13 สิ่งที่คุณควรรู้เกี่ยวกับ Resident Evil 7
IGN ได้ไปสัมภาษณ์คุณโปรดิวเซอร์ Masachika Kawata และท่านผู้กำกับ Koushi Nakanishi เกม Resident Evil 7 มาครับ ก็เลยเอามาแปลให้อ่านกัน
1. มันไม่ใช่เกม Reboot นะ
มันเป็นเกมไตเติ้ลภาคต่อของซีรีย์นี้จริงๆ เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาล Resident Evil ไม่ใช่โลกคู่ขนาน
เราจงใจทำเกมนี้ออกมาแนวนี้ให้ผู้ที่เล่นครั้งแรกจะได้รู้สึกสงสัยว่า "ไอ้เกมนี้มันจะไปเกี่ยวข้องยังไงกับเกม Resident Evil ภาคก่อนๆ " แต่ขอย้ำว่าจริงๆ มันเกี่ยวข้องกัน เป็นภาคต่อของซีรีย์ ไม่ใช่เกมรีบู้ตจริงๆ นะ
คุณจะไม่เจอตัวละครหน้าเก่าๆ จากภาคก่อนๆ มันเป็นเรื่องราวตัวละครใหม่เอี่ยมอ่อง ตัวละครใหม่ สถานการณ์ใหม่ อย่างไรก็ตามในเกมอาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์รอคุณอยู่นะ
2. มี Herbs ฟื้นพลังชีวิตด้วยนะ
ผมยืนยันว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องคอยฟื้นพลังชีวิตตัวเองด้วย
3. เสียงโวยวายของท่านจากภาคก่อน ทีมงานได้ยิน
ในภาคก่อน Resident Evil 6 เราได้เห็นความคิดที่หลากหลาย ทั้งแง่ลบ แง่บวก เราก็เอาความเห็นนั้นมาเป็น Feedback ให้กับเกม Resident Evil และเราก็ถามตัวเองว่า จะทำอย่างไรที่จะนำประสบการณ์สยองขวัญจากเกม Resident Evil ภาคแรกกลับมาในรูปแบบของเกมสมัยใหม่อีกครั้ง ซึ่งนี่ก็นำมาสู่รูปแบบของ Resident Evil 7 ในตอนนี้
ซีรีย์ Resident Evil มันควรเป็นซีรีย์สยองขวัญขนหัวลุก ผมอยากที่จะเอาองค์ประกอบของเกมแนวอื่นออกไป แทนที่จะเอามันมายำรวมกันกับความสยองขวัญในเกมเดียว เพื่อที่จะให้ทุกๆ คนมีความสุขไปกับการเล่นเกมนี้
4. Resident Evil ภาคแรกเป็นแรงบันดาลใจของทีมงาน
ใช่แล้ว มันเป็นเกมที่เราใช้อ้างอิงเป็นหลักเลย ไม่ใช่เฉพาะเกมนี้นะ ตอนสมัย Resident Evil: Revelations ผมก็ไปเล่นเกม Resident Evil ภาคแรกมาใหม่อีกรอบเพื่อศึกษาข้อมูลมาแล้ว
5. ตัวเกมได้อารมณ์หนังสยองขวัญสมัยยุค '70 - 80
ในหนังสยองขวัญ ช่วงยุค 70-80 จะออกแนวประมาณว่ามีบ้านหลังนึง โดดเดี่ยวไม่มีอะไรอยู่รอบๆ เลย ร้องไปก็ไม่มีใครมาแล มาช่วยเรา ผมชอบบรรยากาศแบบนี้มาก นั่นก็เลยมีผลทำให้เราทีมงาน เลือกสถานที่แถวๆ อเมริกาตอนใต้ มาเป็นฉากหลักของตัวเกม มันทำให้คนเล่นดูอบจนหมดหนทาง โดดเดี่ยวเดียวดายดี
