Train To Busan ( 2016 ) บทวิจารณ์��าพยนตร์โดย FallsDownz
ภาพยนตร์ 'ซอมบี้' ในปัจจุบันอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเภท ที่ค่อนข้างหาเรื่องที่น่าประทับใจได้ยาก โดยเฉพาะจากสายกระแสหลักทั้งหลายที่ชวนให้นึกถึง Resident Evil ทุกที ซึ่งเป็นการรำลึกที่ไม่ค่อยน่าประทับใจเท่าไรนัก
Train To Busan เป็นผลงานชิ้นสำคัญ ซึ่งจุดประกายความหวังที่ทำให้เรายังคงเชื่อได้ว่า สามารถที่จะมีภาพยนตร์ประเภทซอมบี้ที่ยอดเยี่ยมและมีเหตุผลในการเลือกสร้างภาพยนตร์ประเภทนี้ มากกว่าแค่เพียงความบันเทิงอย่างตื้นเขิน
สิ่งที่ทำให้ Train To Busan แตกต่างไปจากภาพยนตร์ประเภทเดียวกันทั่วๆไป ก็คือความที่ไม่ว่าเราจะมองจากมุมใดๆ Train to Busan ก็ดูจะเป็นผลงานชั้นเลิศ ไม่ว่าเราจะมองจากคุณค่าของความเป็นศิลปะ หรือด้านเพื่อความบันเทิง
โดยรวมองค์ประกอบหลากหลายส่วน ต่างก็ถูกขัดเกลามาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ก็ล้ำลึก สอดแทรกเต็มไปด้วยประเด็นต่างๆให้ค้นหามากมาย เสมือนอัญมณีที่รอคอยให้เรามาเจียระไน รวมไปถึงตัวละครหลากหลายตัว ต่างก็มีมุมมองที่น่าค้นหา และปมพื้นหลังที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
การกำกับของ ยอน ซังโฮ ก็เต็มไปด้วยชั้นเชิงและเทคนิคอันเหนือชั้น ในการเนรมิตการผจญภัยที่ดูแสนจะธรรมดานี้ ให้กลายเป็นเหมือนบทเพลงวงออสเคสตร้าสุดอลัง ที่มักจะมีท่อนหรือช่วงทำนองอันแสนตราตรึงเข้ามาเป็นช่วงๆให้ได้เคลิบเคลิ้มและนั่งไม่ติดเก้าอี้กันตลอดเวลา นอกจากนี้ การเล่าเรื่องของเขาก็ยังวางหรือปูตัวละครแต่ละตัวได้ดี ถ่ายทอดเนื้อหาของเรื่องได้อย่างชัดเจนเป็นเอกภาพและหนักแน่น ถึงแม้ว่าการเล่าเรื่องของเขาจะตรงไปตรงมาเกินไปนิดก็ตาม
จริงๆแล้ว องค์ประกอบหลากหลายสิ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ทำให้นึกถึงผลงานของผู้กำกับ บอง จุน โฮ ค่อนข้างมาก อย่างเช่น Snowpiercer (2011) ในด้านของการเดินทาง ขบวนรถไฟสุดระทึก การแบ่งแยกชนชั้น และ The Host (2007) ในด้านของการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างแยบยล จะแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดก็ตรงที่ Train To Busan นั้นมีความเป็นรูปธรรมมากกว่าผลงานของ บอง จุน โฮ อยู่พอสมควร
สุดท้ายแล้ว เมื่อชิ้นส่วนและองค์ประกอบต่างๆของ Train To Busan มารวมตัวกัน ก็ทำให้มันกลายเป็นผลงานส่วนผสมระหว่างศิลปะอันทรงคุณค่ากับความบันเทิงชั้นเลิศชนิดหาตัวจับได้ยาก
Final Result : 8 / 10
Train To Busan เป็นผลงานชิ้นสำคัญ ซึ่งจุดประกายความหวังที่ทำให้เรายังคงเชื่อได้ว่า สามารถที่จะมีภาพยนตร์ประเภทซอมบี้ที่ยอดเยี่ยมและมีเหตุผลในการเลือกสร้างภาพยนตร์ประเภทนี้ มากกว่าแค่เพียงความบันเทิงอย่างตื้นเขิน
สิ่งที่ทำให้ Train To Busan แตกต่างไปจากภาพยนตร์ประเภทเดียวกันทั่วๆไป ก็คือความที่ไม่ว่าเราจะมองจากมุมใดๆ Train to Busan ก็ดูจะเป็นผลงานชั้นเลิศ ไม่ว่าเราจะมองจากคุณค่าของความเป็นศิลปะ หรือด้านเพื่อความบันเทิง
โดยรวมองค์ประกอบหลากหลายส่วน ต่างก็ถูกขัดเกลามาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นบทภาพยนตร์ก็ล้ำลึก สอดแทรกเต็มไปด้วยประเด็นต่างๆให้ค้นหามากมาย เสมือนอัญมณีที่รอคอยให้เรามาเจียระไน รวมไปถึงตัวละครหลากหลายตัว ต่างก็มีมุมมองที่น่าค้นหา และปมพื้นหลังที่น่าสนใจไม่แพ้กัน
การกำกับของ ยอน ซังโฮ ก็เต็มไปด้วยชั้นเชิงและเทคนิคอันเหนือชั้น ในการเนรมิตการผจญภัยที่ดูแสนจะธรรมดานี้ ให้กลายเป็นเหมือนบทเพลงวงออสเคสตร้าสุดอลัง ที่มักจะมีท่อนหรือช่วงทำนองอันแสนตราตรึงเข้ามาเป็นช่วงๆให้ได้เคลิบเคลิ้มและนั่งไม่ติดเก้าอี้กันตลอดเวลา นอกจากนี้ การเล่าเรื่องของเขาก็ยังวางหรือปูตัวละครแต่ละตัวได้ดี ถ่ายทอดเนื้อหาของเรื่องได้อย่างชัดเจนเป็นเอกภาพและหนักแน่น ถึงแม้ว่าการเล่าเรื่องของเขาจะตรงไปตรงมาเกินไปนิดก็ตาม
จริงๆแล้ว องค์ประกอบหลากหลายสิ่งในภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็ทำให้นึกถึงผลงานของผู้กำกับ บอง จุน โฮ ค่อนข้างมาก อย่างเช่น Snowpiercer (2011) ในด้านของการเดินทาง ขบวนรถไฟสุดระทึก การแบ่งแยกชนชั้น และ The Host (2007) ในด้านของการวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลอย่างแยบยล จะแตกต่างกันแบบเห็นได้ชัดก็ตรงที่ Train To Busan นั้นมีความเป็นรูปธรรมมากกว่าผลงานของ บอง จุน โฮ อยู่พอสมควร
สุดท้ายแล้ว เมื่อชิ้นส่วนและองค์ประกอบต่างๆของ Train To Busan มารวมตัวกัน ก็ทำให้มันกลายเป็นผลงานส่วนผสมระหว่างศิลปะอันทรงคุณค่ากับความบันเทิงชั้นเลิศชนิดหาตัวจับได้ยาก
Final Result : 8 / 10
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ผมดู soundtrack มา ไร้ที่ติจริงๆ