ผู้กำกับ 3 คน ! เผยข้อมูลใหม่ Final Fantasy VII Remake
[Link] ข้อมูลระบบเกม
[Link] ทีมผู้สร้าง
YOSHINORI KITASE - PRODUCER
TETSUYA NOMURA - DIRECTOR & CONCEPT DESIGN
KAZUSHIGE NOJIMA (STELLAVISTA LTD.) - STORY & SCENARIO
NAOKI HAMAGUCHI - CO-DIRECTOR (GAME DESIGN / PROGRAMMING)
MOTOMU TORIYAMA - CO-DIRECTOR (SCENARIO DESIGN)
SHINTARO TAKAI - GRAPHICS & VFX DIRECTOR
TERUKI ENDO - BATTLE DIRECTOR
TAKAKO MIYAKE - ENVIRONMENT DIRECTOR
IICHIRO YAMAGUCHI - LIGHTING DIRECTOR
MASAAKI KAZENO - CHARACTER MODELING DIRECTOR
YOSHIYUKI SOMA - ANIMATION DIRECTOR
--------------------
Edit เพิ่มข้อมูลบางส่วนเท่าที่มีเวลาแปล
- ในโหมดควบคุมการต่อสู้ในระบบแบบ Classic ผู้เล่นสามารถเลือกได้ในเมนูเลือกระดับความยาก ในโหมดนี้ ตัวละครในกลุ่มตัวเอกขณะต่อสู้จะทำสิ่งต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ในขณะที่เกจ ATB ก็จะเพิ่มขึ้นตามกันมา ในโหมดนี้ผู้เล่นแค่เลือกว่าจะใช้อบิลิตี้, เวทมนตร์ และไอเท็ม เมื่อเกจ ATB ถึงระดับแล้ว ซึ่งจะให้ความรู้สึกเกมเพลย์เหมือนการเลือกเมนูเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ในฉากต่อสู้แบบ Final Fantasy VII ภาคดั่งเดิม แต่พัฒนากราฟฟิคให้ดูดีขึ้นสำหรับฉบับรีเมค ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับออกจากโหมดคลาสสิคมาบังคับเองได้ตลอดเวลาเมื่อกดปุ่มคำสั่งดังกล่าวบนคอนโทรลเลอร์
-Cloud สามารถใช้ดาบโจมตีระยะประชิดด้วยการกดปุ่ม [] และสามารถสร้างคอมโบโจมตีด้วยการกดปุ่ม [] ซ้ำ ๆ ถ้ากดปุ่ม [] ค้างไว้จะกลายเป็นการโจมตีแบบวงกว้างที่มีรัศมีรอบ ๆ ตัว
นอกจากนี้ยังมี Ability เฉพาะตัวโดยกดปุ่มสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นปุ่มความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครนั้น ๆ ซึ่งความสามารถเฉพาะตัวของ Cloud ในส่วนนี้สามารถใช้สลับสไตล์การต่อสู้ได้ โดยสลับระหว่าง “Operator Mode” ซึ่งสมดุลทั้งรุกและรับ และ “Punisher Mode” ซึ่งมุ่งเน้นการโจมตีมากกว่าตั้งรับ ซึ่งใน Punisher Mode นี้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของ Cloud จะลดลงแต่การโจมตีพื้นฐานด้วยปุ่ม [] จะทรงพลังขึ้น
-อาวุธสามารถอัพเกรดได้ เช่น Buster Sword ของ Cloud มีทางเลือกในการอัพเกรดได้ระหว่างเพิ่มสเตตัสผู้ถือหรือเพิ่มช่องใส่ Materia
-นอกจากนี้ อาวุธแต่ละชิ้นจะมี Abilities เฉพาะของตัวเอง และสามารถเพิ่มระดับความเชี่ยวชาญได้จนเมื่อระดับความเชี่ยวชาญถึงขึ้นสูงสุด Abilities ของอาวุธนั้น ๆ จะติดตัวผู้ใช้ และสามารถใช้ Abilities นั้นกับอาวุธชิ้นอื่น ๆ ได้
-Materia สามารถเพิ่มวิวัฒนาการตัวเองขึ้นได้ เช่น Materia "Fire” สามารถพัฒนาขึ้นไปจนใช้เวทย์ระดับสูงขึ้นอย่าง “Fira” ถึง “Firaga” ได้
-มี Materia ที่เพิ่มความสามารถใช้อบิลิตี้ "Assess" เพื่อดูข้อมูลของศัตรูรวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของศัตรูได้
-สำหรับ Materia ประเภทมนตร์อสูร เมื่อติดตั้งแล้วจะมีเกจพิเศษเพิ่มมาอีกเกจหนึ่ง เมื่อเกจมนตร์อสูรนี้เต็มจะสามารถเรียกอสูรเข้ามาช่วยต่อสู้ได้ โดยอสูรที่เรียกมาจะเคลื่อนไหวและโจมตีโดยอัตโนมัติ และเราสามารถใช้เกจ ATB ของเราเองเพื่อใช้งานร่วมกับอสูรเป็นอบิลิตี้รูปแบบที่แตกต่างออกไปได้ และเมื่อเกจมนตร์อสูรนี้ลดลงจนหมด อสูรจะใช้ท่าโจมตีพิเศษที่ทรงพลังออกมาก่อนออกจากฉากต่อสู้ไป
ที่มา [Link]
