มีใครเป็นเหมือนผมบ้างครับ พอแก่แล้ว รู้สึกว่าจะเล่นเกม HandHeld ไม่ได้ละ
เล่าเรื่อง : วันนี้มาชวนคุยเฉยๆครับผม เพราะว่าเนื่องด้วยว่า ผมคิดที่จะอยากซื้อ Switch ขึ้นมาละ เพราะเตรียมเอามาเล่น Yoshi กับ โปเกม่อน (เผื่อว่าซักวันจะมีให้ซื้อ-3-) แต่ทีนี้พอมานั่งคิดว่าเราจะได้เครื่องคอนโซลที่มัน Hybrid เนี่ย ไลฟ์สไตล์ปัจจุบันของเราพร้อมที่จะเล่นSwitch แบบ Handheld ได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยไหม....
พอมาดูจากอดีตของตัวผมเองแล้วคำตอบกลับเป็น"ไม่" แฮะ
เพราะอะไร ?
ต้องเล่าก่อนนะครับว่าตั้งแต่สมัยเกมบอยมาเนี่ย ตัวผมเองสมัยเด็กๆ ก็ได้ซื้อ เครื่องเกม Handheld มาทุกเกมเลย ตั้งแต่สมัย Gameboy ds 3ds pvp vita นี่มีทุกเครื่อง ซึ่งผมมารู้สึกว่า สมัยช่วง Handheld ยุคสุดท้าย 3ds กับ vita นี่ตัวผมเองกลับไม่เอนจอยกับเครื่องสองเครื่องนี้อย่างที่เคยเอนจอยกับเครื่อง Handheld ยุคแรกๆ ทั้งๆที่เอาจริงๆเกมในยุค vita กับ 3ds ก็มีเยอะพอสมควร โดยสาเหตุที่ผมรู้สึกไม่เอนจอยกับสองเครื่องนี้นั้นพอผมมานั่งคิดๆกันแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลดังต่อไปนี้
1.ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ต้องบอกว่าตอนช่วง 3ds กับ vita ออกมานั้น ออกมาในช่วง 6 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นผมก็เรียนจบแล้วกำลังอยู่่ในช่วงเริ่มต้นการทำงานซึ่งการทำงานของผมนั้นก็เป็นการทำงานนั่งโต๊ะ ต้องออกจากบ้าน เจ็ดโมงเช้า ขับรถกลับบ้าน ห้าโมงเย็น ทำให้ปกติเวลาว่าง ในการเล่นเกมนอกบ้านของผมน้อยลงไปอย่างมาก โอเค บางทีที่ทำงานผมก็อยากเล่นเกมชิลๆขำๆบ้าง (เป็นคนติดเกมรู้ตัว-3-) แต่ว่าถ้าสมมุติจะเล่นเกมจริงจังผมจะแอบเล่นในโน๊ตบุ๊คที่ใช้ทำงานแทนมากกว่าที่จะหยิบเครื่องเกมออกมาเล่น ซึ่งดูน่าเกลียดกว่า.....(จริงๆก็น่าเกลียดทั้งสองแบบแหละ แต่เฮ้ อันนึงมันดูจริงจังกว่าในการเล่นเกม อันนึงเนียนไปกับการทำงานได้) ทำให้ผมไ่ม่ได้หยิบ 3ds กับ vita ออกมาเล่นที่ทำงานเลย
