บทสรุป เมโทร:ลาสต์ ไลท์ (Metro:Last Light 2013)

โดย: "MnemoniC"



สตูดิโอพัฒนา- 4เอ เกมส์
ดูแลการผลิตโดย- แอนดริว โพรกโฮรอฟ
ประเภทเกมส์- แอ็คชั่นชู้ตเตอร์ ระทึกขวัญ
จัดจำหน่ายโดย- สไปก์ ชุนซอฟต์ และ ดีป ซิลเวอร์
แพลตฟอร์ม- เอ็กซ์ บ็อกซ์ 360, เอ็กซ์ บ็อกซ์ วัน, เพลย์สเตชั่น 3, เพลย์สเตชั่น 4, วินโดว์ส, ลินุกซ์, โอเอส เอ็กซ์, สวิตช์ และ สตาเดีย

เฉลยเกม
เมโทร:เหตุการณ์จะเกิดขึ้นในปี 2034 หรือหนึ่งปีหลังจากเหตุการณ์ของเมโทร 2033 ในเกมภาคแรก ตอนจบของเนื้อเรื่องต้นฉบับขีปนาวุธได้ถูกปล่อยไปโจมตีฐานที่มั่นของเหล่าดาร์ค วันส์(Dark ones) ด้วยฝีมือของอาร์เทียม (Artyom) ชายหนุ่มวัยรุ่นที่เขาเกิดมาอยู่บนผิวโลกได้ไม่นานก่อนสงครามนิวเคลียร์จะปะทุขึ้น ดาร์ค วันส์คือสิ่งมีชีวิตลึกลับที่ดูเหมือนจะคุกคามผู้รอดชีวิตจากสงครามนิวเคลียร์ที่อาศัยอยู่ในอุโมงค์รถไฟใต้ดินกรุงมอสโก อาร์เทียมซึ่งตอนนี้เป็นหน่วยเรนเจอร์สของกลุ่มโพลิส ก็ยังไม่แน่ใจว่าการโจมตีดาร์ค วันส์เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องหรือไม่

หน่วยเรนเจอร์ส(Rangers)ซึ่งเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพที่เป็นฝ่ายกลาง ได้ปฏิบัติงานทั่วทั้งระบบในเมโทรและได้เข้ายึดครองสถานที่ทางทหาร ดี6 ที่อาเทียมเข้าไปปลดล็อกระบบขีปนาวุธในเกมภาคแรก ที่นี่เป็นหลุมหลบภัยก่อนสงครามนิวเคลียร์จะปะทุขึ้นและไม่ได้รับการดูแลสำรวจทรัพยากรทางทหารอย่างเต็มที่ ข่าวลือเกี่ยวกับการค้นพบ ดี6 ของหน่วยเรนเจอร์สหรือกลุ่มทหารสปาร์ต้า ที่มีความเฟื่องฟูทางทรัพยากรอย่างมหาศาลใน ดี6 ได้แพร่กระจายไปทั่วทั้งอุโมงค์รถไฟใต้ดินมอสโก กลุ่มคู่แข่งหน่วยเรนเจอร์สเช่นทหารแดงโซเวียตเรดไลน์(Red Line) และลัทธินาซีโฟร์ธ ไรช์ที่สี่(Fourth Reich)หวังที่จะยึดบังเกอร์ ดี6 และ ทรัพยากรต่างๆเช่นกัน

โปรล๊อก(Prologue)
อาร์เทียมที่กำลังตรึงกำลังทางรถไฟใต้ดินกับผู้รอดชีวิตคนอื่นๆ ไม่นานได้มีฝูงสัตว์กลายพันธ์เข้ามาทำร้ายคนในกลุ่ม ให้เรายิงพวกฝูงกลายพันธุ์ให้หมด อาร์เทียมจะพบว่าฝูงกลายพันธ์นั้นก็คือกลุ่มผู้รอดชีวิต และการปรากฏตัวอีกครั้งของสิ่งมีชีวิตที่น่าหวาดกลัวดาร์ค วันส์...
อาร์เทียมตื่นขึ้นมาจากฝันร้ายเขาได้พบกับข่าน(Khan) หน่วยเรนเจอร์สที่มีวิชาอาคมไสยศาสตร์เเละเป็นเพื่อนเก่าของอาร์เทียม ข่านได้เล่าเบาะแสถึงการค้นพบดาร์ค วันส์ตัวสุดท้าย และข่านบอกกับว่าอาร์เทียมว่าดาร์ค วันส์จะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยผู้รอดชีวิตคนอื่นๆในเมโทร

แต่จะมีทหารเรนเจอร์สเข้ามาพบข่านที่ไม่ได้รับอนุญาติให้เข้ามาในพื้นที่ ดี6 ข่านจึงถูกนำตัวให้ไปพบกับผู้บังคับบัญชาของที่นี่นั่นก็คือมิลเลอร์(Miller) เมื่อบังคับตัวละครได้ให้เดินตามข่านไปพบกับมิลเลอร์ อาร์เทียมจะต้องผ่านคลังอาวุธของที่นี่ให้เข้าไปรับอุปกรณ์ยังชีพต่างๆ และเลือกอาวุธตามความชอบ (คลังอาวุธจะกระจายอยู่ทั่วทุกสถานีในเมโทร เราสามารถซื้ออาวุธ อัพเกรด หรือ ไอเท็มต่างๆได้ตลอดทั้งเกม) ตัวเกมจะเริ่มให้กดคำสั่งเมนูต่างๆเพื่อให้เรียนรู้ตามคำแนะนำ จากนั้นลองทดสอบอาวุธกับสนามซ้อมข้างๆคลังอาวุธ และตามข่านออกไปหามิลเลอร์ที่ห้องบัญชาการต่อ

เมื่อมาถึงห้องบัญชาการมิลเลอร์จะถามข่านว่ามีธุระอะไรใน ดี6 แล้วข่านจะเล่าถึงเหล่าดาร์ค วันส์ที่หลงเหลือตัวสุดท้ายที่ข่านค้นพบ มิลเลอร์จึงสั่งให้อาร์เทียมไปตรวจสอบเรื่องดาร์ค วันส์กับแอนนา(Anna)ซึ่งเป็นลูกสาวของมิลเลอร์ แต่ความคิดของมิลเลอร์คือให้กำจัดเหล่าดาร์ค วันส์ให้สิ้นซาก ข่านจึงเตือนสติอาร์เทียมก่อนไปตรวจสอบว่าดาร์ค วันส์ตัวนั้นคือสิ่งที่จะช่วยมนุษยชาติ และบอกอาร์เทียมว่าอย่าทำผิดพลาดซ้ำสองอีก หลังจบบทสนทนาให้เดินตามแอนนาไปขึ้นรถไฟใต้ดินเพื่อไปเช็คข้อมูลที่การ์เด้นส์ตามที่ข่านแจ้งกับมิลเลอร์

อะ เทรน ทู เดอะ พาสต์(A train to the past)
เมื่อรถไฟเทียบชานชาลาให้ลงจากรถไฟเดินตามแอนนาสับสวิตช์เปิดประตู ขึ้นบันไดไปจนถึงส่วนท่อระบายน้ำ แอนนาจะบอกให้อาร์เทียมสวมหน้ากากป้องกันกัมมันตภาพรังสี (การใส่หน้ากากจะมีระยะเวลาการเปลี่ยนฟิลเตอร์กรองอากาศ ควรหมั่นเก็บหรือซื้อฟิลเตอร์เตรียมพร้อมทุกครั้งก่อนออกสำรวจ) ปีนบันไดตามแอนนาขึ้นไปบนพื้นผิวโลก สำรวจไปเรื่อยๆซักพักแอนนาจะแยกตัวเพื่อไปดักซุ่มยิงที่ด้านบน ให้เราเดินไปตามเส้นทางต่อหากไม่แน่ใจเรื่องเส้นทางก็กดเช็คที่เข็มทิศแผนที่เข็มจะชี้ไปที่จุดหมายของอาร์เทียมเสมอ (เมนูเข็มทิศนอกจากจะบอกจุดหมายที่เราต้องเดินทางแล้ว ยังบอกเควสต์หรือรายละเอียดภาระกิจที่ต้องทำในขณะนั้นด้วย)

เดินไปซักพักจะเจอฝูงสัตว์กลายพันธุ์หนูยักษ์วอทเชอร์ที่ออกมาโจมตีเรา เคลียร์ฝูงวอทเชอร์ให้หมดแอนนาจะคอยยิงสไนเปอร์สนับสนุนช่วยเรา แล้วเดินตามแผนที่ไปต่อเรื่อยๆในการ์เดนส์แอนนาจะส่งสัญญาณว่าพบดาร์ค วันส์แล้ว ให้เราตามดาร์ค วันส์ไปตัวเกมจะเริ่มสอนระบบวิ่ง กระโดด หมอบให้ทำตามคำแนะนำที่ขึ้นเตือน สุดทางแอนนาจะยิงดาร์ค วันส์จนร่วงไปนอนให้อาร์เทียมเข้าไปสัมผัสตัวมัน อาร์เทียมจะหมดสติและเห็นนิมิตเหตุการณ์เก่าๆที่หน่วยเรนเจอร์สยิงถล่มทำลายเผ่าพันธุ์ของมัน ก่อนที่อาร์เทียมจะฟื้นขึ้นมาเห็นดาร์ค วันส์โดนทหารต่างฝ่ายจับขังกรง รวมถึงตัวอาร์เทียมเองด้วย

