หลังจาก Microsoft แต่งตั้งคุณ Phil Spencer เป็นรองประธานบริการแผนกวีดิโอเกม เขาก็ได้รับการคาดหมายว่าจะต้องมาแก้ไขปัญหา เร่งด่วนในปัจจุบันคือ Xbox One ยังมีเกม Exclusive สำคัญ ๆ จำนวนน้อย ซึ่งในขณะนี้ เป็นที่ทราบกันว่า Xbox One ยังมีจำนวนเครื่องใช้งานในโลกนี้ตามหลังคู่แข่ง PlayStation 4 อยู่มาก แม้ Microsoft จะไม่ระบุจำนวนยอดขายที่ชัดเจน แต่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า Xbox One ขายออกไปจำนวนราว ๆ 35 ล้านเครื่อง ในขณะที่ PlayStation 4 ทิ้งห่างออกไปที่กว่า 73 ล้านเครื่องแล้ว

นอกจากนี้ เมื่อเทียบเกม Exclusive ระหว่าง 2เครื่องนี้ ในปีนี้ PlayStation 4 อาจจะมีเกมอย่าง The Last of Us Part 2 (ไม่น่าทันในปีนี้นะ – ผู้แปล), Spider-Man, God of War, Dreams และ Detroit: Become Human เป็นเกมสำคัญในปีนี้จากสตูดิโอลูกหม้ออันมีชื่อเสียงของตน แถมยังมีข้อตกลงพิเศษกับเกมจากค่ายอื่น ๆ เช่น Destiny 2, Call of Duty: WWII และ Star Wars Battlefront 2 ในขณะที่ Xbox One ยืนยันเกม Exclusive ที่จะวางจำหน่ายสำหรับเครื่องเกมของตน ได้แก่ State of Decay 2, Crackdown 3 และ Sea of Thieves แม้จะเป็นเกมที่น่าสนใจ แต่พวกแฟนเดนตายของเครื่องนี้ยังคงคิดว่าดูจืดไปเมื่อเทียบกับ Sony คู่แข่ง แถม Microsoft ก็ยกเลิกการพัฒนาเกมสำคัญของตนไปถึง 2 เกมภายใน 2 ปีที่ผ่านมาอย่าง Scalebound ของ PlatinumGames และ Fable Legends ของ Lionhead ยิ่งทำให้เกมของเครื่องนี้ลดลงไปอีก

คุณ Spencer นั้นทราบดีถึงปัญหานี้ เขาเคยให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ว่า “มันเป็นความรับผิดชอบของเราที่จะต้องสร้างเนื้อหา (หมายถึงเกม – ผู้แปล) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของเราเอง พวกเราไม่ได้ลงทุนในระดับเดียวตลอดเวลา พวกเราต้องผ่านการคิดข้อดีข้อเสียของการลงทุนไว้ก่อน”

การหาเกมมาทำให้ Xbox One กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งจึงเป็นความท้าทายสำคัญในชีวิตการทำงานอันยาวนานของเขา

มุมมองนักวิเคราะห์

พวกเรา (หมายถึง Polygon ที่มาของข่าวนี้ – ผู้แปล) ได้พูดคุยกับนักวิเคราะห์ 4 ท่าน ซึ่งต่างเห็นด้วยว่า Microsoft ต้องทำอะไรสักอย่างเร็ว ๆ นี้ และการเข้าซื้อบริษัทบางแห่งก็เป็นหนทางที่เป็นไปได้สูงสุด

“Microsoft ตระหนักดีว่านี้เป็นปัญหาสำคัญ” คุณ Piers Harding-Rolls ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและวิเคราะห์ HIS กล่าว “ขณะนี้ คุณ Phil Spencer ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการลงทุนสร้างเนื้อหาที่เป็น First-party มากขึ้น”

“พวกเขาได้ตัดสินใจวางยุทธศาสตร์ที่ค่อนข้างสำคัญยิ่งไปแล้ว”

“Sony นั้นมั่นใจกับสถานะตอนนี้สำหรับวงจร Hardware ตอนนี้แล้ว” คุณ Joost van Dreunen ผู้เป็น CEO จาก SuperData Research กล่าว “มันทำให้เห็นภาพว่าภาพรวมเกม Exclusive ของ Microsoft นั้นมีน้อยกว่า พวกเขาไม่ได้มีแผนการวางจำหน่ายเกมที่ทัดเทียมกับ Sony และนั้นทำให้เราคิดว่าพวกเขา ต้องคิดอะไรบางอย่างไว้ในใจ แถมบางเกมของพวกเขาก็ทำผลงานได้ไม่ดีเท่าไหร่”

