล่าBug และเข้าไปกำจัดBugยังSystem Sectorsที่เป็นระบบของข้อมูลของดาวแต่ละดวงในDatascapeอีกที













Data Soraจะได้ยินเสียงใครบางคนที่ไม่ใช่Mickey แล้วจะมีแสงบางอย่างส่องออกมาถึงฝั่งของพวกMickeyที่อยู่Real World Data Soraจะได้เจอกับคนชุดฮู้ดดำอีกและบอกให้เขาผนึกรูกุญแจในดาวต่างๆในDatascape Data Soraจะผนึกรูกุญแจที่ดาวนี้แล้วDestiny Islandsจะแปรสภาพเป็นเหมือนคราวที่ตกลงสู่ความมืดในภาค1 เขาต้องสู้กับBug Heartlessขนาดใหญ่ เมื่อData SoraจัดการกับBugตัวนั้นได้ เหตุการณ์Destiny Islandsที่ตกสู่ความมืดก็เกิดขึ้นอีกครั้งในDatascape ด้านพวกMickey เมื่อข้อมูลในสมุดบันทึกถูกซ่อมแซม พวกMickeyจะได้เห็นเหตุการณ์หนึ่งที่อยู่ในสมุดบันทึก "เป็นเหตุการณ์ที่Rikuพบก็Heartless XehanortบนดาวDestiny Islands" Jiminyจะสงสัยว่าพวกเขาน่าจะดูได้แค่ข้อมูลที่เขาจดบันทึกการเดินทางสิ แต่เหตุการณ์ที่พึ่งได้ดูไปนั้นเขาไม่ได้เคยจดมันไว้เลย พวกMickeyจะสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมุดบันทึก ด้านData SoraจะมาปรากฏตัวในTraverse TownในDatascape จากนั้นData SoraจะกำจัดBugและผนึกรูกุญแจในดาวต่างๆในDatascape และบางครั้งคนชุดฮู้ดดำจะโผล่มาช่วยด้วย พวกMickeyก็ได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้จดโดยJiminyอีก "เป็นเหตุการณ์ตอนที่Sora Donald Goofyเจอกันครั้งแรกที่Traverse Town แล้วPlutoวิ่งเข้าไปในCorridors of Darkness"









ที่Disney CastleจะมีHeartlessปรากฏตัวขึ้นมามากมาย Mickeyจะจัดการพวกมัน แล้วจะรู้ตัวว่าพวกเขาถูกขังไว้ในห้อง จนกระทั่งData Soraโผล่มาเปิดประตู พวกMickeyจะตกใจว่าData Soraโผล่มาได้ยังไงเขาควรจะอยู่ในDatascapeสิ Data Soraจะบอกว่าเขาตามคนชุดฮู้ดดำจนมาถึงที่นี่ แล้วคนในชุดฮู้ดดำจะปรากฏตัวออกมาแล้วเผยให้เห็นใบหน้าของเขา เขามีหน้าเหมือนกับRikuเลย เขาคือความทรงจำในสมุดบันทึกการเดินทางของJiminyที่อยู่ในรูปแบบRiku(ขอเรียกว่าData Rikuนะครับ) เขามาเพื่อช่วยไขปริศนาของข้อความที่อยู่ในสมุด เขาจะบอกว่าตอนนี้พวกMickeyก็อยู่ในDatascapeแล้วเช่นกัน แล้วพวกMickeyจะติดต่อไปหาChipกับDaleที่อยู่Real Worldได้ ChipกับDaleจะบอกว่ามีคนบุกรุกเข้าไปในDatascape และตัดการเชื่อมต่อระหว่างDatascapeกับReal World Data Rikuจะหาวิธีเชื่อมต่อกับReal Worldเพื่อส่งพวกMickeyกลับ แต่ในDatascapeยังคงมีBugอยู่จึงเป็นอุปสรรค Data SoraจะอาสาไปกำจัดBugในดาวต่างๆเอง เพื่อซ่อมแซมข้อมูลในDatascape









ระหว่างที่Data Soraเดินทาง ก็จะรู้ว่าคนที่บุกรุกคือ PeteกับMaleficent MaleficentจะทำลายKeybladeที่สร้างมาจากข้อมูลของData Soraทิ้ง และเรียกHeartlessให้มาจัดการData Sora แต่MickeyกับData Rikuจะมาช่วยไว้ Peteจะเล่าว่าเขาโดนดึงเข้ามาในDatascapeพร้อมกับพวกMickey โดยแสงจากภายในDatascapeที่ส่องออกมายังReal Worldในตอนนั้น แล้วPeteก็เรียกMaleficentมา จากนั้นMaleficentจะจับตัวData Rikuไป Data Soraจะมาที่Hollow BastionในDatascapeเพื่อช่วยData Riku แต่ตอนนี้Data Soraไม่มีKeybladeแล้ว DonaldกับGoofyจึงตามมาช่วยอีกแรง และในตอนที่Data Soraกำลังสู้กับPete Data SoraสามารถเรียกKeybladeมาได้อีกครั้ง และสามารถล้มPeteลงได้ PeteจะเรียกData Rikuที่ถูกใส่Bugลงไปออกมา ตอนนี้Data RikuมีสภาพเหมือนRikuในด้านมืด Data SoraกับData Rikuจะสู้กัน Data Soraสามารถเอาชนะได้ จากนั้นData Rikuจะสลบไปไม่ยอมฟื้นเพราะBugที่อยู่ในตัว Data Soraเลยต้องเข้าไปในDatascapeในตัวData Rikuเพื่อกำจัดBugในนั้นให้หมด

เมื่อเข้าในDatascapeในตัวData Riku Data Soraจะได้เจอกับData Rikuในนั้น เขาจะมอบข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้อยู่ในสมุดบันทึกให้ มีใครบางคนใส่มันเขามาและอาจเป็นคนเดียวกันที่ซ้อนข้อมูลในสมุดบันทึก Data RikuจะบอกกับData Soraว่าเขาเป็นดึงพวกMickeyเข้ามาเอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่พวกBugพยายามทำลายกำแพงที่กั้นระหว่างDatascapeกับReal World จากนั้นData SoraจะจัดการBugในDatascapeดาวต่างๆ ในความทรงจำของData Riku Data Soraจะได้รู้ว่าคนชุดฮู้ดดำคนแรกที่เขาเจอนั้นไม่ใช่Data Riku แล้วData Soraจะเจอก็MaleficentในDatascapeในตัวData Riku ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้Data Rikuไม่ฟื้น เมื่อจัดการได้ Data SoraจะออกมาจากDatascapeในตัวData Riku และData Rikuนั้นจะฟื้นขึ้นมาแล้ว และประตูสู่Real Worldก็ได้เปิดออก พวกMickeyจึงกลับมาสู่Real World ด้านData RikuกับData Soraที่อยู่ในDatascape Data Rikuบอกว่าเมื่อการฟื้นฟูเสร็จสิ้น หลังจากนั้นจะต้องลบข้อมูลการเดินทางที่เกิดขึ้นใหม่ในครั้งนี้เพื่อให้สมุดบันทึกกลับสู่สภาพเริ่มต้น ซึ่งData Soraก็ต้องถูกลบไปด้วย แล้วในตอนที่ข้อมูลการเดินทางในสมุดเดินทางกำลังจะฟื้นฟูครบ100% ก็เกิดความผิดพลาดขึ้น ทุกคนจะแปลกใจเพราะBugก็ถูกจัดการไปหมดแล้ว Jiminyจะนึกได้ว่าMaleficentกับPeteยังอยู่ด้านใน ถ้าไม่พาพวกเขาออกมา พวกเขาจะโดนลบไปตลอดกาล Data Soraจะไปช่วยและพบพวกเขาโดนHeartlessยักษ์ทำร้าย Heartlessนี้คือHeartlessของData Sora มันได้ดูดกลืนหัวใจจากHeartlessตัวอื่นที่Data SoraกำจัดในDatascape และHeartlessตัวนี้ก็เป็นต้นกำเนิดของเหล่าBugทั้งหมด ในตอนแรกData Soraจะสู้ไม่ได้ แล้วMickeyจากReal Worldจะกลับเข้ามาช่วย แล้วกำจัดHeartlessตัวนั้นลงได้ แล้วMaleficentกับPeteจะถูกส่งกลับReal World และMickeyจะล่ำลาData Soraแล้วกลับสู่Real World จากนั้นเมื่อคนจากReal Worldกลับมาหมดแล้ว ข้อมูลที่เกิดขึ้นใหม่ในการเดินทางในDatascapeครั้งนี้ได้ถูกลบ รวมทั้งData Soraด้วย ทางด้านMaleficentกับPete ระหว่างทางออก MaleficentจะคุยกับPeteถึงเรื่องDate EscapeหรือDatascape ซึ่งทำให้นึกถึงตำราพยากรณ์(Book of Prophecies) ที่เป็นหนังสือในอดีตที่บันทึกเรื่องราวโลกในอนาคตเอาไว้ ถ้าสามารถสร้างโลกในอนาคตจากตำราพยากรณ์นั้นมาได้ ก็จะสามารถนำคนและพลังจากโลกอนาคตมาใช้ได้ Peteคิดว่าเรื่องนี้มันเหมือนแค่นิทานเท่านั้น แต่Maleficentก็บอกว่ามันก็เหมือนกับDate Escapeที่พวกMickeyสร้างขึ้นมาจากบันทึกการเดินทางของพวกSoraไม่ใช่หรือ บางทีบันทึกของพวกSora อาจมีอะไรเกี่ยวโยงกับตำราพยากรณ์ในอดีตก็เป็นได้ ฉะนั้นMaleficentจึงต้องการครอบครองDataของพวกMickeyมาให้ได้



















เรื่องเหมือนจะจบลง แต่แล้วData Rikuก็ติดต่อมาบอกว่ามีโลกใหม่ปรากฏขึ้นในสมุดบันทึก ไม่รู้ว่าใครเป็นคนใส่มาแต่มันเกี่ยวข้องกับข้อความ"คุณต้องกลับไปปลดปล่อยเหล่าผู้คนที่เจ็บปวด"ในบันทึก พวกเขาจะปลุกData Soraขึ้นมาอีกครั้ง Data Soraตื่นขึ้นมาที่Traverse TownในDatascape และพบกับMickey MickeyจะพูดกับData Soraว่า "Sora นี่เป็นวันเริ่มต้นการเดินทางของเธอ ฉันรู้ เพราะวันนั้นฉันก็อยู่ที่แห่งนี้เช่นกัน ถึงเวลาที่จะพบกับความจริงแล้ว" Data Soraในตอนนี้ไม่รู้จักMickeyแล้ว Mickeyจะแนะนำตัวและเล่าเรื่องราวให้Data Soraฟังแบบย่อๆและเปิดประตูสู่โลกที่เพิ่มเข้ามาใหม่นั่นคือCastle Oblivion พอมาถึงMickeyจะหายตัวไป Data Soraจะพบกับคนชุดฮู้ดดำ ซึ่งเขาคือคนที่ใส่ชุดฮู้ดดำคนแรกที่Data Soraเจอ เขาจะมอบการ์ดดาวต่างๆจากความทรงจำในสมุดบันทึกการเดินทางให้เพื่อใช้เปลี่ยนห้องต่างๆในCastle Oblivionให้เป็นสถานที่ในความทรงจำนั้นๆ เขาจะปรากฏตัวมาหาData Soraอยู่เรื่อยๆ Data Soraจะไปยังห้องต่างๆเพื่อกำจัดBugที่เหลืออยู่ แล้วData SoraจะเจอกับData Riku Data Rikuจะให้Data Soraได้เห็นภาพเหตุการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในสมุดบันทึกการเดินทาง "เป็นเหตุการณ์ที่Rikuทำมือเหมือนคว้าพระจันทร์ไว้ และหันมามองKairiที่ไร้หัวใจหลับใหลอยู่" ในการเดินทางของData SoraในCastle Oblivion เขาจะเริ่มคิดได้ว่า แม้เราจะลืมคนที่เคยพบเจอไปแล้วแต่ความเจ็บปวดจากการลืมพวกเขาไปนั้นไม่อาจหายไป Data Soraจะเก็บความรู้สึกเหล่านั้นไว้แล้วไปต่อ แม้คนชุดฮู้ดดำจะบอกให้ลืมความเจ็บปวดนั้นให้ได้ ไม่งั้นData Soraจะต้องตกสู่ความมืด แต่Data Soraไม่สามารถทำแบบนั้นได้ เขายอมแบกรับความเจ็บปวดแล้วก้าวเดินต่อไป









แล้วในที่สุดคนชุดฮู้ดดำจะเปิดเผยตัวออกมา เขาคือRoxas(Data Roxas) Data SoraกับData Roxasจะสู้กัน จนData Soraชนะ เขา2คนจะคุยกัน Data Soraรู้สึกถึงความเจ็บปวดของData Roxas และเขาต้องการแบกรับไว้แทน แล้วData Roxasจะมอบการ์ดแห่งความจริงให้ และบอกว่าData Soraนั้นผ่านแล้ว Data Soraจะงง Data Roxasเลยบอกว่าเขามีหน้าที่ทดสอบData Soraว่าพร้อมที่จะรับความเจ็บปวดหรือยัง ซึ่งData Soraนั้นพร้อมแล้ว แล้วData Roxasจะเข้าไปรวมกับData Sora จากนั้นData Soraจะใช้การ์ดแห่งความจริง Mickeyจะโผล่มา แล้วทั้งคู่ก็เข้าใปยังห้องนั้นเพื่อพบกับความจริง เมื่อเข้ามาทั้งคู่จะพบกับNamine(Data Namine) Data Namineจะเล่าว่าตอนที่Soraหลับใหลแล้วNamineกำลังประกอบความทรงจำให้กับSoraใหม่ ในก้นบึ้งของหัวใจSoraยังมีความทรงจำของคนอื่นที่เชื่อมโยงถึงเขาหลับใหลอยู่ ซักวันนึงSoraจะจำได้ มันเป็นความทรงจำที่สำคัญ แต่ก็อันตรายมากๆ เพราะเป็นความทรงจำที่เจ็บปวด หากจัดการกับมันไม่ดี มันอาจทำให้หัวใจของSoraแตกสลายได้ นั่นคือเหตุผลที่เธอเขียนข้อความ"คุณต้องกลับไปปลดปล่อยเหล่าผู้คนที่เจ็บปวด"ไว้ในสมุดบันทึกการเดินทาง ซึ่งความทรงจำที่เจ็บปวดนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดBugขึ้น แล้วData Soraจะให้ปลดปล่อยความทรงจำที่เจ็บปวดนั้นออกมาเถอะ เขาจะแบกรับมันเอง Mickeyจะเสริมว่าเขาจะช่วยแบกรับด้วย Data Namineจะขอบคุณและบอกว่า ถ้าพวกเขาเชื่อมต่อกับความทรงจำเหล่านั้นแล้ว หัวใจของพวกเขาก็จะเต็มไปด้วยความรู้สึกที่เก็บซ้อนอยู่ในความทรงจำนั้น







เมื่อพวกเขารับความทรงจำที่เจ็บปวดมาเขาจะเห็นเป็นภาพลางๆของ Axel Roxas Namine Xion Terra Ventus Aqua จะมีทั้งคนที่Data Soraรู้จัก ไม่รู้จัก เคยเจอแต่จำไม่ได้ ไม่เคยเจอแต่รู้สึกคุ้นเคย ทุกคนนั้นมีเพียงSoraคนเดียวที่จะช่วยพวกเขาได้ Mickeyจะบอกว่าเขาจะนำเรื่องราวเหล่านี้ไปบอกSoraตัวจริงที่Real World แล้วData Soraจะนึกออกว่าเขามีข้อความจะบอกกับNamineเหมือนกัน เป็นข้อความที่SoraในReal Worldไม่มีโอกาสได้บอกกับNamine นั้นคือ "ขอบคุณนะ" Data Namineจะยิ้มแล้วเธอก็หายไป และเรื่องราวของข้อความปริศนานั้นก็ได้จบลง MickeyจะเขียนจดหมายถึงSora ที่เขาได้รับในตอบจบภาค2 เนื้อหามีอยู่ว่า "ฉันอยากจะบอกเธอว่าในตัวเธอนั้นยังมีความทรงจำที่หลับใหลอยู่ และชิ้นส่วนเหล่านั้นจะเชื่อมโยงกับอนาคตของเธอ Sora Riku Kairi ความจริงเบื้องหลังKeybladeนั้นเกี่ยวข้องอย่างมากกับภายในหัวใจของพวกเธอ Sora ทุกคนที่เชื่อมโยงกับเธอนั้นยังรอเธออยู่ และเธอคือคนเดียวที่จะช่วยเยี่ยวยาความโศกเศร้าของพวกเขาได้ พวกเขาต้องการเธอ การเดินทางที่ผ่านมาอาจเป็นเรื่องที่ง่ายมากเมื่อเทียบกับการเดินทางครั้งใหม่ที่รอเธออยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าเป็นเรื่องบังเอิญ แท้จริงแล้วมันเชื่อมโยงถึงกัน และตอนนี้ประตูสู่การเดินทางครั้งใหม่ได้เปิดออกแล้ว"













จากนั้นMickeyจะมาคุยกับYen Sid เขาจะคิดว่ารู้ที่อยู่ของหัวใจของVenแล้ว Yen Sidก็จะพูดว่าเหลือแค่Terraแล้วสินะ แล้วYen Sidจะพูดถึงว่าXehanortจะทำอะไรต่อ Mickeyจะบอกว่าตอนนี้Soraก็จัดการทั้งร่างHeartless(Ansem the seeker of darkness)และร่างNobody(Xemnas)ของXehanortไปแล้วหนิ Yen Sidจะอธิบายว่าเมื่อทั้งHeartlessและNobodyถูกทำลายมันจะไปรวมตัวกันอีกครั้ง นั่นก็หมายความว่า Master Xehanortจะกลับมา Mickeyจะบอกว่าถึงยังไงเราก็ยังมีSoraกับRikuอยู่ Yen Sidจะแย้งว่าพวกเขาสองคนแข็งแกร่งก็จริง แต่ก็ไม่ได้เป็นKeyblade MasterเหมือนMickey Yen Sidกลัวว่าถ้าMaster Xehanortไม่ได้ลงมือทำคนเดียวล่ะ Mickeyที่คิดไม่ถึงก็ตกใจออกมา แล้วYen Sidจะให้MickeyเรียกตัวSoraกับRikuมา เพื่อเข้าทดสอบMark of Mastery



อีกทางด้านหนึ่งที่ห้องคอมพิวเตอร์ของAnsem the wizeที่ Radiant Garden Braig(ร่างมนุษย์ของXigbar)ได้ขึ้นชีพขึ้นมาอีกครั้งแล้ว และกำลังคุยกับXehanortสมัยหนุ่ม(Young Xehanort) ในที่แห่งนั้น Dilan Aeleus Even Ienzo Isa Lea(ร่างมนุษย์ของXaldin Lexaeus Vexen Zexion Saix Axel) ก็ฟื้นคืนชีพมาแล้วเช่นกันแต่ยังไม่ได้สติ Braigได้พูดว่า “ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของ Master Xehanort เลย Xemnas ก็น่าจะคืนชีพแล้ว ถ้าไม่อยู่ที่นี่แสดงว่า ไปดำเนินการณ์แผนต่อไปแล้วสินะ ตาแก่Xehanort(Master Xehanort)น่ากลัวจริงๆ เขาอ่าน...ไปถึงไหนกันนะ(อ่านเกม หรือ อ่านตำราพยากรณ์)” ตัวBraigไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของMaster Xehanortเลย BraigจึงถามYoung Xehanortว่า นายพอจะรู้ความคิดตัวนายในอนาคตรึเปล่าล่ะ แต่Young Xehanortกลับตอบว่า “เส้นทางของฉัน มันถูกกำหนดไว้แล้ว Keyblade Masterทุกคน ได้รับKeybladeสืบทอดมาหลายรุ่นต่อหลายรุ่น จำนวนของKeybladeก็เพิ่มมากขึ้นๆตามจำนวนผู้ใช้Keybladeที่มากขึ้นๆจากในอดีต แต่ในบรรดาKeybladeทั้งหมด KeybladeของMaster Xehanortนั้น เก่าแก่มากที่สุด แต่นั่นคือโชคชะตาของตัวเขา แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา“ Braigก็คิดว่า “มันคงเกี่ยวกับKeyblade Warในอดีตสินะ จะยังไงก็เถอะ ฉันก็มีงานต้องทำ” Braigก็ถามYoung Xehanortว่าเราจะพาใครไปด้วยดีล่ะ ในบรรดาพวกที่คืนชีพมา แล้วYoung Xehanortก็ยิ้มออกมา