2.เวลาไปเที่ยวหรือทำอย่างอื่นนอกบ้านผมเล่นเกมแบบจริงจังไม่ได้ เวลาที่นอกเหนือจากการทำงานของผมนั้น เวลาออกไปนอกบ้าน ผมก็จะออกไปกินข้าวบ้าง เดินเที่ยวเล่นบ้าง หรือทำธุระบ้าง ซึ่งเวลาดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่ ผมมักจะไม่มีสมาธิที่จะเล่นเกม แบบจริงจังนอกบ้านได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติเป็นเกมประเภทดาร์คโซลหรือเกมแพลตฟอร์มมิ่งอื่นๆ ที่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล่นสูง ผมไม่สามารถจะเล่นเกมลักษณะนี้ในร้านกาแฟ หรือร้านอาหารนอกบ้านได้ เพราะเกมแบบนี้ผมต้องรวมสมาธิแบบอยู่ที่บ้านเท่านั้น ซึ่งกลายเป็นว่าเกมที่ผมเล่นนั้นจะเป็นเกมแนวชิลๆ ซึ่งเกมแนวชิลๆนั้นจะกลายเป็นเหตุผลที่ข้อที่ 3 ที่จะกล่าวต่อไป
3.การมาของสมาร์ทโฟน ตอนนี้เวลาชิลๆนอกบ้านของผมนั้นกลายเป็นว่าผมติดกับสมาร์ทโฟนมากกว่า โดยเกมในสมาร์ทโฟนนั้นมักจะเป็นเกมกะฉะ หยิบขึ้นมาเล่นแป๊ปๆจบแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ โดยในกรณีของผมนั้น เกมที่เล่นบ่อยใน สมาร์ทโฟนคือ Heartstone (จริงๆมีเกมหลายเกมก่อนหน้านั้น แต่ตอนนี้ที่เล่นอยู่คือเกมนี้) ซึ่งสมาร์ทโฟนนั้นกินเวลาของกิจกรรมยามว่างนอกบ้านของผมหมดเลย ทั้งการเล่นเกม อ่านหนังสือ ตอนนี้จะทำอะไร นอกบ้านชิลๆ ก็ใช้ สมาร์ทโฟนหมด
ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมดนั้น เกมที่ผมเล่น ใน 3ds พวก โปเกม่อน ยอชชี่ BD กับ Vita เดนกันรอนปะสองภาค อันชาร์ท เนปจูเนีย เกมพวกนี้นั้น ผมนั่งเล่นที่โซฟาในบ้าน ข้างๆทีวีหมดเลย แทบไม่ได้เอาไปเล่นนอกบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ตอนนี้ สามดีเอส และ วีต้าจมในฝุ่นอย่างสมบูรณ์ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า เออ ไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนจริงๆเนาะ เล่นเกมนอกบ้านไม่ค่อยได้แล้ว
ปล.ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าผมเล่นเกมเยอะอยู่นะ กลับบ้านไปเล่นเกม Pc ซัก 2 ชม เล่นเกม Ps4 ซัก 2 ชม แล้วค่อยนอน (ยังไม่แต่งงานยังมีเวลาอยู่ ถ้าแต่เวลาอาจจะหดหาย ไว้ถ้าแต่งงานแล้วค่อยมาเล่าประสบการณ์การเล่นเกมอีกที )
ปล.2 แต่ยังไงก็คงซื้อสวิชอยู่ดีซักวัน เอามาเล่่นยอชชี่ หวังว่า ภาคนี้จะไม่ห่วยแบบภาค 3ds นะ
พอมาดูจากอดีตของตัวผมเองแล้วคำตอบกลับเป็น"ไม่" แฮะ
เพราะอะไร ?