Microsoft มีเงินก้อนใหญ่ในมือกว่า 130 พันล้านดอลลาห์ ซึ่งมีเพิ่มยิ่งขึ้นจากการลดภาษีอย่างมากสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ (ต้องขอบคุณลุงทรัมป์สินะ – ผู้แปล) เมื่อคุณพิจารณาให้ดีว่ามูลค่าหุ้นในตลาดของบริษัทอย่าง Electronic Arts อยู่ที่ประมาณราวๆ 35 พันล้านดอลลาห์ มันดูเหมือนจะเหมาะเป็นอาวุธที่เอามาใช้พลิกสถานการณ์ได้

“Microsoft นั้นมีปีที่ยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา” คุณ David Cole เจ้าของ DFC Intelligence กล่าว “แต่สำหรับทีม Xbox ดูเหมือนไม่มีอะไรที่เขาทำกับ Xbox One เลย พวกเขาคงต้องตัดสินใจวางแผนสำคัญครั้งใหญ่ไป พวกเขาต้องอธิบายถึงวิธีการที่จะก้าวต่อไปในอุตสาหกรรมเกม”

ด้วยปัญหาเกม Exclusive ของ Microsoft ประกอบกับการตามหลังคู่แข่ง PlayStation และเงินก้อนใหญ่ในมือ จึงมีกระแสเสียงกระซิบกระพือออกมาในตอนนี้

ข่าวลือการเข้าซื้อบริษัท

มีแหล่งข่าวกระพือลือกันถึงความเป็นไปได้ที่ Microsoft จะเข้าซื้อบางบริษัทอย่างเปิดเผย น่าประหลาดใจ หรือกระทั้งเป็นซื้อที่ทุกคนไม่คาดคิด แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นนี้ก็มีสาระอยู่ ตามที่เรา (หมายถึง Polygon ที่มาของข่าวนี้ – ผู้แปล) พึ่งได้ยินมา (จากแหล่งข่าวใกล้ชิดกับ Microsoft ที่เชื่อถือได้) คือมีความเป็นไปได้ที่หวยจะลงที่บริษัทอย่าง Electronic Arts รวมไปถึง Valve และบริษัทเกาหลีที่เป็นเจ้าของผลงานฮิตระเบิดอย่าง PUBG Corporation (บริษัทลูกของ Bluehole) ที่ Microsoft พึ่งจะเซ็นต์สัญญา Timed exclusive กับเกม PlayerUnknown’s Battlegrounds เมื่อปีกลาย

“เนื่องจากการที่เราอยู่กับวงจรชีวิตของสิ่งเหล่านี้ เราคาดว่าจะได้ยิน Microsoft ประกาศอะไรบางอย่างในเร็ว ๆ นี้” คุณ Van Dreunen กล่าว

และสาเหตุอื่นที่ทำให้ข้อมูลการเข้าซื้อบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้เป็นไปได้ยิ่งขึ้นคือ คุณ Spencerได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองประธานบริการฝ่ายวีดิโอเกม ซึ่งยิ่งเป็นการย้ำว่าวีดิโอเกมนั้นสอดคล้องกับแผนการณ์โดยรวมของบริษัท

“เขาเข้ามารับช่วงต่อในเวลาที่ Xbox One ไม่อยู่ในสภาพที่ดีนัก” คุณ Cole กล่าว “เราคิดว่าเขานั้นทำดีที่สุดแล้วสำหรับสถานการณ์ที่ย่ำแย่นี้ จากสภาพโดยรวมของบริษัทยังแข็งแกร่งอยู่ถือเป็นปัจจัยบวกที่ยังมีช่องให้บริษัทยังคงลงทุนในธุรกิจวีดิโอเกม”

คุณ Satya Nadella ผู้เป็น CEO ของ Microsoft CEO นั้นกระตือรือร้นกว่าสำหรับธุรกิจเกมเมื่อเทียบกับ CEO คนก่อนอย่างคุณ Steve Ballmer ซึ่งเขาได้ไฟเขียวการเข้าซื้อ Mojang ผู้พัฒนา Minecraft มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านดอลลาห์ ซึ่งเป็นการซื้อบริษัทครั้งสำคัญครั้งแรกในปี 2014

