มหกรรมกระทืบ Blizzard ล่าสุด You F!@#ing deserve It
J. Allen Brack ประธาน Blizzard Entertainment ลาออกจากบริษัทแล้ว
J. Allen Brack ประธาน Blizzard Entertainment ลาออกจากบริษัทแล้ว และได้ Jen Oneal กับ Mike Ybarra ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้นำบริษัท” ร่วมกัน มีผลทันทีนับตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป
ทั้ง Jen Oneal และ Mike Ybarra ต่างก็เป็นผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานให้กับวงการมาอย่างยาวนาน ซึ่งหลังจากนี้จะมาดูแลรับผิดชอบการพัฒนาเกม และกระบวนการทำงานของบริษัท
สิ่งแรกที่ทั้งสองให้คำมั่นไว้กับทุกคน คือจะทำให้ Blizzard กลับมาเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับพนักงานหญิงทุกคน รวมถึงไม่ว่าจะมีเพศสภาพ, เชื้อชาติ, ความเป็นมาอย่างไรก็ตาม โดยจะมีแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาในอีกไม่นาน
ส่วน J. Allen Brack ที่ลงจากตำแหน่ง ก็กล่าวไว้ว่าเขาคาดหวังให้ Jen Oneal และ Mike Ybarra เข้ามานำองค์กรและสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ต่อไป
การเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ของบริษัทในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจาก Activision Blizzard ถูกฟ้องร้องจากประเด็นที่พบว่ามีการล่วงละเมิดทางเพศ และมีวัฒนธรรมเลือกปฏิบัติระหว่างชายหญิงเกิดขึ้นจริงภายในองค์กร ส่งผลให้เหล่าพนักงานไม่พอใจ และลุกขึ้นมาประท้วง ด้วยข้อเรียกร้องที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงบริษัทเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าผู้นำบริษัททั้งสองจะรับฟังข้อเรียกร้องดังกล่าว และมีแนวทางในการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรอย่างไรบ้าง
ที่มา : [Link]
Jesse Meschuk รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคลของ Blizzard ได้ลาออกจากบริษัทแล้ว
PC Gamer ได้รับรายงานจากโฆษก Activision Blizzard ยืนยันว่า Jesse Meschuk รองประธานฝ่ายทรัพยากรบุคคล (Human Resource) ของ Blizzard Entertainment “ไม่ได้ทำงานอยู่ในบริษัทอีกต่อไป”
แม้ Activision Blizzard ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดสาเหตุการลาออก และระบุวันลาออกอย่างชัดเจน แต่การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจาก J. Allen Brack ประธาน Blizzard ได้ลาออกจากบริษัท และได้นำ Jen Oneal กับ Mike Ybarra ขึ้นมาดำรงตำแหน่งเป็น “ผู้นำบริษัท” ร่วมกันแทน
