ตอนแรกก็สงสัยนะว่าเกมที่ยิ่งใหญ่ถึงระดับนี้ทำไมถึงเปิดตัวด้วยการนับถอยหลังบนเวบไซต์ (ซึ่งจะสงวนไว้สำหรับเกมมือถือ หรือเกมเล็ก ๆ) หนึ่งปีต่อมาพอเข้าใจเหตุผลแล้วว่า เพราะ................
......................เพราะ It is a เกมทุนต่ำนี่เอง
tri-Ace ผู้น่าสงสาร สมัยอดีตกาลนานสิบกว่าปีที่แล้วเจ้าคือหนึ่งในผู้พัฒนาเกม jRPG หลักแสนหลักล้านแท้ ๆ ทำไมเดี๋ยวนี้ได้จับแต่เกมค่าโปรดักชั่นต่ำเตี้ยเรี่ยดิน หรือเกมมือถือเปิดแป๊บเดียวเจ๊งล่ะนี่...โอ...
รีวิวด้วยเวอร์ชั่น PlayStation 4 (PS3 วางจำหน่าย 28 เมษายน)
เริ่มด้วยงานภาพกันก่อน เพราะตรงนี้จะเห็นกันชัดเจนที่สุด
แบน
แต๊ด
แต๋
ho
lee
sheet
กระโดดลงไม่ได้ ต้องไปเดินอ้อม...เสียใจ
...
......
............ชัดมั้ยครับ? กดเปิดภาพแทบใหม่ขยายแบบ 1080p ดูได้ว่าเทกเจอร์อะไรพวกนี้อัพสเกลกันเห็น ๆ จาก PS2 PS3 ถึงระดับไหน ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเกมใหม่นี่บอก Remaster ก็เชื่อได้นะ...
แล้วถ้าลงไปลึกกว่านี้ ก็อาจจะคิดได้ว่าเหมือนเกมอะไรน้าาาาาาาา เจนที่แล้ว ที่ตัวเอกชื่อว่า Lightning แล้ว Returns มากอบกู้จักรวาล โดยมีเวลา XIII วันก่อนจะจบ...นั่นล่ะครับ พวกกราฟิก asset อะไรพวกนั้นมาจากเกมนั้นแหละ พวกโมเดลตัวละคร NPC ก็ดูเหมือนจะไปฉกเอามาจาก Infinite Undiscovery ฉากกับศัตรูก็ไปก็อปปี้ Star Ocean ภาค 3-4 มาดื้อ ๆ WOW!
เพลงประกอบเข้าใจว่าซีรีส์นี้จะฟังดูคล้าย ๆ กันหมด แต่สำหรับ Star Ocean 5 ฟังแล้วเหมือนไปเอาเพลงเก่ามารีมิกซ์ใหม่เสียมากกว่า (อันนี้ใครหูถึงช่วยคอนเฟิร์มด้วย)
แอนต_ซิล ขอแจกรางวัลค่ายเกมประหยัดดีเด่นให้แก่ tri-Ace! (ปรบมือ)
เนื่องจากตัวเกมอ้างได้ว่าเป็นแนว seemless ไม่มีการตัดฉากมากมายนักยกเว้นตอนโหลดเปลี่ยนแผนที่ เพราะงั้นทุนทำ cut scene หรือฉากเนื้อเรื่องก็ไม่ต้องมีมากไปด้วย เช่นฉากยานยิงกันนี่ดุเดือดสุด ๆ (?) แต่ถ่ายกันแต่ในค็อกพิต ช่างกล้าทำ...ทำไปได้...80% ของตัวเกมคือพระเอกเดินตามตัวละครอื่นไปด้วยพูดคุยกันไปด้วย ห้ามวิ่ง ห้ามออกพ้นระยะคุย คุยเสร็จก่อนค่อยไปต่อ บางทีเรามีแอบโหลด เดินไปถึงแล้วกว่าจะเปิดปากคุยกันต้องรอ 2-3 นาที อีก 10% คือฉากเนื้อเรื่องแบบ real time ที่ไม่มีอะไรหวือหวา ก็คือคุยกันอีกนั่นแหละ แต่มีการออกท่าออกทาง จับไม้จับมือบ้าง ส่วน 10% ที่เหลือคือตัวมูฟวี่ (pre-render) ที่อัดไว้ล่วงหน้า อันนี้สังเกตได้ง่ายว่าจะล็อคตายที่ 30fps (ตัวเกมของ PS4 อยู่ที่ 60fps ตกบ้างอะไรบ้าง แต่ไม่มีจุดไหนซีเรียส) อันนี้จะเป็นฉากที่มีเอฟเฟ็คต์หน่อยหรือมีเนื้อเรื่องอะไรสำคัญ ๆ ที่ทำ real time บน PS3 ไม่ได้ หรืออาจจะแค่ทำไม่ทัน