---จบภาคCoded---

ในอดีตตอนช่วงที่Xehanortขับไล่Ansem the wiseไปแล้ว ในตอนนั้นหัวใจของEvenกับIenzoได้หลุดจากร่าง และร่างกำลังจะหายไป Xehanortที่พึ่งฟื้นขึ้นมา Braigจะถามว่าเป็นอะไรไหม แล้วจะทำอะไรต่อไป แล้วXehanortก็สามารถเรียกKeybladeของเขากลับมาได้ Braigถามว่าXehanortได้ความทรงจำกลับมาแล้วเหรอหรือมันไม่เคยหายไป แต่Xehanortไม่ตอบพร้อมทั้งนำKeybladeไปแทงที่หน้าอกของBraigทำให้หัวใจของBraigหลุดออกมา และXehanortก็เอ่ยขึ้นมาว่าตอนนี้เขาชื่อว่าAnsem





ณ ปัจจุบัน SoraกับRikuได้มาหาYen Sidที่Mysterious Tower Yen Sidได้เล่าถึงนวนิยายเกี่ยวกับโลกในอดีตที่เต็มไปด้วยแสงสว่างและKingdom Heartsที่ถูกปกป้องด้วยX-blade และเมื่อความมืดเริ่มปกคลุมโลก และเกิดKeyblade Warที่เหล่าผู้ใช้Keybladeรบกันเพื่อแย่งชิงKingdom Hearts จากKeyblade Warนั้นทำให้X-bladeแตกเป็นเสี่ยงๆ และเกิดเป็น7แสงสว่างที่บริสุทธิ์ และ13ความมืดที่มืดสนิท และKingdom Heartsก็ถูกความมืดกลืนกินไป แสงสว่างในหัวใจเหล่าเด็กๆได้ทำให้กำเนิดโลกต่างๆขึ้นมาใหม่ดังในทุกวันนี้ และYen Sidก็ได้เล่าเรื่องMaster Xehanort ที่เป็นKeyblade Masterอัจฉริยะ แต่กลับใช้มันในทางที่ผิด Master Xehanortพยายามจะทำให้Keyblade Warเกิดขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเป็นปัญหาของเรา Yen Sidบอกว่าทั้งคู่ต้องเตรียมตัวที่จะเผชิญกับศึกใหม่นี้ SoraและRikuต้องเข้าทดสอบMark of Mastery เพื่อให้ได้เป็นKeyblade Master และโดยปกตินั้นผู้ใช้Keybladeต้องได้รับการฝึกสอนโดยMaster แต่ทั้งคู่ต่างใช้Keybladeมาแบบโดยไม่ได้รับการสอน ทั้งคู่จึงต้องลืมและเริ่มเรียนรู้การใช้Keybladeซะใหม่ให้ถูกวิธี ทุกคนก็ตกใจ Soraก็คิดว่าในตอนนี้ก็ไม่มีใครสู้เขาได้อยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นเลย แต่Rikuก็พูดมาว่าคนที่เดินในเส้นทางแห่งความมืดแบบเขาอยากจะลองพิสูจน์ดูว่าเขาเหมาะสมที่จะเป็นผู้ใช้Keybladeจริงๆหรือไม่ Rikuต้องการจะพิสูจน์ดู Soraก็เลยตกลงด้วย Yen Sidบอกว่าการที่จะต่อกรกับMaster Xehanortนั้น จำเป็นต้องปลุกเหล่าผู้ที่หลับใหลไปด้วยความโศกเศร้า ตามที่Mickeyได้เขียนจดหมายไปหาพวกSora ดังนั้นทั้งคู่ต้องปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง7และรับพลังใหม่มา ทั้งคู่จะต้องไปยังดาวต่างๆที่อยู่ในสภาพหลับใหล ดาวต่างๆหลายดวงได้เคยตกสู่Realm of Darkness แล้วเมื่อSoraได้กำจัดAnsem the seeker of darknessลงได้ในการเดินทางครั้งแรกและปิดล็อคประตูสู่ความมืด ทำให้ดาวต่างๆที่เคยตกสู่Realm of Darknessได้กลับมายังRealm of Light แต่ว่าก็มีดาวบางดวงที่ไม่สามารถกลับมาได้และต้องตกอยู่ในสภาพหลับใหลไป(Sleeping World) อีกทั้งช่วงกาลเวลาของSleeping Worldนั้นจะไม่เหมือนปกติ ราวกับดาวนั้นกำลังฝันอยู่ บุคคลที่ทั้งคู่จะเจอในดาวนั้น ในความเป็นจริงอาจจะไม่ได้อยู่ในดาวดวงนั้นแล้วเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความฝันเท่านั้น แต่โลกในความฝันจะให้ชีวิตกับบุคคลเหล่านั้นขึ้นมา ทั้งคู่ต้องปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลในดาวเหล่านั้นเพื่อให้ดาวเหล่านั้นตื่นขึ้นมาเป็นเหมือนเดิม ในSleeping Worldนั้น จะไม่มีสิ่งมีชีวิตจากความมืดที่เป็นHeartlessอยู่ แต่จะมีอีกความมืดหนึ่งที่เป็นปีศาจที่กินฝันชื่อว่าDream Eater ซึ่งมีอยู่2ประเภทคือSpiritตัวกินฝันร้าย และNightmareตัวที่แพร่ฝันร้าย ซึ่งเหล่าDream Eaterนั้น จะนำไปสู่รูกุญแจแห่งการหลับใหลของดาวดวงนั้นได้ Yen Sidบอกว่าจะส่งทั้งคู่กลับไปยังDestiny Islandsในช่วงก่อนที่จะถูกความมืดดูดกลืนไป เมื่อทั้งคู่ดำดิ่งสู่ความมืดและหลับไป ทั้งคู่ก็จะสามารถเข้าสู่Sleeping Worldที่อยู่ในRealm of Sleepได้ และเมื่อทั้งคู่สามารถปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง7ได้ ทั้งคู่ก็จะกลับมายังโลกปกติและYen Sidจะพิจารณาให้ทั้งคู่เป็นKeyblade Master





SoraกับRikuจะโผล่มาอยู่ที่Destiny Islands พวกเขามีใบหน้ารูปร่างที่เด็กลงด้วยเวทมนต์ของYen Sid เพราะYen Sidต้องการให้พวกเขาเรียนรู้การใช้Keybladeซะใหม่ พวกSoraจะใช้แพออกสู่ทะเลและได้พบกับUrsulaมาทำลายแพของพวกเขา ทั้งคู่จะช่วยกันสู้แล้วUrsulaจะหายไป ทั้งคู่จะตกลงไปในทะเล และสลบไป ในขณะที่สลบอยู่ๆทั้งคู่ก็เรียกKeybladeออกมาและไปเปิดรูกุญแจเข้าสู่Realm of Sleep ในตอนที่ทั้งคู่อยู่ในน้ำ HeartlessของXehanort(Ansem the seeker of darkness)ที่อยู่ในชุดคลุมสีน้ำตาลก็ได้ยืนดูทั้งคู่อยู่บนซากแพและกล่าวออกมาว่า "โลกนี้ได้ถูกเชื่อมต่อแล้ว"









ด้านSoraเมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็อยู่ที่Traverse Townแล้วแต่Rikuกลับไม่ได้อยู่ด้วย Soraได้เจอกับNekuที่กำลังเล่นเกมบางอย่างอยู่โดยมีเลขนาฬิกานับถอยหลังบนฝ่ามือ Nekuกำลังตามหาตัวคู่หูที่หายไปอยู่ จากนั้นSoraจะได้เจอกับคนใส่ฮู้ดดำและสลบไป





ด้านRikuตื่นขึ้นมาที่Traverse Townเช่นกันและได้พบกับJoshua Joshuaจะพูดถึงเรื่องPortal Portalเปรียบเสมือนประตูสำหรับเดินทางข้ามระหว่างโลกที่เป็นโลกเดียวกันแต่แบ่งออกเป็นสองโลกหรือมากกว่านั้น พูดอีกแบบนึงก็คือคนละโลกเดียวกันหรือโลกคู่ขนาน Joshuaบอกว่ากำลังตามหาRhymeซึ่งเป็นกุญแจสำหรับเปิดPortal ตอนแรกRikuจะไม่เชื่อใจแต่Joshuaนั้นเอ่ยถึงSora ทำให้Rikuต้องช่วยตามหาRhymeซึ่งอาจทำให้ได้พบกับSora Joshuaอธิบายว่าSoraนั้นน่าจะอยู่ที่Traverse Townอีกแห่งนึง Rikuจะได้พบกับBeatที่พูดถึงคนชุดฮู้ดดำ จากนั้นSoraกับRikuจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับDream Eater และการทำฝันให้ออกมาเป็นรูปร่างนั้นคือการสร้างDream Eater Spiritมาเป็นผู้ช่วยเรานั่นเอง





ด้านSoraเมื่อRikuหลับไป เขาก็ตื่นขึ้นมาและออกตามหาNekuจนมาพบกับRhymeที่ความจำเสื่อมและพากันไปหาNeku Nekuบอกว่าRhymeไม่ใช่คู่หูของเขา แต่แล้วRhymeก็หายตัวไป แล้วคนใส่ฮู้ดดำก็เรียกDream Eater Nightmareขนาดใหญ่ออกมา



ด้านRikuเมื่อตื่นขึ้นมาเขาจะพบกับShikiที่โดนNightmareไล่ตามอยู่ Rikuจะเข้าไปช่วยเธอและเดินทางร่วมกับเธอจนRikuมาเจอกับคนใส่ชุดฮู้ดดำพูดอะไรแปลกๆ คนใส่ฮู้ดดำจะเปิดเผยใบหน้าของตนซึ่งนั่นคือMaster Xehanortสมัยหนุ่ม(Young Xehanort) แต่ในตอนนี้ทั้งSoraแล้วRikuยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครและจากไป แต่ก่อนไปก็เรียกDream Eater Nightmareขนาดใหญ่ออกมาอีกเช่นกัน





เมื่อSoraปราบDream Eater Nightmareขนาดใหญ่ลงได้JoshuaกับRhymeก็ปรากฏตัวออกมา และเห็นภาพลางๆเหมือนภาพฉายของRiku Soraสงสัยว่าJoshuaนั้นรู้ชื่อของเขาได้ยังไง Joshuaอธิบายว่าเขาใช้ความฝันของRhymeเป็นPortal และที่Traverse Townนี้ถูกสร้างมาจากความฝันของJoshua ที่Joshuaรู้จักSoraก็เพราะว่าJoshuaนั้นฝันSoraขึ้นมา และRikuก็ด้วย ตัวJoshuaเปรียบเสมือนผู้รอบรู้ในโลกนี้ Soraจะถามว่าRikuนั้นอยู่ที่ไหน Joshuaจะบอกว่าRikuนั้นอยู่ที่Traverse Townอีกแห่งหนึ่ง Soraก็ถามว่าเขาจะใช้PortalของJoshuaไปหาRikuได้ไหม แต่Joshuaบอกว่าไม่ได้เพราะด้วยความฝันของRhyme PortalของJoshuaสามารถเปิดให้ได้แค่เขาคนเดียว ภาพฉายที่Soraเห็นRikuนั้นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่Traverse Townอีกแห่งหนึ่ง ในภาพฉายนั้นSoraจะเห็นRikuตอนที่กำลังเผชิญหน้ากับคนใส่ฮู้ดดำ Joshuaจะบอกว่าสาเหตุที่โลกได้แบ่งเป็นสองโลกอาจเป็นเพราะคนๆนี้ก็ได้ ด้านRikuหลังปราบDream Eater Nightmareขนาดใหญ่ได้ก็มองเห็นภาพฉายด้านSoraเช่นกัน







หลังการต่อสู้Joshuaได้เล่าให้SoraกับRikuฟังว่าในโลกเดิมของพวกNekuนั้น บางอย่างทำให้การมีตัวตนอยู่ของพวกNekuได้จบลง แต่Joshuaก็ได้รวบรวมเศษเสี้ยวสุดท้ายของความฝันของพวกNekuมาและหาสถานที่เพื่อให้พวกเขาหลบซ่อน แล้วดาวTraverse Townก็ปรากฏขึ้นมา และความฝันของRhymeได้พาพวกNekuมาอยู่ที่นี่ ความฝันทำให้พวกเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง บางทีJoshuaอาจเป็นคนที่ทำให้พวกNekuกลับมามีชีวิตอีกครั้งก็เป็นได้ Rikuคิดว่าไม่น่าสามารถทำได้ แต่Joshuaก็บอกเป็นนัยว่าเมื่อมีใครบางคนมองหาใครอีกคน มันทำให้พวกเขาเริ่มมีตัวตนอยู่ พวกเขาต้องการให้ใครบางคนมองพวกเขา และเชื่องโยงกับพวกเขา และSoraกับRikuก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้มันเกิดขึ้น เมื่อพูดจบSoraกับRikuก็สงสัยว่าJoshuaเป็นใครกันแน่ Joshuaตอบว่าเป็นเพื่อนไงแล้วก็กางปีกบินหายไป จากนั้นทั้งคู่จะเดินทางไปยังโลกต่างๆผ่านการปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหล แต่SoraและRikuจะไม่ได้เดินทางด้วยกัน

อีกด้านหนึ่งที่ห้องคอมพิวเตอร์ของAnsem the wizeในดาวRadiant Garden Leaที่กำลังจะฟื้นกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ได้ฝันถึงคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับRoxasสมัยตอนที่เขายังเป็นAxel(NobodyของLea) Axelสัญญาว่าจะพาพวกเรากลับมาในทุกครั้ง จากนั้นLeaก็ตื่นขึ้นมาเจอDilan Aeleus Even และIenzo(ร่างมนุษย์ของXaldin Lexaeus Vexen Zexion)ที่กลับมาเป็นมนุษย์แล้วกำลังจะฟื้นขึ้นมา แต่Xehanort Braig และIsaกลับไม่อยู่ Leaจะออกไปตามหาในปราสาทก็ไม่พบ Aeleusก็ไปหาที่นอกปราสาทมาแล้วก็ไม่พบเหมือนกัน Ienzoก็สงสัยว่าปกติแล้วก็ต้องฟื้นกลับมาเป็นมนุษย์ในสถานที่ที่สูญเสียหัวใจไปสิ แต่พวกเขากลับไม่อยู่ และถ้าไม่สามารถฟื้นที่ดาวดวงที่พวกเขาสูญเสียหัวใจไปด้วยสาเหตุบางอย่างของดาวดวงนั้น ก็น่าจะไปฟื้นที่Realm Between ที่Traverse Town แต่ก็ไม่น่าเป็นไปได้เพราะขนาดพวกLeaยังฟื้นที่ดาวนี้เลย แล้วLeaก็พูดขึ้นมาว่าเขาจะนำพวกเขากลับมาเอง IenzoกับAeleusก็สงสัยว่าจะทำยังไง แต่Leaไม่ตอบ และบ่นว่า"ทำไมฉันต้องทำงานสกปรกอยู่เรื่อยเลยนะ" พร้อมมองไปที่คำว่า Door to Darkness







หลังจากเดินทางมาได้พักหนึ่งSoraกับRikuก็จะได้มายังที่Traverse Townอีกครั้งเนื่องจากJoshuaขอความช่วยเหลือ Joshuaอยากให้SoraกับRikuช่วยจัดการDream Eaterตัวหนึ่งที่แข็งแกร่ง สามารถเดินทางข้างระหว่างโลกได้ และยังสามารถเรียกDream Eaterตัวอื่นมาเพิ่มได้ ซึ่งพวกNekuได้รับมอบหมายภารกิจในReapers' Gameให้จัดการDream Eaterตัวนี้ ถ้าพวกNekuสามารถเคลียร์ภารกิจต่างๆของReapers' Gameได้ พวกเขาก็สามารถกลับบ้านได้ Joshuaต้องการให้SoraกับRikuใช้Keybladeช่วยเหลือพวกNeku ในตอนนี้พวกNekuจะได้เจอคู่หูของตัวเองแล้ว Soraจะไปช่วยNekuกับShiki ส่วนRikuจะไปช่วยBeatกับRhyme แล้วJoshuaยังได้บอกอีกเรื่องกับRiku ในตอนแรกJoshuaคิดว่าTraverse Townทั้ง2แห่งที่เชื่อมต่อด้วยPortalเป็นโลกคู่ขนานกัน แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น Joshuaดูจากจำนวนเวลาเล่นเกมที่เหลือบนมือของShikiเมื่อข้ามPortalกลับมาหาNekuทำให้รู้ว่าการไหลของเวลาของTraverse Townทั้ง2ต่างกัน Joshuaคิดว่าTraverse Townทั้ง2นั้น เป็นคนละโลกกันเลย โดยถูกสร้างจากความฝันของคน2คนที่ฝันโลกเดียวกัน ในตอนนี้Rikuเหมือนอยู่ในอีกฝัน Joshuaเตือนให้Rikuระวังตัวด้วย

เมื่อSoraกับRikuไล่ต้อนDream Eaterตัวนั้นจนจนมุมแล้ว มันจะหนีไปยังโลกอื่นที่ไม่ใช่Traverse Town SoraบอกกับพวกNekuว่าจะตามไปจัดการให้ Nekuก็ขอบคุณและพวกเขาก็ล่ำลากัน พวกNekuก็ชวนให้Soraมาที่Shibuyaบ้านของพวกเขาด้วย แล้วSoraก็ออกเดินทางต่อและจัดการDream Eaterตัวนี้ได้ในภายหลัง





ด้านMickey MaleficentกับPeteได้บุกมายังDisney CastleและจับตัวMinnieไว้ MickeyถามMaleficentว่าต้องการอะไร Maleficentจะเอ่ยถึงXehanortผู้ที่บอกสิ่งต่างๆของโลกภายนอกแก่เธอรวมทั้งเรื่องหัวใจแห่งแสงสว่างที่บริสุทธิ์ทั้ง7ที่จะทำให้เธอมีพลังที่จะครอบครองโลกทั้งหมดไว้ได้แต่เธอก็พลาดไป ในตอนนี้เธอรู้ว่าMickeyมีDataของโลกทุกดวงอยู่(Datascape) เธอต้องการสิ่งนั้น จากนั้นLeaจะเปิดCorridors of Darknessมาช่วยพวกMickey และช่วยMinnieไว้ได้ แล้วMaleficentกับPeteจะหนีไป Mickeyก็แปลกใจที่Axelมาช่วย แต่Leaบอกว่าชื่อของเขาในตอนนี้คือLea









แล้วMickeyจะพาLeaมาหาYen Sid พวกเขาจะได้คุยกัน Leaขอร้องกับYen Sidว่าเขาอยากจะใช้Keybladeได้ ทำให้คนที่อยู่ในห้องตกใจกันหมด Yen Sidรู้สึกได้ว่าXehanortรู้ว่าพวกเขาทำอะไรอยู่ แต่Yen Sidก็จำเป็นต้องส่งSoraกับRikuไปทดสอบMark of Mastery เพื่อที่จะได้รับพลังใหม่และเป็นKeyblade Master แต่ก็อันตรายอยู่ดีและในตอนนี้Yen Sidไม่สามารถรู้ตำแหน่งของทั้ง2คนได้เลย ได้แต่เชื่อในพลังของSoraกับRikuเท่านั้น Yen Sidบอกต่อว่าXehanortนั้นเป็นคนที่เขาเดาแผนการณ์ได้ยากมาก ในตอนนี้เหล่าNobodyที่เคยอยู่ในองค์กรOrganizationXIIIก็กลับมาเป็นมนุษย์แล้ว Xehanortก็ต้องกลับมาเป็นมนุษย์แล้วเช่นกัน เราต้องหาแผนการณ์ที่จะต่อกรกับXehanort จากนั้นYen SidจะเตือนLeaในสิ่งที่Leaมาขอร้อง ว่ามันไม่ใช่หนทางที่ง่ายเลยนะ แต่Leaยืนยันว่าจะทำ