ดิ เอนิมี่ ออฟ มาย เอนิมี่(The enimy of my enimy)
อาร์เทียมจะอยู่ในที่คุมขังของทหารกลุ่มลัทธินาซีโฟร์ธ ไรช์ ในห้องคุมขังทหารนาซีจะกล่าวหานักโทษทุกคนว่าเป็นพวกติดเชื้อโรคติดต่อและโดนสังหารทิ้ง ในขณะที่ทหารนาซีกำลังสอบสวนอาร์เทียม นักโทษอีกคนได้ขัดขืนต่อสู้จนสามารถจัดการทหารนาซีและช่วยอาร์เทียมเอาไว้ได้ เขาได้แนะนำตัวกับอาร์เทียมว่าเป็นกลุ่มฝ่ายทหารเเดงเรด ไลน์ชื่อพาเวล(Pavel Morozov) และพาเวลก็รู้ว่าอาร์เทียมอยู่กลุ่มฝ่ายทหารสปาร์ต้าหรือหน่วยเรนเจอร์ส ตอนนี้ทั้งอาร์เทียมและพาเวลต้องร่วมมือกันหนีจากที่คุมขังของทหารนาซีแห่งนี้

เมื่อบังคับตัวละครได้ให้มุดลงท่อตามที่พาเวลนำทางอาร์เทียมจะอยู่ในส่วนของคุกใต้ดิน ตามพาเวลไปติดๆกลางโถงคุกเราจะต้องข้ามไปอีกฝั่งโดยแอบย่องใช้เงากลางโถงอำพลางตัว พอข้ามฝั่งมาประตูกรงที่จะหนีเปิดไม่ออกอาร์เทียมต้องส่งพาเวลไปที่ชั้นสองและตามพาเวลขึ้นไป เมื่อขึ้นมาชั้นสองให้ลอบสังหารทหารนาซีและสับสวิตช์เปิดทางขึ้นชั้นที่สาม ชั้นที่สามให้อาร์เทียมหมุนดับหลอดไฟข้างกำแพงพาเวลจะสับสวิตช์บันไดชั้นที่สี่ให้อาร์เทียมไปต่อ ระวังทหารนาซีที่เดินลาดตระเวนด้วย

ชั้นที่สี่อาร์เทียมจะต้องมุดท่อน้ำเสียข้ามไปอีกฝั่งพอลงมาอีกฝั่งให้หยิบมีดที่วางไว้เป็นอาวุธ จะมีทหารนาซีเฝ้านักโทษวิธีกำจัดคือใช้มีดที่เก็บมาเล็งแม่นๆแล้วปาใส่ศัตรูเลย จะมีบันไดขึ้นไปชั้นที่ห้ากดปุ่มปลดแอร์ล็อกลิฟต์และสังหารทหารที่อยู่ข้างใน สับสวิตช์ลิฟต์พาเวลจะส่งปืนสั้นให้อาร์เทียมใช้ป้องกันตัว เมื่อประตูแอร์ล็อกเปิดเราจะอยู่ในส่วนหอควบคุมที่คุมขังของที่นี่ ให้กำจัดศัตรูรอบๆบริเวณให้หมดจะใช้วิธีบู๊ล้างผลาญหรือลอบสังหารก็ตามความสะดวกครับ

สำรวจที่แท่นสวิตช์ของหอควบคุมและสับสวิตช์เปิดประตูอาร์เทียมกับพาเวลจะหนีออกจากคุกได้

ไรช์(Reich)
เดินตามพาเวลขึ้นไปด้านบนอาร์เทียมจะพบบันทึกเกี่ยวกับเนื้อหาของดาร์ค วันส์ เป็นข้อมูลที่กลุ่มทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์เตรียมทำธุรกิจขายดาร์ค วันส์ให้กลุ่มฮานซ่า โดยที่อาร์เทียมยังไม่แน่ใจถึงความต้องการของฮานซ่าว่า จะเอาดาร์ค วันส์ตัวที่อาร์เทียมพบไปใช้ประโยชน์อะไร (ฮานซ่า(Hanza) เป็นกลุ่มควบคุมกลไกหลักของสถานีรถไฟใต้ดินด้วยอำนาจทางเศรษฐกิจ ทั้งหมด)

เมื่อขึ้นมาด้านบนเราจะพบการปราศรัยของผู้นำกลุ่มทหารนาซีโฟร์ธ ไรช์ ให้เดินแหวกกองกำลังนาซีตามพาเวลเข้าไปในฝูงชน แต่จะมีการแจ้งเตือนจากทหารนาซีว่ามีนักโทษที่หลบหนีออกจากคุก ทำให้พาเวลต้องรีบฝ่ากองกำลังนาซีเพื่อหนีออกจากที่นี่ ให้เราวิ่งตามพาเวลไปเรื่อยๆจนออกมานอกสถานี พาเวลจะพยุงอาร์เทียมที่กำลังบาดเจ็บไปขึ้นรถรางและหนีออกจากสถานีของทหารนาซี

เอสแค็ป(Escape)
อาร์เทียมและพาเวลที่กำลังขึ้นรถรางหลบหนีพวกกองกำลังทหารนาซี อาร์เทียมได้คิดทบทวนว่าเขาอยากตามหาดาร์ค วันส์ที่กลุ่มฮานซ่าเจรจาขอซื้อจากนาซี ก่อนที่ตัวอาร์เทียมเองจะกลับไปรายงานสถานการณ์ที่สถานีโพลิส ในขณะนั้นรถรางต้องขับพุ่งชนแผงกั้นทางรถไฟจนรถเกิดตกราง เมื่อบังคับอาร์เทียมได้ให้เรากดปุ่มออกมาจากรถรางและเดินเข้าไปด้านในอุโมงค์

ด้านในอุโมงค์จะเป็นทางตันอาร์เทียมต้องส่งพาเวลขึ้นไปหาเส้นทางใหม่ในท่อระบายน้ำ แต่พาเวลจะโดนทหารนาซีจับตัวอีกครั้งและมีทหารนาซีออกมาจากประตูอุโมงค์อีกฝั่ง ให้เราจัดการศัตรูบริเวณรอบๆฐานทหารนาซีที่ประตูเพิ่งเปิดออกมาให้หมด จะมีทหารนาซีอีกกลุ่มจากชั้นบนลงมาสมทบเคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย จากนั้นเข้าไปในฐานนาซีที่ชั้นสองตามเส้นทางจะพบช่องระบายอากาศทางขวาให้มุดเข้าไป

อะ เฟรน(A Friend)
มุดช่องระบายอากาศเข้าไปอาร์เทียมจะพบพาเวลในห้องขังแต่ตอนนี้อาร์เทียมยังช่วยพาเวลไม่ได้ ให้ไปตามเส้นทางต่อลงมาจากช่องระบายอากาศพื้นที่นี้คือศูนย์บัญชาการขนาดย่อมของทหารนาซี ในห้องแรกให้อาร์เทียมพยายามกำจัดศัตรูที่มีอยู่ทั่วห้องแบบสเตลท์ลอบเร้นจะดีที่สุด ระวังทหารนาซีที่ชั้นบนด้วย เข้าประตูด้านในผ่านห้องแช่แข็งที่มีทหารนาซีหวาดกลัวกระโดดข้ามกำแพงมาห้องปลูกพืชต่อตามเส้นทาง

จากนั้นอาร์เทียมจะพบโรงงานสร้างกระแสไฟฟ้าของโฟร์ธ ไรช์และมีทหารนาซีอีกกลุ่มใหญ่ ห้องที่สองนี้เส้นทางจะแคบเลือกใช้วิธีลอบเร้นหรือบู๊แหลกลาญก็ขึ้นกับสถานการณ์ของแต่ละท่าน ลงบันไดมาชั้นล่างของห้องปั่นกระเเสไฟฟ้าจะพบทหารนาซีอีกก็ตามสถานการณ์ของแต่ละท่านอีก จากนั้นให้สับสวิตช์และกดปุ่มปลดล็อกที่แผงควบคุมใกล้ๆลิฟต์ขนส่ง จะมีทางข้างๆลิฟต์ด้านขวาให้เดินลงไปต่อ

บริเวณนี้จะไม่มีทหารนาซีให้เปิดแผนที่เดินไปตามเข็มทิศที่ชี้ทิศทางได้เลย อาร์เทียมจะต้องออกมาจากตัวอาคารมาอยู่บริเวณอุโมงค์รถไฟ และอาร์เทียมจะพบพาเวลที่กำลังโดนทหารนาซีจับไปแขวนคอ ให้เรารีบจัดการทหารนาซีทั้งสองคนโดยเร็วและไปตัดเชือกที่รัดคอเพื่อช่วยพาเวล สุดทางจะมีประตูอุโมงค์ให้เรารีบวิ่งเข้าไปอาร์เทียมและพาเวลจะหนีทหารนาซีได้สำเร็จ