มึนจนอยากไปเรียก แอนต_ซิลมาแจกรางวัลอีกรอบ เจอแบบนี้เข้าไปเล่นแล้วรู้สึกคนรีวิวเหมือนจะเพี้ยนขึ้นอีกเยอะเลย (ปรบมือ)
แต่ข้อดีก็มีอยู่ อย่างน้อยโมเดลตัวละครสำคัญ ๆ ก็ปั้นมาดีใช้ได้ ตอนพูดคุยกันก็มีการแสดงสีหน้า+ขยับปากให้เห็น ทั้งเนื้อเรื่องหลักและ Private Action (เนื้อเรื่องเสริมสำหรับให้รู้จักตัวละครพรรคพวกเรามากขึ้น+เอาฉากจบของแต่ละตัวละคร) ก็มีเสียงพากย์ทั้งหมด ไม่ใช่ยืนหน้านิ่งแล้วตัวหนังสือขึ้น พูดง่าย ๆ คือตัวละครหลักทั้ง 7 ตัวของเกมนี้คือส่วนที่ดีที่สุดทางด้านกราฟิกครับ
แต่ที่เหลือก็ขอให้ทำใจ...
+คะแนนภาพปาร์ตี้สกิล น่ารักดี
เชื่อว่าหลายคนต้องถ่ายตรงนี้ สวยที่สุดแล่วมั้ง
สวยแบบไซไฟก็เข้าท่านะ แต่รีไซเคิลจาก XIII+SO4 ซะ 99.99%
...อย่างน้อยก็ 60fps ล่ะฟระ!
นังรอคุยกันให้จบ จะได้ไปต่อ กดข้ามไม่ได้
จุดที่อยากชมโดยไม่มีติเลยก็คือส่วนของเนื้อเรื่องครับ โอเคว่ามันสั้นมาก (20 ชั่วโมงก็จบ) ไม่มีอะไรหวือหวา แต่ในความซิมเปิ้ลนี้ก็ทำออกมาได้ดีพอใช้ครับ เนื้อเรื่องโดยรวมถ้าจะให้เล่าโดยไม่สปอยล์ก็ประมาณมีสงคราม แล้วก็มีสาวน้อยโดนจับไป เราต้องตามไปช่วยหลายรอบหน่อย จากนั้นสาวน้อยจากหนึ่งคนก็กลายเป็นสองคน ช่วยอีกคนเสร็จก็ต้องไปช่วยอีกคน -อวสาน- ถ้าผู้อ่านอยากเจอสปอยล์กันตั้งแต่ต้นจนจบ กระทู้นี้สมาชิก bank-Ultima แปลเนื้อเรื่องทั้งหมดไว้ให้แล้วนะครับ http://www.gconhub.com/?page=forum_detail&id=74668
ตัวละครหลักส่วนใหญ่ก็อุปนิสัยชัดเจนครับ น่าจะชื่นชอบกันง่าย ๆ สำหรับคนที่ชอบดูอนิเมญี่ปุ่น อายุของตัวละครอาจจะผู้ใหญ่ ๆ หน่อยคือ 20-30++ แต่บางคนโดยเฉพาะพระเอกก็ทำตัวเหมือนยังไม่ถึง 20 กัน (ตามประสาการเขียนบทของ tri-Ace) ทว่าเกมนี้ไม่มีการเซอร์วิสน่าเกลียด หรือมาแบบเกมโป๊วอนนาบีเหมือนภาค 4 ที่ยังคงตราตรึงใจคนรีวิวจนถึงทุกวันนี้ (ในด้านลบ) ตัวละครที่หลายคนจับตามองมากที่สุดคือแม่มดที่สวมชุดลายหมากรุกเปิดเผยผิวพรรณก็ไม่ได้มาเพื่อขายเซอร์วิสผิดที่ผิดทาง เธอแค่มีเซนส์ทางด้านแฟชั่นที่เซ็กซี่เป็นพิเศษเท่านั้นเอง ที่เหลือก็เป็นคนปกติครับ เป็นคนปกติที่นิสัยดีใช้ได้ และถ้าได้รู้จักมากขึ้น (ผ่านทาง Private Action) จะทราบว่ามีวุฒิภาวะสมเป็นผู้ใหญ่+หัวอนุรักษนิยมนิด ๆ ด้วย ก็ถือว่าเป็นตัวละครที่น่าสนใจมากครับ (เผลอสปอยล์ไปแล้ว :P)
