แต่ก่อนเป็นแฟนเกม JRPG ครับ ถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังเล่นอยู่นะเพียงแต่มันไม่ค่อยรู้สึกเหมือนสมัยก่อนเท่าไหร่ อาจเพราะ WRPG มันเล่าเรื่องได้ค่อนข้างสมจริง พอมาเจอท่าทางอนิเมะจ๋าในเกมฝั่งญี่ปุ่นแล้วดูทะแม่ง ๆ น่ะครับ หรืออาจเพราะอายุเราเยอะขึ้นด้วยทำให้รสนิยมในการเล่นเกมมันเปลี่ยนไป ชอบอะไรที่จริงจังมากขึ้น ซึ่งส่วนนี้ JRPG ยังไงก็ให้อารมณ์แบบ WRPG ไม่ได้ และผมก็ไม่อยากให้มาเหมือนกันด้วย

ส่วน The witcher 3 ผมว่ามันก็เป็น WRPG มาตั้งแต่ต้นนะ ไม่ได้จะพยายามให้เหมือน JRPG เลยสักนิดเดียว พูดแบบว่า The witcher 3 พัฒนาได้คล้ายเกม JRPG มันฟังดูน่าสมเพชน่ะ

ที่ก่อนหน้านี้คุยกันเรื่อง wrpg ปรับให้ใกล้เคียงกับ jrpg มันน่าจะเริ่มที่เกมของ Bioware หลังจาก Neverwinter Nights (AD&D รุ่นที่ 3 จำกัดการร่ายเวทต่อวัน) มาเป็นแนวอย่าง Starwars : Knight of the old republic (AD&D แบบดัดแปลง ใช้ระบบ sp ร่ายฟอร์ซ) มันเหมือนกับช่วงเปลี่ยนของ FF3 ที่ใช้ระบบจำนวนครั้งร่ายเวท กลายมาเป็น FF4 ที่ใช้ระบบ mp

ที่ต้องเทียบกับ Bioware เพราะช่วงนั้น rpg ของค่ายอื่นมันไม่โดดเด่นขึ้นมาเทียบกับฝั่ง jp เลยน่ะครับ อย่าง Morrowwind ที่เทพ ๆ ก็ยังถือว่าดังในวงแคบ ๆ ส่วนเกมอื่นนี่ค่อนไปทางต่ำกว่ามาตรฐานเลย อย่างพวก Might&Magic ภาค 6 เป็นต้นมา

ทำไมผมรู้สึกผิดที่ไม่ได้เล่น Witcher 3 กันนะ
หรือเพราะคิดว่าไม่มีเวลามากพอมาเล่นเกมแนวนี้เลยไม่ได้สนใจจะเล่นกันเนี่ย

สมัยนี้เกมมันไม่ได้เป้นแนวเดี่ยวๆแบบแต่ก่อนแล้ว มันมักจะมีแนวอื่นๆมาผสมอย่างละนิดอย่างละหน่อยเพื่อทำให้คนที่เล่นเกมแนวอื่นหันมาสนใจ ฐานคนเล่นก้กว้างขึ้น แต่เหมือนว่าjrpgมันพัฒนาตรงจุดนี้ได้ไม่ดีเท่าที่ควรทำให้ฐานคนเล่นก้ยังเป้นกลุ่มเดิมๆอาจจะเป้นนิสัยชาตินิยมของยุ่นด้วยรึเปล่าที่ผลิตเองใช้เองไม่เอาของชาติอื่น
ปล. ว่าแต่ pokemon นี่ถือเป้น jrpg มั้ย

ผมว่าปัญหาก็คือเรื่อง replay value นี่แหละ

เกมญี่ปุ่นที่ผมเคยเล่น (โดยเฉพาะ SAO นี่แหละ) replay value ก็มีแค่บอสยากขึ้น คอนเทนต์ก๊อปวางๆ ในขณะที่เกมฝรั่งจะมี replay value ก็เนื้อเรื่องที่แตกแขนงออกไปมากมายระหว่างที่เล่น ทำให้ผู้เล่นอาจไม่สามารถรับรู้ content ทั้งหมดได้ใน playthrough เดียว (เกมญี่ปุ่นดีๆในอดีตหลายเกมก็มีแบบนี้นะ)