ประวัติที่ไม่ลงรอย

มันดูเหมือนเป็นประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเกมของ Microsoft ที่ไม่ลงรอยกับการเข้าซื้อบริษัทครั้งใหญ่ดังกล่าว Mojang นับเป็นบริษัทที่ Microsoft ซื้อเข้ามาในสังกัดครั้งแรกภายหลังการซื้อ Lionhead ในปี 2007 ซึ่ง Lionhead ก็ถูกปิดตัวไปเมื่อปี 2016

ก่อนหน้านั้น Microsoft ก็เคยซื้อ Rareเข้ามาในปี 2002 ซึ่ง Rare นั้นทำผลงานได้น่าผิดหวังและถูกลดความสำคัญจนกระทั้งทำเกมสำหรับ Kinect และได้รับความนิยม โดยปีนี้กำลังกลับมาด้วยผลงานเกม Multiplayer โจรสลัดอย่าง Sea of Thieves

“Sony นั้นมีสตูดิโอในสังกัดมากมาย และนั้นหมายถึงมีเกม Exclusive มากกว่า Microsoft” กล่าวโดย Michael Pachter พ่อมดนักวิเคราะห์วงการเกมแห่ง Wedbush Securities “Sony คงสภาพเกี่ยวกับการเป็น First party ดังกล่าวไว้มาตลอดและ Microsoft อยากจะลอกเลียนแบบตาม แต่พวกเขากลับปล่อยให้สตูดิโออย่าง Rare และ Lionhead สลายตัวไป”

สตูดิโอที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ที่สุดของ Microsoft คือ Bungie ซึ่งเคยซื้อเข้ามาในปี 2000 สร้างผลงานอย่างซีรี่ส์ Halo ที่วางจำหน่ายมาแล้วในเครื่องเกม 3 ยุค (ภาค 4 เป็นต้นมา Bungie ไม่ได้เป็นผู้พัฒนาแล้ว – ผู้แปล) แต่ Bungie ก็ไม่ได้อยู่ภายใต้ Microsoft อีกแล้ว และออกมาสร้างผลงานอย่าง Destiny แทนที่ผลงานเดิมซึ่ง Halo สานต่อผลงานโดย Studio 343 Industries ในสังกัด Microsoft เป็นผู้พัฒนาภาคล่าสุด Halo 5

ย้อนไปในปี 2013 ในขณะที่เขายังคงเป็นรองประธาน Microsoft Studios คุณ Spencer เคยพูดถึงแผนที่จะเปิดสตูดิโอในสังกัดแห่งใหม่ ๆ และการสร้างผู้พัฒนาเกมหน้าใหม่ แต่ดูเหมือนสิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น อย่างเช่นเกม Project Spark ที่ปิดตัวไป

บางทีมงานของ Microsoft ยังคงมีผลงานที่ยอดเยี่ยม เช่น Turn 10 Studios และ Playground Games ที่ปล่อยเกมตระกูล Forza Motorsport หรือ Forza Horizon ให้เล่นกันทุกปี ลำดับต่อมาคือ The ID@Xbox program ที่สามารถทำให้เกิดงานเกมอินดี้เจ๋ง ๆ น่าดึงดูดอย่าง Cuphead

“พวกเขาดูเหมือนจะเริ่มถูกมองเป็น Platform ชั้นรองลงไป (ในตลาด – ผู้แปล)”

ในปีนี้ มีเกม Exclusive ไม่มากนักที่ลงให้กับ Xbox One อย่าง Ashen, Deep Rock Galactic และ The Darwin Project แต่นั้นเทียบไม่ได้เลยกับจำนวนเกมที่ท่วมท้นของ Sony และ Sony ยังมีรายชื่อเกมอินดี้ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงไลน์อัพเกม PlayStation VR ที่น่าดึงดูดอีก