ถ้าจะให้หาข้อติจริง ๆ ล่ะก็ ตัวเกมชื่อ Star Ocean แต่ทั้งเกมอยู่แต่แค่ดาวเดียว...แหม่
Field ใหญ่มีเท่านี้แล + ดันเจี้ยนอีกนิด + เมืองเล็ก ๆ อีกหน่อย
ในส่วนของเกมเพลย์ Star Ocean 5 ก็ยังถือว่าเป็น jRPG แบบดั้งเดิมครับ มีดีตรงที่ไม่ตัดฉากตอนเจอศัตรู ตัวเกมค่อนข้างเร็วสู้กันมันสะใจ (มาก) ถ้าผู้เล่นเลือกเล่นโหมดธรรมดา (Earth) ก็ไม่น่าจะมีปัญหาแต่ประการใด เล่นแบบตามใจชอบอย่างไรก็ได้ไปเรื่อย ๆ เสพเนื้อเรื่องสบาย ๆ หรือเก็บนู่นเก็บนี่บ้าง ก็น่าจะจบได้อย่างสบาย ๆ ภายในเวลาประมาณ 20 ชั่วโมงตามที่กล่าวไป เดินทางตามที่เนือ้เรื่องมันบอก ตอนสุ้กับศัตรูก็กด O กด X สลับกันไป แป๊บ ๆ ก็เรียบร้อย
ทำไมคนรีวิวถึงกล้าพูดว่าเกมมันง่ายถึงปานนี้ล่ะ ก็เพราะว่าแม้ในโหมดที่ยากกว่า (Galaxy) ถึงไม่ตั้งใจเล่นมากก็แทบไม่มีความยากอะไรนักครับ ขอแค่ผู้เล่นรู้ว่าระบบของเกมมีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น
- รู้ว่าเควสไหนทำให้ได้สกิลที่มีประโยชน์ เพราะว่าพวกสกิลอย่างการผสมของ อัพเกรดของสวมใส่ ้เพิ่มอัตตราดร็อปของ ฯลฯ ทั้งหลายทั้งปวงมาจากเควสเหล่านี้เควสไหนบ้าง การทำเควสเยอะ ๆ ก็ทำให้ได้ของดี ได้ท่า/เวทมนตร์มาใช้เพิ่ม เพราะงั้นสายทำเควสไร้สาระจะได้ประโยชน์จากเกมมากกว่าคนที่ไม่ทำเลย
- รู้จักระบบ Role ซึ่งระบบนี้ก็เหมือนกับเป็นส่วนเสริมนอกจากอาวุธชุดเกราะของตัวละคร เราต้องทราบว่าโรลไหนทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นไปทางใด ให้ผลลบในทางใด โรลไหนผสมกับโรลไหนใส่แล้วตัวละครนั้นเทพขึ้นแบบผิดหูผิดตา ซึ่งระบบโรลอันนี้นี้ถ้ารู้จักใช้ดี ๆ ประโยชน์มหาศาลที่สุดในเกมแล้วครับ
- รู้ว่า AI ของเกมนี้โง่บัดซบและชักช้ามาก และรู้ว่าศัตรูอยู่ดี ๆ ถ้ามันอยากโกงเรามันก็โกงหน้าตาเฉย ตีแรงตีกลุ่มตายหมู่เพราะดันไปอยู่ใกล้กันเกินไปเนื่องจากมันลงสู้ได้พร้อมกันทั้งหมด 7 คนเลยแบบนี้เป็นต้น
