review: PS5 Pro [First Impression]

ก่อนอื่น ต้องกราบขอบพระคุณ
น้องชายและน้องสะไภ้ที่จัดมาให้เซอไพรส์
ไม่งั้นคงยังไม่ได้มีกับเขา



-----

สิ่งแรกๆที่รับรู้ได้คือ
เครื่องมีขนาดบางกว่าตัวอ้วนรุ่นแรกชัดเจน
และน้ำหนักก็เบากว่า

วัสดุเมื่อจับแล้ว เมื่อลองแกะกรอบดู
ดูมีความอ่อนแอกว่าตัวอ้วนชัดเจน
เข้าใจว่า อิงฐานต่อมาจากรุ่น slim
เพราะโครงสร้างเครื่องและวัสดุทำนองเดียวกัน

แม้ไม่มีขาตั้งสำหรับวางตั้ง
ถ้าไม่ใช่บ้านที่จะมีสิ่งมีชีวิตอะไร
ที่จะสามารถไปป้วนเปี้ยนที่เครื่องได้
ก็ไม่ต้องมีขาตั้งสำหรับวางตั้งได้ครับ
แม้ไม่ต่อ drive ก็วางได้มั่นคงอยู่
ไม่สั่น ไม่โยก ไม่โงนเงนอะไร

สำหรับวางนอน ให้แง่งขิงพลาสติกมา 2 ชิ้น
สอดเข้าใต้เครื่องด้านที่มีรูสำหรับใส่ให้ถูกต้อง
ก็สามารถวางแนวนอนได้มั่นคงปกติดี

จอย Dualsense สีขาวปกติ 1 อันถ้วน
สายชาจจอยหนึ่งเส้น (USB-C-C)
สาย HDMI และ สาย Power

สำหรับพอทที่ตัวเครื่อง
ด้านหลังเป็น USB-A-C x 2 ช่อง
ด้านหน้าเป็น USB-C-C x 2 ช่อง
รวม 4 รูเชื่อมต่อ USB



-----

เริ่มเปิดใช้งานเครื่อง
แม้ไม่ได้เข้าเกม เราสามารถรู้สึกได้ว่า
การ์ดจอเป็นคนละรุ่น คนละตัวกันฮะ
ภาพ และ สีสรรที่ได้ ดีขึ้นกว่าตัวเดิมชัดเจน

เครื่องสามารถแสดงเฉดสีและความคมภาพ
ได้ดีกว่าตัวเก่า ดีขึ้นแบบมีนัยสำคัญ
แม้แค่เข้าในหน้า PSN ก็เทียบได้เลยว่าต่าง

แต่ นั่นก็ไม่ได้สำคัญมากเวลาเล่นเกม
เพราะสุดท้าย ก็ต้องดูที่ค่ายเกม
ว่าทำได้ว่ารองรับกับเครื่องได้มากน้อยแค่ไหน

กำลังเครื่องก็เพิ่มตามส่วน
เข้า PSN แทบไม่เจอโหลดไอค่อนเกมช้า
หรือ โหลดหน้าต่างๆไม่ทันเวลาเราเปลี่ยนไวๆแล้ว

ปัญหาคือ ตอนนี้ใส่แผ่นไม่ได้
รอไดรฟของเข้าก่อน จะหามาประกอบเติม

และ ใน id ผมก็เหมือนจะไม่มี
เกมที่มีแพชสำหรับ 5Pro เลย
เลยยังไม่สามารถทดสอบดูกับเกมที่รองรับ
ที่มีแพชปรับปรุงให้จริงๆเลยได้



-----

ทดสอบกับ MHRise Sunbreak ver. PS5 ปกติไป
เนื่องจากเป็นเกม PS5 ที่ใช้ชม.เล่นน่าจะเยอะสุด
พอจะยังมีความทรงจำต่างๆในเกมได้มากอยู่

ผลที่เห็นคือ...