อ้างอิงจากอดีตและพนักงาน Blizzard ในปัจจุบันหลายคน ได้ออกมาแฉว่าแผนก HR ภายในบริษัทมี “การปกป้อง” ผู้กระทำความผิดล่วงละเมิดทางเพศ และกดดันพนักงานที่เรียกร้อง ด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น ไม่ให้พนักงานเข้าร่วมทำงานโปรเจกต์อื่น ๆ , มีโอกาสเติบโตน้อยลง ซึ่งคาดว่าสาเหตุ Jesse Meschuk ลาออกหรือโดนไล่ออกจากบริษัท เป็นเพราะล้มเหลวในการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบความเป็นอยู่ของพนักงานอย่างร้ายแรง
หลังเกิดเหตุการณ์ Activision Blizzard โดนสอบสวนอย่างเข้มข้น เนื่องจากมีรายงานว่าภายในองค์กรมีการล่วงละเมิดทางเพศหลายครั้ง Bobby Kotick ประธานของ Activision Blizzard ยืนยันว่าการล่วงละเมิด การเลือกปฏิบัติ ไม่ควรเกิดขึ้นกับทุกอุตสาหกรรม โดยผู้กระทำความผิดทุกคนต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่กระทำลงไป และ Kotick ไม่ลังเลที่สั่งไล่ออกพนักงาน ซึ่งมีพฤติกรรมไม่สามารถเป็นที่ยอมรับได้
ที่มา : [Link]
ผู้ถือหุ้นยื่นฟ้อง Activision Blizzard
Ars Technica รายงานว่า ผู้ถือหุ้นบริษัทได้มีการยื่นฟ้อง Activision Blizzard เนื่องจากได้ล้มเหลวในการรายงานให้ผู้ถือหุ้นทราบว่าตัวบริษัทกำลังถูกสอบสวน รวมถึงไม่ดูแลบริษัทให้ดีจนเป็นเหตุให้เกิดการฟ้องร้องด้วยกรณีมีการล่วงละเมิดทางเพศในองค์กร จนนำไปสู่การสูญเสียรายได้ของผู้ถือหุ้น
ในเอกสารยื่นฟ้อง ผู้ถือหุ้นได้กล่าวถึงประธาน Activision Blizzard คนปัจจุบัน Bobby Kotick, CFO Dennis Durkin และอดีต CFO Spencer Neumann ว่าพวกเขาได้ล้มเหลวในการเผยความจริงว่าบริษัทเป็นสถานที่ทำงานที่ไม่เป็นมิตรสำหรับผู้หญิงและคนหลายเชื้อชาติ จนเกิดการร้องเรียนต่อแผนกทรัพยากรบุคคลเป็นจำนวนมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และทาง DFEH ได้ทำการสอบสวนสืบสวนบริษัทอย่างเข้มข้นในที่สุด
นอกจากนี้ ในเอกสารระบุด้วยว่าตั้งแต่ DFEH มีการยื่นฟ้อง Activision Blizzard ทำให้มีพนักงานปัจจุบันและอดีตมากกว่า 2,000 คน ได้ลงนามเขียนจดหมายประณามต่อบริษัทที่ปล่อยให้มีการล่วงละเมิดทางเพศ และเกิดการประท้วงในวันที่ 27 กรกฎาคม ส่งผลให้หุ้นของ Activision Blizzard ตกลงมากกว่า 6% ภายในวันเดียว แล้วเกิดความสูญเสียต่อนักลงทุนที่ซื้อหุ้นของบริษัทในราคาที่ “สูงเกินจริง” อันเนื่องมาจากคำชี้แจงของผู้บริหารและบริษัทที่ขาดความชัดเจน
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังไม่ได้รับการรับรองว่าเป็นการดำเนินคดีแบบกลุ่ม และล่าสุด หุ้นของ Activision Blizzard กลับมาเติบโตอีกครั้งที่ 6.29% จนถึงตอนนั้น ถ้าหากมีข่าวสารเกมที่น่าสนใจ ทางทีมงาน GamingDose จะรายงานกันต่อไปครับ
ที่มา : [Link]