ด้านSoraกับRikuในระหว่างการเดินทางทั้งSoraและRikuจะได้พบกับYoung Xehanortอยู่บ่อยครั้ง ทั้งคู่ไม่รู้ว่าคนๆนี้เป็นใครและต้องการอะไร แต่ในแต่ละครั้งที่เจอก็จะมีเหล่าตัวร้ายที่น่าจะถูกจัดการไปแล้วโผล่มาด้วย ทั้งXemnas, Ansem the seeker of darkness

Soraที่ได้เจอกับYoung Xehanort Young Xehanortจะพูดทั้งเรื่องหัวใจอีกดวงที่จองจำอยู่ในตัวSora ทำให้Soraเห็นภาพVanitasที่มาจากการตอบสนองหัวใจของVentusที่อยู่ในตัวSora และเรื่องความทรงจำกับหัวใจนั้นเชื่อมต่อกัน ในโลกข้อมูลความทรงจำสามารถถูกเปลี่ยน ถูกจัดการได้อย่างง่าดาย แล้วตัวSoraล่ะ ไม่คิดว่ามันถูกcopyมาจากคนอื่นเหรอ ทั้งหมดนั้นเป็นแผนของYoung Xehanortเพื่อทำให้หัวใจของSoraสับสนนั่นเอง

ส่วนRikuที่ได้เจอกับYoung XehanortและAnsem the seeker of darkness Rikuจะแปลกใจที่เจอAnsemอีก Young Xehanortก็พูดถึงเรื่องความมืดในตัวของRiku ว่าRikuยังกลัวความมืดอยู่ และเรื่องที่Rikuนั้นก็สามารถต่อต้านความมืดในหัวใจได้ พวกYoung Xehanortจึงไม่ต้องการRikuแล้ว และในระหว่างเดินทางRikuได้เจอกับRikuอีกคนหนึ่งด้วย(Riku Replica) ซึ่งเป็นด้านมืดของตัวRiku เป็นตุ๊กตาจำแลงความมืดของหัวใจRiku การกระทำของRiku Replicaยังเป็นปริศนา









ด้านMickeyที่อยู่กับYen Sid Mickeyก็ถามว่าLeaจะทำได้เหรอ Yen Sidก็คิดว่ายากแต่ตอนนี้ก็ให้Merlinกับ3นางฟ้าคอยช่วยอยู่ และYen Sidก็หวังว่าLeaจะเรียนรู้ที่จะใช้Keybladeได้ แล้วMickeyก็ถามเกี่ยวกับSoraและRiku Yen Sidตั้งสมมุติฐานว่าถ้าXehanortรู้เรื่องแผนที่พวกSoraจะไปทดสอบ Xehanortก็ต้องอยู่ที่Destiny Islandsในอดีตในวันที่ดาวกำลังจะถูกความมืดดูดกลืนด้วย Goofyก็ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่Xehanortจะข้ามเวลาไปยังDestiny Islandsเหมือนแบบที่SoraกับRikuทำ Yen Sidก็ตอบว่าการจะทำแบบนั้นจำเป็นต้องมีตัวตนของเขาด้วยทั้งที่ต้นทางและปลายทาง หรือไม่ก็Xehanortสามารถนำร่างกายจริงๆข้ามกาลเวลาได้ แล้วMickeyจะนึกออกเรื่องที่ในอดีตที่Destiny Islands Rikuได้เจอXehanortที่ทิ้งร่างของตัวเองที่อยู่ในชุดคลุมสีน้ำตาล(Ansam the seeker of darkness) Rikuยอมรับความมืด แล้วRikuก็ถูกคนๆนี้ควบคุม Yen Sidได้ยินก็ตกใจในการวางแผนของXehanortที่วางไว้ไกลมาก Yen Sidคิดว่าSoraกับRikuอาจกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของXehanortแล้ว Mickeyจึงจะไปช่วยทั้งคู่แต่Yen Sidก็ไม่รู้ว่าทั้งคู่อยู่ที่ไหน Mickeyก็พอจะเดาได้และได้พูดถึงประโยคที่Aquaเคยบอกเขาว่า"ให้ทำตามความรู้สึกของหัวใจ แล้วก็จะพบหนทาง" Yen Sidเข้าใจและบอกกับMickeyว่าเขาไม่รู้ว่าSoraอยู่ที่ไหน แต่เขารู้สึกว่าRikuอยู่ในRealm Between แล้วMickeyก็ออกไปตามหาSoraกับRiku

ด้านSora เขาสงสัยว่าในเมื่อเขาปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลครบ7ดาวแล้ว แทนที่จะกลับไปยังMysterious Tower แต่กลับมาโผล่ที่ดาวThe World That Never Was แล้วXigbarก็โผล่ออกมาและบอกถึงเหตุผลที่ทำไมSoraมาอยู่ที่นี่ นั่นเพราะพวกของXigbarได้ควบคุมเส้นทางการเดินทางของพวกSoraมาตั้งแต่เริ่มแล้ว และให้มาสิ้นสุดที่นี่ Soraก็นึกขึ้นได้ ทั้งคนในชุดคลุมน้ำตาล(Ansem the seeker of darkness) ทั้งคนในชุดฮู้ดดำ(Young Xehanort) ทั้งXemnas Xigbarก็อธิบายต่อว่าSoraย้อนเวลากลับไปได้แค่ที่Destiny Islandsตอนก่อนจะเป็นSleeping World เพราะว่าตัวตนในอดีตของSoraอยู่ที่นั่นและในตอนนั้นSoraก็ได้พบกับคนในชุดคลุมน้ำตาลด้วย คนในชุดคลุมน้ำตาลนั้นอยู่ที่นั่นในตอนนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าSoraจะมาอยู่ที่นี่ในตอนนี้ Soraว่ามันเหลือเชื่อ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อเพราะSoraก็มาอยู่ที่นี่แล้ว Soraก็ตั้งท่าพร้อมสู้ แล้วXigbarก็เรียกเหล่าคนในชุดฮู้ดดำออกมารวมทั้งYoung Xehanortด้วย Young XehanortจะชวนSoraให้ไปกับเขา Soraจะเห็นภาพซ้อนสมัยที่Rikuชวนให้ไปกับเขาในตอนที่Destiny Islandsถูกความมืดดูดกลืนขึ้นมา แล้วYoung Xehanortก็ทำให้Soraหลับไป



ในความฝันSoraได้ถูกYoung Xehanortพาไปยังสถานที่ต่างเพื่อดูเหตุการณ์ในอดีต
-สถานที่ที่1คือDestiny Islandsในอดีตอันไกลโพ้นก่อนที่Young Xehanortจะออกจากดาวนี้ไปฝึกเป็นผู้ใช้Keyblade Young Xehanortในสมัยนั้นได้ยืนอยู่บนชายหาดที่Destiny Islandsแล้วคนในชุดคลุมน้ำตาลได้มาหาเขา นี่คือจุดเริ่มต้น ในตอนนั้นYoung Xehanortเองก็ไม่รู้ว่าคนในชุดคลุมน้ำตาลนั้นคือตัวเขาเองที่ทิ้งร่างกายตัวเองให้เหลือแต่หัวใจ หรือที่รู้จักกันในชื่อAnsem the seeker of darkness
-สถานที่ที่2คือDestiny Islandsในคืนที่Destiny Islandsกำลังจะถูกความมืดดูดกลืน Soraในสมัยนั้นได้เจอกับคนในชุดคลุมน้ำตาล นี่คืออดีตที่Xigbarพูดให้Soraฟัง Young Xehanortบอกว่าการจะข้ามกาลเวลาได้นั้นต้องทิ้งร่างกายตนเอง อย่างแรกAnsemได้มาหาเขาและส่งเขาไปทำภารกิจ จากนั้นAnsemก็ได้ข้ามเวลามาเวลานี้ และควบคุมสถานการณ์ทุกอย่างไว้ได้ Soraก็สงสัยว่ารู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นได้ยังไง Young Xehanortตอบว่าก็ไม่ทุกอย่างหรอก ที่รู้เพราะว่าAnsemนั้นครอบงำหัวใจRiku Ansemจึงรู้เหตุการณ์ทั้งหลายผ่านทางRiku Soraถามต่อว่าแล้วรู้ได้ยังไงว่าตัวเขาในตอนนั้นจะมาอยู่ที่นี่ Young Xehanortตอบว่านั่นง่ายมาก แล้วSoraก็เห็นKairiในสมัยนั้นลอยพุ่งออกมาและหายไป(น่าจะเพราะว่าAnsemวางแผนไว้โดยส่งตัวKairiมายังDestiny Islandsในตอนเด็ก)
-สถานที่ที่3 Traverse Town Soraได้เห็นตัวเขาอีกหลายคนกำลังตกลงมาที่ดาวTraverse Townนี้ Young Xehanortเหล่าว่าตัวSoraได้มาที่นี่หลายต่อหลายครั้งทั้งในการเดินทางครั้งแรก การท่องไปในความทรงจำ ทั้งในDatascape และในความฝัน ครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับเดจาวู และSoraก็ได้มองเห็นMickey Donald Goofy Plutoที่อยู่ที่นี่ในสมัยนั้นด้วย แล้วSoraจะหลับไป







ด้านRikuก็ได้มาถึงดาวThe World That Never Wasเช่นกัน และก็สงสัยเช่นเดียวกับSoraว่าทำไมถึงมาโผล่ที่นี่ แทนที่จะได้กลับไปยังMysterious Tower แล้วRikuก็ออกสำรวจที่นี่

ด้านSoraตื่นขึ้นมาที่ดาวThe World That Never Was เขาสงสัยว่าเขากลับมาแล้วเหรอ แต่Soraจะได้เจอเหล่าผู้คนอีกมากมาย Soraได้เจอNamine เธอจะวิ่งหนีไป เมื่อSoraตามจับมือเธอไว้ได้ Soraอยากจะบอกบางอย่างกับเธอหลังเรื่องจบเมื่อคราวก่อน แต่อยู่ๆNamineก็กลายเป็นXion Soraไม่รู้จักเธอแต่อยู่ๆน้ำตาของSoraก็ไหลออกมาเอง Soraไม่เข้าใจตัวเองและเขาก็รู้สึกเจ็บปวด แล้วXionจะวิ่งหนีไป จากนั้นSoraจะได้เจอกับRoxas Roxasอยากให้ความรู้สึกของเขาทั้งหมดกลับไปอยู่ที่Sora เพราะตัวเขาคือSora แต่Soraไม่ต้องการแบบนั้น เขาอยากให้RoxasมีตัวตนของRoxasเอง แต่Roxasก็บอกว่าเพราะแบบนี้แหละSoraจึงควรรับมันไว้ แล้วRoxasก็มอบความรู้สึกต่างๆในความทรงจำของเขาให้กับSora Soraรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดในความทรงจำของRoxasจนต้องตะโกนออกมา จากนั้นSoraจะได้เจอRikuกับKairi Soraจะวิ่งตามทั้งคู่ไป แต่แล้วRikuกับKairiก็กลายเป็นTerraกับAquaและเรียกSoraว่าVen และภาพของตัวSoraในตอนนี้ก็กลายเป็นVentusด้วย Soraนั้นสับสนมากๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอยู่ๆSoraก็นึกถึงความทรงจำในสมัยเด็กที่ได้เจอกับAquaขึ้นมาได้ จากนั้นภาพAquaก็จางลงและAnsem the seeker of darknessก็ปรากฏขึ้นมาและพัดตัวSoraปลิวออกมา





















ด้านRikuได้เดินทางจนมาเจอSoraที่กำลังหลับอยู่และเห็นว่าSoraกำลังฝันอยู่ RikuพยายามจะปลุกSora พยายามเตือนSoraว่าอย่าตามคนในฝันไป ไม่เช่นนั้นSoraอาจจะไม่ได้ตื่นมาอีกก็ได้ แต่Soraก็ไม่ตื่นแล้วควันสีดำที่ห่อหุ้มรอบๆSoraก็มารวมตัวกันเป็นNightmareในชุดฮู้ดดำ Rikuคิดว่าNightmareตัวนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้Soraฝันร้ายและไม่ยอมตื่น Rikuจะสู้เพื่อปกป้องSora เมื่อRikuเอาชนะได้Nightmareตัวนั้นก็สลายไป และSoraก็หายตัวไปเช่นกัน







ด้านSoraได้ตื่นกลับมาสู่โลกความจริงที่ดาวThe World That Never Wasและมาอยู่ตรงหน้าXigbar Xigbarก็รำคาญSoraที่เขาทำให้หลับไปถึง2ครั้งแต่ก็ยังตื่นขึ้นมาได้อีก Soraโมโหที่พวกXigbarให้เขาเห็นอะไรมากมายในความฝัน แต่Xigbarบอกว่าพวกเขาไม่ได้ทำ นั่นคือความฝัน พวกเขาไม่สามารถใส่อะไรลงไปในนั้นได้ ทั้งหมดมาจากหัวใจของSora ซึ่งตอนนั้นSoraก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจมาก ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พวกXigbarต้องการ ต้องการให้หัวใจSoraเจ็บปวด Soraถามว่าจริงๆแล้วพวกXigbarที่เป็นNobodyมีหัวใจใช่ไหม ถึงได้รู้เรื่องหัวใจ Soraรู้เพราะเขาได้รับความรู้สึกของRoxasมา ทั้งAxel Roxas Namine แล้วผู้หญิงอีกคน(Xion) พวกเขาเหล่านั้นเคยหัวเราะด้วยกัน เคยโมโห เคยเศร้า พวกเขาต้องมีหัวใจแน่ๆถึงร้องไห้ได้ แล้วXemnasจะปรากฏตัวออกมาสมทบXigbar Xemnasบอกว่าใช้แล้ว เมื่อสูญเสียหัวใจไปแล้ว ก็ไม่ได้สูญเสียไปถาวรหรอก เมื่อร่างกายได้แยกหัวใจออกมา ร่างกายก็จะสร้างหัวใจขึ้นมาใหม่ได้เรื่อยๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า Soraถามต่อว่า แล้วทำไมถึงโกหกกับพวกคนในองค์กรOrganizationXIIIว่าไม่มีหัวใจล่ะ Xigbarก็เล่าว่าXemnasกับXehanortตั้งOrganizationXIIIขึ้นมา รวบรวมคนโดยใช้Kingdom Heartsเป็นข้ออ้าง แต่จริงๆแล้วเขาต้องการจะแบ่งหัวใจของXehanortไปใส่ยังคนในองค์กรเหล่านั้นให้มีหัวใจและจิตเดียวกัน หรือพูดง่ายๆคือแปลงคนในองค์กรเหล่านั้นให้กลายเป็นXehanortทั้งหมดนั่นเอง และตอนนี้Xigbarก็มีครึ่งนึงเป็นXehanortแล้ว(นัยน์ตาสีเหลืองทอง) Xemnasพูดต่อว่าอย่างไรก็ตามคนในองค์กรบางคนอ่อนแอด้านร่างกาย บางคนอ่อนแอด้านเจตนารมณ์ บางคนอ่อนแอด้านความเชื่อ ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ดีพอที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายได้ Soraโมโหที่พวกXemnasหลอกผู้คนเรื่องไม่มีหัวใจ แต่จริงๆแล้วหัวใจถูกสร้างโดยการพบเจอผู้คนต่างๆ และเมื่อหัวใจเชื่อมโยงถึงกันก็จะรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นได้แม้จะแยกจากกัน สิ่งนี้ทำให้ตัวSoraแข็งแกร่ง Xigbarก็พูดแทรกมาว่าSoraแข็งแกร่งเพราะสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงไปหาคนอื่น ถ้างั้น ราวกับKeybladeจะเลือกคนแบบSoraนะ และพูดว่าจะให้Soraมาเป็นพวกเขา Soraก็พูดว่าเขารู้ว่าKeybladeไม่ได้เลือกเขา แต่เขาไม่แคร์ เขาภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในบรรดาคนที่ถูกKeybladeเลือก "เพื่อนๆของฉัน คือพลังของฉัน!!!" Xigbarจะรู้สึกกังวลในคำพูดของSoraแล้วหนีไปโดยฝากที่เหลือให้Xemnasจัดการ Soraจะสู้กับXemnas เมื่อSoraชนะXemnasจะหายตัวไป Soraจะล้มลงด้วยความเหนื่อยล้า หัวใจของSoraก็เหนื่อยล้า รอบๆตัวSoraมีไอสีดำหุ้มไว้อยู่ แล้วYoung Xehanortก็ปรากฏตัวออกมาและบอกว่าSoraกำลังจะหลับไป ตกลงสู่ก้นบึ้งแห่งความฝันและจะไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีก Soraไม่เข้าใจ Young Xehanortก็อธิบายว่าSoraมาตามทางที่พวกเขาเตรียมไว้ สัญลักษณ์นอกรีตหรือสัญลักษณ์ตัวXบนเสื้อของSoraทำให้พวกเขารู้ว่าSoraอยู่ที่ไหน นั่นจึงทำให้พวกเขาไปปรากฏตัวได้ในหลายๆครั้งตลอดการเดินทางของSora แล้วYoung Xehanortก็บอกว่าพวกเขาต้องการตัวSoraมาเป็นภาชนะแห่งความมืดที่13 และวันนี้Xehanortทุกยุคสมัยจะมารวมตัวกันที่นี่และต้อนรับSoraในฐานะภาชนะแห่งความมืดที่13 Soraที่ใกล้หลับเต็มทีก็อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น Young Xehanortก็บอกว่าเขาบอกสิ่งที่เขารู้ไปหมด เขาไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรในอนาคต แต่ในวันนึงYoung Xehanortจะกลับไปยังยุคสมัยของเขาแล้วจะกลายเป็นผู้ที่ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด โดยเขาจะถูกลบความทรงจำเรื่องที่เขาข้ามกาลเวลามาที่นี่ทั้งหมด ถึงเป็นแบบนั้นเขาก็มีแผนไว้ในใจแล้ว อย่างแรกก็ต้องออกจากDestiny Islandsไปสู่โลกภายนอกก่อน Soraที่กำลังหลับจะเรียกชื่อRikuขึ้นมา และYoung Xehanortก็พูดว่า"หัวใจของนายจะหลับไปตลอดกาลในความมืด และร่างกายของนายก็จะเป็นภาชนะให้เรา แสงสว่างนี่มอบเส้นทางให้กับความมืดซะจริงๆ ฝันดีนะSora" Soraก็หลับไป และถูกนำตัวไปไว้ที่1ในบัลลังก์ทั้ง13ในห้องขององค์กรOrganizationXIII ภายในหัวใจของSora Soraที่หลับใหลและกำลังตกลงสู่ก้นบึ้งของความมืด ได้มีหัวใจของVentusมาช่วยไว้ โดยนำชุดเกราะของVentusเองที่สามารถป้องกันความมืดได้มาใส่ให้กับSora





















ด้านRikuเมื่อSoraหายตัวไปก็มีเสียงของAnsem the seeker of darknessดังขึ้นมาว่า Rikuไม่สามารถปลุกSoraได้หรอกแม้RikuจะกำจัดNightmareให้หมด Soraก็ไม่สามารถตื่นขึ้นมาได้อีก Rikuไม่สามารถปลุกคนที่ตกลงสู่ก้นบึ้งแห่งความฝันได้ ความทรงจำทำให้เกิดความฝัน ความฝันทำให้เกิดการหลับ และการหลับทำให้เกิดความมืด ตอนนี้หัวใจของSoraตกลงสู่ความมืดแล้ว Rikuไม่อยากเชื่อ แต่Ansemก็บอกว่าแต่Rikuก็รู้สึกใช่ไหมล่ะ สถานที่นี้ ฝันร้าย เหตุที่ทำไมRikuถึงไม่ได้กลับไปโลกความจริง ที่ที่Rikuอยู่คือความฝันในความฝัน ฝันร้ายในฝันร้าย ตลอดการเดินทางของRiku ตัวRikuได้เดินทางภายในความฝันของSoraมาตลอด และตอนนี้ความมืดในความมือรอคอยRikuอยู่ จากนั้นRikuจะถูกความมืดที่พื้นดูดกลืนลงไป

