เริ่มทำตัวให้เหมือน PC ซึ่งมันน่ารำคาญสำหรับผม Console สำหรับผมมันควรออกเกมที่ optimize มาดีที่สุด โดยไม่ตรงปรับแต่งอะไร ผมว่าคนเล่นคอนโซลหลาย ๆ คนหนี PC เพราะจุดนี้ด้วย
แรก ๆ ผมยังรับได้นะโหมดภาพสวย กับโหมดลื่น แต่เริ่มจะมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมันทำให้ความสนใจในการลงทุน PC เพิ่ม มีมากขึ้นไปอีก เดิม ๆ PC ผมใช้เล่นเกมที่มันเฉพาะของ PC หรือที่มันเล่นบน PC แล้วคล่องกว่าเช่นพวก Diablo หรือของ Xbox

ผมอยากได้แค่โหมดเดียว จะทำอะไร optimize อะไรก็ว่ามาให้มันดึง ปสภ ของเครื่องได้มากที่สุด แล้วรันที่ 60 fps

FIDELITY PRO มันต้องใช้กับ VRR บน 120hz ครับ
แต่มันก็ไม่ได้บอกนะวิ่งเท่าไร(ของเดิมมันวิ่ง 40 fps ราวๆนี้)

This mode targets 30 frames per second for players who want to experiment with new ray-tracing graphical features. These new features can be tuned individually to reach higher intermediate frame rates, especially when using the “VRR” or “120 Hz Display Mode” options.

[Link]

PSSR มันไม่ได้ทำงานแยกกัน (Async) แต่มันเป็นส่วนนึงของการเรนเดอร์ (rendering pipeline) เท่ากับว่าจะใช้มันต้องเสียเวลาบางส่วนเพื่อมัน เท่าที่ผมจำได้เหมือนจะ 3ms หรือ 4ms นี่แหละ ที่เอกสารหลุดมาตอนแรก เป็น constant ไม่มีลดหรือเพิ่ม
เท่ากับว่าที่ 60fps หรือ 16.67ms ต่อ 1 เฟรม ถ้ามันเสียไปแล้ว 3-4ms มันจะเหลืออยู่ 12-13ms ให้ทำอย่างอื่นต่อ บางเกมก็พอบางเกมก็อาจจะไม่พอก็ไปใช้ TAA Upscale เอาแทน อย่าง Horizon Forbidden West หรือ F1 2024 (โหมด 120fps หรือ
8.33ms ต่อ 1 frame ถ้าลบ 3-4ms มันจะเหลืออีกแค่ 4-5ms ให้ทำอย่างอื่นแค่นั้นเองซึ่งน้อยมาก เลยไม่ใช้ไปใช้ TAA upscale ของตัวเองแทน)
-----
ส่วน Insomniac ตามท่านบนแปะลิงค์มาให้ คือ โหมด Fidelity Pro จะมีให้เลือกปรับ RT Quality เองด้วยอีกต่างหาก (คล้ายๆ PC) แล้วมีแถมบอก เผื่อใช้กับ VRR แต่ VRR บน PS5 จะเริ่มทำงานตอน 48fps ขึ้นไปนะ ต้องดูว่า PS5 Pro แก้ให้ operating window มันต่ำลงมาได้น้อยกว่านี้หรือยัง)