Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
The BFG ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2016-07-23 13:49:35 , Reads (17847), Comments (9) , Source :




ไม่น่าเชื่อเลยว่าผลงานการกำกับของบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อมดฮอลลีวูดอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก และยังเป็นผลงานที่ร่วมมือกับสตูดิโอยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์เป็นครั้งแรก จะเจ๊งในด้านรายได้จากทั่วโลกอย่างเป็นเอกฉันท์เช่นนี้ ด้วยตัวเลขทั่วโลกในเวลานี้รวมกันได้เพียง 67 ล้านเหรียญสหรัฐจากทุนสร้างสูงถึง 140 ล้านเหรียญ



ซึ่งเหตุผลทางด้านรายได้นี้เองอาจเรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เราอยากลองพิสูจน์ผลงานชิ้นนี้ดู ว่าเพราะเหตุใดผลลัพธ์ของวัตถุดิบที่ดีจึงออกมาเป็นเช่นนี้

เมื่อมอง The BFG อย่างผิวเผิน มันดูจะเป็นผลงานแสนธรรมดาของสปีลเบิร์กซึ่งนำเสนอภาพและอารมณ์การผจญภัยของตัวละครหลักไม่แตกต่างจาก Indiana Jones หรือ The Adventures of Tintin แต่มีบางสิ่งใน The Big Friendly Giant นี้ ที่ทำให้ผลงานนี้แตกต่างไปจากผลงานเรื่องอื่นของเขาพอสมควร



สิ่งแรกคือ 'ดิสนีย์' ซึ่งเข้ามาบทบาทสำคัญในการแต่งเติมโปรดักชั่นและซีจีต่างๆให้ยอดเยี่ยม งดงาม อลังการ สมกับเป็นภาพยนตร์ระดับทุนสร้าง 140 ล้านเหรียญสหรัฐได้เป็นอย่างดี

เมื่อนำโปรดักชั่นที่อลังการไปรวมเข้ากับการกำกับที่เต็มไปด้วยลูกเล่น ลูกไม้ และนิสัยขี้เล่นมากมายของสปีลเบิร์ก ในการที่จะทำให้ผู้ชมยิ้มได้ตลอดเวลา ก็ทำให้เรื่องราวการผจญภัยของเด็กหญิงที่แสนธรรมดานี้ กลายเป็นการผจญภัยที่แสนสนุก



เคมีที่เข้ากันได้อย่างลงตัว และตัวละครที่น่าสนใจของ มาร์ค ไรแรนซ์ ผู้รับบทเป็นยักษ์ใจดี กับ รูบี้ บาร์นฮิลล์ ผู้รับบทเป็นเด็กหญิงโซฟี ก็ยิ่งส่งเสริมทำให้การดำเนินเรื่องมีความน่าติดตาม นำมาสู่บทสรุปที่น่าประทับใจทำให้หัวใจเราพองโตขึ้นมาได้เล็กน้อยในท้ายที่สุด

สำหรับสาเหตุที่ทำไม The BFG ถึงได้ประสบความล้มเหลวด้านรายได้ทั่วโลกอย่างเป็นเอกฉันท์ เชื่อว่าน่าจะมีหลากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ตารางฉายที่ไปชน Finding Dory ซึ่งกำลังมาแรงอย่างมาก(แม้จะเจอกันในสัปดาห์ที่สามของ Finding Dory ก็ตาม) แถมก็ยังมีแอนิเมชั่น The Secret Life of Pets ตามมาประกบหลังอีกต่างหาก ทำให้ผลงานที่รูปร่างภายนอกดูแสนจะธรรมดาอย่าง The BFG ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย



อีกหนึ่งเหตุผลที่น่าสนใจก็คือตารางการปะทะกันของภาพยนตร์ทุนสูงอย่าง The BFG, The Legend of Tarzan และภาพยนตร์ทุนต่ำอย่าง The Shallows และ The Purge: Election Year กลับกลายเป็นว่าภาพยนตร์ทุนต่ำเปิดตัวแรงชนิดที่ได้กำไรไปตั้งแต่สัปดาห์แรก ในขณะที่ภาพยนตร์ทุนสูงยังต้องนั่งลุ้นตัวโก่งกันหลายสัปดาห์ติดต่อกัน เช่นเดียวกันกับ The Legend of Tarzan ที่ผ่านทุนสร้างไปได้อย่างฉิวเฉียดในขณะนี้ด้วยตัวเลข 201 ล้านเหรียญสหรัฐจากทุนสร้าง 180 ล้านเหรียญ (รวมค่าโฆษณาและจิปาทะแล้วดีไม่ดีอาจยังติดลบ)