6. การทำให้เกมมันมันคงแนว Mystery ลึกลับได้เป็นสิ่งสำคัญที่สุดของเกม
สิ่งที่ผมไม่อยากจะพูดบอกรายละเอียดกับเกมนี้มากเพราะว่า ตอนสมัยเกม Resident Evil ภาคแรกออก ตอนนั้นเราไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับการพัฒนาเกมนี้เลย ซึ่งพอเราเล่นเราได้อารมณ์ประมาณว่า "เฮ้ย ตูอยู่ไหนเนี่ย" "เฮ้ย มันเกิดอะไรขึ้น" "ศัตรูมันจะเป็นยังไงน้า...." "ไอ้บ้านี่มันออกมาจากไหนเนี่ย" "เอ พวกนี้มันมีเบื้องหลังอย่างไงหว่า"
อารมณ์ลึกลับนี่แหละเป็นจุดสำคัญของเกมนี้ที่เราอยากให้ทุกคนได้สัมผัสมันอีกครั้ง ดังนั้นแล้วถ้ามีคนถามผมถึงรายละเอียดตัวเกม เราก็จะไม่อยากที่จะบอกอะไรมาก เพื่อที่ว่าเวลาคุณเล่นเกมนี้ คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ลึกลับ จะได้ไม่เบื่อง่าย
7. ศัตรูน้อยลง แต่แลดูมีค่ามากขึ้น
เกมนี้ไม่ใช่เกมแนวซอมบี้ ที่ผู้เล่นจะได้กระโจนไปในฝูงซอมบี้ฆ่าพวกมัน เราออกแบบให้เกมนี้มีศัตรูที่น้อยลง แต่ว่าเราพยายามทำให้ศัตรูแต่ละตัวจะมีค่า ดูมีความหมายกับผู้เล่น มีความอันตรายมากขึ้นอย่างชัดเจน
8. เดโมมันก็แค่ให้ผู้เล่นจะได้รู้ถึงบรรยากาศที่จะต้องเผชิญเท่านั้นแหละ
ทีเซอร์เดโมที่ปล่อยออกมานั้น มันทำมาเพื่อเป็นพรีวิวเพื่อให้ผู้เล่นรู้ว่าโทนเกมนี้มันจะออกแนวไหน ไม่ได้พรีวิวสื่อถึงคอนเทนท์เนื้อหาในเกมเลย นอกจากนี้มันก็ยังไม่ได้แสดงถึงเกมเพลย์หลักที่เราจะใช้ในเกมด้วย เราทำตัวเดโมทีเซอร์โดยเน้นให้ผู้เล่นจะได้รับรู้ถึงอารมณ์ ความกลัว ความหลอน และวิธีการสำรวจสิ่งรอบตัวในเกมต่างหาก
พวกระบบแก้ปริศนา ระบบไอเท็ม และระบบต่อสู้นั้นถูกตัดออกไปในเดโม ผมยืนยันว่าระบบพวกนี้ยังอยู่ในเกม แต่ในทีเซอร์เดโมนี้ เราอยากโฟกัสเน้นนำเสนอถึงความหลอนมากกว่า
9. Kitchen เป็นเดโมที่เราใช้ทดสอบคอนเซปต์ VR
ตอนเราเปิดตัว Kitchen บน PlayStation VR ตอนนั้นเราก็ทำเกม Resident Evil 7 มาก่อนหน้าอยู่แล้ว มันไม่ใช่ว่า VR เป็นสาเหตุที่ทำให้เกม Resident Evil 7 ออกมาในรูปแบบที่คุณเห็น(บางส่วน)ในตอนนี้
Kitchen นั้นถูกสร้างเพื่อทดสอบคอนเซปต์ VR และ Engine ของเราเอง เราได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจาก Kitchen คนที่ได้ลองหลายคนก็ตะโกนร้องเสียงหลงกันในบู้ตเดโม ซึ่งผลตอบรับนี้เองที่ทำให้เราคิดว่าเรามาถูกทางแล้ว ที่จะทำเกม 1st Person บน VR ด้วย (เพราะความสมจริงที่ได้รับ)