สตรีมเมอร์ไล่ลบตัวละคร WoW ที่ปลุกปั้นมากว่า 10 ปี ประท้วงความเละเทะของเกม
World of Warcraft เคยเป็นมหายักษ์ในวงการ MMO มานานหลายปีดีดัก ทว่าปัจจุบันความเป็นราชันของเกมแนวนี้กำลังเสื่อมถอยอย่างรวดเร็ว จากคอนเทนต์ที่สร้างความผิดหวังรัวๆ อย่างต่อเนื่องจนเหล่าสตรีมเมอร์ดังๆ เททิ้งหนีไปเล่นเกมคู่แข่งอย่าง Final Fantasy XIV กันรายวัน
เฉกเช่นเดียวกับสตรีมเมอร์ imQuazii ผู้ซึ่งคร่ำหวอดในเกม World of Warcraft และเล่นติดต่อกันมากว่า 10 ปี ก็ได้ทำการสตรีมล่าสุดบน Twitch โดยใช้ชื่อว่า “The Last WoW Stream? THE LAST ONE FOR THE ROAD. It’s been 10 great years”
โดยสตรีมนี้มีการพูดถึงปัญหาทางเทคนิค จากนั้นตัวของ imQuazii ก็เล่าถึงอดีตของตัวเองที่เล่นเกมนี้มาตลอดทศวรรษ จากนั้นจึงล็อกอินล็อกเอาท์ตัวละครแต่ละตัวของเขา เพื่อพาไปบอกลาสถานที่สำคัญๆ อย่างไรก็ตามในระหว่างโมเมนต์อำลาสุดท้าย ตัวเกมก็ยังงแสดงให้เห็นถึงปัญหาอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำถึงปัญหาคาราคาซังที่ทำให้หลายๆ คนเลือกจะบอกลาเกมนี้ไปมากกว่าอยู่ทน
จากนั้นเขาก็สร้างลิสต์พูดถึงข้อดีข้อเสียของเกม รวมถึงขอบคุณ World of Warcraft สำหรับความทรงจำดีๆ ที่ผ่านมา และพูดถึงปัญหาต่างๆ ที่ทำให้เขาเลือกออกจากเกม ไม่ว่าจะเป็นระบบใหม่ๆ ที่ทำให้สมดุลย์เกมเสีย ผู้พัฒนาที่ไม่ฟังเสียงของผู้เล่น ตลอดจนคดีความเรื่องล่วงละเมิดทางเพศกันในบริษัทที่ฟ้องร้องกันใหญ่โตในขณะนี้ ทำให้เขาสิ้นศรัทธาและเลือกจะเดินออกมาดีกว่า
สุดท้ายเขาเลือกที่กดลบตัวละครของเขาทีละตัว พร้อมประกาศกับแชตว่าเขาได้จบกับเกมนี้เรียบร้อย ซึ่งหลายๆ คนก็มองว่าเป็นการกระทำในแง่ของสัญลักษณ์ที่พยายามจะส่งสารถึงผู้ให้บริการว่าแม้แต่แฟนเดนตายก็เบื่อหน่ายกับความย่ำแย่ต่อเนื่องของตัวเกมไม่ไหวแล้ว
ที่มา : [Link]
2 ผู้นำใหม่ของ Blizzard เลี่ยงตอบคำถามปัญหาที่ทำงานในที่ประชุมนักลงทุนล่าสุด
Jen Oneal และ Mike Ybarra ขึ้นเป็นผู้นำร่วมของ Blizzard ท่ามกลางมรสุมที่หนักหน่วงที่สุดของบริษัท และหลังจากถูกโปรโมตได้ไม่กี่ชั่วโมง พวกเขาก็ต้องเข้าประชุมนักลงทุนผ่านการสื่อสารทางไกลในแทบจะทันที
โดยอย่างที่หลายๆ คนรู้กันว่าขณะนี้บริษัทกำลังเผชิญกับทั้งศึกในและศึกนอกเพราะในขณะที่ผลงานช่วงหลังๆ ไม่มีเข้าตา โดยเฉพาะอู่ข้าวอู่น้ำอย่าง WoW ที่กำลังดิ่งเหวอย่างหนักผู้คนเทเกมไม่เว้นแต่ละวัน ปัญหาการล่วงละเมิดในที่ทำงานก็แดงขึ้นเรื่อยๆ จะพนักงานออกมาประท้วงกันทุกหย่อมย่าน
เป็นเรื่องไม่แปลกเลยที่แม้ทั้ง Jen Oneal และ Mike Ybarra จะเข้าประชุมใหญ่ในฐานะ 2 ผู้นำของสตูดิโอครั้งแรก แต่ก็ต้องโดนถามเกี่ยวกับสถานการณ์การทำงานที่เกิดขึ้นในขณะนี้ว่ามีแผนจะจัดการอย่างไร ทว่าทั้ง 2 ก็พยายามเลี่ยงจะตอบคำถามดังกล่าวโดย Mike Ybarra ไม่ได้ตอบคำถามอะไรนัก แต่ Jen Oneal พยายามตอบเลี่ยงๆ ในสไตล์ของเธอ