สมดุลของความยากก็ค่อนข้างจะแหม่ง ๆ ด้วยครับเกมนี้ ผมอ่านดูเห็นคนบ่นติดตรงนั้นตรงนี้บ้างประปราย ก็เข้าใจอยู่ แต่นั่นแสดงว่าผู้เล่นคนนั้นยังไม่เข้าถึงความสามารถที่แท้จริงของระบบโรลหรือยังหาท่าหากินของตัวเองไม่เจอครับ อย่างเช่นเบสิคเลยถ้าเราเป็นคนชอบบังคับพระเอกอย่างเดียวงี้ก็อาจจะกดฟัน 1 2 แล้วใช้ท่าแรง ๆ 1 เปรี้ยง แล้วฟัน 1 2 อีกทีซ้ำไปเรื่อย ๆ จนกว่าศัตรูจะตาย ซึ่งจะใช้ไม่ค่อยได้กับการที่อยู่ดี ๆ เจอคอมโบจากศัตรูทีเดียวดับถ้าเข้าไปใกล้เกิน เพราะงั้นเรามาเลิกเข้าใกล้ศัตรูแล้วเปลี่ยนไปเล่นตัวฮีลก็ได้ครับ ใส่ร่ายเร้ว ใส่เติม mp อัตโนมัติ หรือใส่โรลอะไรที่มันทำให้ตัวละครเรากึ่ง ๆ อมตะแล้วนั่งฮีลหมู่อย่างเดียวตลอดเกมก็ทำได้ (อาจจะน่ารำคาญนิดหนึ่งตรงที่ท่าฮีลมันไม่มีปุ่มลัด จะใช้ทีต้องหยุดเกมแล้วมานั่งเลือก) หรือใช้ตัวละครที่ใช้ปืน ใส่โรล +พลังโจมตี 100% -พลังป้องกัน 100% จากนั้นอัดแต่โรลกับเครื่องสวมใส่อื่น ๆ ที่เน้นเฉพาะพลังโจมตี แล้วยืนห่าง ๆ คอยยิงตอดไปเรื่อย ๆ ก็โกีงโกงครับ เรากับศัตรูต่างคนต่างโกงกันไปมาสนุกดี
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถึงเกมจะสั้น แต่ผมเป็นพวกเล่นสายเก็บความลับ กว่าจะเก็บเกือบหมดก็ปาเข้าไป 35 ชั่วโมง ขี้เกียจไปโหมดยากกว่านี้แล้วครับ แต่เท่าที่เช็คดูวิธีโกงแบบเบสิค ๆ ตามย่อหน้าข้างบนก็ยังพอใช้ได้อยู่ วิธีโกงอื่น ๆ คิดว่าก็ยังมีตามประสาเกมบาลานซ์คืออะไรไม่รู้จักอยู่แล้ว นอกจากนี้จบเกมจนปลดโหมดยากระดับ Universe กับ Chaos ยังปลดล็อคเลเวลตัวละครให้อัพได้ถึง 255 ด้วย ซึ่ง Star Ocean 5 เป็นเกมที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้เล่นสายเก็บเลเวลครับ
สรุปแล้วคือมันมาก สารภาพเลยว่าถ้าระบบต่อสู้ไม่มันขนาดนี้ผมลบเกมออกจาก HDD ตั้งแต่ 5 ชั่วโมงแรกแล้ว (ตอนทนเล่น Exist Archive เป็นอะไรที่ทรมานมาก) ไม่ได้สนใจส่วนอื่นเท่าไร ชอบมันแต่สแปมปุ่ม OOXXXOOXOXOXOXOXOOOXOXOOXOO ใส่ศัตรูแล้วเลขเด้งรัว ๆ นี่ล่ะ สะใจหลาย
จริง ๆ ก็อยากให้มากกว่านี้นะครับ สัก 8-9 อะไรงี้ แต่เล่นไปเล่นมาถึงท้ายเกมไม่รู้ตัว ทราบว่าทั้งเกมมีแค่ไม่กี่แมป หรือเห็นว่ารีไซเคิลกันบานเบอะ เกมเพลย์ค่อนข้างเละ ๆ แบบนี้คงยากหน่อย ส่งแค่ใจไปเชียร์ล่ะกันว่ามาถึงยุคนี้แล้วยังทุ่มเข็นเกมออกมาได้ระดับนี้ทั้งที่นายทุนดูจะไม่อยากเล่นด้วย ก็เอาใจไปเลย!