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า Microsoft มีความลับอะไรบางอย่างซ่อนไว้ ภาคใหม่ของ Gears of War ต่อจากภาค 4 ผลงานของ Coalition เมื่อปี 2016 ก็เป็นไปได้ไม่ยาก แต่ยังไม่มีข้อมูลหลุดออกมา นั้นก็เป็นไปได้ที่ Coalition กำลังพัฒนาเกมยักษ์ใหญ่เกมใหม่อยู่ แต่ก็อาจไม่เป็นเช่นนั้น โดย Microsoft เคยเปรยว่าอย่างสร้างเกมใหม่มารับกับซีรี่ส์ Uncharted ของ Sony

แน่นอน Microsoft มี Mojang, แต่สตูดิโอนี้ไม่ได้ทำเกมที่เป็น Exclusive ให้ Microsoft แต่ Minecraft นั้นลงทุกเครื่องอยู่แล้ว

มีข่าวลือว่า Perfect Dark อาจจะกลับมาจากการที่ Electric Square สตูดิโอที่อังกฤษกำลังทำเกม Exclusive ให้ Xbox One

มองไปข้างหน้า

ในขณะนี้ เราคาดได้ว่าจะมีอะไรบางอย่างในงาน E3 ปีนี้ ในเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้จัดการฝ่ายวางจำหน่ายของ Xbox คุณ Shannon Loftis บอกกับ GameSpot ว่า “เราคิดว่าจะนำเสนอสิ่งที่ดีและเชื่อใจได้ แน่นอนว่าเรารับฟังเสียงของเกมเมอร์ที่ต้องการเกมมากขึ้น พวกเราอยากได้เกม Exclusive เจ๋ง ๆ เกินสองโหลเหรอ? คุณพนันมาได้เลย เรายังมีอะไรที่กำลังทำงานกับมันอยู่ซึ่งเรายังไม่ได้พูดถึงมันออกมาในตอนนี้”

ทว่า เป็นที่รับรู้ว่ายังต้องทำอะไรอีกเยอะเพื่อที่จะลดช่องว่างของคุณภาพที่ต่างกันกับ Sony ในตำแหน่งคู่แข่งที่อยู่รอดมาได้ในเจนเนอเรชั่นนี้ อย่างไรก็ตาม มีภัยคุกคามหน้าใหม่จาก Nintendo อย่าง Switch ซึ่งประสบความสำเร็จและวิ่งไล่ตามมาจากการที่มีเกม Exclusive และการออกแบบที่ชาญฉลาด
“ณ จุดบนสุดของ PlayStation 4 ยังคงประสบความสำเร็จไปโดยต่อเนื่อง ส่วน Switch ก็เป็นปีที่ประสบความสำเร็จอย่างเหลือเชื่อ” คุณ Cole ระบุ “ในขณะที่ Microsoft ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และเริ่มถูกมองเป็น Platform ชั้นรองลงไป”

ข้อมูลเหล่านี้สร้างความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเข้าซื้อหุ้นบริษัทเกมยักษ์ใหญ่และทำให้ Microsoft เข้าถึงความสามารถพิเศษในการพัฒนาเกม IP เจ๋ง ๆ ใหม่ ๆ และเป็นไปได้ที่จะมีเกมชื่อยักษ์ใหม่มาลงให้กับ Xbox One

(แปลโดยสรุปจาก [Link])

EA มีงานใหญ่อย่างไล่ปิดบริษัทเล็กอยู่นะ ไม่ขายให้ MS หรอก

ซื้อไปก็ดีครับช่วงนี้ xbox เหงาๆ

2 บริษัท นีมันแปลกๆ

MS เลิกจ้าง ปิดสตู ตัวเอง ทั้งที่อดีต มีทีมงานเด็ดๆ อย่างบันจี้ Epic game ,Lion head

EA ไล่ปิดสตู

MS ซื้อ EA

เห็นแล้วสงสารตัวเองเลย อนาคต SONY มันจะผูกขาดการค้าขนาดไหน

มันเป็นเพราะระเบิดตัวตายตั้งกะต้นเจน เกมส์ ex ก็ดันพ่วงคอมด้วย ทำตัวเองทั้งนั้นนี่หว่า

plot twist : EA buys MS

ถ้าไมโครซอฟท์ซื้อสิทธิ์ของอีเอกับวาล์วจริงๆ มันจะน่าสนใจตรงที่จะต้องเข็นแฟรนไชส์อะไรมาให้เหมาะ กับเวอร์ชั่นฉบับของเครื่องคอนโซลมากที่สุด
เพื่อที่จะได้เพิ่มยอดขายเครื่องเกมส์เอ็กซ์-บ็อกซ์ วัน แต่ก็ต้องพอร์ทลงพีซีอยู่ดีตามการตลาดของไมโครซอฟท์