อย่างนึงที่นึกได้ คือ JRPG คาแรกเตอร์ดีไซน์ทำมาเหมือนขายแต่เด็ก กลุ่มของตัวเอกอายุวนอยู่แค่ช่วง 14-20 (เกิน20นี่แก่แล้ว) เหมือนเดิมตามวัฒนธรรมอนิเม ซึ่งไม่ได้ช่วยเสริมให้ฐานคนเล่นกว้างขึ้นเลย คนเล่นเกมส์เดี๋ยวนี้มันไม่ได้มีแต่เด็กๆแล้วนิ

อ่านถึงเห็นลำบากดีไซต์กระโปรงไม่ให้ยาวไป ไรงี้ แบบ อืม มิน่าวงการ JRPG ถึงตกต่ำ 5555 แหม่ เรื่องสำคัญอย่างอื่นไม่คิด คิดเรื่องแค่เนี้ย

พูดถึงวิชเชอร์3 เหตุผลความสนุกมันก็ตามที่หลายท่านบอกมานั่นแหล่ะ แต่สาระหลักสำหรับผมที่ยอมซื้อมาเล่นไม่ใช่เพราะความเป็นโกตี้หรือชื่อเสียงความเทพ แต่เป็นเพราะมีนมมีตูดลูกสาวสวย เยิ้บเมียหลวงเมียน้อยกิ๊ก นี่แหล่ะเหอๆๆๆๆ

ส่วนความสนุกในเกมเป็นของแถมเหอๆๆๆ

อ่านจนจบคำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว

กบในกะลาชัดๆ

ผมไม่เข้าใจคำว่ามีมิติหรือไร้มิติเท่าไรแฮะ แต่หมายถึงพวกตัวละครที่มีปมมีเหตุผลของการกระทำไรงี้ป่ะหว่า?

แต่ก็ว่าไป JRPG ผมก็ไม่ได้เล่นจบมานานแล้วเหมือนกันฮะจำได้ล่าสุดคือ Type-0 HD นี่ล่ะนอกนั้นก็ไป WRPG รัวๆ ไม่ทำไมเหมือนกันแต่กลับรู้สึกว่า Wrpg มันน่าดึงดูดกว่าจริงๆแหละ jrpg ช่วงนี้ค่อนข้างน่าเบื่อก็เยอะแปปๆเลิกก็บ่อยมีไม่กี่เกมแหละที่ผมยังติดอยู่ เอาเป็นว่า 15 กับ P5 นี่น่าจะเป็นตัวกู้ความหวังของ Jrpg จริงๆแล้วล่ะมั้งฮะรอดูกันยาวๆ

XVจะมีเควสขยะแบบไปตีมอน 5 ตัว หรือเควสส่งของป่าวอ่ะครับ

ตัวละครสามมิติ คือตัวละครที่ทำให้คนเสพเชื่อได้ว่ามีชีวิตอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ มีข้อดีข้อด้อย มีที่มาที่ไป มีอดีตที่ผ่านมาของตน คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้
ไม่ใช่ Archetype ประเภทนมโตโง่แว่น ทอมแบนซึนสั้น มาตามผู้กำกับสั่งแล้วก็ไป

JRPG ต้องออกจากกรอบแนววัยรุ่นกู้แมร่งมันทุกอย่างซะก่อน ยุคแรกๆที่มันบูมๆอ่ะพอได้แต่ยุคหลังๆกลุ่มที่ตามก็โตกันหมดแล้วมันเลยไม่อินกับกรอบเรื่อง
ราวอะไรๆแบบนี้ซึ่งต่างกับ WRPG ชัดเจนที่เจาะเข้ากลุ่มผู้ใหญ่เป็นหลักมันดูสมเหตุสมผลชวนน่าติดตามน่าค้นหามากกว่า

ส่วนเกมเรื่องราวดีๆของ JRPG ก็มีเยอะนะแต่แค่ดีอย่างเดียวมันไม่พอไง พอยอดขายไม่ดีนายทุนไม่ปลื้มมันก็จบตรงนั้น

ตักเตือนครั้งที่1

จริง ๆ ซีรี่ย์เมกะเทนมันก็นำร่อง RPG แนวใหม่ ๆ มาตั้งนานแล้ว ดำเนินเรื่องในยุคปัจจุบันที่ปกติ RPG ทั่วไปแทบไม่เคยเล่นเลย เนื้อเรื่อง

คือจะบอกมีคนเขาทำไว้ตั้งนานแล้ว แค่ Dev บางคนมันไปโฟกัสที่อะไรก้ไม่รู้ ไม่ได้ต่อยอดให้มันไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ซักที