ธรู เดอะ ดาร์คเนสส์(Through the darkness)
อาร์เทียมที่เพิ่งหนีจากกองทัพนาซีโฟร์ธ ไรช์กับสหายทหารแดงพาเวล กำลังอยู่ในพื้นที่ที่ไม่คุ้นเคยและไม่รู้เส้นทางไปทำภาระกิจต่อ จุดหมายหลักของอาร์เทียมคือกลับไปสถานีโพลิสกับข้อมูลดาร์ค วันส์ให้ได้มากที่สุด ตอนนี้สิ่งที่อาร์เทียมต้องทำคือตามพาเวลไปจุดที่ปลอดภัยที่สุด
เมื่อบังคับตัวละครได้ตามพาเวลในอุโมงค์ไปอาร์เทียมจะต้องช่วยพาเปิดฝาท่อระบายน้ำและมุดลงไป พอโผล่จากท่อระบายน้ำออกมาอีกฝั่งก็ขึ้นลิฟต์ตามพาเวลจะมีฝูงแมงมุมกลายพันธุ์สไปเดอร์บั๊คออกมาโจมตีเรา ให้ยิงกำจัดหรือใช้วิธีการทุบทำเมลีแอทแทคสลัดพวกกลายพันธุ์อย่าให้ถ่วงลิฟต์เรา

เมื่อลิฟต์ขึ้นมาด้านบนไปตามทางรถไฟจะเจอเส้นทางช่วงที่สะพานทางรถไฟขาดอยู่ ให้อาร์เทียมหยิบท่อเหล็กมาค้ำยันข้ามไปอีกฝั่ง จะมีพวกฝูงสไปเดอร์บั๊คออกมาก่อกวนให้ใช้ไฟฉายส่องแล้วยิงปืนใส่จะกำจัดมันได้ง่าย ขึ้นไปบนรถไฟร้างและโหนเชือกเข้าไปในอาคารสุดทางของอีกฟาก
ในอาคารอาร์เทียมต้องไปปั่นไฟฟ้าเพื่อปลดล็อกประตูที่พาเวลยืนเฝ้าอยู่จากอีกด้านนึง เข้าไปสตาร์ทเครื่องปั่นไฟฟ้าเส้นทางจะอยู่ข้างๆประตูที่ล็อกอาร์เทียมจะต้องไปสำรวจเพียงลำพัง เมื่อเครื่องยนต์ทำงานให้กลับไปหาพาเวลที่ประตูเราจะสามารถผ่านเข้าไปได้

อะ พาธ ธรู เดอะ ไลท์(A path through the light)
อาร์เทียมคาดหวังในตัวเพื่อนใหม่สหายทหารแดงพาเวลว่าจะพาเขากลับไปที่สถานีโพลิสได้ จะมีหน้าป้องกันกัมมันตภาพรังสีวางอยู่ที่โต๊ะหยิบขึ้นมาใส่จากนั้นตามพาเวลขึ้นไปด้านบน ในส่วนบนของสถานีรถไฟใต้ดินให้อาร์เทียมสำรวจตามห้องต่างๆจะได้ปืนลูกซองคู่ และอาร์เทียมจะโดนวอทเชอร์จู่โจมกำจัดมันแล้วตามพาเวลไปที่ซากเครื่องบินบนผิวโลก

สำรวจประตูซากเครื่องบินและช่วยพาเวลเปิดเข้าไป ในขณะที่กำลังสำรวจซากเครื่องบินอาร์เทียมจะพบภาพหลอนแปลกๆตามพาเวลไปที่ห้องนักบิน เมื่อมาถึงห้องนักบินอาร์เทียมจะเห็นภาพนิมิตเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ทำให้เครื่องบินตก สาเหตุเกิดมาจากสงครามนิวเคลียร์ที่ปะทุขึ้นจนทำให้ประชากรบนโลกเกินกว่าครึ่งต้องตายไป เมื่ออาร์เทียมได้สติจะเห็นพาเวลกำลังคลั่งภาพหลอนของเหตุการณ์ในสงคราม(อาร์เทียมมีความสามารถพิเศษในการรับรู้เรื่องนิมิตเหนือธรรมชาติต่างๆ และอาร์เทียมเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถสื่อสารกับเหล่าดาร์ค วันส์ได้ เนื้อเรื่องจากเมโทร 2033)

เมื่อช่วยพาเวลฟื้นกลับมามีสติทั้งสองคนเลยรีบออกจากซากเครื่องบินนี้ทันที ให้เราตามพาเวลไปเรื่อยๆจะพบกับศัตรูใหม่เป็นค้างคาวกลายพันธุ์เดม่อน อาร์เทียมจะถูกเดม่อนโฉบทำร้ายแต่มันจะปล่อยเรา พอตั้งตัวได้เตรียมอาวุธให้พร้อมเราจะต้องรับมือฝูงวอทเชอร์กลุ่มใหญ่ สู้ไปซักพักพาเวลจะพาอาร์เทียมเข้าไปหลบในสถานีรถไฟใต้ดินและลงไปชั้นล่าง พาเวลจะบอกคนในกำแพงอุโมงค์ให้เปิดประตู เราจะต้องยิงวอทเชอร์ไปเรื่อยๆจนกว่าประตูจะเปิดออก



เทียเตอร์(Theater)
ตอนนี้อาร์เทียมได้อยู่ในสถานีของกลุ่มทหารแดงเรด ไลน์ที่พาเวลนำทางมา ทั้งสองคนเริ่มสนิทกันจนถึงขั้นเป็นสหายเพราะทั้งคู่ผลัดกันช่วยชีวิตกันและกันตลอดทาง คำสัญญาที่พาเวลบอกจะพาอาร์เทียมกลับไปที่สถานีโพลิส ตอนนี้พาเวลขอเวลาไปทำธุระส่วนตัวก่อนและให้อาร์เทียมไปพบเขาที่โรงละคร ในสถานีจะมีร้านค้าขายไอเท็ม กระสุนปืน อาวุธและการอัพเกรด ควรเตรียมตัวให้เรียบร้อย

หน้าโรงละครพาเวลจะพาอาร์เทียมเข้าไปด้านในเดินผ่านห้องแต่งตัวนักแสดงมาที่บาร์ร้านอาหาร ทั้งสองคนจะเริ่มดื่มฉลองกันอย่างมีความสุข หลังจากที่ฝ่าฟันอุปสรรคมากมายในการเอาตัวรอดมาจากกองทัพนาซีโฟร์ธ ไรช์ แต่จู่ๆอาร์เทียมก็มีอาการมึนงงและอาร์เทียมเห็นพาเวลสั่งทหารแดงให้ควบคุมตัวเขาก่อนที่อาร์เทียมจะหมดสติไป

บีเทรเเยล(Betrayal)
อาร์เทียมจะถูกทหารแดงควบคุมตัวก่อนที่พาเวลจะแนะนำตัวเอง ว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ระดับสูงของทหารแดง ผู้ช่วยของนายพลคอร์บุต(Korbut)แห่งพรรคคอมมิวนิสต์ของกลุ่มเรด ไลน์ อาร์เทียมจะโดนทหารแดงจับไปในห้องสอบสวน โดยจะมีทั้งคอร์บุตและผู้บัญชาการกลุ่มเรด ไลน์มอสคอวิน(Moskvin)คอยทรมานรีดข้อมูลจากอาร์เทียม เกี่ยวกับข้อมูลของฐานหลบภัย ดี6 ที่ทหารสปาร์ตัน เรนเจอร์สครอบครองอยู่ แต่กองทัพแดงยังไม่ได้ข้อมูลอะไรดีๆลูกชายของนายพลฯมอสคอวินก็รีบปล่อยให้อาร์เทียมหนี เพราะเขาไม่ชอบถึงการบริหารงานและการตัดสินใจของคอร์บุตและพ่อตัวเอง

*... ในขณะที่อาร์เทียมถูกทรมาณเขาโดนคอร์บุตฉีดสารเคมีเพื่อให้พูดความจริง อาร์เทียมหมดสติและเห็นนิมิตในวัยเด็กของตัวเองที่กำลังเล่นกับเพื่อนๆนอกสถานีรถไฟ แล้วอาร์เทียมบังเอิญกำลังจะโดนฝูงกลายพันธุ์เข้าทำร้าย แต่ได้มีดาร์ค วันส์เข้ามาปกป้องอาร์เทียมจากพวกกลายพันธ์ นี่คือสาเหตุว่าทำไมอาร์เทียมถึงมีความสามารถพิเศษในการติดต่อกับเหล่าดาร์ค วันส์ในภาคที่แล้วได้ เพราะความผูกพันธ์ของดาร์ค วันส์ตัวนึงที่ต้องการเพียงช่วยเด็กมนุษย์โลกจากสัตว์กลายพันธุ์*

เมื่อบังคับตัวละครได้ให้มุดช่องระบายอากาศไปตามเส้นทาง อาร์เทียมจะเห็นการสนทนาของคอร์บุตและมอสคอวินถึงแผนการที่จะยึดครองอำนาจของทุกสถานีในเมโทร ถัดมาอีกฟากอาร์เทียมจะเห็นทหารของเรนเจอร์ที่ทำงานใน ดี6 เลสนิตสกี้(Lesnitsky)ซึ่งเป็นไส้ศึกของกลุ่มเรด ไลน์ โดยเลสนิตสกี้ได้รับคำสั่งจากคอร์บุตให้โจมตีสถานีต่างและตามหาเจ้าหนูดาร์ค วันส์ที่นาซีขายใหฮานซ่า

เรด ไลน์(Red line)
ลงมาจากช่องระบายอากาศอาร์เทียมจะเก็บอาวุธสัมภาระของตัวเอง เป้าหมายของอาร์เทียมคือหนีออกจากสถานีของทหารแดงและสืบหาเจ้าหนูน้อยดาร์ค วันส์ตัวนั้นต่อ เปิดประตูออกไปด้านนอกจะพบทหารแดงตามเส้นทางจัดการและเดินไปจนถึงอู่ซ่อมรถไฟ หากศัตรูรู้ตัวว่ามีผู้บุกรุกมันจะส่งพวกทหารเกราะหนักออกมาช่วย เคลียร์พื้นเข้าประตูหมุนล็อกไฟสีเขียวเข้าไปในพื้นที่ส่วนถัดมา ในห้องเครื่องจักรกลจัดการศัตรูบริเวณรอบๆห้องขึ้นไปสับสวิตช์ปิดใบพัดฟอกอากาศ เเล้วเข้าไปในใบพัดขนาดใหญ่อาร์เทียมจะผ่านมาถึงห้องสุดท้าย