ต้องเล่าก่อนนะครับว่าตั้งแต่สมัยเกมบอยมาเนี่ย ตัวผมเองสมัยเด็กๆ ก็ได้ซื้อ เครื่องเกม Handheld มาทุกเกมเลย ตั้งแต่สมัย Gameboy ds 3ds pvp vita นี่มีทุกเครื่อง ซึ่งผมมารู้สึกว่า สมัยช่วง Handheld ยุคสุดท้าย 3ds กับ vita นี่ตัวผมเองกลับไม่เอนจอยกับเครื่องสองเครื่องนี้อย่างที่เคยเอนจอยกับเครื่อง Handheld ยุคแรกๆ ทั้งๆที่เอาจริงๆเกมในยุค vita กับ 3ds ก็มีเยอะพอสมควร โดยสาเหตุที่ผมรู้สึกไม่เอนจอยกับสองเครื่องนี้นั้นพอผมมานั่งคิดๆกันแล้วรู้สึกว่ามีเหตุผลดังต่อไปนี้
1.ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ต้องบอกว่าตอนช่วง 3ds กับ vita ออกมานั้น ออกมาในช่วง 6 ปีก่อน ซึ่งตอนนั้นผมก็เรียนจบแล้วกำลังอยู่่ในช่วงเริ่มต้นการทำงานซึ่งการทำงานของผมนั้นก็เป็นการทำงานนั่งโต๊ะ ต้องออกจากบ้าน เจ็ดโมงเช้า ขับรถกลับบ้าน ห้าโมงเย็น ทำให้ปกติเวลาว่าง ในการเล่นเกมนอกบ้านของผมน้อยลงไปอย่างมาก โอเค บางทีที่ทำงานผมก็อยากเล่นเกมชิลๆขำๆบ้าง (เป็นคนติดเกมรู้ตัว-3-) แต่ว่าถ้าสมมุติจะเล่นเกมจริงจังผมจะแอบเล่นในโน๊ตบุ๊คที่ใช้ทำงานแทนมากกว่าที่จะหยิบเครื่องเกมออกมาเล่น ซึ่งดูน่าเกลียดกว่า.....(จริงๆก็น่าเกลียดทั้งสองแบบแหละ แต่เฮ้ อันนึงมันดูจริงจังกว่าในการเล่นเกม อันนึงเนียนไปกับการทำงานได้) ทำให้ผมไ่ม่ได้หยิบ 3ds กับ vita ออกมาเล่นที่ทำงานเลย
2.เวลาไปเที่ยวหรือทำอย่างอื่นนอกบ้านผมเล่นเกมแบบจริงจังไม่ได้ เวลาที่นอกเหนือจากการทำงานของผมนั้น เวลาออกไปนอกบ้าน ผมก็จะออกไปกินข้าวบ้าง เดินเที่ยวเล่นบ้าง หรือทำธุระบ้าง ซึ่งเวลาดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่ ผมมักจะไม่มีสมาธิที่จะเล่นเกม แบบจริงจังนอกบ้านได้ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมมุติเป็นเกมประเภทดาร์คโซลหรือเกมแพลตฟอร์มมิ่งอื่นๆ ที่ต้องใช้ความแม่นยำในการเล่นสูง ผมไม่สามารถจะเล่นเกมลักษณะนี้ในร้านกาแฟ หรือร้านอาหารนอกบ้านได้ เพราะเกมแบบนี้ผมต้องรวมสมาธิแบบอยู่ที่บ้านเท่านั้น ซึ่งกลายเป็นว่าเกมที่ผมเล่นนั้นจะเป็นเกมแนวชิลๆ ซึ่งเกมแนวชิลๆนั้นจะกลายเป็นเหตุผลที่ข้อที่ 3 ที่จะกล่าวต่อไป
3.การมาของสมาร์ทโฟน ตอนนี้เวลาชิลๆนอกบ้านของผมนั้นกลายเป็นว่าผมติดกับสมาร์ทโฟนมากกว่า โดยเกมในสมาร์ทโฟนนั้นมักจะเป็นเกมกะฉะ หยิบขึ้นมาเล่นแป๊ปๆจบแล้วไปทำอย่างอื่นต่อ โดยในกรณีของผมนั้น เกมที่เล่นบ่อยใน สมาร์ทโฟนคือ Heartstone (จริงๆมีเกมหลายเกมก่อนหน้านั้น แต่ตอนนี้ที่เล่นอยู่คือเกมนี้) ซึ่งสมาร์ทโฟนนั้นกินเวลาของกิจกรรมยามว่างนอกบ้านของผมหมดเลย ทั้งการเล่นเกม อ่านหนังสือ ตอนนี้จะทำอะไร นอกบ้านชิลๆ ก็ใช้ สมาร์ทโฟนหมด
ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมดนั้น เกมที่ผมเล่น ใน 3ds พวก โปเกม่อน ยอชชี่ BD กับ Vita เดนกันรอนปะสองภาค อันชาร์ท เนปจูเนีย เกมพวกนี้นั้น ผมนั่งเล่นที่โซฟาในบ้าน ข้างๆทีวีหมดเลย แทบไม่ได้เอาไปเล่นนอกบ้านเลยแม้แต่นิดเดียว ทำให้ตอนนี้ สามดีเอส และ วีต้าจมในฝุ่นอย่างสมบูรณ์ ก็เลยทำให้รู้สึกว่า เออ ไลฟ์สไตล์เราเปลี่ยนจริงๆเนาะ เล่นเกมนอกบ้านไม่ค่อยได้แล้ว
ปล.ตอนนี้ผมก็ยังคิดว่าผมเล่นเกมเยอะอยู่นะ กลับบ้านไปเล่นเกม Pc ซัก 2 ชม เล่นเกม Ps4 ซัก 2 ชม แล้วค่อยนอน (ยังไม่แต่งงานยังมีเวลาอยู่ ถ้าแต่เวลาอาจจะหดหาย ไว้ถ้าแต่งงานแล้วค่อยมาเล่าประสบการณ์การเล่นเกมอีกที )
ปล.2 แต่ยังไงก็คงซื้อสวิชอยู่ดีซักวัน เอามาเล่่นยอชชี่ หวังว่า ภาคนี้จะไม่ห่วยแบบภาค 3ds นะ
แสดงความคิดเห็น
อายุ 40 แล้วยังเล่นแต่ handheld อยู่เลย เพราะ TV ที่บ้านลูกเมียยึดไปหมดแล้ว
มีช่วงนึงที่ผมยึดติดว่าเครื่องพกพาต้องไปเล่นข้างนอกเหมือนกัน มันทำให้พลาดเกมดีๆไปเยอะเลย ตอนนี้ตามเล่นแทบไม่ทัน
ส่วน dock นั้นมีไว้แค่เอาไว้ชาร์ต กับเวลาจะออนไลน์เท่านั้น
แล้วเครื่อง PC ที่มีเกมดองไว้ใน steam กับ PS3 ตอนนี้ไมได้แตะแล้ว ยกเว้นเครื่อง Notebook ที่อยู่บนร้าน เอาไว้เปิดเล่น FM เพลินๆ
สำหรับผมได้แยกตัวไกลห่างจากเครื่อง console มานานแล้ว
ผมว่าเป็นไปได้ที่เจ้าของกระทู้รู้สึกคาดหวังกับเกมส์ใหม่ ๆ มากขึ้น เพราะสมัยก่อน ราคาเกมส์อาจจะไม่ได้แพงรึเปล่าครับ
ผมว่าผมกับเจ้าของกระทู้อายุน่าจะประมาณเท่า ๆกัน ทุกวันนี้เล่น HandHeld น้อยลงเพราะสายไม่เเข็งไม่พอ ประกอบกับมีเครื่องใหม่เล่นที่บ้านได้สบาย ๆ ไม่เหมือนตอนวัยรุ่นที่พกเกมส์ไปเล่นกับเพื่อนข้างนอกได้ เพราะสังคมทำงานไม่เหมือนกันเลย
- เวลาเล่นน้อยลงพอมีเวลาพักบ้างก็อยากพักแบบสบายๆคลายเครียดในแบบอื่นๆที่มันง่ายมากกว่าเล่นเกม เช่น นอน, ดูทีวี, เล่นอินเตอร์เน็ต
- ความเครียด ความรับผิดชอบที่มากขึ้นตามวัย อันนี้ผมว่าเป็นทุกคน คนเราโตขึ้น หน้าที่ความรับผิดชอบก็มากขึ้น มีความกังวลมากขึ้น ก็ทำให้เล่นเกมไม่สนุกแล้ว
- รสนิยมเปลี่ยน อันนี้ผมว่ามีส่วนเพราะสมัยเด็กๆ เราชอบเล่นเกม โตมาเราอาจจะชอบแต่งรถ หรือ ให้ความสำคัญกับกิจกรรมอื่นๆมากกว่าแทน
เกมมือถือถ้าไม่นับเกมกาชาก็เล่นแค่ซีรีส์ทนายหัวแหลม
กำลังก้ำๆกึ่งๆว่าจะเล่น lady layton ดีหรือเปล่า