Netflix กำลังจะมีคู่แข่งตัวใหญ่อย่าง Disney+ ออกมาหารส่วนแบ่งในตลาดในอีกไม่กี่สัปดาห์แล้ว โดยพวกเขาก็จะมาพร้อมกับหมัดเด็ดในแบบที่ Netflix ไม่มีนั่นคือ Marvel Studios และแฟรนไชส์หนังจักรวาล Star Wars และหนึ่งในซีรีส์เรื่องแรกจากจักรวาล Star Wars ที่เราจะได้ชมกันก็คือ The Mandalorian นั่นเอง

ล่าสุดทาง Lucasfilm ก็ได้มีการปล่อยใบปิดรวมตัวละครของ The Mandolorian ออกมาแล้ว โดยจะประกอบไปด้วยตัวละครหลักอย่างนักล่าค่าหัวลึกลับที่นำแสดงโดย Pedro Pascal, Cara Dune ที่รับบทโดย Gina Carano, Greef Carga ที่รับบทโดย Carl Weathers, IG-11 ที่รับบทโดย Taika Waititi และ Kuiil ที่รับบทโดย Nick Nolte

ใบปิดตัวละครของ The Mandolorian






ตัวอย่างใหม่ The Mandalorian ซีรีส์ภาคแยกของ Star Wars



The Mandalorian จะเป็นการเล่าเรื่องราวของชนเผ่านักล่าค่าหัวลึกลับคนหนึ่ง ที่ออกเดินทางท่องไปทั่วจักรวาล Star Wars จะทำให้เราได้รู้จักกับเรื่องราวในจักรวาลให้มากยิ่งขึ้น และอาจจะเป็นการทำให้เราได้รู้ถึงวัฒนธรรมของนักล่าค่าหัวที่เป็นที่มาของตัวละครอย่าง Boba Fett อีกด้วย



เหตุการณ์ในซีรีส์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลารอยต่อระหว่าง Return of the Jedi กับภาค The Foce Awakens มีจำนวนทั้งหมด 8 ตอนด้วยกัน และในตอนนี้ทางผู้สร้าง Jon Favreau ก็ได้เริ่มทำการสร้างซีซัน 2 เอาไว้แล้ว

ในส่วนของซีซันแรกจะได้ดารามากมายมาร่วมแสดงด้วย ไม่ว่าจะเป็น Pedro Pascal, Gina Carano, Carl Weathers, Giancarlo Esposito, Emily Swallow, Omid Abtahi, Werner Herzog และ Nick Nolte กำหนดฉายของ The Mandalorian เวอร์ชั่นซีรีส์จะเริ่มฉายไปพร้อมกับการเปิดตัว Disney+ ในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้

เครดิต [Link] และ [Link]

Kevin Feige ยังคงมีส่วนร่วมกับ Marvel Studios แม้ในตอนนี้จะต้องดูแลทางฝั่ง Star Wars ด้วย



เรียกได้ว่าทาง Disney คงไม่สามารถมายืนอยู่ในจุดนี้ได้หากไม่ได้มันสมองของ Kevin Feige ประธานของ Marvel Studios ที่สามารถทำให้ Marvel Cinematic Universe โด่งดังและโกยรายได้ให้กับทางบริษัทอย่างมหาศาล โดยล่าสุดนั้นเขาก็ได้รับบทบาทใหม่แล้วด้วยการทำหน้าที่ Chief Creative Officer ของบริษัทและจะได้ไปดูแลทางฝั่งของแฟรนไชส์อย่าง Star Wars อีกด้วย

ล่าสุดทาง Trinh Tran ผู้อำนวยการสร้างหนัง Marvel ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับทาง IGN ว่าทาง Kevin Feige ยังคงผูกพันกับทาง Marvel เสมอโดยเฉพาะในส่วนของตัวละครต่างๆ ที่ Marvel ได้สร้างขึ้นมา และเขาก็ยังคงมีส่วนร่วมกับทางสตูดิโออย่างเช่นเดิมเพื่อให้มั่นใจว่ามันจะสามามารถส่งมอบสิ่งที่ดีที่สุดไปให้กับผู้ชมได้นั่นเอง ซึ่งทาง Trinh Tran ก็ได้กำชับทิ้งท้ายอีกด้วยว่ามันก็ไม่น่าจะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก

สำหรับทาง Kevin Feige ในตอนนี้เขาก็ทำหน้าที่ในการดูและทุกภาคส่วนของ Marvel ตั้งแต่ตัวของภาพยนตร์ ตัวซีรีส์ และหนังสือการ์ตูนรวมไปถึงสื่อต่างๆ ทั้งหมด แต่สำหรับทบาทของเขากับแฟรนไชส์ Star Wars มันจะเป็นอย่างไรนั้นเราก็คงต้องมารอดูกันต่อไป ซึ่งคาดได้ว่าหลังจากที่ Star Wars: The Rise of Skywalker ปิดฉาก Skywalker Saga ลงนั้นเราก็น่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญกันอย่างแน่นอน



เครดิต [Link]

มือเขียนบท Solo: A Star Wars Story โบ้ยสตูดิโอเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังเจ๊ง

เป็นหนึ่งในความล้มเหลวของ Disney และ Lucasfilm สำหรับหนังภาคแยกของแฟรนไชส์ Star Wars อย่าง Solo: A Star Wars Story ที่ทำรายได้ไม่เป็นไปตามความคาดหวังทั้งยังไม่เป็นที่ชอบใจจากบรรดาเหล่าแฟนๆ อีกด้วย ล่าสุดทางมือเขียนบทของตัวหนังได้ออกมาเปิดเผยอีกด้วยว่าต้นตอทั้งหมดมันมาจากตัวสตูดิโออย่าง Lucasfilm นั่นเอง

โดยทาง Lawrence Kasdan มือเขียนบทของ Solo: A Star Wars Story ก็ได้ออกมาเปิดเผยในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับทาง SYFY Wire ในงานเทศกาล Austin Film Festival เอาไว้ว่า เขารู้สึกดีในระหว่างที่ได้ทำงานร่วมกับทาง Disney แต่เขาก็ไม่อยากที่จะทำมันอีกแล้ว เดิมทีเขามีประสบการณ์ที่ดีในการเขียนบทหนัง Solo ร่วมกับ Jonathan Kasdan ลูกชายของเขามาก แต่สุดท้ายก็เป็นทางสตูดิโอนั่นเองที่ทำให้มันเลวร้ายลงอย่างที่เห็น



Lawrence Kasdan เขาได้มีส่วนร่วมในการเขียนบทหนัง Star Wars ทั้ง The Empire Strikes Back, Return of the Jedi และ The Force Awakens แต่จากกรณีล่าสุดก็ทำให้เขาไม่ขอกลับมาทำหน้าที่ในการเขียนบท Star Wars อีกต่อไป

นอกจากนี้ตัวหนัง Solo: A Star Wars Story เองก็ยังมีปัญหากับทาง Phil Lord และ Chris Miller ผู้กำกับของตัวหนังจนต้องมีการเปลี่ยนแปลงให้ทาง Ron Howard มาทำหน้าที่ในการกำกับกลางทางอีกด้วย ซึ่งทาง Lucasfilm ได้ออกมาให้สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเอาไว้ว่ามันเป็นเพราะความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ตรงกันนั่นเอง

เครดิต [Link]

สองผู้สร้าง Game of Thrones ถอนตัวจากโปรเจกต์หนัง Star Wars แล้ว



หลังจากสร้างชื่อมาจากการปลุกปั้นซีรีส์อย่าง Game of Thrones ของทางช่อง HBO ก็ทำให้สองผู้สร้างอย่าง David Benioff และ D.B. Weiss ต่างกลายเป็นที่ต้องการของค่ายหนังมากมายรวมไปถึงทาง Disney และ LucasFilm ที่ได้มอบหมายให้พวกเขารับหน้าที่ในการสร้างแฟรนไชส์หนังอย่าง Star Wars แต่อย่างไรก็ดีล่าสุดมันก็ได้มีรายงานออกมาแล้วว่าทั้งสองได้ถอนตัวจากโปรเจกต์ดังกล่าวไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
โดยเป็นรายงานจากทาง Deadline ที่ได้ออกมาระบุรายละเอียดการถอนตัวของทั้งสองอย่างเป็นทางการ โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ได้ถูกมอบหมายให้มารับช่วงต่อในการสร้างหนัง Star Wars มหากาพย์ใหม่ที่จะออกฉายในปี 2022 โดยคาดว่าสาเหตุที่ทำให้พวกเขาตัดสินใจถอนตัวในครั้งนี้ก็เป็นเพราะการเจรจาไปร่วมสร้างซีรีส์ใหม่ที่ยังไม่มีการเปิดตัวให้กับทางฝั่งของ Netflix แทนที่นั่นเอง