ในสถานที่ที่มืดมิดRikuได้เผชิญหน้าอยู่กับAnsem the seeker of darkness พวกเขาได้พูดคุยกัน Ansemพูดถึงตอนเริ่มต้นการทดสอบของRiku Rikuได้ล่องแพออกจากเกาะ Rikuได้พบตัวAnsemในชุดคลุมน้ำตาล ในตอนนั้นตัวRikuก็รู้สึกถึงสิ่งปกติ และตอนนั้นRikuก็เข้าไปในความฝันของSora สัญลักษณ์Spiritที่หลังของRikuแสดงให้เห็นว่าตัวRikuเปรียบเสมือนDream Eaterที่ปกป้องSoraจากฝันร้าย แต่Rikuก็ทำพลาด Ansemก็เย้ายุว่าทำไมRikuไม่ปลดปล่อยความมืดในตัวเอง แล้วปกป้องสิ่งที่สำคัญล่ะ สิ่งนี้จะทำให้ช่วยSoraได้นะ Rikuก็พูดกับAnsemว่าตัวAnsemหรือXehanortก็เคยเป็นผู้ใช้Keyblade แต่กลับปล่อยให้ความมืดขโมยหัวใจกับKeybladeไป นี่คือเหตุผลนึงที่เขาเอารับการทดสอบ ตัวเขาที่ยอมรับความมืดมาในหัวใจจะคู่ควรที่จะเป็นผู้ใช้Keybladeจริงๆรึเปล่า แม้กระทั้งตอนนี้ที่เขาปิดกั้นAnsemไว้ Ansemยังกลับมาปรากฏอยู่ตรงนี้ได้ ตอนนี้เขารู้แล้ว เขาจะไม่ปิดกั้นความมืดไว้อีก Rikuบอกว่าเมื่อได้เจอAnsemทำให้เขาจำเรื่องในสมัยเด็กได้เรื่องนึง ความลับที่Rikuเก็บไว้ตั้งแต่ยังเด็ก ในตอนนั้นตัวเขาอยากออกไปโลกภายนอก แล้วก็ได้เจอกับชายคนนั้น(Terra) การผจญภัยของเขาเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น แล้วRikuก็เรียกKeybladeออกมาพร้อมสู้และพูดว่าฉันจะกลับไปสู่โลกความจริงแล้วไปช่วยSora ดูดกลืนความมืดและเปลี่ยนมันให้เป็นแสงสว่าง "Ansemจงมาเป็นส่วนหนึ่งของหัวใจของฉันแล้วกลายเป็นแสงสว่างซะ" Ansemตอบกลับว่า"ช่างเป็นเด็กที่โง่นัก แกน่ะอยู่ในเงื้อมมือของความมืดเสมอนั่นแหละ" แล้วRikuกับAnsemจะสู้กัน RikuสามารถเอาชนะAnsemได้ Ansemจะสลายไป Rikuมองที่Keybladeและเอ่ยลอยๆว่า "พลังที่จะปกป้องสิ่งสำคัญเหรอ..." แล้วRikuก็ยิ้มออกมา









หลังจากนั้นRikuจะออกมาจากความฝันของSoraมาที่The World That Never Wasในโลกความจริงได้ และออกตามหาSora จนมาเจอSoraที่หลับอยู่ในห้ององค์กรOrganizationXIII ขณะที่Rikuวิ่งไปหาSora Young Xehanortก็ปรากฏตัวออกมาและดีดRikuกระเด็นออกไปและบอกว่าอย่าแตะต้องภาชนะใหม่ของพวกเรา Rikuไม่เข้าใจเรื่องภาชนะ Young Xehanortก็อธิบายว่าแต่เดิมแล้วจะใช้Rikuเป็นภาชนะ แต่Rikuนั้นกลับสามารถต่อต้านความมืดได้ ต่อมาก็เลือกไปที่Roxas แต่Roxasกลับรู้ต้นกำเนิดตัวเองและกลับไปรวมกับSora เป้าหมายที่แท้จริงขององค์กรOrganizationXIII คือแบ่งหัวใจของXehanortไปใส่ไว้ยังภาชนะทั้ง13คน แต่แล้วSoraกับRikuก็มาจัดการกับเหล่าคนในองค์กร ทำให้รู้ว่าพวกคนในองค์กรจำนวนหนึ่งไม่เหมาะที่จะใช้เป็นภาชนะ จากนั้นก็สร้างองค์กรขึ้นมาใหม่และตอนนี้Soraก็เป็นภาชนะที่13ของเรา แล้วบรรดาสมาชิกใหม่ในองค์กรOrganizationXIIIก็ปรากฏตัวบนบัลลังก์ทั้ง13 "องค์กรOrganizationXIIIที่แท้จริง" Young Xehanortบอกว่าตัวเขาคือXehanortที่มาจากอดีตอันไกลที่สุด ตัวเขาในอนาคตได้มอบหมายภารกิจให้เขาไปพาXehanortในรูปแบบต่างๆในโลกต่างๆมารวมตัวกันที่นี่วันนี้ Rikuก็สงสัยเรื่องการข้ามกาลเวลา Young Xehanortอธิบายว่าการข้ามกาลเวลานั้น อย่างแรกจะต้องทิ้งร่างกายของตัวเองเสียก่อน และสถานที่ปลายทางที่จะข้ามกาลเวลาไปนั้นต้องมีตัวเองในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งรออยู่ด้วย แต่การข้ามกาลเวลาจะข้ามได้เพียงทิศทางเดียว ไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงเหตุการณ์ให้ต่างจากสิ่งที่ถูกกำหนดไว้แล้วได้ (กล่าวคือการข้ามกาลเวลานั้นเหตุการณ์ต่างๆเปรียบเสมือนเป็นเส้นตรง ไม่สามารถไปเปลี่ยนเหตุการณ์ให้เกิดเป็นเส้นแยกจากเส้นตรงนั้นได้ ยกตัวอย่างง่ายๆคือเราที่ย้อนเวลากลับไปในอดีต ไม่สามารถแก้ไขเหตุการณ์ในอดีตให้อนาคตเปลี่ยนได้) Rikuอยากรู้ว่าพวกYoung Xehanortจะทำอะไรกันแน่ Young Xehanortก็บอกว่าตัวเขาที่เป็นร่างในอนาคตที่สุดกำลังมา(Master Xehanort) จากนั้นตัวเขาในทุกรูปแบบจะกลับสู่ยุคปกติของแต่ละคน ตัวYoung Xehanortเองก็จะกลับสู่ยุคสมัยของเขาเพื่อดำเนินชีวิตที่ถูกลิขิตไว้แล้ว ให้RikuถามXehanortร่างนั้นเอาเอง ในตอนที่Master Xehanortใกล้จะปรากฏตัวออกมานั้น Mickeyได้ปรากฏตัวออกมาและใช้เวทย์หยุดเวลาขั้นสูงทำให้Young Xehanortกับเหล่าคนในองค์กรOrganizationXIIIที่แท้จริงหยุดนิ่งไป รวมทั้งการปรากฏตัวของMaster Xehanortก็หยุดลงไปด้วย MickeyกับRikuจึงจะไปช่วยSora แต่แล้วMaster Xehanortก็ย้ายจิตของเขามายังร่างของYoung Xehanortแล้วหลุดจากเวทย์หยุดเวลาของMickeyได้ Mickeyจะโดนดีดกระเด็นไป Young XehanortเรียกKeybladeที่ควบคุมกาลเวลาได้ออกมาและพาRikuไปยังอีกมิติที่เหมือนมิติกาลเวลาเพื่อจัดการ RikuกับYoung Xehanortจะสู้กัน หลังการต่อสู้Rikuจะกลับมายังห้องบัลลังก์ขององค์กรOrganizationXIII ขณะนี้เวทย์หยุดเวลากำลังหมดแล้ว แล้วMaster Xehanortก็ปรากฏตัวที่บัลลังก์สูงสุด Mickeyบอกว่าคิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแผนของMaster Xehanort Master Xehanortก็บอกว่าเรื่องทั้งหมดถูกกำหนดไว้แล้ว ตัวเขาอีกทั้ง12คนจะมาต้อนรับเขาในวันนี้ วันที่เขากลับมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์อีกครั้ง Mickeyก็ถามว่าทำไมต้องทำแบบนี้ Master Xehanortก็พูดถึงเรื่องอดีตกาลที่ผู้คนเชื่อว่าได้รับแสงสว่างจากKingdom Heartsที่ถูกปกป้องโดยสิ่งที่คู่กันชื่อว่าX-blade แล้วเหล่าผู้ใช้Keybladeก็แย่งชิงแสงสว่างนี้กันทำให้เกิดKeyblade War จากนั้นX-bladeก็ได้แตกออกเป็น20ส่วน แสงสว่าง7ส่วน ความมืด13ส่วน และKingdom Heartsที่แท้จริงก็จมอยู่ในความมืดและไม่เคยปรากฏมาอีกเลย Master Xehanortเคยลองสร้างX-bladeจาก1แสงสว่างที่บริสุทธิ์ กับ1ความมืดที่บริสุทธิ์แต่ก็ผิดพลาดไปด้วยความรีบร้อนของเขา Mickeyโมโหที่ความผิดพลาดของMaster Xehanortทำให้เปลี่ยนชะตาของเพื่อนเขาทั้ง3คน Terra Aqua และVentus Master Xehanortก็เยาะเย้ยทั้ง3คน 1คนต้องหมดสภาพเพราะการสร้างX-bladeที่ผิดพลาด 1คนที่ต้องเสียสละตัวเองเพื่อช่วยเพื่อน 1คนต้องกลายเป็นภาชนะใหม่ให้ตัวเขา Mickeyบอกว่าตอนนั้นเขาช่วยอะไรไม่ได้เลยแต่ก็คิดว่าการเสียสละของพวกเขาทั้ง3จะหยุดแผนของMaster Xehanortได้แล้ว แต่คิดผิด เขาน่าจะเอะใจตั้งแต่ตอนที่Maleficentรวบรวม7เจ้าหญิงแห่งหัวใจแล้ว Master Xehanortก็บอกว่าใช่แล้ว นั่นคือแผนของเขา เขาใช้ให้Maleficentรวบรวมแสงสว่างที่บริสุทธิ์ทั้ง7ให้กับเขา ในขณะที่เขาก็รวบรวมภาชนะแห่งความมืดทั้ง13เพื่อให้กลายเป็นความมืดที่บริสุทธิ์ Rikuก็บอกว่าแผนของMaster Xehanortก็พลาดไปแล้วเพราะSoraได้หยุดเอาไว้ได้ Master Xehanortก็พูดถึงSoraว่าก็ใช่ Soraหยุดเขา Soraผู้เป็นเด็กธรรมดาๆคนหนึ่ง เป็นผู้ใช้Keybladeประเภทที่ดูไม่คู่ควรที่จะใช้มันได้ Master Xehanortบอกว่าเขายังไม่ล้มเลิกเป้าหมายของเขา และเอ่ยถึง7ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างกับ13ผู้แสวงหาความมืด Mickeyได้ยินว่า7ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างก็นับว่าพวกเขาที่เป็นผู้ใช้Keybladeมีใครบ้าง ก็มีMickey, Riku, Sora, แล้วก็อีก3คนที่สูญหาย(Terra, Aqua, Ventus) ยังขาดอีก1คน แล้วMickeyก็รู้ว่า13ผู้แสวงหาความมืดก็คือคนในองค์กรOrganizationXIIIที่แท้จริงนั่นเอง Master Xehanortก็ชมMickeyว่าหัวไวดี แต่Soraกับอีก1คนที่Mickeyนับ(Terra)นั้นกลายเป็นภาชนะของเขาแล้ว เท่ากับว่าผู้พิทักษ์แห่งแสงจะหายไป3คน แต่ไม่ต้องห่วงทุกองค์ประกอบจะครบตามที่ได้ถูกลิขิตไว้ทั้ง7ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างและ13ผู้แสวงหาความมืด ทั้งหมดจะปะทะกันแล้วจะทำให้เกิดX-blade จากนั้นMaster Xehanortก็จะแบ่งหัวใจของเขาไปยังSoraที่เป็นภาชนะสุดท้าย MickeyกับRikuจะพยายามไปช่วยSoraแต่ก็ถูกAnsem the seeker of darknassกับXemnasหยุดไว้ ในขณะที่Master XehanortยิงหัวใจของเขาไปยังSora Leaได้ปรากฏตัวมาช่วยSoraไว้ได้ทัน เขาบอกว่ามาเพื่อทำตามสัญญาที่จะพาเพื่อนเขากลับมาให้ได้แล้วก็เยาะเย้ยMaster Xehanortว่าวางแผนเก่งนะ แต่นี่อยู่ในแผนด้วยรึเปล่า Xigbarก็ร้อนลนบอกกับMaster Xehanortว่าเวลาจะหมดแล้ว แล้วก็มีคนๆหนึ่งในองค์กรพุ่งไปหาLea คนๆนั้นคือSaixหรือไม่ก็Isa เขาก็เป็นเพื่อนLeaตั้งแต่สมัยยังเด็กด้วยแต่ตอนนี้เขากลับเป็น1ในภาชนะของMaster Xehanort แล้วDonaldกับGoofyก็ตามมาช่วยด้วย จากนั้นเวลาของพวกMaster Xehanortก็หมดลง Master Xehanortบอกว่าพวกเขาจะกลับไปยังที่ที่เขามา อีกไม่นานทั้ง7ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างและ13ผู้แสวงหาความมืดจะครบสมบูรณ์ และจะมาปะทะกับที่สถานที่แห่งโชคชะตา จากนั้นพวกองค์กรOrganizationXIIIที่แท้จริงก็จะหายตัวไป

พวกRikuได้พาSoraกลับมายังMysterious Tower แต่Soraไม่ยอมตื่นขึ้นมา Yen Sidได้รับรู้เรื่อง7แสงสว่างกับ13ความมืดที่Master Xehanortรวบรวมแล้ว Mickeyคิดว่าหัวใจของSoraก็หลับใหลไปอีกคนแล้วเหมือนตอนที่หัวใจVentusหลับใหลไป แต่Yen Sidบอกว่าคราวนี้ต่างกัน ในการทดสอบMark of Mastery SoraกับRikuได้ปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลทั้ง7ทำให้โลกเหล่านั้นตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล และก็ได้รับพลังใหม่ที่สามารถปลดปล่อยหัวใจจากการหลับใหลได้ ซึ่งRikuที่ปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลภายในความฝันของSoraทำให้Rikuมีพลังที่จะปลุกหัวใจของSoraให้ตื่นขึ้นได้ Mickeyคิดว่าจะต้องให้Rikuเข้าไปในความฝันของSoraอีกครั้ง แต่จะอันตรายเกินไปเพราะหัวใจของSoraตอนนี้อยู่ในก้นบึ้งของความมืด ตัวMickeyอยากจะไปช่วยด้วย แต่Yen Sidก็ห้ามไว้ เพราะให้Rikuไปคนเดียวจะดีกว่า Rikuก็ตกลงว่าจะไป เขาจะปลุกSoraให้ได้ Soraเคยช่วยเขามาแล้ว และเขาก็ได้ยินSoraเรียกเขา Soraต้องการเขา Mickeyก็บอกให้ตามสายสัมพันธ์นั้นไป แม้จะอยู่ในความมืดRikuก็จะหาSoraพบ Leaก็บอกด้วยว่าถ้านายติดอยู่ในความมืด เขาสัญญาว่าจะไปช่วยออกมาเอง Rikuขอบคุณทุกคน แล้วRikuก็เข้าไปในความฝันของSoraอีกครั้ง





Rikuตื่นมาที่สถานที่ที่เต็มไปด้วยความมืด Rikuได้พบกับSoraที่ใส่ชุดเกราะของVentus แต่Rikuไม่รู้ว่าคนๆนั้นคือSora ตอนนี้ชุดเกราะของVentusถูกเคลือบไปด้วยความมืดจากฝันร้ายและมีสัญลักษณ์Nightmareอยู่ที่เกราะ Rikuจะสู้กับเขาและเอาชนะได้ ชุดเกราะของVentusจะแตกออก Rikuจะเห็นว่านั้นคือSora Soraจะจมลงไปในความมืดแล้วความมืดก็ค่อยๆหายไปจากความฝันของSora Rikuจะใช้KeybladeของSoraปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลตามไปช่วยSoraอีก แล้วRikuก็ตื่นมาที่Destiny Islands RikuจะพบกับRoxas Ventus และXion ในตอนนี้Rikuจำได้เพียงRoxasเท่านั้น ทั้ง3คนจะถามคำถามกับRiku และRikuก็ตอบคำถามเหล่านั้นว่าเขาต้องการช่วยเพื่อนรักของเขา ทั้ง3คนจะหายไป จะมีขวดแก้วลอยทะเลมาRikuเก็บมันขึ้นมา และเขาก็ได้พบกับAnsem the wize Rikuถามเขาว่ามาทำอะไรที่นี่ Ansemตอบว่าบางทีอาจเพราะว่าเขาต้องการไถ่โทษสิ่งที่เขาทำผิดพลาดในอดีต เขารู้สึกว่าเขาควรทิ้งบางอย่างไว้ Ansemจึงแปลงตัวเขาเองกับข้อมูลการวิจัยของเขาเป็นข้อมูลแล้วซ่อนไว้ในตัวSora ซึ่งข้อมูลนั้นก็อยู่ในขวดแก้วที่Rikuถืออยู่ บางทีมันอาจจะเป็นเบาะแสที่จะนำเหล่าเพื่อนที่สูญหายกลับมา หัวใจนั้นสามารถเกิดขึ้นมาได้เสมอ การสัมผัสกับแสงสว่าง กับธรรมชาติ กับผู้คนอื่นๆ แล้วจะก่อให้เกิดหัวใจในตัวเรา แม้แต่Nobodyก็สามารถกำเนิดหัวใจได้เช่นกัน Soraเป็นคนเดียวที่สามารถกลับมาเป็นมนุษย์ได้โดยที่ยังไม่ได้ทำลายNobodyของเขา นั่นแสดงให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ของหัวใจSoraกับคนอื่นๆ บางทีSoraอาจจะมีพลังที่นำหัวใจและการมีตัวตนของคนที่เชื่อมโยงถึงเขากลับมา เพื่อให้คนเหล่านั้นกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทั้งที่เราคิดว่าคนเหล่านั้นจะจากไปตลอดกาล ทั้งสมบัติล้ำค่าหรือแม้แต่ตุ๊กตาที่ว่างเปล่า ต้นไม้ในป่าใหญ่ กลีบดอกไม้ในสายลม ทุกสิ่งสามารถมีหัวใจได้ ไม่จำเป็นต้องมีพลังวิเศษใดๆ เพียงแค่มีแสงสว่างในหัวใจแบบครั้งที่เราเป็นเด็ก Soraมีหัวใจแบบนั้น หัวใจที่บริสุทธิ์ มองโลกในแง่ดี เมื่อSoraรู้สึกถึงหัวใจในบางสิ่งบางอย่าง สิ่งจะกลายเป็นจริง เมื่อสายสัมพันธ์ได้ขาดลง เขาก็มีพลังที่จะผสานมันใหม่ได้ Soraได้สัมผัสถึงหัวใจมานับไม่ถ้วน ยอมรับและได้ช่วยหัวใจเหล่านั้นไว้มาโดยตลอด และมีบางหัวใจที่ยังอยู่ในตัวSora ไม่ว่าจะเป็นหัวใจที่ตกสู่ความมืด หรือหัวใจที่ถูกความมืดช่วงชิงไป หรือหัวใจที่หลับใหลอยู่ในความมืดในหัวใจSora Soraสามารถช่วยหัวใจเหล่านั้นได้ เพียงแค่Soraไปตามเส้นทางที่หัวใจของเขารู้สึก ข้อมูลเหล่านี้อยู่ในขวดใบที่Rikuถืออยู่ Rikuก็ขอบคุณAnsem แล้วAnsemก็ถามถึงเป้าหมายจริงๆที่Rikuมาที่นี่ Rikuก็บอกว่าเขามาเพื่อปลุกSoraให้ตื่น Ansemก็บอกว่าตื่นนี้Soraตื่นแล้ว เพราะRikuเอาชนะNightmareชุดเกราะที่ขังSoraไว้ลงได้ แล้วมาตอบคำถาม3ข้อจากหนุ่มสาว3คนในก่อนหน้านี้นั่นคือขั้นตอนสุดท้ายในการปลุกSora Rikuสามารถกลับไปได้แล้ว Rikuก็ขอบคุณAnsemสำหรับทุกอย่างแล้วเขาก็ใช้KeybladeของSoraปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลกลับไป















Rikuก็ได้กลับมาตื่นที่Mysterious Tower ในตอนนี้Soraตื่นขึ้นมาแล้ว Soraบอกว่าเขาคอยดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในฝันของเขา และก็ได้ยินเสียงของRikuตลอด เขาขอบคุณRiku และขอบคุณทุกคน แล้วSoraก็ถามYen Sidว่าพวกเขาสอบผ่านไหม Yen Sidบอกว่าเขาดีใจที่SoraและRikuรอดจากแผนของXehanortมาได้ ซึ่งต้องขอบคุณLeaอย่างมาก Yen SidขอโทษSoraและRikuที่ส่งพวกเขาไปตกอยู่ในอันตราย เรื่องครั้งนี้ทำให้รู้ความจริงที่ซ่อนไว้หลายๆอย่าง SoraกับRikuเหมาะสมที่จะได้เป็นKeyblade Master แต่Rikuนั้นกล้าที่จะเข้าไปในRealm of Sleepอีกครั้งเพื่อที่จะช่วยSora Yen Sidจึงแต่งตั้งให้Rikuเป็นKeyblade Masterคนใหม่เพียงคนเดียว หลังการประกาศผล ถึงSoraจะไม่ได้เป็นKeyblade Masterแต่เขาก็ไม่ได้เสียใจแม้แต่น้อย แถมยังดีใจที่Rikuได้เป็นKeyblade MasterเอามากๆจนGoofyกับDonaldแซวว่าเหมือนSoraผ่านเองเลยนะ Rikuยังงงๆอยู่นิดหน่อยว่าตัวเขาได้เป็นKeyblade Masterแล้ว Mickeyก็มาแสดงความยินดีกับRikuเช่นกัน Rikuก็ขอบคุณทุกๆคน แล้วLeaก็พูดแทรกขึ้นมาว่าเขาก็มาที่นี่เพื่อฝึกเป็นผู้ใช้Keybladeเหมือนกัน SoraกับRikuประหลาดใจมาก Leaบอกว่าตอนที่ไปช่วยพวกSora เขากะจะปรากฏตัวพร้อมKeybladeแล้ว แต่การเรียกมันออกมายากกว่าที่คิด แล้วLeaก็ลองเรียกKeybladeออกมาเล่นๆ แต่Keybladeกลับปรากฏออกมาจริงๆ เล่นเอาทุกคนในห้องตกใจกันหมดเลย จากนั้นSoraจะออกเดินทางไปยังที่ๆหนึ่ง เขามีบางอย่างต้องทำเพราะก่อนหน้านี้เขาหลับไป แล้วSoraก็ปลดล็อครูกุญแจแห่งการหลับใหลเขาไปยังRealm of Sleepอีกครั้ง Soraจะตื่นมาที่Traverse Town เขามาที่นี่เพื่อกล่าวขอบคุณเหล่าSpiritที่คอยช่วยเหลือเขาตลอดการเดินทาง ขณะนั้นอีกด้านหนึ่งVentusที่หลับใหลอยู่ที่Chambers of WakingในCastle Oblivionก็ได้ยิ้มออกมา

















หลังจากที่Soraออกเดินทางไป Leaก็กลับไปยังRadiant Garden ส่วนRikuก็ออกไปทำบางอย่างตามที่Yen Sidขอ MickeyคุยกับYen Sidเรื่องแผนของXehanort Yen Sidกล่าวว่า ผลจากKeyblade Warทำให้Kingdom Heartsที่แท้จริงจมอยู่ในความมืด และX-bladeก็แตกออกเป็นเสี่ยง แต่แสงสว่างในหัวใจเด็กก็ได้สร้างดวงดาวต่างๆขึ้นมาใหม่ดังที่เราอยู่กันในทุกวันนี้ และแสงสว่างที่แตกมาจากX-bladeก็แบ่งเป็น7ส่วนเพื่อปกป้องบรรดาหัวใจที่บริสุทธิ์ในโลกต่างๆ แสงสว่างที่บริสุทธิ์ทั้ง7คือเหล่าเจ้าหญิงแห่งหัวใจ หัวใจที่บริสุทธิ์ทั้ง7นี้คือต้นกำเนิดแสงสว่างของโลกต่างๆ ถ้าเราสูญเสียหัวใจที่บริสุทธิ์ทั้ง7นี้ไป โลกต่างๆก็จะตกอยู่ในความมืดอีกครั้ง ดังนั้นถ้าเราหลีกเลี่ยงการเตรียมผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างทั้ง7ไว้ เพื่อไม่ให้เกิดKeyblade Warขึ้นมาอีกครั้ง Xehanortคงจะเปลี่ยนเป้าหมายไปที่เหล่าเจ้าหญิงแห่งหัวใจแทนเป็นแน่ เพื่อจะสร้างX-blade MickeyถามYen Sidว่าไม่มีวิธีหลีกเลี่ยงเลยเหรอ Yen Sidก็คิดว่าเพื่อปกป้องเหล่าเจ้าหญิงแห่งหัวใจ ก็ต้องเตรียม7ผู้พิทักษ์แห่งแสงสว่างไว้เพื่อที่จะต่อกรกับ13ผู้แสวงหาความมืด Mickeyก็บอกว่าตอนนี้เรายังขาดอีก1คน แล้วตอนนั้นเองRikuก็กลับมาพร้อมกับคนๆหนึ่งที่Yen Sidได้ยินว่าสามารถใช้Keybladeได้ Yen Sidจึงขอให้Rikuไปพาคนๆนี้มา ซึ่งคนๆนี้คือKairi





---จบภาคDream Drop Distance---

ในภาคนี้เป็นเนื้อเรื่องอดีตกาลที่ผ่านมานานกว่า100ปีแล้วซึ่งประกอบด้วยภาคχ (Chi), ภาคUnchained χ, ภาคχ Back Cover และ ภาคUnion X (Cross) โดยเนื้อเรื่องทั้ง4ภาค เกิดขึ้นขนานกัน มีทั้งมุมมองที่เป็นของเหล่าMaster แล้วก็ในมุมมองของผู้ใช้Keybladeทั่วไป ซึ่งคือตัวผู้เล่นหรือPlayer เพราะฉะนั้นจะขอเรียกชื่อตัวละครมุมมองผู้เล่นว่าPY(Player)(พีวาย)
นานกว่า100ปีมาแล้ว ดวงดาวต่างๆเชื่อมกันเป็นผืนแผ่นดินเดียวกัน จนต่อมาถูกเรียกขานกันว่าเป็นยุคแห่งเทพนิยาย ซึ่งต่อมาเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องเล่าปรัมปราของคุณยายของKairi ทุกสิ่งเริ่มต้นที่ Daybreak Town ชายผู้หนึ่งที่ได้รับขนานนามว่า The Master of Masters มีดวงตาที่มองเห็นถึงเหตุการณ์ในอนาคต ได้เขียนตำราพยากรณ์(Book of Prophecies)ขึ้นมาจากการมองเห็นอนาคต Master of Masters มีลูกศิษย์ทั้งหมด6คน ดังนี้
-Ira ผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ ผู้มีสัญลักษณ์เป็นม้ายูนิคอน
-Invi ผู้ยึดมั่นในคุณธรรม ผู้มีสัญลักษณ์เป็นงู
-Aced ผู้กล้าหาญ ผู้มีสัญลักษณ์เป็นหมี
-Gula ผู้ที่หัวไวใจเย็น ผู้มีสัญลักษณ์เป็นเสือดาว
-Ava ผู้มีความรอบคอบ ผู้มีสัญลักษณ์เป็นสุนัขจิ้งจอก
-Luxu ผู้มีสัญลักษณ์เป็นแพะ



















Master of Mastersได้มอบสำเนาของตำราพยากรณ์ ที่เขียนคำทำนายเหตุการณ์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ให้แก่ศิษย์5คนยกเว้นLuxu ในหน้าสุดท้ายได้เขียนไว้ว่า "ในดินแดนแห่งชะตากรรม สงครามครั้งใหญ่จะเกิดขึ้น ความมืดจะมีชัย แสงสว่างจะสูญไป" ครั้งหนึ่งMaster of Mastersได้กล่าวไว้ว่า ในโลกนี้เต็มไปด้วยแสงสว่าง มันคือโลกที่รวมดาวเล็กๆหลายต่อหลายดวงรวมไว้ด้วยกัน ไกลออกไปสุดลูกหูลูกตา และมีKingdom Heartsเป็นแสงสว่างที่ปกป้องดาวดวงนี้อยู่ ผู้คนต่างคิดว่าแสงสว่างจากKingdom Heartsจะคงอยู่ตลอดไป แต่ถ้าวันนึงKingdom Heartsหายไป แสงสว่างก็จะหายไป โลกจะถูกปกคลุมด้วยความมืด ด้วยเหตุนี้Master of Mastersจึงได้มอบKeybladeให้แก่บรรดาศิษย์ของเขาเพื่อให้เผยแพร่วิถีแห่งแสงสว่าง แต่ไม่ว่ายังไงสงครามก็จะเกิดขึ้น ไม่สามารถแก้ไขได้ ขอให้ใส่ใจในสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้น และMaster Mastersมักบอกลูกศิษย์อยู่เสมอว่า "ให้หัวใจเป็นกุญแจนำทาง"





นอกจากนี้Master of Mastersยังมอบหน้าที่ให้แก่ศิษย์แต่ละคนไว้อีกด้วย Luxuได้รับหน้าที่เป็นคนแรกของกลุ่ม แต่จู่ๆหลังจากที่Master of Mastersมอบภารกิจให้แก่ลูกศิษย์แต่ละคนเสร็จ Luxuก็หายตัวไป และหลังจากนั้นไม่นานMaster of Mastersก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยอีกคน Iraจึงได้ขึ้นเป็นผู้นำ ตามที่ได้รับหน้าที่จากMaster of Mastersว่า “ให้เป็นผู้นำแทนตัวMaster of Masters ดูแลให้ทุกคนอยู่ในความสงบ ในวันที่Master of Mastersนั้นหายตัวไป”
เหล่าลูกศิษย์ที่เหลืออยู่5คนของMaster of Mastersก็ได้สร้างUnionของตัวเองขึ้นมาตามชื่อใหม่ที่Master of Mastersตั้งให้ก่อนหายตัวไป และพวกเขาทั้ง5ที่รู้อนาคตจากสำเนาตำราพยากรณ์ก็ได้ถูกเรียกว่าเป็นเหล่าโหร(Foretellers) ทุกUnionตั้งขึ้นมาเพื่อขจัดความมืด และรวบรวมแสงสว่างที่เรียกกันว่าLuxเหมือนกัน แต่เจตจำนงของโหรแต่ละคนนั้นต่างกัน มีผู้ใช้Keybladeมากมายนับไม่ถ้วนเข้าร่วมแต่ละUnion ซึ่งPYก็เป็นส่วนหนึ่งของUnionเหล่านั้น Unionต่างๆแบ่งแยกออกเป็น 5 Unionคือ
-Unicornis มีMaster Iraดูแล
-Anguis มีMaster Inviดูแล
-Ursus มีMaster Acedดูแล
-Leopardus มีMaster Gulaดูแล
-Volpes มีMaster Avaดูแล
โหรผู้นำUnionแต่ละUnionได้สั่งสอนสมาชิกทุกคนว่าให้ใช้พลังของKeybladeจัดการเหล่าHeartless แต่หากHeartlessตัวนั้นทรงพลังเกินไป ให้รวมกลุ่มผู้มีเป้าหมายเดียวกันเป็นกองกำลังย่อยในUnion เชื่อมต่อพลังจากหัวใจทุกคน เพื่อช่วยกันจัดการHeartlessที่ทรงพลังให้สำเร็จ









ผู้ใช้KeybladeทุกคนจะมีChirithyติดตามข้างกาย PYก็มีเช่นกัน ChirithyคือDream Eaterที่เป็นSpirit โดยMaster of Mastersเป็นคนสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือผู้ใช้Keyblade เสมือนเป็นสัตว์เลี้ยง ถ้าเจ้าของChirithyตัวนั้นตายไป Chirithyก็จะสลายไปด้วย แต่หากวันใดเจ้าของChirithyตัวนี้มีจิตมุ่งร้ายและหัวใจเริ่มเข้าสู่ความมืด ขนของChirithyจะเข้มขึ้นจนเปลี่ยนเป็นDark Chirithy จากSpiritจะเปลี่ยนเป็นNightmare และถ้าไม่กำจัดNightmareตัวนี้ มันจะแพร่ความมืดไปยังหัวใจผู้อื่น จนเกิดเป็นกองทัพNightmareได้



PYกับChirithyได้ออกเดินทางไปด้วยกันไปยังดวงดาวต่างๆผ่าน Lanes Between Chirithyได้เล่าเรื่องต่างๆให้PYฟัง ทั้งเรื่องตำราพยากรณ์ที่ทำให้เหล่าโหรรู้อนาคต และข้อความที่หน้าสุดท้ายที่บอกว่าจะเกิดมหาสงครามขึ้น แสงสว่างจะหายไป ความมืดจะเข้าปกคลุม ด้วยเหตุนี้เหล่าโหรจึงดึงพลังที่ซ่อนอยู่ในตำราพยากรณ์ ดึงพลังจากอนาคตมาให้เหล่าผู้ใช้Keybladeใช้ เพื่อปกป้องแสงสว่างจากความมืด และป้องกันเหตุการณ์ที่ความมืดจะปกคลุมโลกที่เกิดในอนาคต ทั้งคู่ช่วยเหลือกัน เดินทางไปยังดาวต่างๆ จนอยู่มาวันหนึ่งChirithyได้นำกำไล Strength Bangle มาให้PY ซึ่งกำลังแพร่หลายในหมู่ผู้ใช้Keyblade Chirithyบอกว่ากำไลนี้จะสะสมความมืดที่เรียกว่าGuiltจากHeartless ซึ่งPYก็รับมาใช้ โดยไม่รู้เลยว่ากำไลเหล่านี้จะนำปัญหามาในอนาคต

วันหนึ่งโหรทั้ง5ได้มีการประชุมกัน Iraคิดว่ามีคนทรยศในกลุ่มโหร เนื่องจากมีDark Chirithyปรากฏขึ้นมา ซึ่งนั้นคือNightmare และกำไลStrength Bangleที่Chirithyมอบให้แก่ผู้ใช้Keybladeทั้งหลาย เป็นไปได้ว่าคือสิ่งที่Nightmareสร้างขึ้นมา กำไลนั้นกักเก็บพลังงานความมืดไว้ ซึ่งพวกเขาทั้ง5เคยยอมรับในสิ่งๆนี้แล้ว แต่ว่านอกจากการกักเก็บพลังงานความมืดไว้ หากมีการใช้พลังนั้น เท่ากับว่าใช้พลังความมืด Iraคิดว่าต้องเป็นคนใดคนนึงใน5คนนี้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมด แต่คนอื่นๆไม่เห็นด้วย และเริ่มมีปากเสียงกัน Inviพยายามแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างสุภาพ แต่Acedนั้นโมโหและต่อว่าIraที่เป็นผู้นำกลุ่มในตอนนี้ว่าพูดแบบนี้มันทำให้เหล่าโหรระแวงกันเอง ทำให้แต่ละคนเริ่มแตกคอกัน



หลังจากแยกย้ายกัน InviกับIraได้คุยกันเป็นการส่วนตัว InviทักIraว่าวันนี้ไม่สมกับเป็นตัวเขาเองเลย นั่นเพราะIraคิดว่าในสำเนาของตำราพยากรณ์มีหน้าที่ขาดหายไป เพราะตำราพยากรณ์ได้บันทึกเหตุการณ์ล่วงหน้าในอนาคตเอาไว้ แต่ว่าเหตุการณ์ที่พบเจอDark Charithyที่พึ่งเกิดขึ้นนี้กลับไม่มีบันทึกไว้ และคิดว่าคนที่มีหน้าที่ขาดหายไปเป็นคนทรยศ ส่วนInviก็คิดว่าMaster of Mastersน่าจะมอบหน้าที่ขาดหายไปแก่ลูกศิษย์คนใดคนหนึ่ง จึงบอกกับIraว่าจะคอยจับตาดูคนอื่นๆให้ และคอยส่งข่าวให้Ira เพราะนี่คือหน้าที่ที่Master of Mastersมอบให้เธอ คือ “ให้คอยสนับสนุนIra จับตามองทุกๆคน และช่วยดูแลไกล่เกลี่ยคนอื่นๆอย่างอ่อนโยนและยุติธรรม”



ด้านPY ในคืนหนึ่งPYได้ฝันว่าอยู่ในห้องของเหล่าโหร ในห้องนั้นมีโหรทั้ง5 และMaster of Mastersกำลังคุยกันอยู่ แล้วอยู่ๆก็มีความมืดคืบคลานเข้าหาตัวPY ทำให้PYสะดุ้งตื่นขึ้นมา Chirithyอยู่ที่นั่นด้วยก็บอกให้PYพยายามนอนต่อเถอะ หลังจากPYหลับไป Chirithyคู่หูเขาก็หันไปคุยกับใครบางคน นั่นคือChirithyที่มีขนสีเข้มกว่าปกติ หรือChirithyที่กำลังจะเป็นNightmareนั่นเอง ทำให้รู้ว่าChirithyคู่หูPYพยายามให้PYฝันถึงอะไรบางอย่างอยู่ แต่โดนDark Chirithyตัวนั้นแพร่ความมืดเข้ามาในฝันทำให้PYสะดุ้งตื่น แล้วDark Chirithyก็หายตัวไป Chirithyคู่หูPYเริ่มกังวลว่าจะช่วยปกป้องPYได้ไหม







หลายวันต่อมา Aced Gula และAvaได้ประชุมกัน3คน Acedยังหัวเสียเรื่องที่Iraคิดว่ามีคนทรยศในกลุ่มโหร AcedชวนGulaกับAvaนำUnionมาเป็นพันธมิตรกับตน Avaขัดว่าการสร้างพันธมิตรเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งสอนของMaster of Masters Gulaถามว่ารวมกันเพื่ออะไร เพื่อเอาไปต่อต้านIraเหรอ? Acedบอกว่าไม่ใช่ แล้วเขาก็ไม่คิดด้วยว่าจะมีคนทรยศในกลุ่มโหร แต่เขาไม่ปฏิเสธว่ากำลังมีความมืดคืบคลานเข้ามา Acedจึงต้องการสร้างพันธมิตรเพื่อสู้กับความมืดนั้น Gulaเข้าร่วมด้วย แต่เฉพาะตัวเขาเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับUnionของเขา ส่วนAvaนั้นปฏิเสธ ระหว่างที่คุยอยู่Inviก็เข้ามาพอดี AcedจึงชวนInviเข้ามาเป็นพันธมิตรด้วยกัน แต่Inviไม่เห็นด้วยกับการก่อพันธมิตร เพราะต้องการให้แบ่งแยกUnionกันไว้ เพื่อรักษาสมดุลแห่งพลังแต่ที่Master of Mastersสั่งสอน ซึ่งถ้าไม่สมดุลแล้วจะทำให้มีคนที่ปราถนาพลังมากขึ้น จนนำไปสู่ความมืดได้ การที่Acedต้องการสร้างพันธมิตรทำให้Inviคิดว่าบางทีAcedเนี่ยแหละที่แปดเปื้อนความมืด AcedเลยโมโหและสวนInviกลับไปว่าแล้วที่Inviคอยจับตาดูพวกเขาแล้วไปรายงานให้Iraฟังล่ะ คิดว่าไม่เกิดความมืดในใจบ้างเลยรึไง บางทีInviกับIraอาจเป็นพันธมิตรกันลับหลังเหล่าโหรที่เหลือก็ได้ Inviจึงพยายามตัดบทไป