ภายในห้องจะมีศัตรูเหมือนเดิมจะใช้วิธีสเตลท์ผ่านไปจุดหมายในแผนที่เลยก็ได้ แล้วอาร์เทียมจะออกมาอยู่ด้านนอกอาคารบริเวณอุโมงค์รางรถไฟ ให้กำจัดศัตรูสองคนที่ป้อมปืนอุโมงค์และจะมีทหารเกราะหนักออกมาจากอีกประตูหนึ่งจัดการให้เรียบร้อย เดินไปตามพิกัดที่เข็มทิศชี้นำทางในอุโมงค์จะพบช่องระบายอากาศให้มุดผ่านข้ามไปอีกฝั่ง ลงมาจากช่องระบายอากาศอาร์เทียมจะบังเอิญโดนทหารแดงพบตัว แต่ทหารเเดงคนนี้ไม่ใช่ศัตรูของอาร์เทียมเขาชื่อแอนดริว เป็นช่างตีเหล็กของกลุ่มเรด ไลน์ที่ข่านเคยให้อาร์เทียมมาขอความช่วยเหลือจากเกมภาคที่แล้ว

ฮอต เพอร์สูท(Hot pursuit)
แอนดริว(Andrew)เป็นช่างตีเหล็กของสถานีอาร์โมรี่และยังเป็นทหารแดงกลุ่มเรด ไลน์ แอนดริวเคยร่วมมือกับหน่วยเรนเจอร์สมาก่อนเขาจึงไม่คิดจะทำร้ายอาร์เทียมแม้เป็นเป้าหมายของกองทัพแดง แอนดริวได้บอกเส้นทางกลับไปยังสถานีโพลิสให้อาร์เทียม และเล่าเกี่ยวกับข้อมูลภาระกิจของกองทัพแดงเรด ไลน์ที่พาเวลบัญชาการให้อาร์เทียมฟัง พร้อมกันนั้นแอนดริวยังได้ให้รถรางแก่อาร์เทียมไว้ใช้ในการเดินทางกลับไปยังที่สถานีโพลิสอีกด้วย เมื่อบังคับตัวละครได้ให้ขึ้นไปบนรถรางและเริ่มออกเดินทางทันที

เราสามารถลงจากรถรางได้ตลอดเวลาเพื่อสำรวจห้องหรือประตูหลบภัยต่างๆตามเส้นทาง เพื่อค้นหาไอเท็มและข้อมูลต่างๆ เส้นทางรถรางอาจจะเป็นเส้นตรงแต่จะมีรางทางแยกเป็นระยะเราต้องยิงที่ป้ายสัญลักษณ์สับเปลี่ยนราง ก่อนถึงทางแยกของรางรถไฟในแต่ละช่วงเพื่อเปลี่ยนรางรถไฟไปตามเป้าหมายที่กำหนด เมื่อไปถึงทางอุโมงค์ที่มีประตูปิดกั้นให้ลงจากรถรางเข้าห้องข้างๆประตูอุโมงค์ ไปที่เครื่องปั่นพลังงานไฟฟ้าแล้วปั้มพลังงานจากนั้นกลับไปที่ประตูอุโมงค์สับสวิตช์เปิดอุโมงค์แล้วเดินทางต่อ ช่วงหลังจากนี้อาร์เทียมจะต้องสวมหน้ากากป้องกันกัมมันตภาพรังสี

ในช่วงการเดินทางจะมีเเผงไม้กั้นเส้นทางรางรถไฟเราสามารถขับชนเพื่อเปิดเส้นทางได้ ขับรถรางมาซักพักจะมีทางแยกที่ต้องสับรางรถไฟไปทางรางที่มีโบกี้รถไฟขวางอยู่ จากนั้นให้ชนโบกี้ที่ขวางดันไปให้จนสุดทาง จะมีฝูงวอทเชอร์ออกมาโจมตีให้คอยยิงป้องกันตัวและดันโบกี้ไปเรื่อยๆ เมื่อดันไปจนสุดจะต้องสับเปลี่ยนรางอีกครั้ง และต้องขับรถรางพุ่งชนแผงไม้ที่กั้นก่อนที่อาร์เทียมจะควบคุมรถรางไม่ได้ และกระเด็นตกไปที่พื้น

แบนดิตส์(Bandits)
อาร์เทียมรู้ว่ากลุ่มกองทัพแดงของพาเวลกำลังไปทำภาระกิจที่เทรตยาคอฟสกาย่า จึงต้องรีบตามไปที่นั่นเพื่อหยุดยั้งแผนการครอบครอง ดี6 ของคอร์บุต หลังจากที่ตกรถรางมาให้อาร์เทียมกลับขึ้นไปบนรถรางเพื่อเดินทางต่ออีกครั้ง จะพบแผงกั้นไม้ขับชนไปด้านในมีผู้รอดชีวิตและมีร้านค้าไอเท็มอัพเกรดให้เตรียมพร้อม ขับรถรางเดินทางต่อจะเจอกลุ่มโจรติดอาวุธให้อาร์เทียมเคลียร์พื้นที่กำจัดศัตรูที่และช่วยตัวประกัน ตัวประกันคนที่เราช่วยจะขยับรถรางที่ขวางเส้นทางให้อาร์เทียมเอารถรางตัวเองเดินทางต่อไปได้ จะมีกลุ่มติดอาวุธอีกกลุ่มใหญ่ที่ดักปล้นโจมตีทั้งสองฝั่งรางรถไฟให้ลงจากรถรางแต่เนิ่นๆ จัดการกลุ่มโจรให้หมดจะมีสวิตช์ให้สับเปิดเส้นทางรางรถไฟให้ขับรถรางเดินทางไปต่อ

ถัดมาจะพบทางแยกสุดท้ายที่ต้องสับเปลี่ยนรางเส้นทางและให้ขับชนฝ่าแผงกั้นไม้ เมื่อชนแผงกั้นไม้แล้วรถรางเราจะใช้งานไม่ได้ให้เดินเท้าต่อจนเข้าไปในชานชาลาสถานีรถไฟใต้ดิน ด้านในสถานีให้อาร์เทียมสั่นกระดิ่งตรงจุดที่มีน้ำท่วมสูง จะมีเสียงตอบรับของผู้รอดชีวิตจากอุโมงค์ข้างในว่าจะออกไปรับเรา ขณะเดียวกันฝูงกลายพันธ์โนซาไลส์จะออกมาต้อนรับเรามากมาย ให้ยิงต้านพวกโนซาไลส์ที่ออกมาไม่มีวันหมดไปเรื่อยๆ รอจนกว่าแพตรงที่เราสั่นกระดิ่งแถวน้ำท่วมสูงจะมาถึงแล้วให้รีบขึ้นแพแล้วหนีไปพร้อมกับผู้รอดชีวิตทันที

ดาร์ค วอเตอร์ส(Dark waters)
อาร์เทียมเดินทางมากับแพของคนหาปลาในท่อระบายน้ำจุดหมายที่อาร์เทียมจะไปคือ เทรตยาคอฟสกาย่าหรือที่รู้จักกันในชื่อเวนิสแห่งใต้ดิน เดินทางมาซักพักอาร์เทียมจะพลัดตกจากแพให้ปีนขึ้นกลับขึ้นไป และคอยหมอบหลบสิ่งกีดขวางตามท่อระบายน้ำ เมื่อมาถึงยริเวณที่มีกุ้งกลายพันธุ์ชริมป์ให้หลบการโจมตีของมันที่พ่นสารพิษขึ้นมาบนแพ และคอยยิงกุ้งตัวที่มันเกาะเเพของเรา สุดทางท่อระบายน้ำให้อาร์เทียมส่งลังระเบิดให้ชายหาปลาเราจะทำการจุดชนวนและปิดเส้นทางพวกกลายพันธุ์

เวนิส(Venice)
อาร์เทียมมาถึงเวนิสแห่งใต้ดินเพื่อตรวจเช็คแผนการของพาเวลและคอร์บุต ที่กองทัพแดงเรด ไลน์ต้องการยึดอำนาจและครอบครองเมโทร ในเขตชุมชนคนหาปลาจะมีผู้รอดชีวิตบางส่วนไม่ต้อนรับอาร์เทียม เพราะในชุมชนรู้ดีว่าอาร์เทียมกำลังมีปัญหากับกลุ่มทหารแดง ในชุมชนจะมีร้านค้าให้ซื้อของและอัพเกรดอาวุธ เข้าไปคุยกับคนดูแลชุมชนจากนั้นไปที่บาร์เหล้าของสถานีเวนิส เมื่อเข้ามาในบาร์อาร์เทียมจะพบกับพาเวลให้เดินตามไปแอบดักฟังการสนทนาของเครือข่ายพาเวล