7.9 คะแนน
น่าเสียดายก็ตรงนึงที่ถ้าสมมติขายได้ดีตามที่คนออกเงินให้ (Square Enix) ตั้งเป้าไว้ ได้ทำภาคต่อ หรือได้ทำ Valkyrie Profile ต่อ คงไม่ได้สเกลของเกมที่มากไปกว่านี้แล้วครับ
แต่อนาคตอะไรก็ไม่แน่ไม่นอนเนอะ
(เชียร์ให้กลับไปทำแนว 2D คนรีวิวจะโดนถีบมั้ย?)
ของแถม รู้ว่าชอบกัน (ตามกระแส)
Mini review โดย Master_Vivi
ก่อนอื่นต้องสารภาพว่ายังเล่นไม่จบ แม่ว่าเกมจะสั้นจุ๊ดจู๋ตามที่หนู Kanann บอก เพราะว่าต้องแอบอู้ไปเล่น Quantum Break ก่อน (รีวิวเร็วๆ นี้) ส่วนตัวเป็นแฟนบอยเกม Star Ocean มาตั้งแต่ภาคเก่าก่อน ทำให้รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เห็นการกลับมาอีกครั้งของ JRPG แฟนตาซีตะลุยดวงดาว เก็บเลเวลนรกทุลุถึง 255 แต่การกลับมาครั้งนี้ทำให้เห็นว่ามันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกว่า Tri-Ace ก็พยา่ยามอยากอยากลองอะไรใหม่ๆ นะ (แล้ว infinite Undiscovery หละ?) เช่น การไม่ตัดเข้าฉากต่อสู้ ทำตามพิมพ์นิยมของเกม JRPG สมัยนี้ที่เอะอะอะไรก็ต้องทำให้สเกลใหญ่ไว้ก่อน แม้ว่ามันจะลวกขึ้นก็เถอะ ฉากจะได้กว้างขึ้นเข้าใกล้เกม open world ก็ทำไงได้แม้แต่ Tales of หรือ Final Fantasy ทั้งหลายก็เหมือนจะพัฒนาให้เป็นรูปแบบนี้หมด Star Ocean ก็เลยเอาด้วยเลย
ความประทับใจ
สำหรับ Star Ocean 5 จะไม่ขอกล่าวถึงเนื้อเรื่องหละกัน เพราะยังเล่นไม่จบ แต่จากที่เล่นมากว่าครึ่งเกม ทำให้รู้ว่าส่วนดีของเกม Star Ocean 5 ที่เหมือน Star Ocean ภาคเก่าก่อน คือความสนุกโคดๆ ของเกมเพลย์ฉากต่อสู้ สำหรับคนที่เป็นบอทมนุษย์ชอบเก็บเลเวล เกมให้โฟลว์ของอารมณ์ต่อเนื่องมากๆ แม้ว่าฉากฟิลด์ก็ไม่ได้กว้างใหญ่ไพศาลอะไรมากนัก ก็วิ่งวนเก็บเลเวลตีมอนได้เรื่อยๆ ฉากสู้ก็แค่กด xooxxxoox ตามที่ Kanann รีวิวไว้ข้างต้น แต่ทำไมมันเล่นได้ไม่เบื่อ? สิ่งที่เหนือไปกว่านั้น แม้ว่าภาคนี้จะไม่มีการตัดเข้าฉากสู้ ก่อนลองก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดว่าคงให้อารมณ์แบบใหม่ มันไม่ใช่สตาร์โอเชียนอะจอร์จ แต่พอได้เล่นจริงๆ ทำให้รู้สึกว่าเกมเพลย์มันก็เหมือน (ลอก) ภาคเก่าก่อนมาหนะแหละ ฉากสู้ก็ก็กว้างๆ และตัวละครที่เคลื่อนที่ไวรวดเร็ว ท่าไม้ตายเวทย์มนต์อัดกันตุบตับๆ แสงไฟประกอบท่าเยอะๆ ทำให้เลยรู้สึกว่า นี่แหละ สตาร์โอเชียน หละ!!