สำหรับ Star Wars ในมหากาพย์ใหม่นั้นมันมีการคาดการณ์ออกมาว่ามันจะเป็นเรื่องราวในยุคเดียวกับ Knights of the Old Republic ซึ่งจะมีอีกไตรภาคของผู้กำกับ Rian Johnson ตามมาในภายหลัง ซึ่งก็ไม่แน่ว่าด้วยการถอนตัวในครั้งนี้มันอาจจะทำให้โปรเจกต์ของ Rian Johnson ถูกขยับเข้ามาแทนที่ก็เป็นได้ หรือจะมีผู้สร้างคนใหม่มาแทนที่ทั้งสองคนหรือไม่นั้นเราก็คงต้องรอดูกันต่อไป

เครดิต [Link]

ที่น่าโมโหที่สุดสำหรับคู่หู D&D คือสรุปแล้ว GOT พวกเราคนดูโดนย่ำยีจากการที่ไอ้คู่นี้อยากไปทำ Star Wars เพื่ออะไรเนี่ย คิดแล้วยิ่งโมโหอุตสาห์ลืมๆ ไปแล้วมาเจอข่าวนี้แล้วของขึ้นนิดๆ

โบบา เฟทท์ เป็นตัวเอกเหรอครับ

ไม่ใช่ครับ เป็นนักล่าเงินรางวัลนิรนามครับ

สตาร์วอร์สตั้งแต่ภาค 1-3 ตกต่ำลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ฉากที่โอบีวันไปห้องสมุดถามหาตำแหน่งดาวเคราะห์แล้วเจ้าหน้าที่บอกว่า "ถ้ามันไม่มีในบันทึกก็แปลว่าไม่มีดาวนี้" ตัดภาพอีกสองวินาทีโอบีวันขับยานไปถึงดาวนั้นแล้ว

บทประมาณหนังพจน์ อานนท์

ดูตอนแรกไปละ อารมณ์เหมือนเกม RPG น่าจะดูได้เพลินๆ

ตอนแรกก้โออยู่นะ

ตอน2​ ตัวน้อยน่ารักโคตร

ส่วนตัว เฉยๆ กะตัวน้อย แล้วยังไง เจไดก็ล่มไปแล้ว คงอดไม่ได้ฝึกเจไดแน่ ไม่ได้ฝึกแบบถูกต้อง จริงจัง จะทำอะไรได้

ชอบที่มันเล่า ถึงเผ่าอื่นๆ คือคนมัวไปโฟกัสเจไดมากเกิน

ทั้งที่สตาร์วอร์โดนเด่นจากหนังไซไฟยุคนั้นก็เพราะ โลกของมันที่มีรายละเอียดมากมาย

สมัยเด็กผมตื่นตาตื่นใจกับโลกของมันมาก ธีมมันโดดจากเรื่องอื่นไปไกลเลย

EP.3 โคตรชอบ "This is the way"

ดูจบถึงตอนที่ 4

เฮ้ย นี่มันคือ 1313 ในธีม open world ได้เลยนะ
อัพชุดอัพปืน อัพยาน บินรับงานทั่วกาแล๊คซี่ได้สบายๆ

ถ้ามีทีมงานทำเกมส์ open world ของโลกสตาร์วอส์ ขอเล่นเป็น Mandalorian นี่แจ่มสุดละ
มันมีองค์ประกอบทำเป็น RPG ได้ ทั้งชุดเกราะ ปืน ไอพ่น ยานอวกาศ ค่าหัว ล่าองค์กร ระเบิดพวกชนกลุ่มน้อย

แล้วบอสใหญ่สู้กับเจไดสักคนนี่จะแจ่มสุดๆ