10. ตัวเกมมันเป็นเกม 1st Person มาตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพราะว่า VR
คอนเซปต์ดั้งเดิมคือทำเกมเป็น 1st Person มุมมองบุคคลที่หนึ่งมาตั้งแต่ต้น มันไม่ใช่เพราะว่าเราเปลี่ยนกระทันหัน (เพราะ VR) รูปแบบมุมกล้องแบบนี้เป็นสิ่งที่เราคิดว่ามันเหมาะสมที่จะนำประสบการณ์สยองขวัญสู่ผู้เล่น
11. VR มันส่งผลอย่างไรกับ Resident Evil 7
การที่ตัวเกมเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง 1st Person มันมีผลอย่างมากต่อเกม มากกว่า 3rd person หรือมุมมองอื่นๆ ตรงที่ว่า มุมกล้องมันถูกบังคับให้มองไปข้างหน้า ถ้ามันมีตัวอะไรอยู่ข้างหลังคุณ มันทำให้ผู้เล่นไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามันคืออะไร และจะต้องจำใจต้องเอี้ยวหันไปมอง มันให้ประสบการณ์ตื่นกลัว ตกใจมากกว่า ผมชอบความรู้สึกแบบนี้แหละที่ผู้เล่นไม่สามารถปรับมุมกล้องเพื่อให้รู้ว่ามีอะไรกำลังคืบคลานเข้ามา
12. ไม่จำเป็นต้องใช้ VR ก็ได้
ตัวเกมสามารถเล่นบน VR ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นกับตัวผู้เล่นเองว่าจะเล่นมันบน VR หรือไม่ ตัวเกมจะรองรับ VR ตั้งแต่ต้น ไม่มีการแยกเวอร์ชั่น ไม่ว่าเล่นบนทีวีหรือ PlayStation VR ก็ใช้เซฟเกมเดียวกัน ถ้าคุณรู้สึกว่ามันหลอนไป ฯลฯ คุณก็สามารถหยุดเกมและไปเล่นต่อบนทีวีได้ เราไม่บังคับผู้เล่นให้เล่นบน VR หรือบนทีวีอย่างเดียว
13. เล่นบน VR น่ากลัวไปเหรอ ?
ถ้าคุณคิดว่ามันหลอนไปตอนเล่นอยู่ใน VR ก็หลับตาซะสิ
น้ำจิ้ม [Link]
Related News
Popular News
แสดงความคิดเห็น
ขี้เยี่ยวแตกแน่นอนค่ะ สาบาน
ส่วนตัวแล้วชอบที่มีตัวละครใหม่ๆ ไปเลย ไม่ต้องไปอิงกับของเก่า
อยากได้ชะนีผมบลอนด์ดูโง่ๆ น่ะค่ะ มาเป็นนางเอกภาคนี้ เกมน่าจะมันส์ดีค่ะ
ถ้ามีปืนซั๊กกระบอก หรือมีดซั๊กเล่ม
ก็เริ่มจะเป็น Bio แระ
เขาว่าคนเขียน f.e.a.r กับ specs ops แน่ะ
จากเกมถูกบอกด้วย
[Link]
ทำแบบภาค 4 รับได้นะเอาจริงๆ ความสนุกของภาคแรกๆ คือการเอาของซึ่งไม่รู้ว่ามันคืออะไรแล้ววิ่งย้อนกลับไปจุดเริ่มต้นเพื่อหามันว่าจะใส่ตรงไหนตางหาก นึกถึงช่วงหยิบเพรชใน bio 2 ได้มาตอนแรกจะรู้มั้ยว่าจะเอามันไปใช้ทำอะไร กว่าจะรู้ก็พักใหญ่
คงได้เลิกจิงๆก็ภาคนี้
โดนเลื่อน + เปลี่ยนชื่อภาค ในอนาคตแน่นวล -.-
ลงหลุม