Monster Hunter X : Important Note

หลังจากไล่ดู VDO ตัวอย่างการใช้งานอาวุธทั้งหมดจาก Capcom อีกรอบ
พอจะ สรุปประเด็นเล็กๆ แต่... ค่อนข้างสำคัญ
ให้บางท่านที่อาจจะดู VDO แล้วไม่ทันสังเกต หรือ ไม่ได้สนใจ

ลองดูกันครับ สิ่งสำคัญๆเหล่านี้
จะช่วยให้เราล่าได้อย่างบ้าคลั่งขึ้นแน่นอน

-----

ดาบใหญ่ เมื่อใช้ท่าฟันเสยงัดขึ้น สามารถต่อด้วยท่าง้างชาจ 3 ได้ด้วย
ภาคเก่า จะต่อได้จากเคาะดาบ หรือฟันกวาดปุ่ม A เท่านั้น

-----

คาตานะ Aerial Style จะทำให้การกระโดดฟันแบบปกติเป็น 2 hit ทันที style อื่นแค่ 1 hit

คาตานะ Aerial Style ถ้ากระโดดฟันด้วยเกจวิญญาน จะฟันได้สูงสุด 3 hit ทันที style อื่นแค่ 2

และอีกสิทธิพิเศษสำหรับ คาตานะ Aerial Style คือ
เมื่อกระโดดฟันด้วยเกจวิญญานแล้ว ไม่ว่าจะ 2 hit หรือ ครบ 3 hit (แล้วแต่ความสูงที่โดด)
เมื่อขาแตะพื้นแล้วฟันด้วยเกจวิญญานอีกครั้งจะได้เป็นท่าเก็บดาบเปลี่ยนสีเกจทันที
ในขณะที่ style อื่นๆ จะออกเป็นท่าฟันต่อเนื่อง 3 hit บนพื้นก่อนท่าเก็บดาบ

-----

ดาบโล่ห์ Aerial Style จะมีสิทธิพิเศษเหนืออาวุธอื่นคือ
เมื่อกระโดดเหยียบตัวมอน การเหยียบนับเป็นแต้มกระโดดตีทันที 1 hit

-----

ดาบคู่ Aerial Style ถ้ากระโดดเหยียบมอนในสภาวะโหมดคลั่ง
จะใช้ท่ากระโดดหมุมตัวฟันเช่นเดียวกับการแดชออกจากจุดกระโดดเมื่ออยู่ในโหมดคลั่ง
และแน่นอน สามารถกดท่าฟุ่งตัวฟันลงเปิดท้ายได้เช่นกัน...จำนวน hit...อย่าไปนับให้เหนื่อย

ดาบคู่ ท่า Hunter Arts ที่สอง
จะต้องใช้ในสภาพพื้นที่ ที่เป็นต่างระดับเท่านั้น แต่สามารถใช้ได้ทั้ง 2 แบบ
ทั้งแบบ วิ่งออกจากที่สูง หรือ วิ่งเข้าหาเนินที่ไม่สูงมาก
แบบเดียวกับท่าปีนเนินฟันของดาบโล่ห์

-----

ขลุ่ยค้อน เพิ่มระบบโน๊ตให้มีสองแบบ
ถ้าเหวี่ยงขลุ่ยไม่โดนมอน จะได้โน๊ต 1 หัว สะสมโน๊ตเป่าเพลงได้ผลปกติ
ถ้าเหวี่ยงขลุ่ยโดนมอน จะได้โน๊ตสองหัวใน hit นั้น
สะสมโน๊ต 2 หัว เป่าเพลงจะได้ผลของเพลงที่เป่าครั้งล่าสุดและ
ได้ผลของเพลงก่อนหน้าที่เราเคยเป่าไปพร้อมกันเลย
ถ้าเหวี่ยงขลุ่ยท่าหนึ่งๆ ไม่โดนมอน ได้โน๊ต 1 หัวมาแล้ว เหวี่ยงท่าเดิมซ้ำอีกทีแล้วโดนมอน
เราจะได้โน๊ตตัวเก่ากลายเป็น 2 หัว ไม่ใช่ ได้โน๊ตเพิ่มอีกตัว