มันทำให้เราสามารถเลือกเล่นเกม
ด้วยการตั้งค่าแบบ Priority ที่ กราฟฟิค
ซึ่งแต่เดิม มันจะลด Frame Rate ไปตามส่วน
ยิ่งปรับภาพสุด กราฟฟิค และองค์ประกอบ
รวมถึงแสงเงาต่างๆสุดเท่าไหร่
Frame Rate ก็จะลดไปเท่านั้น

กลายเป็นว่า เราสามารถปรับ setting ภาพ
ใน option ให้ดีสุดทั้งหมด ทุกหัวข้อ
โดยที่ยังคง Frame Rate ไว้ที่ 60 ได้ครับ
60 นิ่งๆ (อย่างน้อยก็ในระดับสายตาผม)
ถ้าเอาแอพมาวัด อาจจะมีแกว่งๆได้
ลงไปแถวๆ 50 ปลาย ละไว้ในฐานที่เข้าใจ

(ชม vdo ตัวอย่างที่แนบมา
ระบบของ PS5 มันอัด vdo ได้แค่ 30 fps.
เลยใช้มือถือตั้งอัด vdo ให้ดูแทน)

** อนึ่ง ภาพที่เห็นจริงดีกว่าใน VDO อีกประมาณหนึ่ง
ตามประสา VDO ที่อัพขึ้นสตีมมิ่งอ่านะครับ **



-----

ทดสอบกับ MHWorld ที่ไม่มี PS5 ver. เลย
ในเกมจะมี Setting Performance ให้ปรับ
ไม่ละเอียดเท่า MHRise

แบ่งเป็น
- เน้น Resolution
- เน้น Frame Rate
- เน้น Graphic และ Texture

ผลคือ...ปรับแล้วไม่มีความต่างเลย
หมายถึง ปรับข้อใดไป ก็ไม่ได้ด้อยข้ออื่นลง
ซึ่งตรงนี้ต่างชัดเจนจากเครื่องเก่า

ไม่ว่าจะปรับเน้นกราฟฟิค
Frame Rate ก็ยังไม่ได้ลดลง
(เท่าที่ตาผมเห็น)

ปรับเน้น Frame Rate ภาพก็ไม่ได้ด้อยลง
(อาจจะลดไปบ้างก็ได้ แต่ผมสังเกตไม่ได้จริงๆ)

-----

ผมสรุปให้อย่างนี้ละกัน กับ 5Pro
มันเหมือน...ตลาดอุปกรณ์เทคโนโลยี
ที่จะชอบตั้งราคาตัวสุด โดดขึ้นมา

ไม่ใช่แค่เพราะ สิ่งที่มันทำได้
แต่เป็น เพราะ กรู เป็นตัวที่ดีสุด
ที่มีให้ซื้อได้ ในสายงานกรูด้วย ตอนนี้

อารมณ์มันประมาณ แบบนั้นเลย
ซึ่งใช่...ปัญหาคือ ความต่าง เทียบ ราคา

พอเราเอาราคามาคำนวน
สัดส่วนความคุ้มต่อราคา มันยังเอ๊ะอยู่
แต่ถ้าใครบอกไม่ต่าง...ผมไม่เห็นด้วย
ผมรู้สึกว่าต่าง แล้วต่างชัดด้วยครับ

แต่ใช่...ไอ้คำว่าชัด ไม่ได้แบบมากจนเว่อร์นะ
แต่มันอยู่ในระดับที่เรา รู้สึกได้ทันทีว่าต่างกัน
โดยไม่ต้องอาศัยเครื่องเก่ามาเปิดคู่กัน

การแสดงสี มิติสี ความคมชัด
แค่เมนู Home กับหน้า PSN คุณรู้สึกได้ทันที
โดยไม่ต้องอวยหรือเชิดชูอะไร

ความไว เฉพาะแค่เมนู PSN ก็ชัดเจนว่า
มันตอบสนองได้ไวขึ้นชัดเจน
เข้าหน้ารายการเกม จะไม่ค่อยเห็นอาการ
ปกเกมโหลดไม่ขึ้น ขึ้นไม่ทันแล้ว

โดยรวมแล้ว แม้เกมที่ยังไม่มีแพช 5Pro มารองรับ
เครื่องมันสามารถให้คุณภาพที่ดีขึ้นได้
มากกว่าเครื่องปกติได้ระดับหนึ่งแล้วครับ

แต่ พอเราหยิบเรื่องราคามาคุย
ทีนี้ล่ะ ผมก็เลยสรุปความเห็นว่าแบบนั้น

คือส่วนที่ต่าง
ไม่ใช่แค่ ประสิทธิภาพของมันเฉยๆ
แต่เป็นราคาของ ความที่มันเป็นตัวสุด
เป็นตัวเดียวของ PS5 ที่ทำได้ระดับนี้ตอนนี้
แล้วชาจเราเพิ่มตรงนี้ด้วยส่วนหนึ่ง