กระแสภาพยนตร์ทุนต่ำที่กำลังมาแรงในขณะนี้ อาจแสดงให้เห็นถึงหลายสิ่งหลายอย่าง เช่นผู้ชมส่วนใหญ่ในขณะนี้ให้ความสำคัญกับทุนสร้างลดลงให้ความสำคัญกับเนื้อหาและความน่าสนใจของภาพยนตร์มากขึ้น หรืออาจมีความเป็นไปได้ว่ากระแสภาพยนตร์ประเภทระทึกขวัญ เขย่าขวัญ กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้เพื่อคลายความเครียด ความกดดัน ท่ามกลางเหตุการณ์การก่อการร้ายหรือเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นแทบจะทุกอาทิตย์บนโลกของเราขณะนี้ ซึ่งแน่นอนว่านี้ยังคงเป็นเพียงการสันนิษฐานที่จำเป็นจะต้องติดตามและสังเกตุอย่างใกล้ชิดกันต่อไป



แต่สิ่งที่แน่นอนสำหรับในตอนนี้คือผลงานที่ค่อนข้างน่าประทับใจอย่าง The BFG ต้องตกเป็นลูกหลงของกระแสภาพยนตร์และกระแสโลกที่แสนโหดร้ายและเดาได้ยากไปอย่างไม่ต้องสงสัย




Final Score: [ 7.5 ]


(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
นี่เรียกว่าบทวิจารณ์?
View all 1 comments >
มันก็บทวิจารณืนะ แต่ถูกใจคนอ่านไหมมันก็แล้วแต่คน
ดูไปกลางๆเรื่องแล้วเผลอหลับเฉยเลย
ปล.อยากให้ สตีเวน สปีลเบิร์ก รีเมค JAWS โดยค่ายหนังดิสนีย์จริงๆ
ผมดูแล้วเหมาะสำหรับพาเด็กไปดู ส่วนผู้ใหญ่อาจมีง่วงบ้างเนื้อเรื่องเรียบง่ายมากๆแต่ก็เต็มไปด้วยจินตนาการความสนุกโดยรวมกลางๆให้ซัก 7 ละกัน
หนังไม่ได้มีจุดที่พีคอะไร อาศัยเดินเรื่องไปเรื่อยๆและใส่จินตนาการและสีสันเข้าไป คนดูจะง่วงก็คงไม่แปลกเท่าไหร่ผมว่า แต่โดยรวมก็ถือว่าสนุกดีครับ ไม่ได้ผิดหวัง แต่หน้าหนังที่ดูเรียบๆแบบนี้จะไปสู้กับหนังยุคใหม่ที่แข่งกันโปรโมตแบบบ้าคลั่งแบบนี้ก็ยากแหละ ถึงจะมีชื่อสปีลเบิร์กติดก็ตาม ซึ่งคนยุคใหม่ๆก็อาจจะไม่ได้สนใจไรมาก
วงการณ์หนัง เกม ธุรกิจ ฯลฯ
หน้าใหม่ๆทำใด้ทั้งกล่องทั้งเงิน
ไม่แปลกหรอกที่เด็กรุ่นใหม่จะเห็นชื่อสปิลเบิร์คแล้วเฉิยๆ
ซึ่งแบบนี้ผมก็ว่าดีนะ
ตอนอ่านวรรณกรรม ของโรอัลดาห์ ช่วงกลางเรื่องแทบวางไม่ลง
ลุ้นตลอด สนุกรองจาก The Witches

พอเป็นหนังเหมือนลุ้นไม่เท่า
หรือแก่เกินไปล่ะหว่า

ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ
"ยักไมมันขี้เหร่จังวะ"
พลอยให้ไม่อยากดูเลย
จริงๆน่าจะทำท้วมนิดน่ารัก คงจะเข้าถึงง่ายกว่า
เด็กไปดูก็บอกว่าหลับเหมือนกัน