“ก่อนอื่นเลย ไม่มีอะไรสำคัญกับฉันเท่าผู้คนของเรา และฉันว่า Mike ก็รู้สึกไปในทางเดียวกัน”
Jen Oneal เริ่มต้นอย่างนั้นก่อนจะร่ายยาวถึงการทำงานอย่างใกลล้ชิดกับทีมพัฒนา Overwatch 2 และ Diablo Immortal รวมถึงแรงบันดาลใจที่ได้รับจากนักพัฒนาเก่งๆ มากมาย
“เมื่อเราสามัคคีกัน เราสร้างหลายเกมที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงกาาร”
เธอกล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้พนักงานของ Blizzard กำลังพยายามและอุทิศตัวเพื่อปรับปรุงวัฒนธรรมขององค์กร และเธอมีหลายอย่างรอให้จัดการอยู่ในอนาคตโดยไม่ได้อธิบายอะไรเพิ่มเติม
สถานการณ์ของ Blizzard ในภาพรวมยังน่าเป็นห่วงในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงคดีการล่วงละเมิดทางเพศที่ถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาลกันแล้ว และคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าเรื่องนี้จะจบอย่างไร เพราะนี่คือวิกฤตใหญ่ที่สุดเท่าที่ Blizzard เจอมาอย่างไม่ต้องสงสัยครับ
ที่มา : [Link]
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ถึงผมจะไม่ปลื้มJ. Allen แต่ตนที่ผมไม่ชอบหนักกว่า และคิดว่าควรโดนหนักกว่านี้ คือ Bobby Kotrick (ซึ่งให้สัมภาษณ์ได้เห้มาก) หัวใหญ่ActBlizz
D4กับOW2เลื่อนยาว กระทบหนักแน่ๆ
ส่วน Immortalเลื่อนจากปีนี้เป็นปีหน้าเรียบร้อยล่ะ แต่มีTencentช่วยทำด้วย คงไม่เลื่อนานกว่านี้แล้วมั้ง
ใช่ครับ Netease
ผมจำผิดเอง แฮะๆ
Activision มี Bobby
EA ก็มี Andrew
Gamer Public enemies
Activision มี Bobby
EA ก็มี Andrew
Gamer Public enemies
sony มี jim ryan
Eternity End แหมคิดได้
Eternity End แหมคิดได้
เอาเข้าจริง Wow เนื้อเรื่องสมควรรีบูทซี่รีย์ Wow ทิ้งไปซะยังดีกว่า ถ้ายังอยากจะขายต่ออีก น่าเบื่อชะมัด
เมื่อ 3.5 เดือนก่อน ทาง blizzard ได้แต่งตั้ง CEO ใหม่ 2 คน ให้ช่วยกันทำงาน เป็นชาย 1 หญิง 1 ผ่านไป 3 เดือน ฝั่งผู้หญิงลาออก เมื่อคืนมีออกมาแฉว่าที่ลาออกเพราะ ตัวเองยังโดน sexually harassed เลย แถมที่เคืองสุดคือ แต่งตั้งให้ทำงานตำแหน่งเดียวกันแต่ฝั่งผู้ชายได้เงินเดือนเยอะกว่า
ในวันที่ชาวบ้านตั้งคำถามถึงความเท่าเทียม แล้วตัวเองพยายามทำให้ภาพลักษณ์ความเท่าเทียมในบริษัทดีขึ้นด้วยการตั้ง CEO ชาย+หญิง แต่ลับหลังกลับให้เงินเดือนผู้ชายมากกว่า พอข่าวออกมีงี้ก็สนุกกันไป
อีกอัน หนักกว่าเดิม
อันนี้ข่าวน่าตกใจ แชร์กันไปแล้ว ไม่ใช่แค่ blizzard ขนาด CEO activision ยัง........