ขลุ่ยค้อน ท่า Hunter Arts ท่าที่สอง
จะทำให้การเหวี่ยงขลุ่ยทุกครั้งไม่ว่าจะโดนมอนหรือไม่
ได้โน๊ต 2 หัวเสมอ ชั่วขณะหนึ่ง

-----

หอกยาว ท่าแทงต่อเนื่องสามครั้งมาตรฐาน ครั้งสุดท้ายจะแทงช้าลง
แต่เพิ่มจำนวน hit เป็น 3 hit จากเดิม 1 hit แต่ถ้าใช้ Striker Style จะกลายเป็น 1 hit แบบเก่า

หอกยาว ท่า Hunter Arts ท่าที่สอง จะเป็นท่าตั้งโล่ห์รับการโจมตีของมอน
แล้วซึมซับเอาความรุนแรงมาแปลงเป็นพลังโจมตีของเราได้สองระดับ
ถ้ามอนตีมาแรงไม่มาก เมื่อตั้งรับแล้ว หอกจะเปลี่ยนเป็นสีแดง เพิ่มพลังโจมตีขั้นแรก
ถ้ามอนตีมาแรงมาก เมื่อตั้งรับแล้ว หอกจะเปลี่ยนเป็นสีทอง เพิ่มพลังโจมตีขั้นสอง

-----

หอกปืน เปลี่ยนระบบการยิงกระสุน ให้มีเกจความร้อนของหอกด้วย
โดยการยิง 1 ครั้ง จะทำให้หอกร้อนขึ้นตามลำดับ
ยิ่งเกจร้อนขึ้นเท่าไหร่ การโจมตีด้วยการแทงครั้งต่อๆไปจะแรงขึ้นเท่านั้น
แต่ถ้ายิงจนความร้อนสูงสุด หอกจะติด over heat จะยิงกระสุนไม่ได้อีก
ต้องรอจนกว่าจะ cool down ลงไป และแน่นอนความแรงของท่าแทงก็จะลดตาม
อนึ่ง อาการ Over Heat นี้แยกส่วนจากการใช้ Wywern Fire ตามปกติ

หอกปืน ท่า Hunter Arts ท่าที่สอง จะเป็นการ Burn หอกให้ร้อนถึงขีดสุด
และทำให้ความรุนแรงของท่าแทงแรงสูงสุด และล็อคอยู่อย่างนั้น
ทำให้สามารถแทงได้แรงที่สุดอย่างต่อเนื่องโดยไม่ Over Heat ชั่วขณะหนึ่ง

หอกปืน Bushido Style ถ้าสามารถป้องกันหรือหลบแบบ Just Frame ได้
จะได้แทงฟรี 1 ครั้งพร้อม reload ฟรีอีก 1 นัดหลังแทง

[*** ข้อมูลแก้ไขเพิ่มเติมจากท่าน sinofgreed ***]

-----

แสลชแอค Aerial Style จะกระโดดฟัน 2 hit เฉพาะในโหมดดาบเท่านั้น

แสลชแอค ท่า Hunter Arts ที่สอง จะเป็นจากอัดพลังลงไปในดาบ
เพิ่มพลังโจมตีให้มากขึ้น และ ยิ่งไปกว่านั้นคือ เกจพลังงานดาบจะไม่ลดชั่วขณะหนึ่ง
แน่นอน นั่นหมายความว่า เราจะฟันด้วยโหมดดาบได้อย่างต่อเนื่อง
และ จะใช้ท่าแทงดาบชาจระเบิดกี่ครั้งก็ได้ ตราบเท่าที่อยู่ในสภาวะนั้น

-----

ชาจเบลด Aerial Style จะสามารถเลือกกระโดดตีได้ทั้งดาบ หรือ ขวาน
ถ้าตีด้วยขวานในขณะที่มีขวดพลังงาน จะให้ผลของขวดพลังงาน
ตามประเภทของชาจเบลดที่เราใช้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นแบบ ธาตุ หรือ อิมแพค

ชาจเบลด ท่า Hunter Arts ที่สอง เพิ่มขวดน้ำยาสูงสุดอีก 2 ขวด
ทำให้เพิ่มพลังโจมตีให้กับท่าที่ใช้ขวดทีเดียวทั้งหมด
อย่างท่าไม้ตายโล่ห์แดง หรือท่า Hunter Arts ท่าแรก