กราฟิก
บอกได้เลยว่า... ถ้าบอกว่า พอใจ/ไม่พอใจ ส่วนตัวคิดว่า "พอใจ" นะ (เล่นของ PS4) คือมันสวยในระดับเดียวกับเกม Remastered เกมอื่นๆ ที่เอาเกมระดับเจนที่แล้วมาทำเพิ่มปรับเฟรมเรทแปะเทกซ์เจอชัดขึ้น มันเลยเหมือนเป็นเกมของ PS3 มากกว่าที่จะบอกว่าเป็น PS4 เต็มปาก แต่เอาจริงๆ มันก็มีความงามของมัน ใครที่มองว่าภาค 4 ก่อนหน้าสวย ก็คงคิดว่าภาค 5 สวย เพราะความสวยของภาค 5 มันก็เป็นงานภาพแนวเดียวกับภาค 4 คือสวยเวลามองแบบมุมกว้างๆ โดยเฉพาะฉาก outdoor ที่เห็นทะเล ภูเขา แมกไม้ใบหญ้า บวกกับงานแสงแบบฟรุ้งฟริ้งก็ทำให้ฉากบางฉากสวยงามสุดๆ แล้วฉากสู้ลื่นๆ เฟรมเรท 60 fps มันเป็นอะไรที่ฟินแล้วหละ เมื่อเปรียบเทียบกับบางเกมที่ภาพสวยแต่เฟรมเรทไม่ดี (เช่นเกมที่เพิ่งออกประตูน้ำเดโมเมื่อไม่นานมานี้) เอ้อ... อีกเรื่อง โมชั่นและแววตาตัวละครดูดีมีชีวิต ไม่แข็งเป๊กเป็นพลาสติกแบบภาค 4 เป็นที่น่าพอใจยิ่งนัก (แต่ผมชอบเรมี่จังภาค 4 มากกว่านะ)
สำหรับความประทับใจ ถ้าจะให้เป็นคะแนน เลยขอเปรียบเทียบกับ Star Ocean ภาคเก่า หละกัน ก็ให้เท่ากันกับภาค 4 คือ 8/10 คะแนน หัก 1 คะแนนเรื่องความสั้นของเกม ดังนั้นขอเล่นช้าๆ เล่นแบบเก็บครบ ดีกว่าจะได้เสพนานๆ และหักอีก 1 คะแนนจากน้องมิกินางเอกภาคนี้ที่มุ้งมิ้งไปไม่สวยซ๊นเท่าน้องเรมี่จังของภาค 4
ขอบคุณสำหรับของแถมครับ
แบบนี้ไม่ต้องรีบซื้อได้ละ -3-
สรุปทีเดียวยาวๆไปสินะ T^T
เหมือนพยายามให้คะแนนด้วยความเวทนาบวกด้วยหลักปรัชญาพอเพียง
ถ้าภาพไม่หวือหวามาก แต่ 60FPS และสู้มันสะใจ จัดเลย
แหม่....7 คนลุย เกเบรียล หรือ อิสเซเรีย ควีน วุ้ยยยยยยย อยากเล่นเว้ย
EN ออกไวๆ เลย