อาร์เทียมจะทราบถึงแผนการโจมตีชุมชนต่างๆด้วยไวรัส รวมถึงรู้สถานที่ออคเทียบราสกาย่า(Oktyabrskaya)ที่กองทัพแดงกำลังจะไปจับเจ้าตัวน้อยดาร์ค วันส์ ให้เราเดินตามพาเวลจนออกมานอกชุมชนหาปลา เราจะอยู่ในส่วนพื้นที่ของเครือข่ายพาเวลให้กำจัดศัตรูรอบๆบริเวณให้แล้วเข้าประตูสุดทาง พอเข้าประตูมาจะพบพาเวลดักรออาร์เทียมอยู่แต่อาร์เทียมเจ็บแล้วจำจึงชิงจังหวะใช้โอกาสให้ได้เปรียบพาเวล แต่ชั้นเชิงของคนในกองทัพแดงยังหนีรอดได้เพราะคนหาปลาเข้ามาขัดจังหวะซ่ะก่อน เดินตามคนหาปลาไปหยิบชุดป้องกันเชื้อโรคแล้วขึ้นบันไดสู่ผิวโลก

มาร์เชส(Marshes)
ในสถานการณ์ตอนนี้อาร์เทียมต้องแจ้งข้อมูลต่อหน่วยเรนเจอร์ส เรื่องแผนการของกองทัพแดงเรด ไลน์ในการครอบครองอำนาจในเมโทร และอาร์เทียมเองยังมีภาระกิจสำคัญอีกเรื่องคือชิงตัวดาร์ค วันส์ ก่อนที่พวกพาเวลจะได้ตัวหนูน้อยดาร์ค วันส์ตัวนี้ไปสร้างความเสียหายอีกมากมาย คนหาปลาจะมาส่งอาร์เทียมที่บริเวณผิวโลกบึงทุ่งร้างให้ใช้เข็มทิศแผนที่ในการเดินทางไปหาหน่วยเรนเจอร์ส ให้อาร์เทียมเดินไปตามเส้นทางแต่ต้องระมัดระวังเรื่องการหล่นตกบึง

กำจัดกุ้งกลายพันธุ์ที่คอยก่อกวนเราตามเส้นทาง เราจะพบเครื่องปั่นไฟสายพานสลิงลากแพแต่ไม่มีเชื้อเพลิง น้ำมันเชื้อเพลิงจะอยู่อีกฟากในซากเครื่องบินโดยสารให้ไปเก็บมาเติมเครื่องปั่นไฟ กดสตาร์ทเครื่องอีกครั้งและรอแพตามสายพานมารับจากอีกด้าน จะมีบอสกุ้งชริมป์ยักษ์ออกมาโจมตีอาร์เทียม ให้ยิงดักต้านไปเรื่อยๆซักพักกุ้งยักษ์จะมุดน้ำหนีไป

เชิร์ช(Church)
เมื่อสายพานสลิงแพมาถึงจุดหมายให้อาร์เทียมมุ่งหน้าไปที่โบสถ์ที่หน่วยเรนเจอร์สอยู่ที่นั่น เส้นทางจะมืดซับซ้อนและอาจทำให้อาร์เทียมตกบึงได้ให้ใช้ความระมัดระวังให้มาก ตามเส้นทางจะมีทั้งวอทเชอร์เเละกุ้งกลายพันธ์เยอะแยะแต่มันจะสู้กันเองด้วย ถ้าเลี่ยงการต่อสู้ได้ให้เลี่ยงเลย เพราะฟิลเตอร์ของหน้ากากป้องกันเราเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีจำกัดมากกว่า

หน้าทางเข้าโบสถ์จะพบหน่วยเรนเจอร์สให้เดินข้ามท่อนไม้เล็กๆไป แต่อาร์เทียมจะโดนบอสกุ้งกลายพันธุ์มาขัดขวางก่อน วิธีกำจัดบอสกุ้งมันมีแขนที่คอยชูเพื่อป้องกันกระสุนที่เรายิง การโยนระเบิดใส่เพื่อให้แขนกุ้งยักษ์มันตกและยิงต่อเนื่องจะเป็นวิธีที่ได้ผลที่สุด เมื่อกำจัดกุ้งยักษ์ได้แล้วรอให้หน่วยเรนเจอร์สทำท่อนไม้สะพานข้ามเข้าไปในโบสถ์อีกครั้ง

ธรู เฮลล์(Through hell)
หลังจากที่อาร์เทียมพบกับหน่วยเรนเจอร์สและแอนนา ตอนนี้แอนนาเริ่มมีทัศนคติต่ออาร์เทียมในทางที่ดีขึ้น ในโบสถ์จะมีร้านค้าขายไอเท็มและอัพเกรดอาวุธแนะนำให้ซื้อปืนการร๊าช(Kalash 2012)และเตรียมตัวให้ดี จากนั้นเดินตามแอนนาไปที่ประตูโบสถ์จะได้ยินเสียงจากคนข้างนอกกำลังทำอะไรซักอย่าง ก่อนที่เลสนิตสกี้อดีตหน่วยเรนเจอร์สที่พาทหารแดงเรด ไลน์บุกเข้าโจมตีแคมป์ของแอนนา และเลสนิตสกี้ยังได้จับตัวแอนนาไปอีกด้วย

เมื่ออาร์เทียมได้สติจากแรงระเบิดให้เดินลงชั้นใต้ดินของโบสถ์ อาร์เทียมจะเห็นดวงวิญญาณมากมายที่ได้ติดอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ลงชั้นใต้ดินด้วยกระเช้าจะมีโนซาไลส์ออกมาเกาะกระเช้าให้คอยยิงต้านไว้จนกว่าอาร์เทียมจะกระโดดออกมา พอออกมาจากกระเช้าให้ไปตามจุดหมายในแผนที่หมุนกลไกแผงไม้กั้นเข้ามาอีกด้านนึง บริเวณที่อาร์เทียมอยู่ตอนนี้จะมีฝูงโนซาไลส์มากมาย ให้ฝ่าโนซาไลส์ไปจนถึงลิฟต์ระบบพลังงานน้ำกดปุ่มและรอลิฟต์ กำจัดโนซาไลส์ที่ออกมาไปเรื่อยๆเมื่อลิฟต์มาถึงให้รีบขึ้นไปด้านบน

ออกมาจากลิฟต์ไม่ไกลมากจะพบสะพานไม้และบอสโนซาไลส์ ไรโน่ ทั้งไรโน่และอาร์เทียมจะร่วงตกจากสะพาน วิธีการสู้กับไรโน่ให้ล่อไรโน่วิ่งพุ่งชนเสาหินค้ำทั่วๆห้องให้หมด จากนั้นมันจะพุ่งชนกำแพงหนีไปตั้งหลักให้ตามเข้าไปด้านในจะต้องสู้กับมันอีกครั้ง ในการสู้กับไรโน่รอบที่สองก็ใช้วิธีเดิมเพิ่มเติมคือคอยระวังโนซาไลส์ตัวเล็กที่ออกมาเรื่อยๆ หลังจากเสาค้ำยันในห้องที่สองโดนทำลายหมดไรโน่จะบาดเจ็บอย่างหนักจนตาย และเพดานที่กักเก็บน้ำจะถล่มลงมาพัดเอาอาร์เทียมลงไปตามเส้นทางใต้ดินอีก



ธรู ไฟเออร์(Through fier)
หลังจากโดนน้ำพัดมาอาร์เทียมจะฟื้นขึ้นมาบริเวณแถวๆสถานีออคเทียบราสกาย่าพอดี สิ่งที่อาร์เทียมรู้คือแอนนาและดาร์ค วันส์ตอนนี้ทหารเเดงกำลังให้เลสนิตสกี้สะสางปัญหาอยู่ เมื่อบังคับตัวละครได้ให้อาร์เทียมเข้าไปในอาคารสุดอุโมงค์ใต้ดิน ปีนขึ้นท่อระบายอากาศเราจะเห็นแอนนาโดนจับเป็นเชลย และเห็นพลเรือนที่ติดเชื้อโรคระบาดโดนทหารแดงเรด ไลน์ฆ่าทิ้ง ลงมาจากท่อระบายอากาศกำจัดกองทัพแดงหยิบกล้องมองกลางคืนไนท์วิชั่น เดินออกมายังอุโมงค์รางรถไฟจัดการทหารแดงรอบๆที่กำลังตรึงสถานีอยู่เข้าประตูสีแดงสุดทาง

เมื่อผ่านประตูเข้ามาแล้วให้สวมหน้ากากป้องกันกัมมันตภาพรังสี ตอนนี้พวกทหารแดงกำลังเก็บกวาดเผาทำลายเชื้อโรคในสถานี ให้เราฝ่ากองทัพแดงตามเส้นทางจนพบทางลงไปแอบศัตรูที่ด้านล่างรางรถไฟ มุดแอบมาอีกฟากนึงขึ้นไปจัดการกองทัพเรด ไลน์ตามจุดหมายให้หมดและเข้าประตูที่ออกจากสถานี เมื่อออกมาอาร์เทียมจะเจอกับแอนนาที่โดนคุมตัวอยู่ให้รีบช่วยเธอ แต่อาร์เทียมจะถูกตอบโต้จนหน้ากากเสียหายให้รีบขึ้นบันไดเลื่อนไปที่สถานีของกลุ่มฮานซ่า อาร์เทียมจะได้รับการช่วยเหลือและพบข่านอีกครั้ง

