Menu
[--mobilemenu--]
บราวเซอร์ของท่านไม่สนับสนุนหรือปิดการใช้งาน javascript ซึ่งจะไม่สามารถใช้งานไซต์บางส่วนเช่นการเข้าลิ้งค์ หรือโพสข้อความได้ตามปกติ, กรุณาเปิดการใช้งาน javascript เพื่อที่จะใช้งานเว็บ gconhubม หากมีปัญหาในการใช้งาน หรือต้องการสอบถามเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ [email protected] หรือ [email protected]
Shin Godzilla ( 2016 ) วิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
FallsDowns at 2016-09-18 16:31:24 , Reads (15403), Comments (4) , Source :

หลังจากเห็นฮอลลีวูดพยายามมาถึง 2 ครั้งในการเนรมิตคุณพี่ก็อต(ซิลล่า)ให้เป็นภาพยนตร์บล็อคบัสเตอร์ของตนเอง Toho สตูดิโอผู้ให้กำเนิดโกจิร่าต้นฉบับในปี 1954 ขอออกมาแสดงให้เหล่าอเมริกันและชาวโลกได้เห็นว่า ผู้ที่สามารถเนรมิตเทพเจ้าที่สมบูรณ์แบบตนนี้ให้มีชีวิตขึ้นมาได้อย่างแท้จริง มีแต่เพียงพวกเขาเท่านั้น



งานนี้บอกเลยว่าหากคุณคาดหวังให้ Shin Godzilla เต็มไปด้วยฉากแอ็คชั่น พ้นลำแสง ยิงจรวดทำลายล้างกันทุก 5 นาที เตรียมตัวผิดหวังได้เลย เพราะ Godzilla ฉบับนี้มาด้วยสไตล์ใส่เกียร์การเมืองแบบเต็มสูบ ชนิดที่ทำเอาหนังการเมืองจริงๆบางเรื่องยังต้องขายขี้หน้า หากแต่ว่ากลับเป็นเรื่องราวการเมืองอันแสนยุ่งยากนี่เองที่พิสูจน์ให้เห็นว่าทางค่ายไม่ได้เลือกใช้องค์ประกอบต่างๆอย่างพร่ำเพรื่อ

Toho ใช้ความเป็นภาพยนตร์สัตว์ประหลาด / ไคจู ของก็อดซิลล่า เป็นเครื่องมือที่สะท้อนให้เห็นถึงบริบทและสภาพสังคมของประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ เสมือนกับที่ภาพยนตร์ The Babadook ใช้ความเป็นภาพยนตร์สยองขวัญ ในการสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะจิตใจของตัวละครที่แตกสลาย ซึ่งต้องขอบคุณบทภาพยนตร์ที่ล้ำลึกจนทำให้บริบทและสภาพสังคมในภาพยนตร์สามารถแตกแยกออกมาวิเคราะห์ได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานระบบผู้อาวุโส ชาตินิยม โลกาภิวัฒน์ เชื่อมโยงยาวไปถึงความพ่ายแพ้ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และโดยเฉพาะครั้งที่ 2 อย่างหนัก ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตัวภาพยนตร์ถ่ายทอดออกมาได้อย่างละเอียดละออมากจนเชื่อว่าสามารถที่จะนำไปวิเคราะห์ต่อได้อย่างลึกซึ้ง อาจถึงขั้นเป็นเล่มวิจัยได้เลยทีเดียวเชียว



ตัวละครเอกอย่าง ยากูชิ เปรียบเสมือนคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาพยายามทำลายล้างระบบการเมืองเก่าอันไร้ประสิทธิภาพ เช่น ระบบการสื่อสารที่มากมายขั้นตอน หรือการแบ่งแยกอำนาจและชนชั้นด้วยอายุ แต่ในจิตใจของเขายังคงแฝงไปด้วยจิตวิญญาณแห่งชาวญี่ปุ่น ที่ไม่อาจทนเห็นเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นกับประเทศของเขาได้อีกครั้ง เป็นเหตุทำให้ตัวละครของเขามีทั้งมิติที่หลากหลาย ความน่าเห็นใจและน่าติดตามไปพร้อมๆกัน

อีกส่วนหนึ่งก็ต้องขอชมก็คือสองผู้กำกับ ฮิเดะอากิ อันโนะ และชินจิ ฮิงุจิ ที่สามารถถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนซับซ้อน ยุ่งยาก ซ่อนเงื่อนยิ่งกว่าหนังสืบสวนสอบสวนบางเรื่องได้ดี พร้อมยังสามารถสอดแทรกอารมณ์ความคลาสสิกของพี่ก็อตให้แฟนๆได้ฟินกันไปแบบพอหอมปากหอมคอ ไม่ว่าจะจากมุมกล้องบางฉาก เพลงประกอบ หรือจากพลังทำลายล้างของพี่ก็อดเอง



Shin Godzilla เป็นผลงานทวงคืนศักดิ์ศรีของประเทศและชาวญี่ปุ่นทั้งในโลกของภาพยนตร์และโลกแห่งความเป็นจริง มันเป็นศักดิ์ศรีที่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสและเลือดเนื้อ แต่เป็นการแลกเปลี่ยนที่พวกเขาเต็มใจจะทำอย่างสุดความสามารถ ซึ่งทำให้เราต้องย้อนกลับมาดูสังคมประเทศตัวเราเองอยู่บ้างมิใช่น้อย

Final Score: [ 9 ]


(Click to expand)


แสดงความคิดเห็น
ดูจบแล้วคิดตามไปว่า ช่วงที่ประเทศญี่ปุ่นเกิดแผ่นดินไหวเมื่อ11มี.ค.2554 คณะรัฐบาลคงจะทำงานกันเป็นขั้นตอนตามอย่างในหนัง
ส่วนตัวไม่ชอบจังหวะการเล่าเรื่องสไตล์หนังญี่ปุ่นอยู่แล้ว มาแนวนี้ ยิ่งไม่น่าดูเลย
ขอบคุณสำหรับรีวิวครับ ประกอบการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Like : FallsDowns
เป็นความเห็นแบบแฟน"evangelion"ที่เข้าไปดูก๊อตจิ ผมมั่นใจมากว่า"อันโนะ"แกเอา"yashima operation"หนึ่งในซีนที่ดีที่สุดของevangelionมาใช้แน่ๆเพราะทุกอย่างมันCopyกันมาเลยมันซ้ำกันแทบจะทุกจุด(ลองเอาเทวฑูตRamielมาใส่แทนก๊อตจิดิคุณจะไม่แปลกใจเลย) แต่เพราะอย่างนั้นบทใน yashima operation มันสุดยอดอยู่แล้วแม้ก๊อตจิจะลอกมามันก็คือการลอกความสุดยอดมานั้นแหละแต่ผมกลับไม่ฟินมากอย่างที่ควรในการดูก๊อตจิเพราะ 1.อันโนะไม่ได้เสนออะไรใหม่เลย(อย่างน้อยก็สำหรับผม) 2.yashima operation ใน Evangelion มันEpicกว่าหลายเท่า


***คือถ้าใครเคยดู Evagelionและยังไม่ได้ดูก๊อตจิ กำลังตัดสินใจว่าจะดูดีหรือเปล่า ก็ถามตัวเองเลยครับว่าอยากดู yashima operation อีกรอบหรือเปล่า>.< คำตอบมันอยู่ตรงนั้นแหละ
จริงๆผมดูพระเอกผ่านๆหลายที นึกว่าเฮียโจวซิงฉือ 555