[Link] ทีมผู้สร้าง
YOSHINORI KITASE - PRODUCER
TETSUYA NOMURA - DIRECTOR & CONCEPT DESIGN
KAZUSHIGE NOJIMA (STELLAVISTA LTD.) - STORY & SCENARIO
NAOKI HAMAGUCHI - CO-DIRECTOR (GAME DESIGN / PROGRAMMING)
MOTOMU TORIYAMA - CO-DIRECTOR (SCENARIO DESIGN)
SHINTARO TAKAI - GRAPHICS & VFX DIRECTOR
TERUKI ENDO - BATTLE DIRECTOR
TAKAKO MIYAKE - ENVIRONMENT DIRECTOR
IICHIRO YAMAGUCHI - LIGHTING DIRECTOR
MASAAKI KAZENO - CHARACTER MODELING DIRECTOR
YOSHIYUKI SOMA - ANIMATION DIRECTOR
--------------------
Edit เพิ่มข้อมูลบางส่วนเท่าที่มีเวลาแปล
- ในโหมดควบคุมการต่อสู้ในระบบแบบ Classic ผู้เล่นสามารถเลือกได้ในเมนูเลือกระดับความยาก ในโหมดนี้ ตัวละครในกลุ่มตัวเอกขณะต่อสู้จะทำสิ่งต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ในขณะที่เกจ ATB ก็จะเพิ่มขึ้นตามกันมา ในโหมดนี้ผู้เล่นแค่เลือกว่าจะใช้อบิลิตี้, เวทมนตร์ และไอเท็ม เมื่อเกจ ATB ถึงระดับแล้ว ซึ่งจะให้ความรู้สึกเกมเพลย์เหมือนการเลือกเมนูเพื่อทำสิ่งต่าง ๆ ในฉากต่อสู้แบบ Final Fantasy VII ภาคดั่งเดิม แต่พัฒนากราฟฟิคให้ดูดีขึ้นสำหรับฉบับรีเมค ซึ่งผู้เล่นสามารถสลับออกจากโหมดคลาสสิคมาบังคับเองได้ตลอดเวลาเมื่อกดปุ่มคำสั่งดังกล่าวบนคอนโทรลเลอร์
-Cloud สามารถใช้ดาบโจมตีระยะประชิดด้วยการกดปุ่ม [] และสามารถสร้างคอมโบโจมตีด้วยการกดปุ่ม [] ซ้ำ ๆ ถ้ากดปุ่ม [] ค้างไว้จะกลายเป็นการโจมตีแบบวงกว้างที่มีรัศมีรอบ ๆ ตัว
นอกจากนี้ยังมี Ability เฉพาะตัวโดยกดปุ่มสามเหลี่ยม ซึ่งเป็นปุ่มความสามารถเฉพาะตัวของตัวละครนั้น ๆ ซึ่งความสามารถเฉพาะตัวของ Cloud ในส่วนนี้สามารถใช้สลับสไตล์การต่อสู้ได้ โดยสลับระหว่าง “Operator Mode” ซึ่งสมดุลทั้งรุกและรับ และ “Punisher Mode” ซึ่งมุ่งเน้นการโจมตีมากกว่าตั้งรับ ซึ่งใน Punisher Mode นี้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวของ Cloud จะลดลงแต่การโจมตีพื้นฐานด้วยปุ่ม [] จะทรงพลังขึ้น
-อาวุธสามารถอัพเกรดได้ เช่น Buster Sword ของ Cloud มีทางเลือกในการอัพเกรดได้ระหว่างเพิ่มสเตตัสผู้ถือหรือเพิ่มช่องใส่ Materia
-นอกจากนี้ อาวุธแต่ละชิ้นจะมี Abilities เฉพาะของตัวเอง และสามารถเพิ่มระดับความเชี่ยวชาญได้จนเมื่อระดับความเชี่ยวชาญถึงขึ้นสูงสุด Abilities ของอาวุธนั้น ๆ จะติดตัวผู้ใช้ และสามารถใช้ Abilities นั้นกับอาวุธชิ้นอื่น ๆ ได้
-Materia สามารถเพิ่มวิวัฒนาการตัวเองขึ้นได้ เช่น Materia "Fire” สามารถพัฒนาขึ้นไปจนใช้เวทย์ระดับสูงขึ้นอย่าง “Fira” ถึง “Firaga” ได้
-มี Materia ที่เพิ่มความสามารถใช้อบิลิตี้ "Assess" เพื่อดูข้อมูลของศัตรูรวมถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของศัตรูได้
-สำหรับ Materia ประเภทมนตร์อสูร เมื่อติดตั้งแล้วจะมีเกจพิเศษเพิ่มมาอีกเกจหนึ่ง เมื่อเกจมนตร์อสูรนี้เต็มจะสามารถเรียกอสูรเข้ามาช่วยต่อสู้ได้ โดยอสูรที่เรียกมาจะเคลื่อนไหวและโจมตีโดยอัตโนมัติ และเราสามารถใช้เกจ ATB ของเราเองเพื่อใช้งานร่วมกับอสูรเป็นอบิลิตี้รูปแบบที่แตกต่างออกไปได้ และเมื่อเกจมนตร์อสูรนี้ลดลงจนหมด อสูรจะใช้ท่าโจมตีพิเศษที่ทรงพลังออกมาก่อนออกจากฉากต่อสู้ไป
ที่มา [Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
Part 2 ก็ยืนยันการทำแล้ว หวังว่าจะไม่เกิน 2 ปีนะ 555+
[Link]
คิดแบบนี้กันทั้งโลก ก็คงไม่มี Part ต่อๆไปหรอกครับ
ป.ล. ใครรอก็ช่าง ผมไม่รอ ซื้อก่อน เล่นก่อน Hype ก่อน