อ่อแล้วข่าวยังแฉว่า แกรู้เรื่องล่วงละเมิดทางเพศในที่ทำงานของ blizzard มาหลายปีแล้วด้วย
อดให้โบนัสตัวเองเลย(ถ้าโดนออก)
--
wow expansion ใหม่อย่างพัง
cod vanguard เปิดตัวแย่ เนื้อเรื่องเอา pro sjw มาเขียน + theme ww2 คนเลยผ่านกัน
(จริงๆ เพราะน่าจะหลุด cod mw2 ที่จะออกปีหน้า ซึ่งจากที่ leak มันจะเป็นการยกระดับ cod ไปอีกขั้น ไม่ใข่ย้อม skin แบบ vanguard)
ดูท่ารายงานงบปีนี้ acti น่าจะแย่ (ดีเหมือนกันจะได้มีเรื่องไล่บอบบี้ออก)
พึ่งจะได้กลับมาเล่นเมื่อคืน
อุตสาห์โหยหาอดีตที่รุ่งโรจน์ มันยังตามมาเหยียบย่ำ
เล่นบางตัวไม่สามารถผ่านบอสAct2ได้ เพราะเกมมันโหลดตัวบอสมาก่อนแต่จอมันยังค้างที่หน้าโหลด
แล้วบอสแม่งก็ตีเราหลังจอโหลดทั้งหยั่งงั้นอ่ะ เข้ามาเบ๊ตาย ตัวเราเกือบเดี้ยง ติดน้ำแข็งหนีไม่ทันตายรัวๆ แม่เช็ด
เข้าใจความรู้สึกเลยครับ พึ่งจะผ่าน Act2 กัน ให้เพื่อนเนโครเข้าไปก่อน โหลดเสร็จกระดูกแตกหมดเหลือแค่โกเล็มเกือบแตก
พอแตก ผมก็เน้นวิ่งล่อ วิ่งวนแล้วให้ที่เหลือยิงฟรี ไม่งั้นก็ไม่รู้จะผ่านไง ยิ่งเล่นตี้ โดนบอสตี 2 ทีตัวแตก
แคชชวลกับระบบหิวเงินเกิน ยังไม่พอเหมือนโดนค่ายอื่นซื้อไปอีก
ทั้งๆที่มันดูเป็นบริษัที่แบบว่าจะทำเกมออกมาเมื่อพร้อมมีคุณภาพจริงๆ
ตอนนี้กลายเป็นบริษัทธรรมดาๆ ธรรมดาๆ เหมือนไม่เคยทำงานวงการเกมมาก่อน
นึกถึงพวกบอโคนาม๊วย จริงๆมันมีโอกาศแก้ตัวเยอะมากนะ แต่แบบเหมือนโดนเร่งงานเผางาน
จนระเบิดยับเยิน เดียโบล4นี่คือวัดใจดอกสุดท้ายแล้วมั้ง ถ้ามันทำไม่ได้อีกคือก็ไม่ได้ทำอะไรอีกแล้ว
นอกจากเป็นแหล่งออนไลน์ให้คอลออฟดิวตี้ไปวันๆ ส่วนพนักงานเก่าๆก็ออกไปทำบริษัทตัวเองหมดแล้ว
จริงๆแอบหวังให้มันกลับมาได้แบบแคปหมูอยู่นะจากบริษัทที่ทำแต่เกมกากๆหลงทางไปช่วงหนึ่ง
กลับมาได้อีกรอบจนทำอะไรมีแต่คนไฮป์ๆๆๆๆๆ (ยกเว้นRE3 อันนี้ผมกำหมัดเลย) แต่คิดว่าน่าจะยากละ
ที่มา [Link]