แอพพิเดมิก(Epidemic)
สถานที่นี้คือศูนย์การแพทย์ของกลุ่มฮานซ่าและต้องเป็นศูนย์กักกันโรคระบาดอย่างเร่งด่วน จากเชื้อโรคระบาดที่เกิดกับพลเรือนรอบๆสถานีออคเทียบราสกาย่า หลังจากพักฟื้นอาร์เทียมและแอนนาจะโดนตรวจหาเชื้อโรคแต่ทั้งคู่จะปลอดเชื้อ(และได้ครอบครองคู่ชีวิตร่วมกัน) สถานการณ์ในเวลานี้กองทัพแดงเรด ไลน์ได้ปล่อยเชื้อโรคอีโบล่าไปตามสถานีต่างๆ สิ่งที่เรด ไลน์กระทำคือการสร้างสงครามด้วยการแพร่อาวุธชีวภาพกับกลุ่มศัตรูของตนเอง

เมื่อบังคับตัวละครได้ให้เดินตามหมอออกจากศูนย์กักกันไปพบข่านที่ด้านในสถานี ข่านกำลังติดตามข้อมูลดาร์ค วันส์ที่จะมีการซื้อขายกับทหารนาซี(แต่เรารู้แล้วว่าเลสนิตสกี้ก็ไล่ล่าตัวเจ้าหนูน้อยดาร์ค วันส์นี้เช่นกัน) ให้เดินตามข่านออกไปด้านนอกสถานีของกลุ่มฮานซ่านี้ทันที ก่อนออกจากสถานีจะมีร้านค้าเตรียมตัวให้พร้อม

เดอะ ริเวอร์ ออฟ เฟท(The river of fate)
อาร์เทียมจะออกเดินทางเพื่อสืบหาเบาะแสเรื่องดาร์ค วันส์กับข่านต่อทันที เส้นทางที่ข่านนำทางอาร์เทียมจะเป็นสถานที่ต้องคำสาปที่มีวิญญาณเร่ร่อนอาศัยอยู่ ส่วนแอนนาซึ่งตอนนี้กลายเป็นภรรยาของอาร์เทียมเรียบร้อยแล้ว ก็ได้แจ้งเรื่องราวแผนการของกลุ่มเรด ไลน์ให้พ่อเธอมิลเลอร์ได้รับทราบ และยังมีเรื่องเรียกประชุมด่วนของผู้นำทุกกลุ่มในเมโทรเกี่ยวกับโรคระบาดและภัยก่อการร้าย
ให้เราบังคับอาร์เทียมเดินตามข่านไปตามจุดหมายในแผนที่เรื่อยๆ ในช่วงสถานีท่อระบายน้ำใหญ่จะมีฝูงโนซาไลส์ออกมาจู่โจมเราให้กำจัดให้หมด สุดทางช่วยข่านเปิดตะแกรงเหล็กมุดท่อระบายน้ำจะมีเส้นทางไปต่อ

ในห้องขนาดใหญ่ที่มีน้ำท่วมขังข่านและอาร์เทียมจะเข้าสู่โลกมิติเหนือธรรมชาติ ทั้งคู่จะอยู่ในนิมิตย้อนอดีตบนยอดตึกที่อาร์เทียมเคยกดปุ่มยิงขีปนาวุธถล่มเผ่าพันธุ์ดาร์ค วันส์ และข่านจะเตือนสติอาร์เทียมอีกครั้งว่าให้แก้ไขในสิ่งที่มนุษย์เคยทำผิดพลาดไป เราจะวาร์ปนิมิตตัวเองมาที่รังของพวกดาร์ค วันส์ให้ตามดาร์ค วันส์ตัวน้อยไปจนสุดทาง และจะวาร์ปนิมิตไปที่ซากรถไฟอีกที ให้วิ่งตามข่านไปเรื่อยๆจะเจอดาร์ค วันส์ตัวที่เราเริ่มออกล่าเมื่อต้นเกม แล้วทั้งอาร์เทียมและข่านจะกลับไปสู่โลกมิติปกติ
เมื่อกลับมาที่ห้องน้ำท่วมขังตามข่านออกไปทางอุโมงค์รถไฟ จะพบการโจมตีกลุ่มฮานซ่าจากทหารแดง ที่มาเอาตัวดาร์ค วันส์ไป

ให้เรารีบขึ้นรถรางไปกับข่านเพื่อชิงเจ้าตัวน้อยดาร์ค วันส์กลับคืนมา...

เทรน ทู เดอะ ฟิวเจอร์(Train to the future)
อาร์เทียมที่ผ่านมาตัวเขาเองนั้นไม่ค่อยศรัทธาเกี่ยวกับเรื่องเหล่าดาร์ค วันส์ของข่าน เขาเห็นเพียงว่าข่านเป็นพวกทหารมีวิชาอาคมพูดจาแปลกๆ แต่ในนิมิตต่างโลกที่ทั้งคู่ผ่านมาอาร์เทียมกลับเชื่อสนิทใจว่าข่านเตือนเขาได้อย่างถูกต้อง เพราะหลังจากเหตุการณ์ยิงขีวปนาวุธอาร์เทียมก็เริ่มฝันร้ายและรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดในชีวิต ภาระกิจใหม่ของอาร์เทียมขณะนี้คือชิงตัวดาร์ค วันส์คืนมาจากฝ่ายคอมมิวนิสต์เรด ไลน์ให้ทันเวลา

อาร์เทียมและข่านจะขับรถรางไล่ตามขบวนรถไฟทหารแดงที่เอาตัวดาร์ค วันส์ไป เราจะได้ยินเสียงรถไฟพร้อมกับรถรางของทหารแดงให้ยิงจัดการรถรางของศัตรูให้หมด รวมถึงทหารแดงบนโบกี้รถไฟด้วย จากนั้นข่านจะขับรถรางประชิดรถไฟของทหารแดงให้อาร์เทียมกระโดดขึ้นไป เมื่อขึ้นมาบนรถไฟให้อาร์เทียมฝ่าศัตรูไปจนถึงโบกี้ด้านในสุดของขบวนรถไฟ รถไฟจะเกิดระเบิดและตกรางจากการที่พวกข่านและอาร์เทียมบุกโจมตีขึ้นมา

หลังจากที่รถไฟตกรางกรงที่ขังดาร์ค วันส์ตัวเล็กได้เปิดออก ดาร์ค วันส์ตัวเล็กนั้นได้สัมผัสร่างกายของอาร์เทียมทำให้อาร์เทียมเห็นนิมิตในวัยเด็กของเขาอีกครั้ง ในตอนที่อาร์เทียมเป็นเด็กเเล้วเคยเกือบโดนมิวแทนต์เข้าทำร้าย แต่ได้มีดาร์ค วันส์ตัวนึงมาช่วยได้ทัน ดาร์ค วันส์ตัวนั้นเป็นสิ่งที่มีวิวัฒนาการชั้นสูงหลังสงครามนิวเคลียร์ตัวแรก ที่ได้สัมผัสถึงความเป็นมนุษย์โลก และมนุษย์คนแรกที่มีปฏิสัมพันธ์กับเหล่าดาร์ค วันส์ก็คือ"อาร์เทียม" พออาร์เทียมได้สติจะเห็นดาร์ค วันส์ตัวเล็กสลบอยู่ เขาจะอุ้มดาร์ค วันส์ออกจากรถไฟที่กำลังเสียหายอย่างหนัก

ไชลด์(Child)
ความรู้สึกของอาร์เทียมหลังจากย้อนระลึกในสมัยตอนเป็นเด็กจากนิมิตได้ อาร์เทียมเริ่มรู้สึกต้องการชำระล้างความผิดพลาดที่เคยกระทำต่อเผ่าพันธุ์ดาร์ค วันส์ตัวเล็กนี้ เมื่อบังคับอาร์เทียมได้ให้อุ้มดาร์ค วันส์ตัวเล็กออกมาจากอุโมงค์รถไฟ ทั้งคู่จะเริ่มมีการสื่อสารและพูดคุยกันอย่างเป็นมิตร ให้เราไปที่เป้าหมายในแผนที่โดยเราจะต้องฝ่าฝูงวอทเชอร์มากมาย

ในขณะเดินทางเจ้าดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะให้สกิลความสามารถพิเศษช่วยอาร์เทียมสำรวจพื้นที่ ในการเห็นพิกัดตำแหน่งของมิวแทนต์คล้ายชๆกล้องตรวจสอบความร้อนของทหารชชเข้าไปในอาคารออกมาอีกฝั่งหนึ่งผ่านซากโบกี้รถไฟที่จะตกลงแม่น้ำ ผ่านซากเรือกลางแม่น้ำปีนขึ้นบันไดไปที่สะพานชานชาลาสถานีรถไฟ

บริดจ์(Bridge)
อาร์เทียมกำลังเดินทางกลับไปที่สถานีโพลิสด้วยความช่วยเหลือจากดาร์ค วันส์ตัวเล็ก ทั้งสองคนต้องร่วมมืออาศัยซึ่งกันและกันไปโดยปริยาย เเละทั้งคู่ต้องการจะบอกความจริงกับผู้รอดชีวิตในเมโทรทุกคน ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มาจากเรื่องอำนาจผลประโยชน์ ในช่วงที่ผู้นำของกลุ่มต่างๆกำลังจะมีการประชุมเพื่อหาทางแก้ปัญหาแต่นั่นคือแผนลวงเท่านั้น

ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะคอยเตือนอาร์เทียมเรื่องมิวแทนต์ตลอดเส้นทาง พร้อมให้ความสามารถพิเศษในการมองเห็นตำแหน่งของศัตรูตามจุดต่างๆ ฝ่าฝูงโนซาไลส์ขึ้นไปด้านบนสุดของสะพานสถานีรถไฟ จะมีเชือกที่โหนสลิงให้อาร์เทียมโหนไปอีกฝั่งแต่เดม่อนจะเข้ามาจู่โจมใส่อาร์เทียมซ่ะก่อน ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะช่วยอาร์เทียมเบี่ยงเบนล่อให้เดม่อนบินไปทางอื่น จากนั้นเข้าไปในอาคารตามจุดเป้าหมายเราจะออกไปที่อุโมงค์รถไฟ

โร้ด ฟอร์ ทู(Road for two)
เมื่อบังคับตัวละครได้ให้อาร์เทียมเดินไปสุดอุโมงค์จะเจอโกดังร้างกว้างๆ ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะบอกเราว่า"ที่นี่มีสิ่งมีชีวิตแต่ไม่ใช่ศัตรู" ให้เข้าประตูโกดังจะพบผู้รอดชีวิตและมีร้านค้าอัพเกรดอาวุธ จากนั้นขึ้นบันไดข้ามไปอีกฝั่งของโกดังจะมีกองกำลังที่เข้ามาตรวจสอบผู้รอดชีวิตที่ติดเชื้อโรคระบาด จะใช้วิธีลอบเร้นผ่านไปเลยหรือจัดการศัตรูในพื้นที่ ก็อยู่ที่การตัดสินใจแล้วเข้าประตูสุดทาง

พอผ่านประตูมาสวมหน้ากากป้องกันรังสีขึ้นไปด้านบนผ่านกองกำลังไปอีกฝั่งของอาคาร แล้วมุดลงช่องใต้ดินตามดาร์ค วันส์ตัวเล็กขึ้นมาอีกทาง จัดการศัตรูในบริเวณโถงนี้หรือแอบเข้าโถงถัดไป โถงต่อมาศัตรูจะมีอยู่ทั่วเต็มพื้นที่และยังมีดักซุ่มด้านบนอีกทางที่ดีควรจัดการให้หมด จากนั้นขึ้นไปห้องด้านบนของโถงโกดังจะมีเส้นทางประตูออฟฟิศที่ให้เปิดไปต่อ แล้วดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะบอกเราว่า ข้างในออฟฟิศ"คุณรู้จักเขา และเขาก็รู้จักคุณ"

พออาร์เทียมเปิดประตูเข้าไปจะพบเลสนิตสกี้ทหารผู้ทรยศเรนเจอร์สไปร่วมมือกับกลุ่มทหารแดง ขณะที่ทั้งคู่กำลังต่อสู้กันดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะสัมผัสเลสนิตสกี้และเราจะเข้าไปในนิมิตอดีตของเลสนิตสกี้ ในนิมิตของเลสนิตสกี้อาร์เทียมได้รู้ว่าเชื้อโรคที่แพร่ระบาดในเมโทร เลสนิตสกี้เป็นคนขโมยเชื้ออาวุธชีวภาพมาจากฐาน ดี6 มาให้กลุ่มทหารแดงใช้ในการครอบครองอำนาจตามแผนที่วางเอาไว้ และเลสนิตสกี้ยังมีความปรารถนาในตัวแอนนาอีกด้วย

เมื่ออาร์เทียมได้สติเลสนิตสกี้จะยังคงไม่ฟื้นเนื่องจากโดนความสามารถของดาร์ค วันส์ควบคุมอยู่ ตอนนี้เราจะเลือกสังหารหรือแค่ทำให้เลสนิตสกี้หมดความสามารถล้างความทรงจำเขาก็อยู่ที่การตัดสินใจ จากนั้นออกไปทางด้านหลังของโกดัง

ซิตี้ ออฟ แฟนท่อมส์(City of phantoms)
หลังจากที่อาร์เทียมเข้าปะทะกับเลสนิตสกี้และได้เห็นความทรงจำของเขา อาร์เทียมจะรู้ว่ากองกำลังอีกกลุ่มของพาเวลเตรียมความพร้อมอยู่ที่เรด สแควร์ ให้เราเดินทางผ่านชุมชนร้างไปตามจุดหมายของแผนที่บริเวณนี้จะมีศัตรูไม่มาก แต่จะมีภาพความทรงจำเหตุการณ์ของสงครามนิวเคลียร์แทรกมาในหัวอาร์เทียมตลอดเวลา

เมื่อมาถึงบริเวณที่มีเสียงปืนดังยิงไล่ฝูงวอทเชอร์จะมีบันไดติดผนังอาคารให้ปีนขึ้นไป เข้าไปในตัวอาคารแล้วหาทางลงมาที่ชั้นล่างสุด ตามดาร์ค วันส์ตัวเล็กไปจะพบสถานีรถไฟเข้าไปด้านในมุดท่อที่สุดทาง

เรด สแควร์(Red square)
เส้นทางกลับไปที่สถานีโพลิสของอาร์เทียมจำเป็นต้องผ่านเรด สแควร์ ซึ่งเป็นค่ายฐานที่มั่นของกองกำลังพาเวลในขณะนี้ เมื่อบังคับตัวละครได้ไปตามเป้าหมายดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะเตือนเราว่าพื้นที่บริเวณนี้อันตราย ตามเส้นทางจะมีฝูงวอทเชอร์ให้ระมัดระวัง แล้วเราจะพบพายุกัมมันตภาพรังสีที่รุนแรง ให้หลบพายุตามจุดที่ดาร์ค วันส์หลบและเคลื่อนที่ตอนดาร์ค วันส์ให้สัญญาณ ผ่านไปถึงทางระบายน้ำขนาดใหญ่ให้มุดท่อระบายน้ำช่องเล็ก อาร์เทียมจะโดนมิติบาปความแค้นดึงลงจิตใต้สำนึก แต่ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะมาช่วยนำทางเราออกไป

เดินทางไปตามแผนที่ต่ออาร์เทียมจะพบค่ายของกองกำลังพาเวล จะมีทหารแดงทั้งด้านบนตึกและด้านล่างเต็มพื้นที่รอต้อนรับอยู่ ให้หลบการโจมตีจากด้านบนกำจัดศัตรูจากด้านล่างก่อนแล้วค่อยเคลียร์ทหารแดงคนอื่นๆที่เหลือ เข้าไปในอาคารอาร์เทียมจะต้องสู้กับพาเวลสองต่อสองให้ยิงพาเวลขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆ พาเวลจะบาดเจ็บหนักหลังจากปะทะกับอาร์เทียม ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะสัมผัสพาเวลเพื่อให้เห็นนิมิตในอดีต ที่กลุ่มทหารแดงเรด ไลน์ต้องการยึดอำนาจในเมโทรให้กลับมายยิ่งใหญ่อีกครั้ง ช่วยพาเวลออกมาจากบาปความแค้นในนิมิต เมื่ออาร์เทียมได้สติเดินลงจากอาคารไปสถานีโพลิสต่อ

เดอะ การ์เด้น(The garden)
ในขณะนี้ที่สถานีโพลิสกำลังมีการประชุมของผู้นำกลุ่มต่างๆในเมโทร เพื่อหาทางแก้ปัญหาเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายและเชื้อโรคระบาดในหลายๆสถานีทั่วเมโทร และจะมีการลงนามในข้อตกลงสนธิสัญญาสงบสุขซึ่งเป็นแผนการของกลุ่มเรด ไลน์ ตอนนี้อาร์เทียมจำเป็นต้องรีบไปเตือนผู้นำของทุกกลุ่มอย่าได้สนับสนุนกลุ่มฝ่ายกองทัพแดงคอมมิวนิสต์
เมื่อบังคับตัวละครได้ให้ฝ่าฝูงวอทเชอร์และกุ้งกลายพันธุ์ไปที่จุดเป้าหมายตามแผนที่ ถ้าเลี่ยงการโจมตีได้ก็เลี่ยงเลยกำจัดเฉพาะศัตรูตัวที่จู่โจมอาร์เทียมเท่านั้น

มุดโพรงต้นไม้อาร์เทียมจะเห็นหมีกลายพันธุ์ขนาดใหญ่(Bear)ให้ตามมันออกไปตรงลานกว้างๆ อาร์เทียมจะต้องสู้กับบอสหมียักษ์เมื่อยิงสู้ไปซักพักฝูงวอทเชอร์ะออกมาช่วยรุมบอสหมี ให้เรารอจังหวะที่บอสหมีโดนวอทเชอร์รุมเราจะเห็นจุดอ่อนที่หลังหมียักษ์ให้โจมตีตรงนั้นไปเรื่อยๆ แล้วบอสหมีจะโดนวอทเชอร์รุมจนตาย จากนั้นไปตามเส้นทางต่อมุดโพรงต้นไม้อีกต้นแล้วขึ้นไปด้านบน อาร์เทียมจะพบทางเข้าสถานีโพลิสและหน่วยเรนเจอร์สที่มีข่านและพ่อตา(มิลเลอร์)รออาร์เทียมอยู่

เมื่ออาร์เทียมกลับโพลิสดาร์ค วันส์ตัวเล็กที่มาด้วยกับอาร์เทียมได้แปลงร่างตัวเองเป็นเด็กมนุษย์ พอมิลเลอร์สอบถามว่าเด็กคนนี้เป็นใครดาร์ค วันส์ตัวเล็กจึงได้ปรากฏเผยโฉมที่แท้จริง ขณะนั้นมิลเลอร์กำลังเตรียมพร้อมที่จะสังหารดาร์ค วันส์ตัวเล็กแต่ข่านขอร้องให้มิลเลอร์เชื่อใจเขา ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะพาข่านเข้าไปในนิมิตและเห็นเหล่าดาร์ค วันส์อีกหลายตัว ข่านจึงขอร้องดาร์ค วันส์ตัวเล็กว่าให้ช่วยผู้รอดชีวิตในเมโทร ก่อนที่ดาร์ค วันส์ตัวเล็กจะกลับไปอยู่รวมกับเหล่าดาร์ค วันส์ตัวอื่นๆ