วันหนึ่งPYได้เจอกับผู้ใช้Keybladeต่างUnionกัน ที่เกือบเสียท่าให้Heartless PYจึงเข้าไปช่วย ทั้งคู่จึงทำความรู้จักกัน ผู้ใช้Keybladeต่างUnionคนนั้นชื่อว่า Ephemer เพื่อเป็นการขอบคุณEphemerได้เล่าความลับบางอย่างให้PYฟัง พวกโลกเทพนิยายต่างๆที่เราไปนั้น จริงๆแล้วมันก็แค่เสมือนภาพโฮโลแกรมที่ถูกฉายออกมา แสงสว่าง(Lux)ที่พวกเราสะสมมาตลอด จริงๆแล้วก็เป็นแสงสว่างจากโลกนี้ ให้พูดอีกอย่างคือโลกทั้งหลายเชื่อมต่อกันจนเป็นแผ่นดินที่กว้างใหญ่มากๆ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไปยังโลกเหล่านั้นทั้งหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงต้องสร้างโลกเสมือนเหล่านั้นขึ้นมาเพื่อสะสมLuxจากโลกที่อยู่แสนไกลเหล่านั้น แต่ที่เล่ามาทั้งหมดนั้น ตัวEphemerเองก็ยังหาข้อพิสูจน์อยู่ และเขาคิดว่าต้นกำเนิดการสร้างโลกเสมือนเหล่านั้นคือตำราพยากรณ์ของเหล่าโหร เขาไม่อยากแค่ทำตามคำสั่งของUnionไปวันๆโดยไม่รู้ถึงเหตุผล PYจึงเล่าเรื่องความฝันของเขาที่เห็นโหรทั้ง5คน กำลังคุยกับMaster of Mastersที่ห้องของเหล่าโหร Ephemerสนใจเรื่องนี้จึงชวนPYไปสำรวจยังที่นั่นกัน แต่PYก็ไม่รู้ว่าห้องของโหรอยู่ที่ไหน แต่คิดว่าต้องเป็นหอคอยที่Daybreak Town ทั้งคู่ใช้เวลาหาทางไปยังหอคอยกัน พวกเขาผ่านทางท่อระบายน้ำจนสามรถเข้าไปยังหอคอยได้สำเร็จ แต่Ephemerชวนให้วันนี้พอก่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมากันใหม่ ทั้งคู่ได้สัญญากันว่าจะมากันอีกครั้งในวันพรุ่งนี้และกลับไปพัก แม้ทั้งคู่จะอยู่ต่างUnionกัน แต่เขาทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนกันแล้ว...



ในเย็นวันนั้นเอง Avaนั่งอยู่ที่ลานน้ำพุและกำลังกังวลเรื่องกลุ่มโหรที่กำลังแตกคอกัน ได้เจอกับEphemerที่พึ่งแยกกับPYโดยบังเอิญ ทั้งคู่รู้จักกันอยู่แล้ว เลยนั่งแลกเปลี่ยนความคิดกันเรื่องที่คนจากแต่ละUnionน่าจะช่วยเหลือกันและกัน แต่ยังไงกฏก็ต้องเป็นกฏ ตามที่Master of Mastersตั้งไว้ ส่วนตัวAvaคิดว่าถ้าทุกUnionทำงานด้วยกันเหมือนเพื่อนจะเป็นสิ่งที่ดีมากๆ Ephemerก็เล่าอย่างมีความสุขว่าวันนี้เขาพึ่งมีเพื่อนใหม่ที่อยู่ต่างUnion แต่เขาพูดไม่ค่อยเก่ง แล้วสัญญากันไว้ว่าจะพบกันอีกพรุ่งนี้ Avaจึงให้Ephemerกลับไปพักผ่อน Ephemerที่เห็นAvaดูกังวลใจก็ให้กำลังใจเธอก่อนจะกลับไป Avaยังคงนั่งอยู่ต่อและลำพึงกับตัวเองว่า "ถ้าเรื่องร้ายเกิดขึ้นมาจริงๆ ฉันคงต้องฝากอนาคตไว้กับเด็กๆแบบเธอแล้วล่ะนะ... ขอให้สายลมพัดพาไปไกลแสนไกล เหล่าDandelionของฉัน..."







แต่ในคืนนั้นเองEphemerกลับผิดสัญญาต่อPYและไปยังหอคอยของDaybreak Townเพียงคนเดียวด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาขอโทษPYที่ทำแบบนี้ ในตอนที่เขากำลังจะมุ่งหน้าต่อไปนั้นเอง Ephemerได้พบกับใครบางคนเข้าโดยบังเอิญ...



ด้านPY เขาดีใจที่ได้มีเพื่อนใหม่อย่างEphemerและเล่าเรื่องในวันนี้ให้Chirithyฟังอย่างมีความสุข Chirithyบอกว่าฟังดูยอดเลยแต่เขาเองไม่เคยมีเพื่อนเลย PYก็บอกว่าตัวPYก็คือเพื่อนของChirithyนะ หลังจากนั้นPYก็พักผ่อน พอวันรุ่งขึ้นPYได้ไปรอEphemerที่จุดนัดพบ แต่รอนานเท่าไหร่ Ephemerก็ไม่มา PYรอจนค่ำ Chirithyจึงมาปลอบว่าEphemerอาจติดอะไรด่วนจริงๆก็ได้ ถึงได้ผิดสัญญา Chirithyเสริมอีกว่าเพราะPYเป็นเพื่อนของเขา ถ้าPYเศร้าใจChirithyก็เศร้าไปด้วย PYเลยรู้สึกดีขึ้น



PYได้ฝันถึงEphemerว่าได้ไปผจญภัยด้วยกันตามสัญญา แต่อยู่ๆEphemerก็บอกกับPYว่า PYยังไม่พร้อม และเขาจะรอวันที่PYพร้อม ก่อนที่ร่างของEphemerจะสลายกลายเป็นดอกDandelion PYตื่นขึ้นมาแล้วเล่าให้Chirithyฟัง แล้วตัดสินใจว่าจะไปตามหาEphemerที่หอคอยDaybreak Town ซึ่งChirithyห้ามไว้ เพราะเวลานี้เหล่าโหรกำลังมีปัญหากันอยู่แต่เขาพูดอะไรมากไม่ได้ แต่PYก็ไม่ฟัง PYออกรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับEphemer จนได้ยินว่าEphemerเคยได้พูดคุยกับMaster Ava และมีคนเห็นAvaมักจะอยู่ที่หอคอยDaybreak Town

PYได้ไปถึงหอคอยแล้วพบกับAva จึงเข้าไปคุยกับAva AvaถามPYว่าทำไมถึงมาที่นี่ เพราะที่นี่เป็นหวงห้าม PYก็ตอบว่ามาตามหาEphemerที่หายตัวไป เพราะเขาฝันว่าได้เจอEphemerที่นี่ แล้วได้เบาะเรื่องEphemerได้พูดคุยกับAva PYจึงได้มาตามหาAvaที่นี่ PYพูดกับAvaตรงๆว่า เขาคิดว่าEphemerอาจจะไปเกี่ยวพันกับปัญหาของเหล่าโหร PYจึงสงสัยเหล่าโหร Avaได้ยินก็บอกว่าชอบคนแบบPY แต่ตอนนี้ยังเล่าอะไรมากไม่ได้ พร้อมกับเรียกKeybladeออกมา เพื่อทดสอบPY PYสามารถสู้ได้ในระดับนึง แต่สุดท้ายก็แพ้ AvaชมถึงศักยภาพในตัวPY แต่Avaยังมองเห็นถึงความเศร้าในใจของPYอยู่ ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความมืดได้ Avaแนะนำให้PYขจัดมันออกไปให้ได้ Avaมอบยารักษาให้ และย้ำเตือนว่าที่นี่เป็นเขตหวงห้าม แล้วก็ให้PYกลับไปพัก Avaก็นึกได้ว่าPYสินะที่เป็นเพื่อนของEphemerที่เคยเล่าให้ฟัง
ในคืนนั้นเอง ขณะที่PYกำลังนอนหลับ Avaได้มายังที่พักของPY และได้ถามChirithyของPYว่าได้ทำให้PYฝันถึงEphemerเหรอ แต่Chirithyบอกว่าเขาไม่ได้ทำ Avaจึงคิดว่าอาจจะเป็นตัวEphemerเองที่ทำ ตอนนี้Ephemerเข้าใกล้กับความจริงมากๆ เขาตกอยู่ในสถานะปลดปล่อย(Unchained) และไปยังภพอื่น จากภพนั้นEphemerพยายามเรียกหาPY Avaคิดว่าถ้าเขา2คนเชื่อมต่อกันทางความฝันแล้วล่ะก็ PYก็ใกล้เขาสู่ภพนั้นแล้วเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับหัวใจของPYว่าจะเลือกทางนั้นหรือไม่ Avaกำชับให้Chirithyปกป้องPYจากฝันร้าย(Nightmare) แล้วสายลมจะนำพาเขาไปจากที่นี่





ด้านInvi ได้มารายงานกับIraว่า Acedได้พยายามสร้างพันธมิตรขึ้นมา โดยตอนนี้มีGulaเข้าร่วมด้วย Iraเลยคิดว่าAcedเนี่ยแหละคือคนทรยศ แต่Inviไม่เห็นด้วย เพราะทั้งคู่ร่วมมือกันเพื่อต่อสู้กับความมืด ซึ่งนั่นไม่ใช่วีถีของคนที่ตกลงสู่ความมืด แต่ยังไงก็แล้วแต่การสร้างพันธมิตรก็เป็นข้อห้าม Inviจึงอาสาไปบอกให้Gulaออกจากพันธมิตร และInviก็บอกกับIraว่าจากนี้ไปจะลดการรายงานลง เพราะAcedเริ่มแคลงใจว่าInviกับIraรวมหัวกัน ทั้งที่ไม่ได้เป็นเช่นนั้น

ด้านPYก็กลับไปทำภารกิจรวบรวมLuxที่เป็นภารกิจหลักของUnionตามเดิม แต่คราวนี้Masterผู้นำUnionแต่ละUnion ได้ให้ภารกิจที่อันตรายกว่าเดิมแก่สมาชิกUnionคือสะสมLuxภายในCorridor of Darknessที่ซึ่งความมืดปกคลุมอยู่ Masterผู้นำแต่ละUnionให้กำไลแห่งแสงแก่Chirithyเพื่อส่งให้แก่สมาชิกUnion เพื่อใช้ปกป้องจากความมืด การที่Masterให้ทำภารกิจที่อันตรายนี้ก็เพื่อฝึกให้สมาชิกUnionมีความต้านทานต่อความมืด เพื่ออนาคตที่กำลังจะมาถึง PYก็ได้ทำภารกิจสำเร็จด้วยดี หลังจากนั้นPYก็ได้ไปทำภารกิจต่างๆกับเพื่อนในUnionตามปกติ

ด้านของเหล่าโหร ในหลายเดือนที่ผ่านมาก็ยังไม่มีภัยร้ายจากความมืดเกิดขึ้นเลย GulaจึงขอลาออกจากพันธมิตรกับAced โดยให้เหตุผลว่าที่ร่วมพันธมิตรก็เพื่อต่อสู้กับความมืดที่จะเข้ามา แต่จนป่านนี้ก็ไม่มีอะไร จึงคิดว่าไม่จำเป็นต้องเป็นพันธมิตรกันต่อ แล้วGulaก็เผลอปากบอกไปด้วยว่าInviก็มาบอกให้ตนออกจากพันธมิตร แต่ยังไงก็แล้วแต่ Gulaก็ขอออกจากพันธมิตรด้วยความคิดของเขาเองจากความเห็นแรก พอAcedได้ยินว่าInviที่เหมือนจะรวมหัวกับIraมาบอกให้สลายพันธมิตรก็โมโหมาก ทำให้นึกถึงหน้าที่ที่Master of Mastersมอบหมายมาว่า “ให้คอยสนับสนุนIraที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าในวันที่Master of Mastersหายตัวไป แต่ถ้าวันหนึ่งAcedมีอะไรไม่เห็นชอบต่อIra ก็ให้นำตัวเองขึ้นเป็นหัวหน้ากลุ่มแทนIraซะ”





หลายเดือนต่อมาPYได้พบกับผู้ใช้Keybladeสาวคนหนึ่ง ชื่อSkuld เธอเคยอยู่partyเดียวกับEphemerอยู่พักหนึ่ง แล้วEphemerก็ลาออกไป เธอบอกว่าได้ฝันถึงEphemer และเขาบอกให้SkuldตามหาPY แต่ไม่บอกเหตุผล PYก็เล่าว่าเขาก็ฝันถึงEphemerเหมือนกันว่าEphemerจะรอเขาที่หอคอยDaybreak Town SkuldจึงชวนPYไปยังหอคอยกัน ในขณะที่กำลังคุยกันอยู่ก็มีแรงสั่นสะเทือนเกิดขึ้นใกล้ๆพวกเขา พวกเขาจึงวิ่งไปดูที่เกิดเหตุ และได้เห็นว่าMaster InviกับMaster Acedกำลังต่อสู้กันอยู่
Acedคิดว่านับตั้งแต่Master of Mastersหายตัวไปก็ร่วมปีแล้ว เขาจึงตั้งใจจะทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายคือการขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มแทนIra เลยทำให้Acedต้องมาสู้กับInviที่มาขวางความตั้งใจของเขา โดยมีGulaแอบดูอยู่ห่างๆ Inviบอกว่าเธอต้องการแค่รักษาสมดุลของพลัง ซึ่งAcedละเมิดข้อนั้น แต่Acedบอกว่าเขาต้องการทำในสิ่งที่นอกเหนือจากสิ่งที่Master of Mastersสอน เพราะไม่เช่นนั้นแสงสว่างก็สูญสลายไป เขาจะขึ้นเป็นผู้นำกลุ่ม เพื่อไม่ให้โลกนี้ถึงจุดจบตามคำทำนาย ต่างคนต่างเหตุผลทำให้การต่อสู้ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น Avaรีบมาที่เกิดเหตุ GulaจึงเรียกAvaให้ไปสมทบกับInvi Inviคิดว่าAcedเนี่ยแหละที่เป็นคนทรยศ ทำให้ทั้ง3ต้องสู้กับAcedอย่างเลี่ยงไม่ได้







ด้านPYกับSkuldไม่เข้าว่าทำไมMaster InviกับMaster Acedจึงต้องมาสู้กันเองด้วย Skuldจึงเล่าเรื่องที่Ephemerบอกในความฝันให้ฟังว่า “จุดจบของโลกใกล้จะมาถึงแล้ว” แล้วการที่เห็นเหล่าโหรมาต่อสู้กันเอง ทำให้คิดว่านี่อาจจะเป็นเรื่องจริงก็ได้ โลกนี่จะหายไป PYจึงตัดสินใจที่จะไปยังหอคอยDaybreak Townเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับEphemer ระหว่างทางนั้นเองเขาไปเจอกับศัตรูที่ไม่ใช่Heartless พวกมันเอาแต่พูดว่าต้องการLux พวกPYสามารถเอาชนะพวกมันได้ แล้วก็มีChirithyอีกตัวปรากฏตัวออกมา ChirithyตัวเคยมาหาChirithyของPYแล้ว แต่ตอนนี้สีของChirithyตัวนั้นเป็นสีม่วงเข้มและมีนัยตาสีแดง ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าChirithyตัวนั้นถูกความมืดกลืนกินโดยสมบูรณ์แล้ว พวกPYได้คุยกับDark Chirithyตัวนั้น แล้วทำให้รู้ว่าพวกศัตรูที่พวกเขาพึ่งสู้ไปนั้นเคยเป็นผู้ใช้Keybladeมาก่อน เป็นพวกหัวใจอ่อนแอแล้วความมืดกลืนกิน สุดท้ายก็ยอมรับความมืดนั้นเพื่อทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น ChirithyของPYได้แย้งว่ามันไม่ถูกต้อง แล้วถามDark Chirithyว่าใครคือเจ้าของของDark Chirithy Dark Chirithyตัวนั้นตอบอย่างมีเลศนัยว่า “ใกล้กว่าที่นายคิดเลยล่ะ” แล้วก็หายตัวไป









พวกPYเดินทางต่อไปยังหอคอยDaybreak Town PYกับSkuldขอร้องให้Chirithyนำทางให้ Chirithyก็ลังเล แต่สุดท้ายก็นำทางให้ จนในที่สุดPYก็ได้มาถึงห้องที่เขาเคยฝันถึง มันคือห้องของเหล่าโหร เมื่อมาถึงก็ไม่มีใครอยู่ที่นั่น ChirithyจึงพยายามชวนพวกPYให้กลับกัน แต่จู่ๆMasterผู้นำUnionของเราก็โผล่มา(Masterคนอื่นที่ไม่ใช่Ava) MasterถามพวกPYว่ามาที่นี่ได้ยังไงเพราะเป็นเขตหวงห้าม และต่อว่าChirithy พวกPYก็ตอบว่ามาตามหาเพื่อนที่หายตัวไป Masterหัวหน้าPYก็บอกว่าวันก่อนมีผู้ใช้Keybladeมายังที่นี่เหมือนกัน แต่ชายคนนั้นมีจุดประสงค์ขัดแย้งและพยายามล้วงข้อมูลจากUnionของพวกเรา เขาจึงได้จัดการชายคนนั้นไปแล้ว PYกับSkuldได้ยินก็ตกใจมาก Chirithyพยายามไกล่เกลี่ยไม่ให้เกิดเรื่องขึ้น แต่แล้วPYก็เดินออกมาประจันหน้าMasterหัวหน้าของตน PYบอกว่า “เขานั้นอุทิศตัวทำภารกิจรวบรวมLuxตามคำสั่งมาโดยตลอด ต้องแข่งกันผู้คนต่างๆที่เขาเรียกว่าเพื่อนเพื่อUnionของเรา ไม่เคยมีคำถามซักครั้งกับภารกิจเหล่านี้ จนวันหนึ่งเขาก็ได้พบกับEphemer ถึงแม้จะรู้จักกันได้ไม่นาน ถึงแม้Ephemerจะผิดสัญญากับเขา แต่ไม่ว่ายังไงEphemerก็คือเพื่อนของเขา ความทรงจำต่างๆที่มีกับEphemerถึงแม้จะไม่ใช้เรื่องสนุกสนาน แต่มันก็ยิ่งใหญ่และสำคัญต่อใจของเขามาก แต่ในตอนนี้Masterหัวหน้าของเขากลับทำให้เพื่อนของเขาคนนั้นหายไป เขารู้สึกเศร้า รู้สึกโกรธ รู้สึกเจ็บปวด บางทีในตอนนี้เขาอาจจะมีความมืดในหัวใจของเขา แต่เขาไม่สนใจแล้ว เขาไม่สามารถปล่อยคนที่ทำร้ายเพื่อนเขาลอยนวลไปได้ เขาจะสู้กับMasterของตัวเอง ถึงแม้จะไม่มีโอกาสชนะ ถึงแม้ตัวเขาจะต้องหายไปเช่นกัน แต่เขาก็จะทำ เพราะในหัวใจเขาเชื่อมั่นว่าถ้าเป็นEphemerก็จะทำแบบนี้เช่นกัน” PYได้เข้าปะทะกับMasterของตัวเอง