ถ้าจะสร้างซีรีย์เกมใหม่จากสองเจ้าที่เป็นข่าวเลย คงจะไม่น่าอุดงบทุ่มเงินกับค่ายมัลติอย่างอีเอกับวาล์วหรอก คงจะไปกว้านซื้อสตูดิโอส์เกมทั่วๆไปที่มีทีมเก่งๆอีกเยอะแยะ
และถ้าจะรีเมครีบู๊ทรีแบรนด์เกมส์จากสองค่ายนี้มันน่าสนใจกว่า รวมถึงภาคต่อของเกมส์อย่างฮาล์ฟ-ไลฟ์ 3 ของวาล์วที่ขาดช่วงมาเกือบสิบปีแล้ว

หากไมโครซอฟต์สามารถซื้อสิทธิ์ได้ขึ้นมาจริงๆคงมีอะไรให้ได้ลุ้นเหมือนกันครับ

เงินเยอะเลยซื้อสตูดิโอมาดองแล้วปิดตัวทีหลังครับ EA สไตล์ทำแล้วหุ้นขึ้นก็แล้วแต่

ผมว่า ฝรั่งมันบริหารแบบ คอยคุมทุนดูอย่างใกล้ชิดพอ สตูดิโอทำไม่ได้ตามเป้าก็เลือกที่จะปิดไปเลย ตัดขาดทุน เราเลยเห็นเกมส์โดนทำแท้งบ่อยๆ

กลับกันไอ้พวกที่ห่วงหน้าตา ทำด้วยใจ ทำไม่เสร็จ 100% พอถึงเวลาวางขายก็ต้องกัดฟันเอาออกมาขาย มันจะมาจากฝั่งญี่ปุ่นมากกว่า


บ่นๆว่ามีเงินอยากซื้อ สตูดิโอเขา แต่ฝั่งสตูดิโอมันจะยอมขายไหมล่ะ

ไม่ซื้อนินเทนโดล่ะ

EA มันรุ่งเพราะทำเกมแบบมัลติ
ถ้ามันไปทำเกมแบบ EX มันจะรอดหรอ


รึจะทำแบบ มายคราฟ ลงทุกเครื่องอยู่ดี?

ระวัง EA สั่งปิด ms เน้อ

ซื้อ Ea (สมมติ)
จะทำไงต่อ
Ip ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น ex = โดนด่า? ยอดขายตก (อาจจะเยอะ แต่ตกแน่) แม้ว่ายอดขายเครื่องอาจจะเพิ่ม แต่ ea กำไรหด ซึ่งมันก็กระทบกลับมา ms ด้วย
Ip ปัจจุบันก็ multi ไป ip ใหม่ ex = ก็อาจจะโอเค ปัญหาคือ แล้วจะซื้อทั้งสตูไปทำไม สู้จ้างทำเป็นเกมๆ ไม่ดีกว่าเหรอ แบบ Gears of war

เอาจริงๆ ปัญหามันก็มาจาก ms ไม่ focus แหละ
อยากจะดัน windows store ก็เลยทำเกมค่ายตัวเองให้ multi ลง pc จนกระทบตลาดตัวเอง
ยกเลิกเกม ex ค่ายตัวเอง
ปล่อยสตูดังๆให้หลุดมือ (Bugie, Rare)

2 ค่ายพยายามสร้าง platform ของตัวเอง EA ก็ Origin, Valve ก็ Steam

ยิ่ง Valve ก็แทบจะครองสัดส่วนทั้งหมดของชาว PC Masterrace ละ จะกิน Valve นี่คงไม่ใช่ง่ายๆ

EA ค่ายใหญ่เช่นกัน และที่ผ่านมาเกมตัวเองก็ลงแบบ Multiplatform มาโดยตลอด จะลง Exclusive ที่ยอดขาย Hardware ยังสู้อีกฝั่งไม่ได้

ถ้า Ms ซื้อ Valve จริง ค่ายนี้อาจจะนับ 3 เป็นแน่นอน
half life 3,l4d3

ซื้อ Valve แล้วเข็นเกมภาค 3 ออกมาซะ