-----

พลองแมลง ในภาคนี้เราจะเห็นแถบ Stamina ของแมลงชัดเจน
จะได้สามารถบริหารการใช้แมลงได้ง่ายขึ้น

พลองแมลง ท่า Hunter Arts ที่สอง
ปล่อยแมลงออกไปดูดบัฟ ทีเดียว 3 สีพร้อมกัน

-----

ปืนเบา ในทุกๆ Style จะสามารถกระโดดโจมตีได้ทั้งแบบเอาปืนฟาด และยิงปืนออกไปตรงๆ
แต่ การกระโดดยิงปืนตรงๆนั้น ไม่นับ hit เป็นแต้มกระโดดโจมตีเพื่อปีนมอนให้
จะนับเฉพาะการกระโดดเอาปืนทุบเท่านั้น

ปืนเบา Aerial Style จะเพิ่มท่ากระโดดเหยียบมอนแล้วตีลังกายิง
ท่านี้จะยิงนัดเดียว หรือ ยิงรัวหลายนัดก็แล้วแต่กระสุนที่ใช้ ณ ตอนที่กระโดดและมีในรังเพลิง
ทุกนัด จะเข้าเป้าอัตโนมัติ และ ทุกนัด นับเป็นการกระโดดโจมตีเพื่อปีนมอน

ปืนเบา Bushido Style ถ้าสามารถหลบแบบ Just Frame ได้
จะกลิ้งตัวออกแล้ว reload กระสุนทันที และ กระสุนทุกนัดในรังเพลิงชุดนั้น
จะแรงขึ้นกว่าปกติ ไม่ว่าจะยิงแบบทีละนัด หรือยิงรัวด้วยระบบ Rapid Fire

ปืนเบา ท่า Hunter Arts ที่สอง ใช้ท่านั่งยิงแบบปืนหนัก
ยิงกระสุนแบบพิเศษ กระสุน Rapid ยิงรัวครั้งละ 3 นัด ยิงรัวได้ติดต่อกัน 5 ชุด
รวมทั้งสิ้น 15 นัด และ ความรัวของกระสุนที่ยิงออกไป จะมากกว่า Rapid Fire ตามปกติ

-----

หลักการของ Bushido Style คือ การหลบ หรือ ป้องกันในจังหวะเสี้ยววินาทีที่ใกล้ที่สุด
เมื่อทำการหลบ หรือป้องกันแบบ Just Frame ได้แล้ว จะออกการกระทำนั้นๆออกไปเองทันที
และตลอดการป้องกัน หรือการหลบ จนกระทั่งเสร็จสิ้นการกระทำนั้น ตัวเราจะเป็นอมตะตลอดเวลา
[*** แก้ไขข้อมูลครับ อันนี้ตอนที่วิ่งผ่านเมือกบราคิ ติดเมือก แต่ ไม่สะดุด
เดี๋ยวของจริงมาอาจจะต้องลองอีกทีว่าถ้าเป็นการโดนตีสวนจะเป็นยังไง ***]

นั่นหมายถึง อาวุธที่มีความคล่องตัวสูงมากๆอย่างดาบโล่ห์ หรือ ดาบคู่
ที่สามารถกลิ้งตัวได้เกือบจะทุกๆโมชั่นของการโจมตี ถ้าใช้คู่กับ Style นี้จนคล่อง
จะสามารถทำให้เราโจมตีมอนได้อย่างต่อเนื่องไม่ต้องหยุดพัก และไม่ถูกโจมตีเลย

*** ได้ข้อสรุปสำหรับเรื่อง motion ของท่า Bushido Style เป็นอมตะหรือไม่
จาก VDO ทีท่าน kradeeXxX ลงไว้ที่ -->หน้านี้<-- ได้ความว่า ไม่อมตะนะครัชชช ***

-----

เหลืออีก 2 อาวุธ ปืนหนัก กับ ธนู ทาง Capcom จะอัพ VDO เพิ่มวันพรุ่งนี้

-----

ขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม
misingshot