สุดท้ายแล้วPYก็พ่ายแพ้ แต่ในตอนนั้นเองก็มีแสงสว่างเกิดขึ้นจ้าไปหมด แล้วMasterหัวหน้า PY Skuld และChirithyก็ปรากฏตัวที่ทางเดินภายในหอคอย แท้จริงแล้วMasterหัวหน้าของPYคนนั้น เป็นMaster Avaที่ปลอมตัวมา เพื่อทดสอบความแข็งแกร่งของหัวใจPYและSkuld แล้วห้องของเหล่าโหรที่อยู่กันเมื่อสักครู่ เธอก็เป็นคนสร้างภาพลวงตาขึ้นมา Avaบอกว่าสิ่งที่Ephemerบอกในความฝันว่าโลกนี้จะถึงจุดจบเป็นเรื่องจริง เหล่าผู้ใช้Keybladeก็จะหายไปเช่นกัน Avaบอกว่าหน้าที่ของเธอคือ “รวบรวมผู้ใช้Keybladeที่มีศักยภาพ โดยไม่สนใจว่าจะอยู่Unionใด ขึ้นมาเป็นกลุ่ม ห้ามยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้ง และพวกเขาต้องอยู่รอดในโลกหลังจากจุดจบของโลกนี้” ซึ่งนี่เป็นหน้าที่ที่Master of Mastersมอบให้เธอ Avaเรียกกลุ่มผู้ใช้Keybladeนี้ว่า “Dandelion” Skuldได้ถามถึงEphemer Avaจึงเล่าว่าEphemerสงสัยถึงเรื่องนี้และเข้าใกล้ความจริงได้ไวกว่าใครๆ Avaคิดว่าEphemerจะชี้นำเหล่าDandelionแทนเธอได้ เมื่อถึงจุดจบของโลกนี้Avaจะต้องหายไป เธอจึงต้องหาคนมาทำหน้าที่แทนเธอ และเธอเลือกEphemer ซึ่งEphemerก็ยอมรับหน้าที่นี้ และตอนนี้เขาได้ไปไกลจากที่นี่และรอคอยในที่ที่ปลอดภัย แต่โลกนี้นั้นไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้ว หลักฐานคือDark Chirithyและผู้ใช้Keybladeที่ถูกความมืดกลืนกินที่พวกPYได้พบก่อนหน้านี้ Avaต้องการให้โลกมีแต่แสงสว่าง เธอจึงคัดเลือกคนที่หัวใจต้านทานต่อความมืดได้มาอยู่ในกลุ่มDandelionของเธอ และเธอก็ชวนPYและSkuldเข้ากลุ่มDandelion Skuldตกลงทันที แต่PYกลับครุ่นคิดและถามว่าคนอื่นๆที่ไม่ได้เข้ากลุ่มDandelionจะเกิดอะไรขึ้น Avaก็บอกว่าคนอื่นๆนั้นท้ายที่สุดก็จะเข้าสู่สงครามKeybladeอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้และหายไปพร้อมจุดจบของโลกนี้ PYจึงขอกลับไปคิดดูก่อน





PYได้มานั่งคุยกับChirithyและSkuldที่ลานน้ำพุของDaybreak Town Chirithyถามสาเหตุที่PYยังไม่ตอบตกลงเข้ากลุ่มDandelion ถ้าตกลงPYก็จะได้พบEphemerอีกครั้ง PYบอกว่าEphemerคือเพื่อนของเขาก็จริง แต่เขาก็ทิ้งเพื่อนครอื่นๆที่เคยพบเคยเจอกันมาไม่ได้ ทำให้เขาลังเล Skuldเองก็ขอเล่าเหตุผลที่เธอตกลงเข้ากลุ่มDandelion ในตอนที่Skuldได้เป็นผู้ใช้Keyblade เธอได้ตั้งpartyขึ้นมา แต่ไม่มีคนเข้าร่วมเลย แต่ในที่สุดEphemerก็มาเข้าร่วมด้วย ต่อจากนั้นก็มีคนเข้ามาเพิ่มเรื่อยๆ ไปทำภารกิจด้วยกันมาตลอด แล้วด้วยปริมาณคนในpartyที่มากขึ้น ทำให้SkuldกับEphemerคุยกันน้อยลงๆ แล้ววันหนึ่งEphemerก็มาบอกกับSkuldว่า Skuldไม่เป็นไรแล้วล่ะ เธออยู่ได้ด้วยตัวเธอเองแล้วล่ะ แล้วEphemerก็ขอออกจากpartyไป แต่ต่อมาคนอื่นๆก็เริ่มออกจากpartyของSkuldจนเหลือแค่เธอคนเดียว Skuldบอกว่าเธอไม่เคยลืมEphemerเลย และก็คิดว่าEphemerก็ไม่ลืมSkuldเช่นกัน เพราะEphemerได้เข้ามาในฝันของเธอแล้วบอกให้ตามหาPY จนตอนนี้เธอได้เข้ากลุ่มDandelionแล้ว Skuldแค่ต้องการไปขอบคุณEphemer เธอจึงเข้าร่วมกลุ่มด้วย และเธอก็ขอบคุณPYสำหรับทุกอย่างในวันนี้

ด้านGulaหลังจากการต่อสู้ระหว่างเหล่าโหรจบลง ก็พยายามตีความหน้ากระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งก็คือหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์ที่Iraพูดถึง หน้าที่ของGulaที่ได้รับมาจากMaster of Mastersคือ “รับหน้ากระดาษที่ไม่มีในสำเนาของตำราพยากรณ์เล่มอื่นไป แก้ปริศณาข้อความในหน้ากระดาษนั้น และจงอย่าเชื่อใจใครนอกจากตัวเอง” สุดท้ายจากเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมดในกลุ่มโหรGulaคิดว่าคนทรยศคือAced เลยจะไปจัดการ Galuได้มาหาAcedที่กำลังรักษาตัวหลังจากที่สู้กับInviมา GulaบอกAcedว่าเขามีหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์อยู่ และเขาคิดว่าคนทรยศคือAced พอAcedรู้ว่าGulaมีหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์และไม่บอกคนอื่น ทำให้เขาโมโหมาก และคิดว่าการที่ทำแบบนี้แหละคือการทรยศพวกพ้อง ทำให้GulaกับAcedสู้กัน สุดท้ายAcedเอาชนะGulaได้ Avaที่พึ่งมาถึงที่เกิดเหตุพอดี ก็รีบมาขวางAcedไว้ให้หยุดมือ Acedจึงเดินจากไป









หลังจากนั้นAcedในสภาพเจ็บหนักได้มาพบกับIra Acedบอกให้ลงมือจัดการเขาเลย แต่Iraกลับเข้าไปช่วยและยังนับว่าAcedเป็น1ในแสงสว่างทั้ง5อยู่ การยังคงรักษาแสงสว่างไปได้ในอนาคตนั้น ต้องมีแสงสว่างครบทั้ง5 ทำให้AcedยอมรับในตัวIra แต่ก็บอกว่าแสงสว่างทั้ง5 น่าจะเหลือแค่4แล้ว เพราะGulaนั้นมีหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์แล้วไม่ยอมบอกพวกพ้อง ถึงแม้จะเป็นภารกิจที่ต้องหาตัวคนทรยศที่ได้รับมา แต่ก็ไม่ต่างกับว่าเป็นการทรยศพวกพ้อง พอIraรู้ว่าGulaมีหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์ก็ออกตามหาGulaเพื่อที่จะเอาตำราหน้านั้นมาให้ได้



ด้านAva ได้พาGulaไปหลบรักษาตัว โดยAvaบอกเรื่องนี้กับแค่Inviคนเดียว แต่ว่าInviกลับเอาเรื่องนี้ไปบอกIra ทำให้IraมาตามหาGulaจนมาพบกับAva Iraบอกให้Avaส่งตัวGulaมา แต่Avaปฏิเสธ Iraก็ยอมกลับไปแต่โดยดี AvaกลับมาหาGulaที่พึ่งได้สติ Gulaเล่าว่าMaster of Mastersได้ให้หน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์มาตีความหาตัวคนทรยศ แต่เค้าก็รู้เพียงแค่ว่าคนทรยศนั้นมีสัญลักษณ์นอกรีต(ในภาคDream Drop Distanceเคยบอกว่าคือสัญลักษณ์Xหรือเครื่องหมายกากบาท) ซึ่งเขาคิดว่าAcedคือคนทรยศ Avaบอกว่าเธอไม่ได้อยากรู้เรื่องนี้ซักหน่อย Avaแค่อยากทำตามคำสอนและหน้าที่ที่Master of Mastersมอบไว้ให้ดีที่สุดแค่นั้น Gulaเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น หน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์นั้นคลุมเครือกำกวมมากๆ ทำให้Gulaตีความไม่ออก GulaจึงจะถามกับMaster of Mastersโดยตรง แต่ตอนนี้เขาหายตัวไป Gulaจึงคิดที่จะรวบรวมแสงสว่างเพื่อเรียกKingdom Heartsออกมา Avaไม่เห็นด้วย เพราะเป็นสิ่งที่Master of Mastersห้ามไว้ แต่Gulaบอกว่าเพราะMaster of Mastersห้ามจึงต้องทำ เพื่อให้Master of Masterกลับมา Gulaขอให้Avaช่วยรวบรวมLux แต่Avaปฏิเสธ Gulaเลยเดินจากไป







ด้านAvaได้มาเจอกับInvi Avaต่อว่าInviที่เอาเรื่องที่Gulaหลบซ่อนตัวอยู่กับAvaไปบอกIraมันจะทำให้สถานการณ์แย่ลง Inviก็เถียงกลับว่าAvaก็ทำตัวลับๆล่อ รวบรวมผู้ใช้KeybladeจากทุกๆUnionมาสร้างเป็นกองกำลังไว้เหมือนกัน Avaจึงบอกว่านั่นคือหน้าที่ที่Master of Mastersมอบหมายให้เธอ Inviไม่รู้มาก่อนจึงขอโทษAva สถานการณ์ในตอนนี้คือ Gulaให้UnionของตนรวบรวมLux ส่วนIraกับAcedก็ให้UnionของตนสะสมLuxเช่นกันเพื่อรักษาสมดุลของพลัง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องดีเลย เพราะจะนำไปสู่ความขัดแย้ง และอาจนำพาไปสู่ "สงครามKeyblade" แล้วทุกอย่างก็จะเป็นไปตามคำทำนาย แต่ยังไงก็แล้วแต่สมดุลของพลังคือสิ่งที่ต้องรักษาไว้ Inviจึงจำเป็นต้องให้UnionของเธอสะสมLux และแนะนำว่าAvaก็ควรทำเช่นกัน



Avaได้นึกถึงวันที่Master of Mastersมอบหมายหน้าที่ให้เธอ เขาย้ำเรื่องโลกจะถูกความมืดกลืนกิน แต่หน้าที่ที่มอบให้Avaอาจจะทำให้มีความหวังว่าแสงสว่างจะไม่สลายไป เขาต้องการให้Avaอย่าเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ รวบรวมคนขึ้นมา ไม่ต้องสนใจว่าจะอยู่Unionไหน สร้างขึ้นมาเป็นกลุ่มพิเศษ และส่งให้กลุ่มๆนี้ออกไปยังโลกภายนอก ดังเหมือนดอกDandelionที่ลอยไปตามลม สิ่งนี้จะทำให้แสงสว่างคงอยู่ต่อไปได้ Master of Mastersย้ำว่ามีแค่Avaเท่านั้นที่สามารถทำได้ ด้วยเหตุนี้Avaจึงสร้างกลุ่มDandelionขึ้นมา
ในปัจจุบันที่สถานที่ฝึกของAva การฝึกของเธอนั้นมีการใช้โลกแห่งความฝันมาใช้ในการฝึกด้วย ก่อนการฝึกในวันนี้เธอได้กล่าวกับกลุ่มDandelionของเธอว่า “พวกDandelionคือความหวัง อีกไม่นานจะเกิดสงครามขึ้น เหล่าผู้ปกป้องแสงสว่างจะหันมาฆ่าฟันกันเอง แต่จะไม่มีผู้ชนะ ทุกสิ่งจะสูญสิ้น ขอให้ทุกคนที่เป็นเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังอย่าเข้าการต่อสู้นี้ แล้วมุ่งสู่โลกภายนอก การฝึกทุกวันนี้จะช่วยทุกคนได้ อนาคตของโลกแห่งแสงสว่างอยู่ในมือทุกคนแล้ว ขอให้หัวใจ เป็นกุญแจนำทาง..."

หลายเดือนต่อมา หลังจากที่Masterผู้นำแต่ละUnionให้ผู้ใช้Keybladeในสังกัดเร่งสะสมLux สถานการณ์ในDaybreak Townก็เลวร้ายขึ้นเรื่อยๆ ผู้ใช้Keybladeแต่ละUnionเริ่มสู้กันเอง เพื่อแย่งชิงLuxกัน แต่ละคนต่างใส่ร้ายคนจากUnionอื่นว่าเป็นคนทรยศที่เข้าหาความมืด PYกับChirithyของเขาพยายามเข้าไปหยุดสถานการณ์ในเมือง Skuldเองก็มาช่วยไกล่เกลี่ยด้วย Skuldพยายามบอกทุกคนว่า ศัตรูของผู้ใช้Keybladeทุกคนคือปีศาจที่มาจากความมืด Keybladeไม่ใช่สิ่งที่จะนำมาใช้ฆ่าฟันมนุษย์ด้วยกันเอง แต่ผู้ใช้Keybladeก็ไม่ฟัง และบอกว่าคนจากUnionอื่นก็แย่งชิงLuxไป ก็ไม่ต่างจากปีศาจเหล่านั้นหรอก สถานการณ์เริ่มแย่มากขึ้นไปอีก แต่แล้วMaster Acedก็ปรากฏตัวออกมาและบอกทุกคนว่าคนที่ไว้ใจได้มีเพียงแค่คนในUnionของเขาเท่านั้น เราไม่สามารถบอกได้ว่าคนไหนกำลังตกลงสู่ความมืด แล้วทำไมทุกคนต้องสู้กันด้วยเรื่องการแย่งชิงLux แสงสว่างไม่ได้บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง ชัยชนะสิถึงบ่งบอกความแข็งแกร่ง และUnionที่แข็งแกร่งก็คือความยุติธรรมของโลกนี้ และนี่คือสิ่งพิสูจน์ได้ด้วยกันสู้กัน หลังจากAcedพยายามยั่วยุให้ผู้ใช้Keybladeสู้กันเองจนSkuldทนไม่ไหวต้องเข้าไปขัด Acedรู้ว่าSkuldเป็นคนในกลุ่มDandelionของAva เลยยั่วยุต่อหน้าทุกคนอีกว่าSkuldที่พยายามหยุดสถานการณ์นี้ เป็นคนจากกลุ่มUnionพิเศษของAvaที่ทำอะไรลับหลังคนอื่นๆ AcedพูดจนSkuldพูดไม่ออก PYก้าวออกมาประจันหน้ากับAcedและบอกAcedว่าเขาไม่ใช่Dandelion Acedที่เห็นPYเข้ามาท้าทายตน จึงเข้าสู้กับPY ซึ่งPYไม่สามารถสู้ได้เลย แล้วจู่ๆMaster Iraก็ปรากฏตัวมาหยุดAced และต่อว่าAcedว่าเป็นMasterแท้ๆ แต่กลับทำร้ายผู้ใช้Keyblade Acedบอกว่าเขาแค่ต้องการทดสอบความแข็งแกร่งของผู้ใช้Keyblade แต่Iraไม่คิดแบบนั้นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงความมุ่งร้ายของAced Acedก็บอกว่าท้ายสุดแล้วการต่อสู้ก็จะเกิดขึ้น ผู้คนต่างแย่งชิงLuxกัน ผู้นำที่แข็งแกร่งที่สุดจะครองโลก เขาจะขับไล่Ira Invi Gula Avaออกไป และรวมUnionทั้งหมดเข้าด้วยกันภายใต้การนำของเขา Iraก็บอกให้Acedประมาณตนเองหน่อย แล้วAcedก็เดินจากไปพร้อมบอกIraว่า ไว้จะรอที่สถานที่ต่อสู้สุดท้าย Skuldได้ถามIraเรื่องสถานที่สู้สุดท้ายที่Acedพูด มันหมายความว่าจะเกิดการต่อสู้ตามที่Avaบอกจริงๆใช่ไหม แล้วที่Avaพูดว่าจะไม่มีผู้ชนะในการต่อสู้นี้ แล้วทำไมIraยังจะเข้าร่วมการต่อสู้นี้ล่ะ IraตอบSkuldว่า ไม่มีใครหลีกเลี่ยงการต่อสู้นี้ได้ และที่Iraเข้าร่วมต่อสู้นี้ก็เพื่อไม่ให้มีผู้ชนะเกิดขึ้นยังไงล่ะ Iraบอกอีกว่าให้พวกPYกับSkuldเตรียมตัวให้ดี ก่อนที่Iraจะเดินจากไป แล้วPYที่โดนAcedเล่นงานก็สลบไป







SkuldกับChirithyของPY ได้พาPYกลับมาพักฟื้นยังที่พัก SkuldกับChirithyพูดคุยกันว่าสถานการณ์ช่วงนี้แย่ลงทุกวันๆ เหล่าโหรก็แยกคอกัน ทุกคนเปลี่ยนกันไปหมด แล้วPYก็ตื่นขึ้นมาถามSkuldว่าได้เจอEphemerหรือยัง แต่Skuldบอกว่ายังไม่ได้เจอ เพราะตอนนี้Ephemerไปทำอะไรบางอย่างให้Ava Skuldเล่าว่าในตอนนี้เธอพยายามบอกผู้ใช้Keybladeคนอื่นๆเรื่องจุดจบของโลก และให้หลีกเลี่ยงการต่อสู้ครั้งสุดท้าย แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อคำพูดของเธอ แล้วตอนนี้คนในกลุ่มDandelionเริ่มกังวลและเริ่มเสียขวัญที่Avaหายตัวไป Chirithyบอกว่าMaster Gulaอาจจะรู้อะไรบางอย่างก็ได้เพราะAvaกับGulaเป็นเพื่อนสนิทกัน พวกเขาจึงตัดสินใจไปหาGulaกัน



พวกPYได้พบGulaที่โกดังร้างในDaybreak Town Gulaรู้ทันทีว่าพวกเราเป็นDandelion และรู้ว่าพวกPYมาหาเขาเพื่อถามหาAva Gulaบอกว่าถึงAvaอยู่ที่นี่ ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ หรือถ้าพวกPYจะถามถึงสถานการณ์ปัจจุบัน พวกPYก็ไม่สามารถทำอะไรได้อยู่ดี Skuldก็บอกว่าเธอไม่อาจทนอยู่เฉยๆนั่งรอวันจุดจบของโลกได้ เธออยากช่วยเพื่อนๆของเธอให้มากที่สุดให้เลี่ยงการต่อสู้ครั้งสุดท้าย นั่นคือภารกิจของกลุ่มDandelion Gulaบอกว่าSkuldช่างเหมือนAva Avaมักคิดถูกเสมอ แต่ไม่ว่ายังไงAvaก็ไม่สามารถช่วยโลกนี้ได้หรอก คนที่จะสามารถช่วยโลกนี้ได้มีเพียงคนเดียวเท่านั้นคือ Master of Mastersที่เป็นMasterของเหล่าโหรทั้งหมด แต่ตอนนี้Master of Mastersนั้นหายตัวไป Gulaเล่าว่าAvaกับเขาเคยพยายามตามหาMaster of Mastersแต่ก็ไม่พบ คนๆเดียวที่พอจะรู้ที่อยู่ของMaster of Mastersคือ Luxu ศิษย์คนที่6ของMaster of Masters แต่ว่าตอนนี้Luxuก็หาตัวไปเช่นกัน AvaจึงออกไปตามLuxu เพื่อถามถึงที่อยู่ของMaster of Masters
ด้านAva เธอได้ออกตามหาLuxuจนไปเจอLuxuที่เนินเขาริมDaybreak Town AvaถามLuxuว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ Luxuตอบว่ากำลังทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากMaster of Mastersอยู่ นั่นคือการ “เฝ้ามอง”