เหมือนแบบ iPhone / iPhone Pro Max
เหมือนแบบ Samsung S38 / S38 Ultra
ราคาตัว Top ดีดไปเกินตัวอื่นในรุ่นเดียวกัน

"ค่าสุดในรุ่น" เรียกแบบนี้ละกัน
ผมว่าเห็นภาพชัดหน่อย
ส่วนใครจะจ่าย หรือ ไม่จ่าย ก็ตามสะดวก

-----

ถ้าให้แนะนำโดยส่วนตัว
ถ้าเครื่องนี้ผมต้องซื้อเอง

ถ้าผมยังไม่มี PS5 เลย
ผมน่าจะซื้อ

เพราะอนาคต คิดว่าเกือบทุกเกม
PS5 Pro น่าจะรันได้ดีกว่าเครื่องปกติระดับหนึ่ง
แม้ไม่มีแพชรองรับเฉพาะออกมา

แต่

ถ้าเป็นผมที่มี PS5 อยู่แล้ว
ผมน่าจะไม่ซื้อเอง
จนกว่าจะพ้นไปซัก 1-2 ปีประมาณ

รอราคาลงไปตามส่วน
และเข้าวาระตัวเก่าเริ่มแก่แล้ว
ก็ค่อยเปลี่ยน คงเป็นแบบนั้น
แล้วก็ใช้กันไปจนจบเจ็น ถ้าทำได้
ราคาแถวๆ 25,990 ผมว่ากำลังสวย

-----

ถ้าใครคิดจะซื้อตอนนี้ แต่มี PS5 อยู่แล้ว
ผมไม่เชียร์นะ เว้นแต่จะปล่อยเครื่องเก่า
แล้วได้ราคาดีมาก แล้วโปะส่วนต่าง
คิดซะว่าซื้อเครื่องนี้แล้วก็ลากยาวไปจบเจ็น

แต่ถ้าไม่มีเครื่องเลย แล้วจะซื้อ
ก็ถือว่าไม่เลว โดยรวมมันก็ทำงานได้ดีกว่าเครื่องปกติ
หากคุณยินดีจ่ายเพิ่มเพื่อประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่า

อีกกรณีก็ ถ้าจะไปทางประกอบ PC
ก็จะได้ฟังชั่นใช้งานได้หลากหลายกว่า
ด้วยงบพอๆกัน ตามนั้น อันนี้ก็เป็นข้อเท็จจริง

แต่...อีกที
เราก็คงจะไม่พูดว่า แทนกันได้ ดี หรือแย่กว่า
เพราะคนชอบเล่นฟิลคอนโซล กับ PC
มันต่างกันเยอะอยู่ เข้าใจได้ในส่วนนั้น

คนที่ใจอยากได้ PS5 หรือ PS5 Pro
ก็คงไม่ได้คิดจะเอาความคุ้มค่าในแง่ทำงาน
หรือพิมพ์งาน เล่นเนท ฟังเพลงมาอยู่ในงบ

บางคนอาจไม่ได้สะดวก หรือไม่ได้ถนัด
ที่จะเอา PC ต่อจอทีวีใหญ่ๆนั่งเล่นบนโซฟา
หรือใช้เวลาเล่นเกมนานๆกับจอคอม
รวมทั้งเรื่อง ความรู้ความเข้าใจเชิงลึก
ในการใช้งาน PC ก็เป็นอีกปัจจัยที่เป็นตัวแบ่ง

ตัวอย่างง่ายๆก็ Beta MHWilds ที่ผ่านไป
PS5 ถึงรันได้ไม่น่าประทับใจ แต่มันยังพอเล่นไปได้
ในขณะที่ PC นี่มีประเด็นหลากหลายให้ได้ฮาทุกวัน

ถ้าเราเป็นเจ้าของเคสนั้นๆก็อาจไม่ขำแบบโพสที่เห็น
ถ้าคนการ์ดจอโหดอยู่แล้วก็คงไม่อะไร

-----

ทั้งหมดทั้งมวลก็ ตามนี้เลยครับ
เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเพิ่มไปอีกที่ก็แล้วกัน

Happy Gaming
-- misingshot