เอนฟอร์ซีเม้นท์ ออฟ พีซ(Enforcement of peace)
อาร์เทียม มิลเลอร์ ข่าน และดาร์ค วันส์ตัวเล็กที่แปลงเป็นร่างเด็กมนุษย์ ได้เดินเข้าไปในห้องการประชุมของกลุ่มผู้นำที่นำโดยกลุ่มเรด ไลน์, ฮานซ่า, โฟร์ธ ไรช์ และโพลิส ในการทำสนธิสัญญาสร้างความสงบสุขในเมโทร แต่ข่านกลับยืนชี้หน้าด่ามอสคอวินว่าโกหกในห้องประชุม และดาร์ค วันส์ตัวเล็กได้เดินไปสัมผัสมอสคอวินก่อนเข้าไปในจิตใจของเขา ในนิมิตภาพอดีตของมอสคอวินเขาถูกคอร์บุตคอยชักใยเรื่องให้กลุ่มเรด ไลน์กลับมายิ่งใหญ่ มอสคอวินโดนคอร์บุตปั่นหัวเรื่องครอบครองอำนาจในเมโทรตลอดเวลา จิตใจมอสคอวินทำได้แม้กระทั่งได้สังหารพี่น้องของตัวเอง

เมื่อมอสคอวินกลับออกมาจากนิมิตภาพในอดีตดาร์ค วันส์ตัวเล็กก็ได้ช่วยเขาชำระล้างจิตใจไปด้วย มอสคอวินยอมรับในที่ประชุมว่าการลงนามในสนธิสัญญาครั้งนี้เป็นแค่แผนส่วนหนึ่งของการยึดอำนาจเมโทร ที่มีคอร์บุตเป็นคนวางแผนทั้งเรื่องปล่อยเชื้อโรคระบาด ก่อความไม่สงบเรื่องวุ่นวายต่างๆ รวมถึงการยึดฐานหลบภัย ดี6 เพื่อชิงทรัพยากรทางทหารในการครองอำนาจจากหน่วยเรนเจอร์ส มิลเลอร์ที่ได้ยินความจริงจากปากผู้นำฝ่ายคอมมิวนิสต์อย่างชัดเจนแล้ว เขาไม่รอช้ารีบนำหน่วยเรนเจอร์สทั้งหมดไปที่ฐาน ดี6 เพื่อรับมือกับกองทัพแดงที่คอร์บุตเตรียมกองทัพใหญ่มายึดครอง

เดอะ ลาสต์ แบทเทิล(The last battle)
มิลเลอร์จะนำหน่วยเรนเจอร์สที่เหลือไปคุ้มกันฐาน ดี6 ที่กลุ่มคอร์บุตกำลังมายึดฐานนี้ ตอนนี้ดาร์ค วันส์ตัวเล็กเขากลับไปอยู่กับครอบครัวแล้ว หลังจากที่ดาร์ค วันส์ได้ช่วยข่านให้ทุกคนได้ทราบความจริงของแผนคอร์บุต และนี่ไม่ใช่สงครามของเจ้าตัวเล็กที่ให้สัญญาไว้มนุษย์จึงต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เมื่อบังคับตัวละครได้เดินเข้าไปตรงที่ประชุมของหน่วยเรนเจอร์สมิลเลอร์สจะพูดกระตุ้นปลุกใจทหารเรนเจอร์ส

จากนั้นให้อาร์เทียมเข้าประจำจุดที่แผงป้องกันแล้วขบวนรถไฟกองทัพแดงจะบุกมาด้านหน้า ยิงต้านป้องกันจนอาร์เทียมบาดเจ็บแล้วเราจะล่าถอย ยิงต่อสู้ไปอีกซักพักขบวนรถไฟพร้อมป้อมปืนจะมาจากอีกฝั่งหนึ่ง ให้เราเล็งยิงที่ล้อรางรถไฟจนพังกระเด็นแล้วซ้ำไปที่ป้อมปืนจะจัดการรถไฟพร้อมป้อมปืนของศัตรูได้ เข้าไปหลบในบังเกอร์รับมือทหารเกราะหนักอีกชุดใหญ่ พร้อมกับโยนระเบิดใส่หน่วยโล่เหล็กมีมากับปืนไฟไปเรื่อยๆจะสามารถเคลียร์ศัตรูได้สำเร็จ แต่กองทัพแดงยังไม่หมดคอร์บุตยังเอารถไฟอีกขบวนฝ่าบังเกอร์ที่เราและมิลเลอร์กำลังตรึงกำลัง

***ฉากจบมีทั้งหมด 2 แบบจะเเตกต่างกันด้วยตามการตัดสินใจของผู้เล่นตั้งแต่ช่วงต้นเกม เช่นเลือกไม่สังหารศัตรูหรือเก็บข้อมูลทุกส่วนของเกมได้สมบูรณ์

แบดเอ็นดิ้ง= ในขณะที่กองทัพแดงโจมตีหน่วยเรนเจอร์สจนเข้าจนมุม คอร์บุตได้เดินเข้าไปหามิลเลอร์ที่กำลังบาดเจ็บสาหัสเพื่อซ้ำเติมพวกเรนเจอร์สที่กำลังจะเเพ้ แต่มิลเลอร์สั่งอาร์เทียมให้ใช้แผนสำรอง อาร์เทียมจึงเอื้อมมือไปที่คันสวิตช์ชนวนระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้ทั่วฐาน และเขาได้สับสวิตช์ระเบิดทำลายฐาน ดี6 ที่มีทั้งพวกกลุ่มกองทัพแดงเรด ไลน์และหน่วยเรนเจอร์สจนราบคาบ

ภาพในเกมจะตัดมาที่แอนนากำลังนั่งคุยกับลูกน้อยที่พ่อของเขาอาร์เทียม ไม่มีโอกาสได้พบกับทายาทตัวน้อยของตนเอง แอนนาจะเล่าถึงความกล้าหาญของอาร์เทียมให้ลูกฟัง และบอกว่าเพื่อนของอาร์เทียมดาร์ค วันส์ตัวเล็กซักวันจะกลับมาช่วยผู้รอดชีวิตในเมโทร ตามคำสัญญาที่ดาร์ค วันส์ตัวเล็กให้ไว้กับอาร์เทียมก่อนเสียชีวิต... ฉากจบแบบไม่สมบูรณ์***

กู๊ดเอ็นดิ้ง= ในขณะที่กองทัพแดงโจมตีหน่วยเรนเจอร์สจนเข้าจนมุม คอร์บุตได้เดินเข้าไปหามิลเลอร์ที่กำลังบาดเจ็บสาหัสเพื่อซ้ำเติมพวกเรนเจอร์สที่กำลังจะเเพ้ แต่มิลเลอร์สั่งอาร์เทียมให้ใช้แผนสำรอง อาร์เทียมจึงเอื้อมมือไปที่คันสวิตช์ชนวนระเบิดที่ติดตั้งเอาไว้ทั่วฐาน เพื่อที่จะได้ยุติสงครามทั้งหมดในฐาน ดี6 แห่งนี้ แต่ดาร์ค วันส์ตัวเล็กกลับมาหาอาร์เทียมได้ห้ามเขาสับสวิตช์และบอกอาร์เทียมว่าพักได้แล้ว ก่อนที่เหล่าดาร์ค วันส์ตัวอื่นๆจะเริ่มเข้าครอบงำจิตใจของทหารกองทัพแดงเรด ไลน์ และสุดท้ายพรรคพวกคอร์บุตกับกองทัพแดงได้พ่ายแพ้ไปในที่สุด

ตอนนี้มิลเลอร์สามารถเอาชนะกองทัพแดงเรด ไลน์ที่มีมากกว่าหน่วยเรนเจอร์สได้สำเร็จ และมิลเลอร์ยังได้ปกป้องควบคุมระบบทั้งเมโทรให้ผู้รอดชีวิตที่เหลือยังปลอดภัย แม้ตัวเขาเองจะต้องสูญเสียขาจากการต่อสู้ไป ข่านหลังจากที่ได้ต่อสู้ร่วมชะตากรรมกับอาร์เทียมก็ไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย ส่วนดาร์ค วันส์ตัวเล็กได้กลับไปอยู่กับเหล่าฝูงครอบครัวของตัวเอง พร้อมกับสัญญากับอาร์เทียมว่าเขาจะกลับมาช่วยฟื้นฟูมนุษยชาติอีกครั้ง ตอนนี้อาร์เทียมรู้สึกได้แก้ไขความผิดพลาดตัวเองเมื่อ 1 ปีที่แล้ว และอาร์เทียมเริ่มคิดว่าบางทีเหล่าดาร์ค วันส์คือกุญแจสำคัญของเผ่าพันธุ์มนุษย์บนโลกนี้... ฉากจบแบบสมบูรณ์
ติดตามต่อใน"เมโทร: เอ็กโซดัส"




ข้อมูลและอ้างอิงจาก: แบไต๋ดอทคอม, วิกิพีเดีย และ แฟนด้อมดอทคอม