Luxuเป็นคนที่ได้รับภารกิจจากMaster of Mastersเป็นคนแรก ภารกิจของเขาเป็นภารกิจที่สำคัญที่สุด Luxuได้รับมอบKeyblade No nameที่อนาคตจะเป็นของMaster Xehanort และให้เฝ้ามองคนอื่นๆอยู่ห่างๆ โดยหน้าที่ที่แท้จริงที่Master of Mastersมอบให้คือให้ฝึกลูกศิษย์ที่คู่ควรและสืบทอดKeyblade No nameไปรุ่นสู่รุ่น ไปยังอนาคต ซึ่งในKeyblade No nameเล่มนี้ มีดวงตาของMaster of Mastersอยู่ เมื่อLuxuสืบทอดKeybladeเล่มนี้ไปรุ่นสู่รุ่น ไปยังอนาคต จะทำให้Master of Mastersมองเห็นอนาคตจากKeybladeเล่มนี้ ทำให้Master of Mastersเขียนตำราพยากรณ์ขึ้นมาได้ ซึ่งการที่Master of Mastersเขียนตำราพยากรณ์ได้สำเร็จ แสดงว่าLuxuในอนาคตทำภารกิจสำเร็จ Master of Mastersอธิบายเรื่องที่ไม่มอบสำเนาให้แก่Luxuนั้น เพราะว่าไม่อยากให้Luxuรู้เหตุการณ์อนาคตล่วงหน้า เพราะอาจพลาดทำในสิ่งที่เกิดTime Paradoxได้(ปั่นป่วนเปลี่ยนแปลงอนาคต) นอกจากนี้Master of Mastersก็ได้มอบกล่องปริศนาให้Luxuดูแลอีก1อย่าง โดยบอกLuxuว่าห้ามเปิดกล่องออกเด็ดขาด











LuxuบอกกับAvaว่าภารกิจของเขาคือการเฝ้ามองเหตุการณ์ต่างๆอยู่ห่างๆ ตัวเขาไปไม่ได้รับตำราพยากรณ์เหมือนกับศิษย์อีก5คน แต่เค้าก็ต้องดำเนินชีวิตไปตามอนาคตที่เขียนไว้ในตำรา เขาจะเฝ้ามองจุดจบของโลกนี้ และออกเดินทางต่อ Luxuรู้ว่าAvaจะมาถามหาที่อยู่ของMaster of Mastersจากเขา เพื่อยับยั้งสงครามKeyblade แต่มันเป็นไปไม่ได้ ไม่ว่ายังไงจุดจบของโลกนี้จะมาถึง AvaถามLuxuว่ารู้อะไรมากันแน่ Luxuตอบว่าเขารู้ข้อมูลในหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์(แบบเดียวกับที่Gulaมี) ในหน้านั้นบอกถึงเหตุการณ์ล่วงหน้าที่ศิษย์คนอื่นไม่รู้ มันเป็นความตั้งใจของMaster of Masters Avaถามถึงสิ่งที่Luxuต้องการจะสื่อคือMaster of Mastersจงใจให้ทุกอย่างกลายเป็นแบบนี้ และเกิดจุดจบของโลกเกิดงั้นเหรอ Luxuก็ตอบเพียงว่าเขาจะเก็บความลับนี้ต่อไป และปล่อยให้โลกดำเนินไปตามหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์ แต่จริงๆแล้วเป้าหมายของMaster of Mastersไม่ได้เกี่ยวกับจุดจบของโลก Luxuแค่มาทำตามหน้าที่และเฝ้ามองต่อไป AvaถามLuxuว่าในหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์เขียนอะไรเอาไว้ Luxuเป็นคนอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทั้งหมดนี้หรือเปล่า Luxuเป็นคนทรยศหรือเปล่า แต่Luxuไม่ตอบ พร้อมเรียกKeyblade No nameของเขาออกมา





ขณะเดียวกันทางด้านพวกPYกับMaster Gula Galuได้พูดอะไรบางอย่างขึ้นมา "ไม่อาจยอมรับความขัดแย้ง ผิดหวังกับชะตากรรมและสูญเสียพลังที่แท้จริง... ตีความความจริงผิดๆและก้าวหาสิ่งที่เป็นความลับ..." ข้อความเหล่านี้คือสิ่งที่เขียนอยู่ในหน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์ ซึ่งGulaก็ไม่รู้ว่าข้อความนี้กล่าวถึงใคร

ทางด้านAvaกับLuxu Luxuได้บอกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับความจริงของคนทรยศให้Avaฟัง มันไม่ใช่สิ่งที่จะหยุดยั้งได้โดยAva Avaไม่อยากยอมรับในสิ่งนี้ Luxuกล่าวต่อว่าเพราะเหตุนี้การต่อสู้ครั้งสุดท้ายจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้จะมีคำตอบอื่นมันก็จะปรากฏหลังการต่อสู้สุดท้ายจบลง บางที่Master of Masters อาจจะไม่สนใจชะตากรรมของโลกนี้แล้ว แต่สนใจว่าเหล่าโหรจะนำทางกุญแจเหล่านั้น(Dandelion)ไปยังไงต่อมากกว่า แต่Avaไม่คิดว่าMaster of Masterจะคิดแบบนั้น Avaบอกว่าLuxuนั้นตีความความตั้งใจของMaster of Mastersผิดๆไปเอง พร้อมกับตั้งท่าพร้อมสู้กับLuxu





ด้านPYกับMaster Gula พวกPYไม่เข้าไม่เข้าใจความหมายของข้อความให้หน้าที่หายไปของตำราพยากรณ์ Gulaบอกว่านี่คือเหตุผลที่ทำให้คนทรยศต้องการให้โลกนี้ถึงจุดจบ ตัวเขาเองก็มองเห็นอยู่ แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งได้ และยังมีข้อความอื่นให้หน้าตำรานั้นอีกว่า “และด้วยแรงปะทะกันครั้งเดียว เสียงระฆังสัญญาณที่บ่งบอกถึงการต่อสู้ครั้งสุดท้ายก็จะดังขึ้น และการต่อสู้ก็จะเริ่มต้นขึ้นในที่สุด” ในขณะเดียวกันด้านAvaได้เข้าสู้กับLuxu AvaกับLuxuได้ปะทะKeybladeกันอย่างรุนแรง จนมีแรงปะทะลอยไปถึงในตัวเมืองของDaybreak Townทำให้ระฆังของหอคอยนาฬิกาดังขึ้น เสียงระฆังดังลอยไปทั่วเมืองเป็นไปตามคำทำนายในหน้าที่หายไป ตัดกลับมาที่พวกPYกับMaster Gula พวกPYถามGulaว่าการที่เอาข้อความในตำราพยากรณ์มาบอกพวกเขา ไม่เป็นอะไรเหรอ Gulaก็ตอบว่ายังไงๆสงครามก็หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว การที่เขาเอามาบอกก็คงไม่เป็นอะไร แล้วเสียงระฆังก็ดังมาถึงพวกPY ทำให้รู้ว่าเวลาของการต่อสู้ครั้งสุดท้ายมาถึงแล้ว Gulaจึงบอกให้พวกPYกลับไปเตรียมตัว อีกไม่นานMasterของแต่ละUnionก็น่าจะเรียกรวมพลแล้ว







ก่อนPYจะแยกกับSkuld Skuldจะกลับไปรวมกลุ่มกับพวกDandelion SkuldพยายามชวนPYไปด้วย แต่PYไม่ไป Skuldก็บอกPYว่าไม่อยากให้PYเข้าร่วมต่อสู้ และอยากให้ร่วมเดินทางไปโลกภายนอกด้วยกันกับพวกเธอ Ephemerเองก็คงอยากจะให้PYทำแบบนั้น Skuldอยากให้PYลองไปคิดดูอีกครั้ง PYก็รับปาก แล้วทั้งคู่ก็จับมือลากัน ก่อนกลับPYถามChirithyของเขาว่า ถ้าตัวเขาตาย Chirithyก็จะหายไปด้วยหรือเปล่า Chirithyก็ตอบว่าใช่ PYเริ่มลังเลแล้วถามChirithyต่อว่าเขาควรจะทำยังไงดี Chirithyบอกว่าเขาไม่ต้องการให้PYตาย ถึงมันจะขัดกับความต้องการของMasterผู้นำUnion แต่เขาพูดให้ฐานะเพื่อนของPY เขาไม่อยากให้PYเข้าร่วมการต่อสู้ PYเหมือนตัดสินใจได้แล้ว เขาได้อุ้มChirithyขึ้นมาอย่างอ่อนโยนและขอบคุณChirithy ในตอนนั้นเองก็มีเสียงจากบางคนดังขึ้นมาขัดเขาทั้ง2ว่า “นายจะหนีจากการต่อสู้งั้นเหรอ” PYกับChirithyวิ่งตามต้นเสียงไปและพบว่าเจ้าของเสียงคือ Dark Chirithyที่เขาเจอเมื่อคราวก่อน Dark ChirithyถามPYอีกครั้งว่า “จะไปเข้าร่วมกลุ่มDandelionแล้วหนีจากการต่อสู้นี้งั้นเหรอ” Chirithyเถียงว่ากลุ่มDandelionไม่ได้หนีซักหน่อย Dark Chirithyพูดต่อว่า “อ๋อ พวกมันจะชี้นำอนาคตให้แก่เหล่าผู้ใช้Keybladeใช่ไหมล่ะ ฟังดูดีนะ แต่มันก็คือการทิ้งเพื่อนๆไม่ใช่รึไง” PYพยายามถามว่าDark Chirithyมาจากไหนกันแน่ Dark Chirithyก็เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกผู้ใช้Keybladeเริ่มใช้กำไลที่เรียกกันว่า Strength Bangle รวบรวม ”บาป” จากโลกนี้ และเปลี่ยนบาปเหล่านั้นที่เป็นรูปลักษณ์ของความมืดให้เป็นพลัง หรือที่พวกผู้ใช้Keybladeเรียกว่า “Guilt” นั่นแหละ มันคือพลังความมืด แล้วPYก็ใช้มันมาตลอด และนี่ก็เป็นความตั้งใจของMaster of Masters Chirithyก็เถียงว่ากำไลนั้นสะสมบาปมาและชำระล้างให้เป็นแสงสว่าง Dark Chirithyก็เถียงกลับว่าตัวDark Chirithyจะเกิดขึ้นมาได้ยังไงล่ะ ถ้าไม่ได้เป็นตามที่เขาบอก เรื่องนี้Master of Mastersได้คาดการณ์ไว้หมดแล้ว ตัวDark Chirithyนั้นเกิดมาจากความมืดของPY และPYก็เป็นเจ้าของของDark Chirithy แต่ตัวDark Chirithyไม่จำเป็นต้องอยู่ข้างกายเจ้าของเหมือนChirithyปกติ เขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามความต้องการของเขาเอง Dark ChirithyเตือนPYว่าถ้าไม่เข้าร่วมการต่อสู้สุดท้ายแล้วล่ะก็ เขาจะทำให้PYพบกับฝันร้าย แล้วDark Chirithyก็เรียกปีศาจที่เคยเป็นผู้ใช้Keybladeแล้วถูกความมืดกลืนกินออกมาสู้กับPY Chirithyไม่เข้าใจว่า ถ้าPYเป็นเจ้าของDark Chirithyแล้วทำไมต้องทำร้ายPYด้วย Dark Chirithyก็บอกว่าเขาไม่เหมือนChirithyที่เป็นSpirit แต่เป็นNightmareที่จะทำให้พบกับฝันร้าย เพราะเหตุนี้Dark Chirithyจึงสามารถตัดสายสัมพันธ์กับเจ้าของได้และได้เป็นอิสระ PYได้จัดการปีศาจเหล่านั้นได้ Dark Chirithyเอ่ยปากชมความแข็งแกร่งของPY แต่ยังไม่จบแค่นี้ Dark Chirithyเอาซากปีศาจที่ถูกPYจัดการมารวมกับตัวเองจนกลายเป็นNightmareตัวใหญ่ขึ้นมาและเข้ามาจะจัดการPY แต่สุดท้ายPYก็เอาชนะDark Chirithyลงได้ ก่อนที่Dark Chirithyจะสลายหายไปได้บแกกับPYกับChirithyว่าสายสัมพันธ์ระหว่างเขากับPYได้ถูกตัดขาดจากกันแล้ว Chirithyถามว่าDark Chirithyจะหายไปงั้นเหรอ Dark Chirithyตอบว่า “แค่ตอนนี้ แล้วเจอกันใหม่ในฝันอื่น...” แล้วDark Chirithyก็สลายหายไป

ไม่กี่วันต่อมา ณ สถานที่ต่อสู้ครั้งสุดท้าย ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง Unionทั้ง5เรียกรวมพลกันสมาชิกภายใต้การนำโดยโหรหัวหน้าUnion สุดท้ายแล้วPYตัดสินใจเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย Unionทั้ง5ประจันหน้ากัน ไม่มีใครฟังคำของโหรอีกต่อไป บรรยากาศมืดฟ้ามัวดินตึงเครียดพร้อมปะทะกันได้ทุกเมื่อ ไม่มีใครเลยที่คิดถึงเหตุผลในการต่อสู้ครั้งนี้ ศัตรูที่ต้องมาฟาดฟันครั้งนี้ไม่ใช่ปีศาจที่สู้กันมาตลอด แต่เป็นคนที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนกัน แล้วสงครามก็เริ่มขึ้น ผู้ใช้Keybladeจำนวนนับไม่ถ้วนต่างฟาดฟันกันเอง หัวใจของคนที่ตายก็หลุดลอยขึ้นสู่ฟากฟ้า สวนกับสายฝนที่ตกลงสู่ผืนดิน PYไม่ได้เข้าไปสู้กับใคร ได้แต่มองการต่อสู้ที่เกิดขึ้น มองหัวใจของคนที่ตายลอยไปทีละดวง แต่แล้วAcedก็เดินเข้ามาหาPY AcedจำPYได้ Acedเข้ามาสู้กับPYเพื่อทดสอบว่าPYคู่ควรที่จะเข้าร่วมในUnionของเขาหรือไม่ แต่พอPYสู้ได้ดี Acedกลับต้องการจะกำจัดPYทิ้ง เพราะแข็งแกร่งเกินไป อาจจะเป็นปัญหากับเขาได้ AcedฟันPYไม่ยั้ง แต่Iraก็เขามาขัดขวางแล้วบอกว่าเขากับAcedได้เวลาตัดสินกันแล้ว แล้วเขาทั้ง2ก็ไปสู้กันต่อที่อื่น ต่อมาPYก็ได้สู้กับInvi PYสามารถรับมือได้ Inviก็เอ่ยปากชมPY และขอให้มีชีวิตยืนยาวแล้วเธอก็เดินจากไป PYเริ่มเหนื่อยจากการต่อสู้และได้มองเห็นหัวใจของคนอื่นที่ตาย ลอยไปต่อหน้าต่อตา PYรู้สึกไม่ดีอย่างมากแต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ แล้วGulaก็เดินผ่านมาพอดี Gulaก็จำPYได้และถามPYว่าไหวไหม ก่อนเขาจะเข้าต่อสู้กับPY PYก็ยังสามารถรับมือGulaได้ แต่สภาพก็เริ่มแย่แล้ว Gulaก็ชมว่าPYนั้นแข็งแกร่ง และหวังว่าจะได้พบPYอีกที่ใดที่หนึ่งก่อนจะจากไป PYล้มลงแต่ก็พยายามยืนหยัดขึ้นมาได้และได้พบกับIra เขาเห็นPYเหนื่อยล้าจึงต้องการส่งให้PYไปสู่สุคติ แต่PYกลับเอาชนะIraได้ Iraชมว่าPYเติบโตมาได้ดีและละอายที่แพ้ให้แก่PY ทันใดนั้นเองAcedก็เข้ามาโจมตีใส่Iraจากด้านหลัง แต่Iraสามารถรับการโจมตีไว้ได้ Acedประกาศว่า “เขาจะสร้างโลกนี้ขึ้นมาใหม่และเป็นราชาของโลกนั้น “ Iraก็ประชดกลับว่า “ถ้าAcedไม่ทำให้แตกความสามัคคีก่อนล่ะนะ” แล้วทั้งคู่ก็ไปสู้กันต่อ แล้วPYก็ได้พบกับAva PYบอกว่าพยายามตามหาAvaอยู่ แล้วทำไมAvaถึงมาอยู่ที่นี่ มาเพื่อหยุดสงครามนี้หรือเปล่า แต่Avaกลับบอกให้PYชักKeybladeขึ้นมาสู้กับเธอ PYสามารถสู้กับAvaได้ PYไม่เข้าใจว่าทำไมAvaที่ควรจะเป็นคนที่ไม่อยากให้สงครามนี้เกิดขึ้น กลับเข้าร่วมสงครามนี้ซะเอง Avaกลับตอบว่า “มันเป็นความลับ ที่ไม่มีใครควรรู้...” พร้อมกับไล่ให้PYหนีไปจากที่นี่ไปหากลุ่มDandelionของเธอซะ



















หลังจากการต่อสู้กับเหล่าโหร PYได้รับความบอบช้ำมากมายจนหมดสติล้มลงไป สงครามยังคงดำเนินต่อไปเหล่าหัวใจจำนวนมากมายยังคงลอยขึ้นสู่ฟ้า Keybladeของคนที่ตายแล้วปักลงบนบริเวณลานต่อสู้นับไม่ถ้วน จนสถานที่นี้เหมือนกับเป็นสุสานของKeyblade ซึ่งต่อมาสถานที่แห่งนี้ก็ถูกเรียกว่า Keyblade Graveyard เมื่อสงครามสงบลง ChirithyของPYได้มาหาPYที่นอนอยู่ PYได้สติขึ้นมาพอดีพยายามใช้แรงที่เหลือลูบหัวChirithyอย่างอ่อนโยน Chirithyก็บอกให้PYอย่าพึ่งขยับตัว แล้วChirithyก็นอนลงบนตัวของPY ซักพักนึงฝนก็หยุดตก มีลำแสงจากท้องฟ้าส่องลงมาที่บริเวณลานต่อสู้สว่างไปหมด มีคนปรากฏตัวขึ้นมาหาPY เขาคนนั้นคือSkuld ไม่เพียงแค่นั้น Skuldยังพาใครอีกคนมาด้วย Ephemerปรากฏตัวต่อหน้าPY น้ำตาของPYก็ไหลออกมาและต่อว่าEphemerว่า “นายผิดสัญญานะ” Ephemerก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า “ยังไงเราก็ได้เจอกันอีกครั้งแล้วนะ” PYแซวกลับว่า “แต่มาสายนะ” Ephemerก็ขอโทษPY และบอกกับPYว่า “เราไปกันเถอะ...” พร้อมยื่นมือออกมารับPY PYก็ยิ้มทั้งน้ำตาพร้อมยื่นมือมาจับEphemer แล้วแสงก็สว่างจ้าไปทั่ว











PYฟื้นขึ้นมาในสภาพแข็งแรงดี เขาอยู่กับChirithy PYเหมือนจำไม่ค่อยได้ว่าเกิดอะไรขึ้น Chirithyก็ถามPYว่าฝันอีกแล้วเหรอ Chirithyบอกว่าตั้งแต่AvaชวนPYเข้ากลุ่มDandelion PYฝันแปลกๆซ้ำๆอยู่บ่อยๆ PYก็ไม่รู้ว่าตัวเองมาหลับอยู่ดาวดวงนี้ได้ยังไง Chirithyก็พยายามบอกPYว่าอาจจะเพราะPYเหนื่อยจากการทำอะไรต่อมิอะไรมาตลอดในช่วงนี้ แถมยังเดินทางไปดาวดวงใหม่ๆด้วย แต่ตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ แล้วก็ชวนPYกลับบ้านกันเถอะ ทั้งคู่ไม่เอ่ยถึงเรื่องสงครามKeybladeเลย ราวกับว่าหลงลืมเรื่องนี้ไป ราวกับความฝันที่เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วคนเรามักจดจำไม่ค่อยได้...



---จบภาคχ (Chi)---